ประโยชน์ของการจดทะเบียนสองตลาด(dual listing) ?
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 27, 2010 1:04 pm
ผมอ่านข่าว PTT นี้เจอเมื่อเช้า แล้วเกิดความสงสัยครับ ว่าอะไรคือประโยชน์ของการจดทะเีบียนสองตลาด (Dual listing) -ที่นอกเหนือจากสภาพคล่อง(ที่มีเงินทุนเพิ่มมากขึ้น) วานผู้รู้รบกวนช่วยชี้แนะด้วยครับ ?
10:17 27Apr10 -UPDATE:PTT มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐใน 4-5 ปี,เป็น dual listing
บมจ.ปตท.(PTT) มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ภายใน 4-5 ปี โดยจะเป็น รูปแบบ dual listing ที่จดทะเบียน 2 ตลาดทั้งไทยและสหรัฐฯ
"เราตั้งเป้าว่า อยากจะเข้าไปอยู่ในดาวโจนส์ แต่ถ้าจะเข้าไป จะต้องมีการปรับ ตัวเองหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาดการลงทุน และการทำแผนใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม" นายณัฐชาติ จารุจินดา รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กร PTT กล่าว กับผู้สื่อข่าว
เขา กล่าวว่า หากบริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯได้ ก็จะทำให้การ ระดมทุนระดับนานาชาติ ได้รับการยอมรับมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากจะดำเนินการดังกล่าว ปตท.จะต้องขยายขนาดการลงทุน ทางด้าน การขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมให้ใหญ่ขึ้นอย่างน้อย ให้มีสัดส่วนเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 40% จาก ปัจจุบัน 30% เนื่องจากบริษัทข้ามชาติด้านพลังงานนั้นส่วนใหญ่จะลงทุนด้านขุดเจาะสำรวจ ปิโตรเลียมไม่ต่ำกว่า 60-70% เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนที่สูง
สำหรับธุรกิจขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมของกลุ่มปตท. ดำเนินการโดยบมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ซึ่งเน้นการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยแบ่งกลุ่ม การลงทุนเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มเป้าหมายแรกอยู่ในอาเซียนและออสเตรเลีย ซึ่งสามารถ ขนส่งและจัดการนำปิโตรเลียมมาใช้ทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่จะลดลง
ส่วนกลุ่มที่สอง จะเป็นการลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพ แต่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ได้แก่ โอมาน การ์ต้า, อัลจีเรีย
ขณะเดียวกันปตท.ยังมุ่งเน้นไปยังธุรกิจพลังงานด้านอื่นๆ เช่น ธุรกิจพลังงานทดแทน, เหมืองถ่านหิน ,โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ราว 600 เมกะวัตต์ รวมถึงการลงทุนในกลุ่มพลังงานทดแทน ซึ่งตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนเม็ดเงินลงทุนเป็นไม่น้อย กว่า 5% ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2-3% ด้วย
หุ้น PTT เช้านี้ลดลง 1 บาท มาที่ 257 บาท --จบ--
10:17 27Apr10 -UPDATE:PTT มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐใน 4-5 ปี,เป็น dual listing
บมจ.ปตท.(PTT) มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ภายใน 4-5 ปี โดยจะเป็น รูปแบบ dual listing ที่จดทะเบียน 2 ตลาดทั้งไทยและสหรัฐฯ
"เราตั้งเป้าว่า อยากจะเข้าไปอยู่ในดาวโจนส์ แต่ถ้าจะเข้าไป จะต้องมีการปรับ ตัวเองหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาดการลงทุน และการทำแผนใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม" นายณัฐชาติ จารุจินดา รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กร PTT กล่าว กับผู้สื่อข่าว
เขา กล่าวว่า หากบริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯได้ ก็จะทำให้การ ระดมทุนระดับนานาชาติ ได้รับการยอมรับมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากจะดำเนินการดังกล่าว ปตท.จะต้องขยายขนาดการลงทุน ทางด้าน การขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมให้ใหญ่ขึ้นอย่างน้อย ให้มีสัดส่วนเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 40% จาก ปัจจุบัน 30% เนื่องจากบริษัทข้ามชาติด้านพลังงานนั้นส่วนใหญ่จะลงทุนด้านขุดเจาะสำรวจ ปิโตรเลียมไม่ต่ำกว่า 60-70% เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนที่สูง
สำหรับธุรกิจขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมของกลุ่มปตท. ดำเนินการโดยบมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ซึ่งเน้นการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยแบ่งกลุ่ม การลงทุนเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มเป้าหมายแรกอยู่ในอาเซียนและออสเตรเลีย ซึ่งสามารถ ขนส่งและจัดการนำปิโตรเลียมมาใช้ทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่จะลดลง
ส่วนกลุ่มที่สอง จะเป็นการลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพ แต่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ได้แก่ โอมาน การ์ต้า, อัลจีเรีย
ขณะเดียวกันปตท.ยังมุ่งเน้นไปยังธุรกิจพลังงานด้านอื่นๆ เช่น ธุรกิจพลังงานทดแทน, เหมืองถ่านหิน ,โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ราว 600 เมกะวัตต์ รวมถึงการลงทุนในกลุ่มพลังงานทดแทน ซึ่งตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนเม็ดเงินลงทุนเป็นไม่น้อย กว่า 5% ภายใน 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2-3% ด้วย
หุ้น PTT เช้านี้ลดลง 1 บาท มาที่ 257 บาท --จบ--