Thai VI

จากตัวอย่างข้างบน ผมตัดมาจากของจริงนะครับ เรียงตามนั้นเลย
ค่าของ DA จากงบบกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน
ในที่นี้เราจะใช้รายการของอะไรบ้างครับ
หรือว่าเอาเฉพาะค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่ายเท่านั้น    

กำลังหัดคำนวนครับ พอดีติดในเรื่องของค่าตัวแปรต่างๆอยู่

มือใหม่ครับ  :P

แล้วหนี้สงสัยจะสูญ กับ ค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ  ถือว่าเป็น DA ไหมครับ?

[quote="zeeza"]แล้วหนี้สงสัยจะสูญ กับ ค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ

ขอบคุณมากครับ  :D

จะเอา DA ไปทำอะไรกันเหรอครับพี่น้องครับ

ถ้าจะหา EBITDA น่ะ EBITDA ก็คือ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจ่ายมูลค่าสินทรัพย์ไม่มีตัวตน วิธีดูผลประกอบการแบบนี้ก็เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ใช้เอามาเปรียบเทียบกิจการโดยไม่นำต้นทุนของเงินมาคิด เพราะบางธุรกิจอาจลงทุนเองมาก กู้น้อย แต่บางธุรกิจกู้มาก ลงทุนเองน้อย ไม่นำอัตราภาษีเงินได้ของกิจการมาคิด เพราะกิจการอาจได้อัตราภาษีไม่เท่ากัน บางธุรกิจได้รับการส่งเสริม จึงเสียภาษีน้อยกว่า ไม่นำค่าเสื่อมราคามาคิด เพราะบางกิจการเครื่องจักรอาคารเก่า ไม่มีค่าเสื่อมแล้ว แต่กิจการใหม่ๆ ยังมีค่าใช้จ่ายนี้อยู่ เปรียบเทียบแล้วจะไม่ยุติธรรม ไม่นำค่าใช้จ่ายตัดจ่ายมาคิด ตัวใหญ่มุ่งไปที่ค่าความนิยม เพราะมันเป็นผลพวกจากตอนที่ซื้อธุรกิจมา ถ้าซื้อมาแพงกว่า Book Value ก็มีค่าความนิยม ที่ทยอยตัดออกมาเป็นค่าใช้จ่าย กิจการที่ไม่มีตัวนี้ก็ไม่มีค่าใช้จ่ายนี้ เทียบกันก็ไม่ยุติธรรม เป็นต้น ถ้าเป็นแบบนี้ก็โอเคล่ะ คิดตามสูตรได้เลย ไม่ต้องเอาค่าเสื่อมราคา กับค่าตัดจ่ายนั้นมาคิด แต่ไม่ต้องไปเอาพวกหนี้สงสัยจะสูญ กับค่าสินค้าเสื่อมสภาพมายุ่งด้วยนะครับ ไม่เกี่ยวกัน ถ้าบริหารไม่ดี ก็มีหนี้สงสัยจะสูญมาก มีสินค้าเสื่อมสภาพมาก กิจการอื่นไม่มีก็เป็นเพราะบริหารได้ดีกว่า หรืออยู่ในธุรกิจที่ดีกว่า จึงไม่มีเหตุผลที่จะไปเอามาด้วย อย่าไปสับสนกับการทำงบกระแสเงินสดนะครับ อันนั้นเค้ามองไปที่เงินสด เค้าจึงเอาค่าใช้จ่ายที่ไม่กระทบเงินสด (ในงวดที่แสดง) มาบวกกลับ ทำให้มีการบวกกลับหนี้สงสัยจะสูญกับค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพด้วย แต่การคิด EBITDA เป็นคนละเรื่องกัน

อย่างไรก็ตาม พูดมาจนขนาดนี้ ขอเลยเถิดไปถึงเรื่อง EBITDA สักหน่อย เผื่อว่าสนใจจะไปดูตรงนั้นกัน ในความเห็นผม ตัวนี้เอาไว้วัดกันเองในหลายบริษัทในเครือมันก็ได้อยู่หรอก บริหารแข่งกัน ดูว่าใครทำได้ดีกว่า แต่ถ้าไว้เทียบกิจการทั่วไปในตลาดนี่ ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าสมควรจะไปดูมันไหม เพราะกิจการย่อมมีต้นทุนของเงิน ถ้าเป็นดอกเบี้ยก็ควรเอามาหัก ถ้ามีภาษีเงินได้ต้องจ่ายก็ควรเอามาหัก ถ้ามีค่าเสื่อมก็ยิ่งควรเอามาหัก เพราะเครื่องจักรอาคารไม่ใช่ว่าจะใช้ได้ตลอดไป ไม่ช้าไม่นานก็ต้องมีวันซื้อใหม่ บูรณะใหม่ ถ้าไม่หักนี่สิ จะไปเทียบกับกิจการที่เค้าเช่าพวกนี้ใช้ได้ยังไงกันล่ะ ใช่ไหมครับ ผมว่าดูกำไรน่ะดีแล้ว และดูที่มาที่ไปของบัญชีแต่ละที่ให้ดีๆ ด้วยว่าใช้สมมุติฐานแบบไหน ก็จะดีกว่า ไม่ใช่โน่นก็ไม่หัก นี่ก็ไม่หัก นอกจากจะไม่ระมัดระวังแล้วก็ยังทำให้แสดงภาพของธุรกิจดีกว่าความเป็นจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายตามความเห็นของผมน่ะนะครับ แต่ถ้าใครพอใจดูก็ไม่ว่ากัน  

[quote="zeeza"]แล้วหนี้สงสัยจะสูญ กับ ค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ