Thai VI

รบกวนท่านผู้รอบรู้ ขอวิธีคำนวณราคาหุ้นที่เหมาะสม เพื่อวิเคราะห์ว่าหุ้นตัวนั้นราคาถูกหรือแพง

ขอบคุณค่ะ

ผู้หญิงอยากรู้เริ่มเล่นหุ้น

มันเป็นเรื่องใหญ่ และยาว  ไปอ่านตำรามาก่อนดีกว่าครับ

ไม่เข้าใจติดขัดตรงใหนค่อยมาถาม  ถามแบบนี้ไม่รู้ว่าพื้นฐานเดิมมีแค่ใหน

ถ้าใช้ technical terms  เยอะๆ  จะถอดใจเสีบป่าวๆ

sureerut เขียน:รบกวนท่านผู้รอบรู้ ขอวิธีคำนวณราคาหุ้นที่เหมาะสม เพื่อวิเคราะห์ว่าหุ้นตัวนั้นราคาถูกหรือแพง

ขอบคุณค่ะ

ผู้หญิงอยากรู้เริ่มเล่นหุ้น

ถ้าตอบตรงไหนผิดก็ขออภัยนด้วยนะครับ

ภาพรวมคร่าวๆ วิธีการประเมิณหุ้นจริงๆนั้นไม่มีอะไรตายตัวนะครับ แล้วแต่มุมมอง แต่หลักๆมี่ 3วิธี

1) P/E
2) P/BV
3) DCF

ซึ่งใจแต่ละวิธีก็ีมีปลีกย่อยไปอีก แต่วิธีที่ถูกต้องทางtheoryที่สุดคือ DCF เนื่องจาก คํานึงถึง มูลค่าเงินตามเวลา  แต่ ขณะที่ P/E นั้นเป็นการมองหยาบๆ เวลาคืน P หาญด้วย EPS (Forecast ) ส่วน P /BV นั้น มองราคาเทียบกับ ทรัพยสืน แต่ควรเป็น ทรัพย์สิน ที่ตีค่าเป็นราคาปัจจุบัน adjusted present


วิธี P/E นั้น มอง ราคาหุ้นปัจจุบันเทียบกับ กําไรต่อหุ้นในอนาคต
ถ้าตํ่าก็แปลว่าไม่แพง โดยทั่วไปตลาดไทย จะประมาณ10 เท่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
หุ้น Great Company อย่าง Cpall Mint 15-20 เท่าอาจจะไม่แพงก็ได้ถ้าเค้า
มีGrowth ที่ 20% ขึ้น ไป จึงเป็นที่มาของอีก Ratio คือ

PEG คือ PE/Growth    ปกติค่ายอมรับคือ ประมาณ 1 แต่ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองอีก  แต่ยิ่งตํ่ายิ่งดี  หมายความว่า Growth ยิ่งสูง และควรเป็นgrowth ในอนาคต ไม่ใช่growth ในอดีต  เช่น บมจ A โต 30 % มา2ปี แต่ปีนี้หรือ หน้า 10% อย่างงี้ก็ไม่ดี กับ บมจB โต 10% มา 5ปี อยู่ดีๆ พื้นฐานเปลี่ยน ๆBiz model ทําให้ โตปี ละ 30-50%ไป 1-2 ปี แบบนี้ก็ จะดี กว่า เพราะเป็น กําไรในอนาคต

ยก ตย บางบริษัท ซื้อที่ดินไว้ 100ล้านเมื่อ10ปีก่อน หากไม่ปรับPBV อาจอยู่ที่ 2 เท่า แต่เมื่อตี ราคาปัจจุบันแล้ว PBV อาจอยู่ที่ 0.7 ก็ได้ เพราะที่ดินราคาเพิ่มเป็น 200-300 ล้าน     แต่ทั้งนี้วิธีPBV เหมาะสําหรับAsset Play หรือบริษัทที่คาดว่าจะขายสินทรัพย์ นั้นออกมา หรือ นํามาผลิตcashflow หากไม่ขาย ผู้ถือหุ้นก็ไม่ได้อะไร


DCF ลองหา หนังสือชื่อ ประเมิณมูลค่าหุ้นโดย สุมาอี้ มา ค่อนข้างดี ขายที่B2S หรือ

Valuation ตํารา From Graham to Buffet and Beyond ค่อนข้างดี รูึสึกมีฉบับไทย ด้วยนะ  ลองหาดู

ผมก็ VI มือใหม่เหมือนกันครับ รบกวนถามพี่ Rocker ครับ
ผมอ่าน หนังสือ ประเมินมูลค่าหุ้นของพี่ สุมาอี้ มาแล้วครับแต่ยังสงสัยดังนี้ครับ
มูลค่าต่อหุ้นที่วัดได้เป็นมูลค่าปัจจุบันหรือมูลค่าตลอดอายุของกิจการครับ

1. ถ้าเป็นมูลค่าปัจจุบัน เราก็ซื้อต่ำกว่า มี margin of safety พอสมควร เช่น  2/3 ของราคาที่คำนวณได้ แล้วเราควรจะขายที่เท่าไรครับ เพราะเราไม่รู้มูลค่าขึ้นไปถึงไหน อาจทำให้เราเสียโอกาสในการทำกำไรที่มากกว่าที่เราควรจะได้

2. ถ้าเป็นมูลค่าตลอดอายุของกิจการ เราซื้อต่ำกว่าที่เราคำนวณได้ อย่างตัวอย่างในหนังสือ เช่น HMPRO  มี upside ไม่ถึง 1 เท่า จากราคาตอนที่เราคำนวณ แต่ที่เคยอ่านในหนังสือหลายๆเล่ม หุ้นพื้นฐานดี มีกำไรและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถ้าถือนานประมาณ 5 ปีขึ้นไป มูลค่าหุ้นจะขึ้นไป 5 เท่า 10 เท่า 15 เท่า  หรือมากกว่านั้น
รบกวนหน่อยครับ

[quote="Mote_VI"]ผมก็ VI มือใหม่เหมือนกันครับ รบกวนถามพี่ Rocker ครับ
ผมอ่าน หนังสือ ประเมินมูลค่าหุ้นของพี่ สุมาอี้ มาแล้วครับแต่ยังสงสัยดังนี้ครับ
มูลค่าต่อหุ้นที่วัดได้เป็นมูลค่าปัจจุบันหรือมูลค่าตลอดอายุของกิจการครับ

1. ถ้าเป็นมูลค่าปัจจุบัน เราก็ซื้อต่ำกว่า มี margin of safety พอสมควร เช่น

sureerut เขียน:รบกวนท่านผู้รอบรู้ ขอวิธีคำนวณราคาหุ้นที่เหมาะสม เพื่อวิเคราะห์ว่าหุ้นตัวนั้นราคาถูกหรือแพง

ขอบคุณค่ะ

ผู้หญิงอยากรู้เริ่มเล่นหุ้น

ใช้วิธีคิดลดกระแสเงินสดในระยะเวลาที่เราต้องการครับ

ขอบคุณมากครับ กระจ่างเลยครับพี่ แต่ผมคิดต่อแต่ไม่รู้ถูกหรือเปล่า รบกวนอีกครั้งครับ
1. เพราะฉะนั้น เราต้องคำนวณ DCF ทุกปีใช่ใหม่ครับ เพราะจะมีพื้นฐานหรือปัจจัยต่างๆเปลี่ยนไป เช่น กำไร นโยบายการขยายกิจการของบริษัท เป็นต้น
ถ้าคำนวณใหม่แล้ว ถ้ามูลค่าที่คำนวณได้ต่ำกว่าราคาปัจจุบันพอสมควรก็ถือต่อ ถ้ามูลค่าที่คำนวณได้สุงกว่าราคาปัจุบันก็ขาย ผมคิดถูกไหมครับ

2. สมมุตินะครับ ถ้าพื้นฐานและปัจจัยต่างๆไม่เปลี่ยน เช่น ปี50  คำนวณได้มูลค่าที่แท้จริง 7.2 บาท ปี51   กำไรก็ตามที่เราคาดการณ์ตอนปี50 แต่มูลค่าที่แท้จริง ณ ปี 51 ก็คงไม่ใช่ 7.2 บาท แล้วจะต้องสูงขึ้น เนื่องจากค่าเงินที่พี่อธิบายไว้ข้างบน ซึ่งก็ต้องคำนวณใหม่อยู่ดี ผมคิดถูกไหมครับ

รบกวนอีกครั้งครับ

[quote="Mote_VI"]ขอบคุณมากครับ กระจ่างเลยครับพี่ แต่ผมคิดต่อแต่ไม่รู้ถูกหรือเปล่า รบกวนอีกครั้งครับ
1. เพราะฉะนั้น เราต้องคำนวณ DCF ทุกปีใช่ใหม่ครับ เพราะจะมีพื้นฐานหรือปัจจัยต่างๆเปลี่ยนไป เช่น กำไร นโยบายการขยายกิจการของบริษัท เป็นต้น
ถ้าคำนวณใหม่แล้ว ถ้ามูลค่าที่คำนวณได้ต่ำกว่าราคาปัจจุบันพอสมควรก็ถือต่อ ถ้ามูลค่าที่คำนวณได้สุงกว่าราคาปัจุบันก็ขาย ผมคิดถูกไหมครับ

2. สมมุตินะครับ ถ้าพื้นฐานและปัจจัยต่างๆไม่เปลี่ยน เช่น ปี50

พี่ Rocker อธิบายได้ชัดเจนมากครับ      

อย่าลืมเรื่องคุณภาพของตัวเลขด้วยนะครับ เคยโดนมาแล้ว >_<

โทษทีครับ คำถามข้อ 1 ผมก็คิดอย่างที่พีตอบแหละครับ แต่ผมไม่รอบคอบเอง ทำให้ความหมายเปลี่ยนจากกำไร เป็นเจ๊งไปเลย ต่อไปต้องรอบคอบมากกว่านี้
ขอบคุณครับ

ที่อ่านจากหนังสือ intelligent investor นะ เบญจมิน เกรแฮม ใช้วิธีคำนวนมูลค่าพื้นฐานจาก (ทรัพย์สิน"หมุนเวียน"-หนี้สิน"ทั้งหมด")/จำนวนหุ้น ถ้าคำนวนออกมาแล้วหุ้นตัวไหนมีราคาตลาดต่ำกว่าราคาที่คำนวนออกมาเค้าบอกให้ซื้อได้เลยอ่ะ

เท่าที่จับใจความได้ประมาณนี้แหละ ถ้าผิดก้อขออภัยด้วย