หน้า 1 จากทั้งหมด 1

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 21, 2004 9:51 pm
โดย ayethebing
ว่าจากที่เคยโดดเด่นในสายตานักลงทุนแบบเน้นคุณค่า กลายเป็นหุ้นที่ต้องดิ้นรนด้วยความยากลำบากว่าจะฟื้นไม่ฟื้นได้ยังไง

ผมพอจะเป็นคนที่ขุดๆ อาการของ fancy ได้ แน่นอนว่าอยากให้มีคนมาช่วยด้วย แต่ของ CEI นี่ ผมไม่ได้ตามครับ มีใครอยากช่วยผม "ขุด" บ้าง

ผมว่าดีนะจะได้เตรียมเอาไว้เผื่อมีอาการของหุ้นที่เคยดีมาในอดีตแล้วมีอาการคล้ายๆ กันก็จะได้เตรียมตัวจับตาดูว่ามันจะเกิดเหตุการณ์อย่างเดียวกันรึเปล่า

ไม่ได้หมายความว่า หุ้นทั้ง 2 จะฟื้นไม่ได้นะครับ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 21, 2004 9:57 pm
โดย ayethebing
ผมอยากเริ่มต้นที่ fancy ครับ

เหตุการณ์แรกที่เป็นที่พลิกสถานการณ์ของ fancy คือ

1. การที่เค้าเริ่มทำ PO (public offering) ให้กับผู้ถือหุ้นทั่วไปไม่ได้ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมเพื่อที่จะนำเงินไปลงทุนโรงงานใหม่ด้วยราคาที่ต่ำกว่าราคาในตลาด

ที่ผมคิดตอนนั้นคือกะจะขายให้เกลี้ยงแล้วไม่ยุ่งกับเค้าอีกเลย แหม ผู้ถือหุ้นเดิมก็เสียเปรียบสิใช่มั้ยครับ

แต่โชคดี (หรือร้าย) ที่ได้หุ้นในส่วนของ PO มาก็เลยเป็นการลดต้นทุนของหุ้นไปในตัว

นี่เกิดเมื่อปลายปี 2545 ถ้าจำไม่ผิด

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 8:55 am
โดย ลุงขวด
การขายหุ้น PO ที่ราคา 45 บาทคราวที่แล้ว(par 5 บาท) โดยมีแกนเป็น AST ทำการเสนอ มีการ bookbuild กัน เขาคงเกรงว่า การขายหุ้นจำนวนมาก จะขายจูงใจได้ก็ต้องต่ำกว่าราคาตลาดประมาณ 10% ซึ่งตอนนั้นราคาหุ้นที่ขายกันก็ราคาแถว 50 บาท ไม่ไปไหนเป็นเดือนเลย.........(เทียบได้ตอนนี้ที่ราคา 9 บาท ใน par 1 บาท)........หลังจากเข้าตลาด มีการดันราคาไปถึง 12 บาทเศษ จากนั้นก็ไม่ได้เห็นอีกเลยลงมาอยู่ในระดับนี้ นับว่าเป็นการลงยาว และ นานอีกด้วย

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 9:33 am
โดย CK
FANCYWOOD
รูปภาพ

COMPASS EAST
รูปภาพ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 9:42 am
โดย CK
กรณีของ CEI แตกต่างกันเล็กน้อยครับ

ในปี 2001 - 2002 หุ้น CEI เป็นหุ้นที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นมาก
โดยทำกำไรได้ที่ 36 - 39 บาท ต่อปี และปันผลสูงถึง 96% ของกำไร
ทำให้ CEI ที่ราคา 180 (ก่อน split) มี dividend yield สูงถึง 20%

และแล้วราวๆ กลางปี 2002 ผู้บริหารตัดสินใจประกาศแตกพาร์ตอนที่
ราคาหุ้นอยู่ราวๆ 360 บาท โดยส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะเป็นข่าวดีสุดท้าย
ของ CEI จึงตัดสินใจขายออกไปทั้งหมด

หลังจากนั้นข่าวร้ายก็ตามออกมาเป็นระยะ ตั้งแต่เรื่องผู้บริหารขายหุ้น
ออกมาจำนวนมาก partner และลูกค้ารายใหญ่ ประกาศถอนการลงทุน
ทั้งหมด Home Depot (?) ประกาศลดการสต๊อกสินค้าจาก 6 เดือน
เหลือ 3 เดือน จนกระทั่งถึงต้นปีนี้ที่ประกาศผลการดำเนินงานติดลบ
เป็นครั้งแรก ฉุดราคาหุ้นให้มาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 9 บาท ต่ำสุดในรอบ
5 ปี

(ระหว่างนั้น ผมได้เข้าเล่น CEI แบบเทรดดิ้ง 3 ครั้ง ต้อง cut loss ไป
สองครั้ง ขาดทุน 10%-20% กำไรครั้งเดียว)

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 10:02 am
โดย มือใหม่
cei ผมเคยเทรดดิ้งเหมือนกันปลายปีที่แล้วตอนราคา 21 บาท ขายไป 23 บาท เนื่องจากเห็นสภาพการไม่ดี เกี่ยวกับค่าเงินบาท เลยถอนตัวไปก่อนโชคดีจริงๆ :)

ส่วน fancy มองดูจากหลายท่านโพส ผมคิดว่าถ้า ผู้บริหารไม่ค่อยมีความโปร่งใส เป็นภัยมหันต์ที่จะถือไว้ (เป็นแค่ความคิดเห็นผมครับ)

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 10:19 am
โดย นักดูดาว
ทั้งสองหุ้นมีสิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือจ่ายปันผลในอัตราที่สูง ทำให้ราคาหุ้นถูกไล่ขึ้นไปมากๆรับกับ Dividend Yield แต่สะสมกำไรไว้ลงทุนน้อยเหลือเกิน ผลก็ถือ P/BV สูงมากๆ แม้จะไม่มี hidden asset อะไรนักก็ตาม

ผมคิดว่า FANCY ยังมีอนาคตครับ อุตสาหกรรมไม้ยางพาราแม้จะโดนเรื่องราคาวัตถุดิบ หากสามารถทำตลาดสร้างแบรนด์ได้อย่าง MODERN ผมว่าจะทำกำไรเพิ่มขึ้นได้ครับ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 10:30 am
โดย ลูกอิสาน
เป็นเรื่องที่ดีครับ ที่คุณ aye ยกเรื่องนี้มาพูดครับ
เพราะทั้งสองกรณีให้บทเรียนหลายๆ อย่างกับนักลงทุน

ผมมีความเห็นดังนี้ กรณี

CEI
-อุตสาหกรรมไม่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างแท้จริง
-มีความเสี่ยงสูงจากอัตราแลกเปลี่ยนและการที่มีลูกค้าน้อยราย
-ผู้บริหารมีจุดให้น่าสงสัียและเคลือบแคลง

FANCY

-มีความสามารถในการแข่งขัน
-ผลประกอบการมีความผันผวนมาก จากอัตราแลกเปลี่ยน และราคาวัตถุดิบ

แต่ทั้งสองกรณีมีสิ่งที่เหมือนกันคือ ปันผลในอัตราสูงๆ ทำให้ไม่มีเงินที่จะขยายกิจการ หรือรองรับเมื่อเกิดปัญหา และราคาหุ้นก็สูงขึ้นไปเพื่อรับกับปันผล เมื่อผลประกอบการเกิดการพลิกผัน หรือลดลง ราคาหุ้นก็เลยปรับตัวรุนแรง เพราะไม่มี margin of safety นั่นเอง

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 10:33 am
โดย ayethebing
เล่าเรื่อง fancy ต่อครับ

ปัจจัยที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบเริ่มที่ไตรมาส 1 ของปี 2546 มีผลกระทบอยู่ 2 ด้าน

- ราคาไม้ยางพาราเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเพราะความต้องการไม้ยางจากเมืองจีนและราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

- ค่าเงินบาทเริ่มมีการแข็งตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง

ทั้งสองปัจจัยกดราคาของ fancy เริ่มร่วงลงครับ กำไรลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วมาก

ปัญหาของ fancy เกิดจากโครงสร้างพื้นฐานของผลิตภัณฑ์ที่เค้าผลิตนั่นคือ ไม่มี brand ที่แข็งแกร่ง และพึ่งการส่งออกมากเกือบทั้งหมด

เรื่อง brand ทำให้ fancy ไม่สามารถขึ้นราคาได้มากนักเพราะมี brand equity ต่ำ เรื่องการส่งออกทำให้มีความเสี่ยงเนืองจากอัตราการแลกเปลี่ยนสูง

ปัญหาของ CEI เท่าที่ผมทราบก็คือ การมีลูกค้าน้อยรายทำให้ความเสี่ยงในแง่การตลาดมีสูง

ประเด็นที่ท่านนักดูดาวพูดถึงก็น่าสนใจ คือทั้งสองบริษัทมีการจ่ายปันผลเกือบหมดหน้าตัก กำไรสะสมเลยน้อยครับ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 10:38 am
โดย มือใหม่
ดีมากเลยครับ เมื่อก่อนคิดแต่ว่า บริษัท จ่าย yield% สูงดี :D

ถ้ามี brand ดีมันสำคัญจริงๆ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 10:39 am
โดย someOne
ใครที่ได้ไปประชุมผู้ถือหุ้นคงจะได้ทราบว่าที่ทางผู้บริหารบอกว่า บริษัทมีเนื้อที่ที่ซื้อไว้นานแล้ว (แถวๆไหนผมจำไม่ค่อยได้) ซึ่งปัจจุบันลงบัญชีในบัญชีไว้แค่ 6 ล้านบาทเท่านั้น แต่ปัจจุบันตีราคาได้ราวๆ 100 ล้านบาท ผมไม่แน่ใจเรื่องที่ดินผืนนี้เท่าไหร่ ลองตรวจสอบกันดูนะครับ

ส่วนเรื่องการแข่งขันของ FANCY เองกำลังเริ่มมีการสร้าง brand ของตัวเองบ้างแล้ว และราคาสินค้าปัจจุบันเริ่มปรับราคาได้แล้ว

ลองพิจารณาแล้วกันนะขอรับ

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดคือต้นทุนทางด้านไม้ยางพาราครับ เพราะเริ่มมีความสนใจที่จะพัฒนายางพาราให้มีมูลค่ามากขึ้น ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้ไม้ยางพารามีผลกระทบมากถึงแค่ไหน

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 10:55 am
โดย นักดูดาว
คุณ someOne ครับ ลองบวก 100 ล้านบาทลงไปในส่วนของผู้ถือหุ้นสิครับ (Adjusted Book Value) แล้ว P/B เป็นเท่าไหร่ คงจะตอบได้ว่าหากพิจารณาด้วยวิธีนี้หุ้นยังแพงไปหรือเปล่า

แฟนซีใช้แบรนด์อะไรครับ รูปร่างโลโก้เป็นอย่างไร ช่วยแปะให้ดูหน่อยสิ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 11:02 am
โดย 2024
ขอบคุณครับ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 11:19 am
โดย someOne
รูปภาพ น่าจะเป็นแบบนี้นะครับ เป็นโลโก้ของบริษัท

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 11:26 am
โดย tvi4ever
คุณ CK ใช้ iStock ด้วยหรือครับ version ไหนครับ for Mac หรือ PC ครับ ผมใช้บน OSX10.3 for Mac ใช้ได้ดีทีเดียว ถูกด้วย

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 12:06 pm
โดย CK
เปล่าครับคุณ tvi4ever ผมใช้ถูกกว่า iStcok ครับ ใช้ Yahoo! Finance
ครับ ฟรีออฟชาร์จ

http://finance.yahoo.com/

ถ้าอยากรู้ว่า symbol ไหนใช้ Reuter code ว่าอะไร ดูที่เว็บของคุณหมอ
weekest ครับ

http://weekest.dserver.org/

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 3:47 pm
โดย ลุงขวด
เรื่องที่นั้นเป็นที่ โรงงานแรก ที่สุขสวัสดิ์ครับ ขนาด 31 ไร่.......เรื่อง brand ผมเป็นผู้เสนอให้เขาใช้ความพยายามใช้ brand ดังกล่าวข้างบน เขาบอกเริ่มติดให้เห็นบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีลูกค้าบางเจ้าไม่ยอมให้ใช้ ซึ่งผมว่า ไม่ถูกต้องเท่าไหร่ น่าจะหาทาง ให้เขาใช้ brand ของบริษัทฯ ให้ได้ ถ้าใครไม่ให้ใช้ก็ขายในราคาสูงหน่อย ส่วนผู้สนับสนุนให้ใช้ ก็ ลด ราคาบ้าง ซึ่งระยะยาวแล้ว น่าจะเป็นผลดีต่อ บริษัทฯ มากทีเดียว ถ้ามี brand ของตนเอง ที่ลูกค้ารู้จักกันดี

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 6:19 pm
โดย Solo
ลุงขวดครับ

ผมสังเกตุ ว่า มี การ เก็บของ แถว 6.60 กันมากนะครับ

ผมเองก็เริ่มเก็บเพิ่มแถวนี้ครับ


อีกทั้งราคานี้ เข้าสูตรที่ผมมอง คือ จุดสูงสุด 13.20 หาร สอง ได้เท่ากับ 6.60 ครับ

แต่หากหลุดอีก ผมคงต้องรอดูอย่างระมัดระวังอีกทีครับ[/code][/quote]

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 6:29 pm
โดย ayethebing
เหมือนผีซ้ำกรรมซัด :cry: :cry: โรงงานที่เปิดใหม่ที่คาดหวังว่าจะทำกำไรให้มากขึ้นดัน delay เสียอีก ผลของราคาวัตถุดิบแพงยังตามมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ q2 และ q3 ของ fancy ยังไม่ดีขึ้นครับ

ราคาหุ้นมาแปลก มีอยู่ช่วงนึงที่ขึ้นไปสูงพอควรแล้วก็ลดลงมาเรื่อยๆ ครับ (เอ หรือสูงเพื่อปล่อยของ)

ตามที่คุณมือใหม่พูดถึงเรื่องผู้บริหาร fancy ไม่โปร่งใสเนี่ย ผมไม่เห็นด้วยครับ และไม่มีเหตุการณ์ใดๆ ในเจตนารมณ์ที่ส่อเค้าไปในแนวทางนั้นเลย เท่าที่จำความได้

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 22, 2004 7:12 pm
โดย jody4003
เคยสนใจ CEI อยู่พักนึงครับ รู้มาว่าQ1น่าจะขาดทุนจาก raw material ขึ้นราคาจากภาวะตลาดโลกในขณะที่ไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าขายได้ เลยทำให้หุ้นราคาตก เคยสอบถามจากเพื่อนที่ค้าเหล็กเค้าบอกว่าของพวกนี้พอขึ้นแล้วลงยาก ท่าทางบริษัทต้องมีการปรับอะไรกันมากนะครับกว่าอะไรจะเข้าที่แล้วกลับมามีกำไรได้

ตอนนั้นสนเพราะราคาร่วงจน DIV% สูงครับ แต่ตอนนี้คิดว่าไม่แล้ว เพราะค่อนข้างชัดว่าบริษัทไม่มีจุดแข็งที่ยั่งยืน และการขยายกำลังการผลิตก็น่าจะมีต้นทุนสูง บอกกับความเสี่ยงที่ถ้าไม่ได้ order ตามเป้าในปีที่ตกต่ำน่าจะทำให้ลำบากที่จะถึงจุดคุ้มทุนนะครับ แถมยังจ่ายปันผลมากเกินไปอีกเลยไม่เหลือกำไรสะสม

แย้งได้นะครับ ผมยังด้อยประสบการณ์กำลังหาความรู้เพิ่มเติมครับ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 9:33 am
โดย someOne
ลุงขวดครับ ผมอยากรู้ครับว่าลูกค้าของ FANCY ที่ซื้อสินค้ากันมานานนั้นมีเหตุผลอะไรครับที่ลูกค้ายังคงติดใจที่จะซื้อสินค้าจากทาง FANCY (คุณภาพ หรือ การพัฒนารูปแบบ หรือ รูปแบบ หรือ ฯลฯ )

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 9:39 am
โดย ลุงขวด
คงเป็นคุณภาพและราคาที่ถูกกว่าที่อื่น คือหลักสำคัญ เห็นว่า สินค้าส่วนใหญ่ขายในตลาดระดับกลาง..........ส่วนที่ออกใหญ่เห็นเขาว่า ระดับกลางและบน ปีที่แล้ว ซื้อเตียงให้ลูก ยังเป็นพวกไม้ปาร์ติเกิลเลยครับ อยากได้แบบ fancy แต่หาซื้อไม่ได้เลย

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 1:10 pm
โดย นักดูดาว
เรื่องเตียง...ผมว่าถ้ากระซิบทางแฟนซีซักหน่อย ทางบริษัทคงจะทำขายให้ลุงเป็นกรณีพิเศษแน่นอนครับ หรืออาจจะปันผลเป็นเฟอร์นิเจอร์ในงวดหน้า? :D


มีเรื่องตลาดเกษตรล่วงหน้า ที่มีการซื้อขายสัญญาซื้อยางแผ่นดิบรมควัน ไม่ทราบว่าจะส่งผลทางอ้อมต่อราคาไม้ยางหรือเปล่าครับ ท่านผู้รู้โปรดแนะนำ
(ผมรอคุณ hot อยู่นะเนี่ย)

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 5:59 pm
โดย Minesweeper
ขอออกความเห็น เรื่อง CEI หน่อยแล้วกัน ในฐานะที่เคยซื้อ และ cut loss มาก่อน เลยติดตามมาบ้าง

CEI ผมว่าเป็นเรื่องราคาวัตถุดิบซะเยอะครับ

วัตถุดิบสำคัญ (ที่บริษัทมักจะอ้างถึงบ่อยๆ ก็คือ เหล็กรีดเย็น และ ไม้ plywood-ไม่รู้เหมือนกันว่าไม้อะไร)

เหล็กขึ้นมาตั้ง 50 - 60%

gross margin เคยได้ 30 กว่า % ในช่วงที่รุ่งๆ กลับกลายเป็น ติดลบ

แต่มันก็น่าแปลกใจนะว่าแค่พัดลมธรรมดา (ที่ไม่น่าจะใช้เทคโนโลยีอะไรมากมาย) ไปต่อรองราคายังไงถึงได้ margin ตั้ง 20-30% ขนาด DELTA มีทั้ง SPS, CRT-LCD monitor, DC Fan (อิอิ ... พัดลมเหมือนกัน ...) ยังดิ้นรนแทบตายให้ได้ gross margin แค่ 10% กว่าๆ

8)

Fancy

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 24, 2004 12:25 pm
โดย บุคคลทั่วไป
นายพงษ์สัน ลีลาปราชญ์ เข้าซื้อหุ้นกลับแล้ว 7.7 ล้านหุ้น ที่ราคา 6.80 (วันที่จำไม่ได้ คงอาทิตย์นี้เองหละ) ผมสังหรณ์ใจมาตั้งแต่ตอนแกขายเมื่อ 2เดือนก่อนแล้ว ว่าสงสัยราคาลงแน่ Fancy แล้วก็เป็นจริง ๆ ด้วย ก็ไม่รู้นะว่าจะเกี่ยวข้องหรือเปล่า แต่ตอนนี้ซื้อกลับแล้ว ก็ลองดูแล้วกัน

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 24, 2004 8:02 pm
โดย ayethebing
ผมสรุปเลยดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับหุ้นทั้งสองตัว

ลักษณะที่เหมือนกัน
1. สินค้ามีแบรนด์ที่ไม่แข็งแกร่ง
2. ราคาวัตถุดิบกระชากต้นทุนการผลิตให้สูง
3. มีการเปิดโรงงานใหม่ทำให้มีความเสี่ยงเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น
4. มีความเสี่ยงในเรื่องการตลาด

ข้อ 1 ผมว่าใช่สำหรับทั้งสองบริษัท เพราะถึงแม้จะมีความพยายามสร้างแบรนด์ แต่ต้องยอมรับว่าแบรนด์ของทั้งสองยังไม่มีความแข็งแกร่งพอ

ข้อ 2 และ ข้อ 3 ก็มีอาการให้เห็นสำหรับทั้งสองบริษัทเช่นกัน

ข้อ 4 ผมว่าแตกต่างกันนิดหน่อย แฟนซีก็พึ่งพาตลาดส่งออกล้วนๆ ในขณะที่ CEI ก็พึ่งพาลูกค้าน้อยรายเช่นกัน ความเสี่ยงอันนี้ทำให้ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตลาดนั้น (เช่น อัตราแลกเปลี่ยน ในกรณีของ fancy หรือ ลูกค้าเลิกสัญญา ในกรณีของ CEI) ทำให้ส่งผลกระทบกับทั้งสองบริษัทอย่างรุนแรง

พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ เห็นหุ้นไหนที่มีอาการอย่างนี้บ้างครับ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 24, 2004 8:11 pm
โดย นักดูดาว
yuasa ครับ มีอะไรคล้ายๆกันเยอะ

1. สินค้ามีแบรนด์ที่ไม่แข็งแกร่ง : เป็นที่รู้จัก แต่ไม่ให้ความสำคัญเท่าไหร่
2. ราคาวัตถุดิบกระชากต้นทุนการผลิตให้สูง : ตะกั่ว
3. มีการเปิดโรงงานใหม่ทำให้มีความเสี่ยงเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น : เปิดไปแล้วที่เกตเวย์
4. มีความเสี่ยงในเรื่องการตลาด : เป็นผู้ส่งแบตฯให้โรงงานผลิตรถ OEM (เท่าที่รู้ก็ Honda) ต้องขายถูก ราคาแพงมากไม่ได้

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 24, 2004 11:50 pm
โดย เพื่อนมายู
"นายพงษ์สัน ลีลาปราชญ์ เข้าซื้อหุ้นกลับแล้ว 7.7 ล้านหุ้น ที่ราคา 6.80 (วันที่จำไม่ได้ คงอาทิตย์นี้เองหละ) ผมสังหรณ์ใจมาตั้งแต่ตอนแกขายเมื่อ 2เดือนก่อนแล้ว ว่าสงสัยราคาลงแน่ Fancy แล้วก็เป็นจริง ๆ ด้วย ก็ไม่รู้นะว่าจะเกี่ยวข้องหรือเปล่า แต่ตอนนี้ซื้อกลับแล้ว ก็ลองดูแล้วกัน"

เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันนะครับ คุณพงษ์สัน (Mr.P.S. Lee) ซื้อในนามบุตร เมื่อวันที่ 24/03/47 เป็นวันเดียวกันกับที่ คุณวิชัย ขาย แต่การแจ้งซื้อและขายครั้งนี้ทำไมปรากฎให้รายย่อยรับรู้ห่างกันเป็นเดือน และสังเกตุให้ดีจะเห็นจำนวนหุ้นที่ Mr. Lee ซื้อ เท่ากับครึ่งหนึ่งของที่คุณ วิชัย ขายออกมาเป๊ะ
ขาย = 15,400,000 หุ้น ราคา 6.80 วันที่ 24/03/47
ซื้อ = 7,700,000 หุ้น ราคา 6.80 วันที่ 24/03/47
ทำให้หลายๆท่านที่ไม่ได้ติดตามดีๆ เข้าใจว่า ช่วงหนึ่งผู้บริหารขายทิ้ง(รายย่อยคงรู้สึกวูบๆ) ต่อมาไม่นาน ผู้บริหารซื้อซะแล้ว(รายย่อยเริ่มรู้สึกว่าน่าสนใจ) แล้วอีกครึ่งนึงที่เหลือ 7,700,000 หุ้น อยู่ที่ไหน?..........โปรดติดตามตอนต่อไปครับ.......ไม่ใช่รายย่อยธรรมดาซื้อไปแน่ๆครับ แต่ทำไมถึงแจ้งให้รายย่อยรับรู้ทีละช่วงๆ
หรือว่าผมจะคิดมากไปเองอีกแล้ว......อิอิอิ

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 25, 2004 8:28 am
โดย ผู้สนใจ Fancy
คุณเพื่อนมายู ช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในเรื่องที่ post หน่อยครับ ผมสนใจ รบกวนด้วย เพราะเห็นว่าข้อมูลนี้แตกต่างจากท่านอื่น ๆ จะได้เป็นความรู้เพิ่มเติมครับ

ลุงขวดครับ หากมีข้อมูลอยากให้ช่วยเพิ่มเติม และยืนยัน/แนะนำด้วยครับ (ในประเด็นนี้)

อยากทำกรณีศึกษาหุ้นสองตัว CEI กับ FANCY

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 25, 2004 8:32 am
โดย ลุงขวด
อยากทราบเหมือนกันครับ ในกระทู้ร้อยคนร้อยหุ้นเรื่อง fancy ผมก็อยากทราบเรื่องของผู้ถือหุ้นใหญ่ จาก canada เหมือนกันครับ