Thai VI

(รบกวน MOD ย้ายไปร้อยคนร้อยเล่มด้วยครับ)

แนะนำหนังสือ Active Value Investing โดย Vitaliy N. Katsenelson

ผมอ่านไปได้เล็กน้อยแต่ก็รู้สึกว่ามีประโยชน์มาก

Active Value Investing เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการลงทุนแบบ Value Investing แต่ยังสงสัยกับรูปแบบการ "ถือแล้วไม่(ค่อย)ขาย"

Belffet เขียน:(รบกวน MOD ย้ายไปร้อยคนร้อยเล่มด้วยครับ)

แนะนำหนังสือ Active Value Investing โดย Vitaliy N. Katsenelson

ผมอ่านไปได้เล็กน้อยแต่ก็รู้สึกว่ามีประโยชน์มาก

Active Value Investing เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการลงทุนแบบ Value Investing แต่ยังสงสัยกับรูปแบบการ "ถือแล้วไม่(ค่อย)ขาย"

ช่วยขยายความหน่อยครับ สำหรับคำว่า "ถือแล้วไม่ค่อยขาย"

ได้ครับ

คือหนังสือยกเอาตลาด DOW มาเป็นกรณีศึกษานะครับ

เขาบอกว่า ตลาดหุ้นโดยส่วนใหญ่วิ่งไปแบบ Sideway แบบรอบใหญ่ๆครับ

ภาวะกระทิงหรือหมีจริงๆควรมีระยะเวลาที่ติดต่อกันประมาณ 5 ปีครับ ซึ่งจากประวัติศาสตร์ของ Dow ถ้าใช้เกณฑ์นี้วัด จะมีภาวะหมีแบบจริงๆจังๆแค่ครั้งเดียวคือ Great Depression ครับ ส่วนช่วงวิกฤติอื่นๆเช่นช่วง IT Bubble ไม่ถือว่าเป็นหมีจริงๆครับ แต่เป็นแค่ภาวะ "สิงโตขี้ขลาด" เพราะมันกินเวลาแค่ 1-2 ปี จากนั้นตลาดก็เด้งกลับมาเหมือนเดิมหรือใกล้เคียง

ทีนี้ถ้าเราเป็นนักลงทุนระยะยาวแล้วเจอภาวะสิงโตขี้ขลาด จะเกิด Dilemma แบบนี้กันเยอะครับ กล่าวคือ ถือหุ้นพื้นฐานดีตัวหนึ่งไว้ เวลาผ่านไป 1 ปี เมื่อสิงโตขู่คำราม ราคาก็ขึ้นไป 20-30% ก็ยังถือต่อไปเพราะเชื่อว่าหุ้นดีและจะสูงขึ้นได้อีก แต่แล้วพอสิงโตเกิดกลัวหนีกลับเข้ากรงราคาก็ตกลงไปต่ำกว่าทุนที่ซื้อมา สลับกันไปมาแบบนี้ พอมาดูพอร์ตอีกทีกลับกลายเป็นว่าราคาหุ้นมันแทบไม่ไปไหนเลย ที่ถือมาหลายปีได้แค่ปันผลอย่างเดียว

เขาเลยสรุปว่า Value Investor เมื่อพิจารณาซื้อหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าได้แล้ว ควรรู้จักขายออกไปบ้างเมื่อ Margin of safety น้อยลง ในภาวะตลาดแบบ Range Bound Market หรือ สิงโตขี้ขลาด

อย่างไรก็ตาม เขาระบุข้อเสียไว้ว่า ถ้าหากอ่านเกมส์ไม่ขาด แล้วสิงโตขี้ขลาดกลายร่างเป็นกระทิงเปลี่ยวขึ้นมาจริงๆ ผลตอบแทนที่เราจะได้ในช่วงเวลานั้น"อาจ"จะน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกันกับคนที่ถือยาวอย่างเดียว แต่โอกาสแบบนั้นในเชิงสถิติถือว่าน้อยครับ เพราะตามประวัติศาสตร์ของ Dow แล้ว ฃ่วง Range Bound Market จะสลับกับ Bull Market ทีละ 5-10 ปี (นึกภาพขั้นบันไดตามก็ได้ครับ เอียงขึ้น แล้วแนวราบ แล้ว เอียงขึ้น แล้ว แนวราบ จะมีเอียงลงจริงๆยาวๆเกิน 5 ปีครั้งเดียว อย่างที่บอกไปแล้ว)

ถ้าให้ผมนึกเปรียบเทียบ แนวคิดนี้ก็คงคล้ายกับแนวคิดหุ้นห่านทองคำและกลยุทธ์ตกแต่งสวนของคุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์ ผสมกับวิธีการหาหุ้น Undervalue แบบ John Neff + Benjamin Graham ครับ

และถ้าจะให้ยกตัวอย่างหุ้นของไทย ลองศึกษาหุ้น SCC ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาดูจะเห็นได้ชัดเจนมากครับ เพราะผมจำได้ว่า SCC เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วมีราคาประมาณ 230 เคยขึ้นไปถึงเกือบ 300 แล้วลงไปถึง 100 ในช่วงเวลาแค่ 5 ปี และราคาปัจจุบันอยู่ที่ 260 บาท (มิ.ย. 53) ใครที่ซื้อแล้วถือเรื่อยมาจะได้ผลตอบแทนแค่ 10กว่า% ตลอด 5 ปี + ปันผล แต่ใครที่รู้จักขายและซื้อกลับตาม Value ที่ตัวเองคำนวณได้ อาจได้ผลตอบแทนเป็น 100กว่า% + ปันผล ไปแล้ว

ประมาณนั้นครับ

ไมทราบว่ามีแปลไทยหรือยังครับ

arica เขียน:ไมทราบว่ามีแปลไทยหรือยังครับ

เท่าที่ทราบนั้นไม่มีครับ

ผมมีเป็น E-book ครับ ภาษาอังกฤษ อ่านไม่ยากเท่าไหร่ ถ้าอยากได้ก็ pm มาได้นะครับ สงสัยตรงไหนก็เอาประเด็นมาถกกันก็ได้ครับ สนุกๆ

Belffet เขียน: เท่าที่ทราบนั้นไม่มีครับ

ผมมีเป็น E-book ครับ ภาษาอังกฤษ อ่านไม่ยากเท่าไหร่ ถ้าอยากได้ก็ pm มาได้นะครับ สงสัยตรงไหนก็เอาประเด็นมาถกกันก็ได้ครับ สนุกๆ

ขอคุณมากครับสำหรับคำอธิบาย รบกวนขอ ebook ด้วยได้ไหมครับ สนใจมากครับจะได้มีเพื่อนถกกันด้วย

[email protected]

ขอบคุณครับ

green-orange เขียน: ขอคุณมากครับสำหรับคำอธิบาย รบกวนขอ ebook ด้วยได้ไหมครับ สนใจมากครับจะได้มีเพื่อนถกกันด้วย

[email protected]

ขอบคุณครับ

ส่งไปให้เรียบร้อยแล้วนะครับ

รบกวนขอด้วยครับ

[email protected]

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

Belffet เขียน: ส่งไปให้เรียบร้อยแล้วนะครับ

ขอบคุณมากครับ

ผมได้รับแล้วนะครับ
ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ

ksnk เขียน:รบกวนขอด้วยครับ

[email protected]

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

เรียบร้อยครับ

รบกวนขอด้วยคนครับ ขอบคุณครับ

[email protected]

รบกวนขอด้วยครับ   ขอบคุณครับ
[email protected]

รบกวนขอด้วยครับ   ขอบคุณมากครับ


[email protected]

รบกวนด้วยครับ
กำลังหาหนังสือภาษาอังกฤษ อ่านง่าย ๆบ้างครับ

[email protected]


ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ

รบกวนขอด้วยคร๊าบบบ !!~

[email protected]

รบกวนด้วยคนครับ [email protected] ขอบคุณล่วงหน้าครับผม

ขอบคุณล่วงหน้าครับ
[email protected]

รบกวนขอด้วยครับ
[email protected]
ขอบคุณครับ

ผมขอไปทาง pm รบกวนช่วยดูให้หน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ

รบกวนขอด้วยครับ

[email protected]

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

รบกวนขอด้วยนะคับ pm ไปแล้ว

ความเห็นส่วนตัวคิดว่า ถ้าอ่านแค่บทย่อนะครับ มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ VI จะต้องวิเคราะห์ econ เป็นระดับหนึ่ง ไม่ใช่ทำการบ้านเฉพาะแค่ตัวบริษัทเท่านั้น โดยเฉพาะ ศก. ปัจจุบันมีความเชื่อมถึงกันสูงขึ้นเรื่อยๆ ... เหตุเกิดอีกซีกโลกอาจเป็นปัจจัยได้เสมอ ... สำหรับเล่มนี้ ผมก้อคาดหวังว่าจะทำให้เราเรียนรู้ที่จะลดการเสีย "โอกาส" ได้ในขณะที่ ผมเองเชื่อมั่นว่า VI ตัวจริงมีโอกาสที่จะเสีย "เงิน" จริงๆ ก้อตาม

*แก้ไข*  :oops:

...ในขณะที่ ผมเองเชื่อมั่นว่า VI ตัวจริงมีโอกาสน้อยมากที่จะเสีย "เงิน" จริงๆ ก้อตาม

ส่งไปให้ทุกท่านแล้วนะครับ

ท่านใดที่ขอมาใหม่แล้วยังไม่ได้ก็รอนิดนึงนะครับ บางครั้งผมไม่ได้เข้ามาดูกระทู้นานๆ ก็จะส่งทีเดียวพร้อมกันๆหลายๆคนได้น่ะครับ

ขอด้วยคนครับ ขอบคุณครับ
[email protected]

ขอบคุณมากครับ
ได้รับแล้วครับ

Please kiindly help krab

[email protected]

thank krab and wishing you all the best for kindness  :D

ขอด้วยคนครับ

ขอบคุณครับ [email protected]

ขอด้วยคนครับ

ขอบคุณครับ e-mail: [email protected]