Thai VI

ผมยังงงอยู่ว่า inventory/sales นั้นคำนวนหาค่าของอะไรกันแน่

แล้วจากงบการเงิน เราหากำไรขั้นต้นได้ แล้วจากสองค่าข้างบนนี้ จะหาได้อย่างไรว่าในหนึ่งปี ขายสินค้าออกไปได้มากแค่ไหน เห็นมีแต่จำนวนเงิน แล้วจำนวนที่ขายได้นั้นมากพอที่จะทำให้ไม่ขาดทุน หรือว่าต้องขายให้ได้เท่าไหร่เป็นอย่างน้อยจึงไม่ขาดทุนในแต่ละปีครับ

อัตราหมุนเวียนสินค้าหรือ Inventory turnover ไม่ได้พยายามบอกว่าขายสินค้าได้กี่ชิ้นครับ

แต่บอกถึงความสามารถในการบริหารสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ

สินค้าคงคลัง มันเป็นการถ่วงกันระหว่างเงินที่ต้องจมอยู่ในรูปตัวสินค้าและความเสี่ยงจากการที่ลูกค้าต้องการของแล้วเราไม่มีสินค้าให้ ดังนั้นการบริหารสินค้าคงคลังจึงเป็นงานที่ท้าทายและสำคัญสำหรับกิจการประเภทผลิตและซื้อมาขายไป

อัตราส่วนการหมุนของสินค้าคงคลัง เอายอดเงินมาหารด้วยยอดเงินครับ คือเอา Inventory/Sales เพือที่จะบอกว่าเงินบาทนึงที่เป็นยอดขายเราต้องเก็บสินค้าคงคลังมากน้อยแค่ไหน ยิ่งน้อยก็ดีเพราะเงินจมน้อยครับ

ถ้าจะให้เข้าใจง่ายเข้าก็เอาจำนวนวันคูณเข้าไป เช่นถ้าเป็นงบรายไตรมาสก็เอา 30 คูณ ถ้าเป็นงบประจำปีก็เอา 365 คูณ ก็จะได้เป็น Inventory days ครับ

อัตราส่วนนี้บอกว่าพอมีสินค้าคงคลังแล้วมันเปลี่ยนเป็นยอดขายนี่ใช้เวลากี่วัน พูดให้ง่ายกว่านั้นคือ สินค้าผลิตเสร็จแล้วอยู่กี่วันก่อนจะขายได้ ครับ

เวลาดูอัตราส่วนทางการเงินขอให้ดูแบบเปรียบเทียบนะครับ เช่นควรเอาไปเปรียบกับกิจการในธุรกิจเดียวกันหรือเปรียบเทียบย้อนหลังไปตามเวลา

อัตราส่วนตัวเดียวบอกอะไรไม่ได้ครับ เช่น inventory day ของร้านหนังสือ Aเป็น 100 วัน แปลว่าไม่ดี ก็คงไม่ใช่ แต่ถ้าไปเปรียบกันร้านหนังสือประเภทเดียวกันแล้วเจ้าอื่นๆ น้อยกว่าแสดงว่าร้านหนังสือ A ทำได้ไม่ดีนักในการบริหารสินค้าคงคลังครับ

คงจะพอช่วยให้เข้าใจได้มากขึ้นนะครับ

เหมือนที่คุณ ayethebing ว่าครับ ขอเพิ่มนิดนึง

สินค้าคงคลังมาก จะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่าง ที่สำคัญคือ
"ค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าคงคลัง" ครับ

ถ้าค่าใช้จ่ายต่อหน่วยต่อวันสูง ในขณะที่สินค้าหมุนเวียนช้า และ
cost of opportunity ต่ำ (คือถ้าสินค้าหมดสต๊อก จะทำให้ลูกค้า
เลิกซื้อ) ก็ควรจะลดปริมาณสินค้าคงคลังลงมากๆ

สำหรับธุรกิจประเภทซื้อมาขายไป zero investory คือ ideal business
model ครับ เพราะค่าใช้จ่ายในการคงสินค้าเป็นศูนย์ ในขณะที่ลูกค้า
ก็ได้รับสินค้าในเวลาอันรวดเร็ว

หลายบริษัทพยายามทำ negative investory ด้วยซ้ำครับ ด้วยเทคนิค
back order คือให้ลูกค้าสั่งสินค้า จ่ายเงิน แล้วค่อยไปหาสินค้ามาส่ง
ให้ ถ้าลูกค้ายอมรับได้ ก็กำไรเนื้อๆ เลยครับ

เอ....

เราเคยอ่านมาว่า เค้า เอาต้นทุนสินค้า/สินค้าคงเหลือ=inventory turn-over

ไม่ทราบว่าเหมือนกันมั๊ย

คือหารแล้วได้รอบของการหมุนเวียน

แล้วค่อยเอาไปหาร365วันเพื่อหาว่า สินค้าหนึ่งๆนั้นใช้เวลากี่วันในการขายออกไป

ไม่ทราบว่าเหมือนกันหรือเปล่าน๊ะ

กิจการอะไรที่ negative inventory ได้บ้างอะเฮีย CK อยากซื้อจัง สงสัยเป็นประเภทที่เรียกว่า จับเสือมือเปล่า รึปล่าวครับ

ขนาด Make-to-order ยังต้องมี Inventory ของวัตถุดิบเลยครับ

ตอบคุณ TD_line เท่าที่ผมจำได้การเล่นกับต้นทุนขายผมเห็นมีคล้ายๆ ที่ท่านว่าเหมือนกันแต่เป็น Cash cycle หรือ Cash conversion cycle คิดเป็นวันครับ คือเค้าอยากรู้ว่า จากวันที่ซื้อวัตถุดิบและจ่ายเงินไปจนถึงวันที่ได้รับเงินสดจากลูกค้ากินเวลากี่วันครับ

สูตรก็คือ

Cash Conversion Cycle = AR Days + Inventory Days +- AP days

AR Days = Accounts Receivables / Sales X จำนวนวัน หาว่าเราเก็บเงินจากเงินเชื่อใช้เวลากี่วัน

Inventory days = Inventory/COGS X จำนวนวัน เพื่อหาว่าจาก inventory กลายเป็นของขายได้ใช้เวลากี่วัน

AP Days = Accounts Payables / COGS X จำนวนวัน หาว่าเราจ่ายเงินให้กับเจ้าหนี้เงินเชื่อใช้เวลากี่วัน

ก็ยิ่งน้อยก็ยิ่งดีครับ

ดูภาคภาษาอังกฤษได้ที่นี่ครับ
http://www.loanuniverse.com/cashcycle.html

ayethebing เขียน:กิจการอะไรที่ negative inventory ได้บ้างอะเฮีย CK อยากซื้อจัง สงสัยเป็นประเภทที่เรียกว่า จับเสือมือเปล่า รึปล่าวครับ

Amazon.com ครับ เอาข้อมูลสินค้าเช่นหนังสือบางเล่มขึ้นโฆษณาขาย
ตั้งแต่คนเขียนยังเขียนไม่เสร็จด้วยซ้ำ แล้วให้คนเข้ามาซื้อโดยโฆษณาว่า
เมื่อมีสินค้าแล้ว จะจัดส่งให้ทันที "ได้อ่านทันใจ อ่านก่อนใคร" เป็นต้น

ก็มีลูกค้าบ้าจี้เข้าไปซื้อของทั้งๆ ที่สินค้ายังไม่ทันจะเริ่มผลิตด้วยซ้ำครับ

ยังงี้จะเรียกว่าจับเสือมือเปล่าหรือเปล่า

เฮีย CK ผมว่ามันเป็นได้เฉพาะบางเล่มที่ดังๆ เท่านั้นและผมว่า Amazon จะมีสินค้าคงคลังพอควรเลยครับ เพราะลูกค้า Amazon (อย่างผม) ไม่รอสินค้าที่ไม่มีใน Amazon แน่ๆ ไป Border ก้อได้

สงสัยจะเกิดกับ Harry Potter's Order of Phoenix เล่มเดียวกระมัง

ถ้าเจอแบบนี้เด็ดๆ ก็อย่าลืมบอกกันละพี่

การคำนวณ Inventory Turnover คงจะไม่ช่วยอะไรมากนักครับ เพราะ

สินค้าคงคลังในปัจจบันตามงบดลยังคงเป็นการรวมทั้ง วัตถดิบ สินค้าระหว่างผลิต สินค้าสำเร็จรป แล้วเราจะคำนวณไปก็ยังงงๆครับ

ถ้าในงบดลมีการแยกรายการ เราจะสามารถคำนวณได้ว่าบริษัท A มีการเก็บวัตถดิบไว้กี่วัน ใช้เวลาผลิตสินค้ากี่วัน และสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วกี่วันถึงขายได้

น่าจะให้สมาคมผ้ตรวจสอบบัญชีบังคับให้แยกตัวเลขให้เห็นนะครับ ใครเห็นด้วยยกมือขึ้นครับ