เส้นทางสู่เงินเดือนหลักแสน หลักล้าน ที่คนส่วนใหญ่ไปไม่ถึง
โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 21, 2010 12:48 am
เส้นทางสู่เงินเดือนหลักแสน สำหรับบางคนเป็นเรื่องไม่ยาก แต่สำหรับ "เด็กที่เพิ่งเข้างานที่ Start หมื่นกว่าบาท คุณคิดอย่างไร" ..ตั้งแต่ยุค .com เป็นต้นมา โลกเราจมดิ่งลงสู่การทำธุรกิจแบบลดต้นทุน เริ่มตั้งแต่ประเทศพัฒนาอย่างอเมริกาที่ ย้ายเอางานของประเทศตัวเองไปให้ "จีนกับอินเดียทำ" ผลที่ตามมาก็คือ การขาดสมดุลในส่วนของ Demand & Supply ในส่วนของตลาดแรงงาน
ถ้าเรามองให้ดี จะเห็นได้ว่า การลดต้นทุน รวมทั้งการ Outsource เป็นการลด Supply ของตำแหน่งงาน ระดับล่าง โดยเฉพาะ Blue Collar(ผู้ใช้แรงงาน) จุดนี้ส่งผลต่อ สองจุดคือ
1. เมื่อ Supply ของงานลด แต่ความต้องการทำงานไม่ลดตาม จึงส่งผลให้สามารถ กดค่าแรงของพนักงานระดับล่างได้
2. การ outsource และลดคนงาน ส่งผลให้ Profit ของบริษัทที่ดีขึ้น "จุดนี้ทำให้ผู้บริหาร ระดับสูงได้รับประโยชน์เต็มๆ"ทำให้มีการเพิ่มทั้ง ค่าจ้างและ Bonus
เคยมีนักวิชาการหลายคน พยายามออกมาโจมตี "ความแตกต่างอย่างสุดขั้ว ระหว่าง พนักงานธรรมดา กับผู้บริหารระดับสูง" แต่แน่นอนมันไม่เป็นผล เพราะ บริษัทเมื่อกำไรเพิ่มเขาก็ไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน ในส่วนของ CEO เอง การลดต้นทุนอย่าง Aggressive รวมทั้งการดำเนิน Strategy ที่เสี่ยง กลายเป็นเรื่องปกติของ Corporate America เพราะ CEO จะถูกวัดค่าจากผลกำไรเท่านั้น ดังนั้น การลดต้นทุนดังที่กล่าวมาจึงเรียกได้ว่าเป็นทางเดียวที่ต่อลมหายใจให้กับ ธุรกิจในตลอดสิบปีที่ผ่านมา
"ผลของการ Outsource และ ลดต้นทุนอย่างสุดขั้ว" ส่งผลให้หลายๆกิจการ ต้องปิดตัวโรงงานในอเมริกา หันไปจ้างเมืองจีนผลิตแทน
กลับมาที่คำถามว่า "เราจะเดินสู่เส้นทางเงินเดือนแสนได้อย่างไร" คำตอบก็คือ เราต้องก้าวไปสู้ตำแหน่งบริหารนั่นเอง --การที่จะเป็นผู้บริหาร ทำได้สองวิธี ก็คือ
อย่างแรก คือ การเลือกทำงานในองค์กรเล็ก(ที่มีโอกาสเติบโต)แทนองค์กรใหญ่ ..เพราะองค์กรใหญ่มึคนเก่งมาก เท่ากับว่า ความเก่งของคุณ จะยากที่จะได้มีโอกาสแสดงฝีมือ ..และถ้ามองให้ดีแล้ว ธุรกิจที่ใหญ่ในปัจจุบันกำลังเข้าสู่ขาลงเนื่องจาก Cost เพิ่มขึ้นทุกทาง (อย่างเงินเดือนผู้บริหารที่สูง ก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง ของ Cost ที่ค้ำคอ กิจการใหญ่ ที่ไม่สามารถลดลงได้)
อย่างที่สอง คือ การเลือกทำงานใน ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต (ไม่ใช่เลือกธุรกิจที่โตอยู่แล้ว) "พูดง่ายๆคือ"-- ต้องเลือกเข้าทำธุรกิจในช่วง Business Life Cycle ของ Beginning และ Growth เท่านั้น
.."ใช่แล้วครับ" งานที่จะนำท่านไปสุ่ความรุ่งโรจน์คือ การทำงานที่เล็กๆ แต่มีโอกาสโตสูง เช่น ธุรกิจ Online หรือ บริการทางการเงินใหม่ๆ --เพราะเมืื่อ Gen Y ซึ่งใช้ Internet เป็นสื่อหลักในการดำเนินชีวิต ก้าวมาสู่ตำแหน่งผู้บริหารและผู้นำองค์กร --เมื่อนั้น ตลาดก็จะโน้มเอนไป สนองตอบ Gen Y อย่างที่เป็นในยุค (.com Boom)ของอเมริกา "และสร้าง Young Rich เหมือนที่เกิดในอเมริกาเช่นกัน"
ดังนั้น การเข้าจับโอกาสเติบโตขององค์กรเล็ก จึงเป็น โอกาสที่จะทำให้(คุณ) เป็นผู้บริหารเงินเดือนเป็นแสนเป็นล้านในอนาคตได้-- "จะเห็นได้ว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ การมุ่งที่เส้นทางที่จะได้เงินแสนในปัจจุบันจึงเป็น ทางที่ยากจะไปถึง ..แต่ในมุมกลับกัน หากคุณเลือกเดินอีกเส้นทาง อย่างที่กล่าวมาคือ องค์กรเล็กและในธุรกิจที่ยังไม่โตในปัจจุบัน กลับกลายเป็น ทางที่สร้างโอกาสให้คุณมีเงินเดือนเป็นแสนหรือเป็นล้านได้"
ผมจำเรื่องเล่าของ คุณตาของผม คือ (คุณ วีระ รมยะรูป) ที่ก้าวออกจากแบงค์ชาติ มาร่วมงานกับ ธนาคารเล็กๆอย่างธนาคารกรุงเทพ(ที่ในวันนั้นมีเพียง 2 สาขาเท่านั้น) "ทางเล็กๆที่คุณวีระเลือกในวันนั้น ทำให้คุณวีระก้าวขึ้นมาเป็น หนึ่งในตำนานผู้ร่วมบุกเบิกธนาคารกรุงเทพและผู้บริหารที่เป็นตราสัญลักษณ์ ของธนาคารที่ยิ่งใหญ่นี้ตลอดกาล...(นับเป็นทางที่คนส่วนใหญ่ คาดไม่ถึงจริงๆ)"
เขียนโดย pawawit ที่ http://pawawit.blogspot.com
ถ้าเรามองให้ดี จะเห็นได้ว่า การลดต้นทุน รวมทั้งการ Outsource เป็นการลด Supply ของตำแหน่งงาน ระดับล่าง โดยเฉพาะ Blue Collar(ผู้ใช้แรงงาน) จุดนี้ส่งผลต่อ สองจุดคือ
1. เมื่อ Supply ของงานลด แต่ความต้องการทำงานไม่ลดตาม จึงส่งผลให้สามารถ กดค่าแรงของพนักงานระดับล่างได้
2. การ outsource และลดคนงาน ส่งผลให้ Profit ของบริษัทที่ดีขึ้น "จุดนี้ทำให้ผู้บริหาร ระดับสูงได้รับประโยชน์เต็มๆ"ทำให้มีการเพิ่มทั้ง ค่าจ้างและ Bonus
เคยมีนักวิชาการหลายคน พยายามออกมาโจมตี "ความแตกต่างอย่างสุดขั้ว ระหว่าง พนักงานธรรมดา กับผู้บริหารระดับสูง" แต่แน่นอนมันไม่เป็นผล เพราะ บริษัทเมื่อกำไรเพิ่มเขาก็ไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน ในส่วนของ CEO เอง การลดต้นทุนอย่าง Aggressive รวมทั้งการดำเนิน Strategy ที่เสี่ยง กลายเป็นเรื่องปกติของ Corporate America เพราะ CEO จะถูกวัดค่าจากผลกำไรเท่านั้น ดังนั้น การลดต้นทุนดังที่กล่าวมาจึงเรียกได้ว่าเป็นทางเดียวที่ต่อลมหายใจให้กับ ธุรกิจในตลอดสิบปีที่ผ่านมา
"ผลของการ Outsource และ ลดต้นทุนอย่างสุดขั้ว" ส่งผลให้หลายๆกิจการ ต้องปิดตัวโรงงานในอเมริกา หันไปจ้างเมืองจีนผลิตแทน
กลับมาที่คำถามว่า "เราจะเดินสู่เส้นทางเงินเดือนแสนได้อย่างไร" คำตอบก็คือ เราต้องก้าวไปสู้ตำแหน่งบริหารนั่นเอง --การที่จะเป็นผู้บริหาร ทำได้สองวิธี ก็คือ
อย่างแรก คือ การเลือกทำงานในองค์กรเล็ก(ที่มีโอกาสเติบโต)แทนองค์กรใหญ่ ..เพราะองค์กรใหญ่มึคนเก่งมาก เท่ากับว่า ความเก่งของคุณ จะยากที่จะได้มีโอกาสแสดงฝีมือ ..และถ้ามองให้ดีแล้ว ธุรกิจที่ใหญ่ในปัจจุบันกำลังเข้าสู่ขาลงเนื่องจาก Cost เพิ่มขึ้นทุกทาง (อย่างเงินเดือนผู้บริหารที่สูง ก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง ของ Cost ที่ค้ำคอ กิจการใหญ่ ที่ไม่สามารถลดลงได้)
อย่างที่สอง คือ การเลือกทำงานใน ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต (ไม่ใช่เลือกธุรกิจที่โตอยู่แล้ว) "พูดง่ายๆคือ"-- ต้องเลือกเข้าทำธุรกิจในช่วง Business Life Cycle ของ Beginning และ Growth เท่านั้น
.."ใช่แล้วครับ" งานที่จะนำท่านไปสุ่ความรุ่งโรจน์คือ การทำงานที่เล็กๆ แต่มีโอกาสโตสูง เช่น ธุรกิจ Online หรือ บริการทางการเงินใหม่ๆ --เพราะเมืื่อ Gen Y ซึ่งใช้ Internet เป็นสื่อหลักในการดำเนินชีวิต ก้าวมาสู่ตำแหน่งผู้บริหารและผู้นำองค์กร --เมื่อนั้น ตลาดก็จะโน้มเอนไป สนองตอบ Gen Y อย่างที่เป็นในยุค (.com Boom)ของอเมริกา "และสร้าง Young Rich เหมือนที่เกิดในอเมริกาเช่นกัน"
ดังนั้น การเข้าจับโอกาสเติบโตขององค์กรเล็ก จึงเป็น โอกาสที่จะทำให้(คุณ) เป็นผู้บริหารเงินเดือนเป็นแสนเป็นล้านในอนาคตได้-- "จะเห็นได้ว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ การมุ่งที่เส้นทางที่จะได้เงินแสนในปัจจุบันจึงเป็น ทางที่ยากจะไปถึง ..แต่ในมุมกลับกัน หากคุณเลือกเดินอีกเส้นทาง อย่างที่กล่าวมาคือ องค์กรเล็กและในธุรกิจที่ยังไม่โตในปัจจุบัน กลับกลายเป็น ทางที่สร้างโอกาสให้คุณมีเงินเดือนเป็นแสนหรือเป็นล้านได้"
ผมจำเรื่องเล่าของ คุณตาของผม คือ (คุณ วีระ รมยะรูป) ที่ก้าวออกจากแบงค์ชาติ มาร่วมงานกับ ธนาคารเล็กๆอย่างธนาคารกรุงเทพ(ที่ในวันนั้นมีเพียง 2 สาขาเท่านั้น) "ทางเล็กๆที่คุณวีระเลือกในวันนั้น ทำให้คุณวีระก้าวขึ้นมาเป็น หนึ่งในตำนานผู้ร่วมบุกเบิกธนาคารกรุงเทพและผู้บริหารที่เป็นตราสัญลักษณ์ ของธนาคารที่ยิ่งใหญ่นี้ตลอดกาล...(นับเป็นทางที่คนส่วนใหญ่ คาดไม่ถึงจริงๆ)"
เขียนโดย pawawit ที่ http://pawawit.blogspot.com