Thai VI

เห้นเค้าผลิดให้หลายยี่ห้อเยอะมากๆๆ แล้วก็ในเว็บบอกว่าระดับโลกเลย คิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ เทียบกับ stanly อ่ะครับ

ว่างๆก็วิ่งจาก 135 วันเดียวไป 150 แล้วก็เงียบ พักใหญ่ๆก็วิ่งไป 190 แล้วก็ค่อยๆลงมา

อืม หุ้นอะไรก็ไม่รู้ อาฮ่า

จริงด้วยค่ะ
เค้าผลิต Jig อะไรที่รถทุกคันต้องมี
ลักษณะการประกอบธุรกิจน่าสนนะคะ

แต่ราคาหุ้นนี่สิคะ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่มีเหตุผล น่ากลัวค่ะ

เป็นบริษัทที่มี DCA อย่างแน่นอนบริษัทหนึ่งครับ เทคโนโลยีนี้บอกได้เลย
ว่าไม่ใช่ว่าจะตามกันได้ง่ายๆ ครับ ต้องลงทุนมหาศาล

แต่ราคาก็ได้สะท้อนจุดนี้ไปแล้ว ควรซื้อที่ราคาที่มี premium กว่านี้

ข้อแก้เป็น ควรซื้อที่ราคาที่มี margin of safety กว่านี้

DCA คืออะไรนะพี่ ลืมแล้ว

durable competitive advantage

สนใจเหมือนกันค่ะ เห็นว่า ROE 44 แต่ว่าแพงสุดๆ PE ประมาณ 22 แต่สู้ราคาไม่ไหวค่ะ รออยู่ว่าเมื่อไรจะมี on sell

ขุดๆๆๆๆๆ

ประธานบริษัทอุตสาห์ประกาศซะดิบดี ปีหน้าเราจะโต๊เราจะโตอย่างแน่นอน จะเก็บเกี่ยว

แต่

กลับออก ESOP ที่ราคาแปลงสิทธิ 26 บาท
ถ้ามั่นใจความสามารถของผู้บริหาร และบริษัท ออกไปเลยครับ 30 บาท

ผู้ถือหุ้นท่านอื่นคิดเห็นอย่างไรบ้าง

ความเสี่ยงอย่างหนึ่งของ AH นะครับ เท่าที่สังเกตุดูจากปีที่แล้วที่ต้องลดราคาสินค้าให้ Isuzu ตามสัญญาที่บอกว่าเมื่อเพิ่ม Quantity แล้วต้องมี discount ให้เพิ่มทำให้เป็นความเสี่ยงที่น่าจับตามองครับ ...... ค่ายรถทุกค่ายย่อมรู้ดีว่าการผลิตชิ้นส่วนแต่ละชิ้นจะสิ้นค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ฉะนั้นก็คงมี power พอที่จะกดกำไรของผู้ผลิตชิ้นส่วนอยู่บ้างเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ oem ที่ไม่มี brand เป็นของตัวเองแล้ว

แต่อย่างไรก็ดีครับ จะเห็นได้ว่า AH โรงงานทำงาน 120% มาเป็นปีแล้ว

ผมว่าอย่างที่ประธานบอกไว้ปีหน้าปีเก็บเกี่ยวน่าจะเป็นความจริงหลายส่วนทีเดียว

โอ@ เขียน:ขุดๆๆๆๆๆ

ประธานบริษัทอุตสาห์ประกาศซะดิบดี ปีหน้าเราจะโต๊เราจะโตอย่างแน่นอน จะเก็บเกี่ยว

แต่

กลับออก ESOP ที่ราคาแปลงสิทธิ 26 บาท
ถ้ามั่นใจความสามารถของผู้บริหาร และบริษัท ออกไปเลยครับ 30 บาท

ผู้ถือหุ้นท่านอื่นคิดเห็นอย่างไรบ้าง

บริษัทอื่นๆ ที่ออก ESOP ราคาแปลงเทียบกับราคาตลาดเป็นอย่างไรบ้างครับ?

Financial Engineer เขียน: บริษัทอื่นๆ ที่ออก ESOP ราคาแปลงเทียบกับราคาตลาดเป็นอย่างไรบ้างครับ?

ด้วยความเอื้อเฟื้อจากคุณ piratorn ที่ได้ไปประชุมผู้ถือหุ้นของ pong นะครับได้หยิบยกประเด็นของ IT ESOP ขึ้นมาซึ่งผมคิดว่าเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมากทีเดียวกับการออก ESOP
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=17087

ผิดหวังเหมือนกันครับ ปีที่แล้วเพิ่งจะออกหุ้นบุริมสิทธิ์เพิ่มทุนไปเอง ปีนี้ยังไม่ทันจะครึ่งปีออก ESOP อีกละ ราคาใช้สิทธิ์ก็แค่ 26 บาทเอง

แต่พอได้อ่านรายละเอียดแล้วก็พอยอมรับได้ครับ จำนวนหุ้นที่ออกไม่มากเท่าไหร่(10% ของหุ้นที่มีอยู่เดิม)  เค้าให้แปลงได้ปีละ 1 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 20% เพราะฉะนั้นกว่าจะแปลงได้ครบทั้งหมดก็ต้องใช้เวลาถึง 5 ปี ผลกระทบจากการ dilute ของราคาหุ้นจึงไม่น่าจะมีมากนักและเกิดอย่างค่อยเป็นค่อยไป

อนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในช่วง 5 ปีนี้ ผมว่ายังสดใส อีกทั้ง AH ก็มีแผนงานขยายงานต่อเนื่อง ทั้งลงทุนเอง ทั้งร่วมทุน ก็ได้แต่หวังว่าเงินทุนที่เพิ่มขึ้นมาจะถูกนำไปใช้ให้เกิดผลตอบแทนกลับมายังผู้ถือหุ้นอย่างเราๆ นะครับคุณเย็บฯ (ผมล่ะกลัวเรื่องธรรมาภิบาลของเฮียจริงๆ ไม่รู้จะออกหัวออกก้อย )

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่สนใจ

(แบบ 53-4)
แบบรายงานการเพิ่มทุน

บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน)
วันที่ 20 เมษายน 2549

ข้าพเจ้าบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) (?อาปิโก ไฮเทค? หรือ ?บริษัท?)
ขอรายงานมติคณะกรรมการครั้งที่ 12/2549 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2549
ที่ห้องจามจุรี 2 ชั้นเอ็ม โรงแรมปทุมวันพรินเซส เลขที่ 444 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน
กรุงเทพมหานคร ระหว่างเวลา 16.00 น. ถึง 18.00 น.เกี่ยวกับการเพิ่มทุน /
จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังต่อไปนี้

1.   การเพิ่มทุน:

ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 282,360,000 บาท
เป็น 285,183,600 บาท โดยออกหุ้นสามัญจำนวน 2,823,600 หุ้น มูลค่าที่
ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท รวม 2,823,600  บาท

2. การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน:

ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้จัดสรรหุ้นสามัญจำนวน 2,823,600 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้
หุ้นละ 1.00 บาท รวม 2,823,600 บาท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

2.1 รายละเอียดการจัดสรร
จัดสรรให้แก่
* เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ที่จัดสรร
ให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทตามโครงการการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ
ของบริษัทแก่กรรมการและพนักงาน (?โครงการ ESOP?)
จำนวนหุ้น
* 2,823,600 หุ้น
อัตราส่วน (ใบสำคัญแสดงสิทธิ : หุ้น)
* ราคาแปลงสภาพ 26 บาทต่อหุ้น ที่อัตราการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย
มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญ 1 หุ้น
ราคาขายต่อหุ้น (บาท)
* จัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิให้กรรมการและพนักงานโดยไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ
วัน เวลา จองซื้อ และชำระเงินค่าหุ้น
* ใบสำคัญแสดงสิทธินี้สามารถใช้สิทธิได้ทุกๆ รอบ 12 เดือนนับจากวันที่ออก
และเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธินี้ โดยวันที่สามารถใช้สิทธิครั้งแรกคือ 12 เดือนนับจากวัน
แรกที่ออกและเสนอขายและวันที่สามารถใช้สิทธิครั้งสุดท้ายคือวันครบกำหนดอายุของใบสำคัญ
แสดงสิทธิ
หมายเหตุ
* วันเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิจะถูกกำหนดหลังจากที่บริษัทได้รับอนุญาตจากสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (?กลต.?)

2.2 รายละเอียดของใบสำคัญแสดงสิทธิ
ประเภทของหลักทรัพย์
* ใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ประเภทระบุชื่อผู้ถือ และสามารถโอนเปลี่ยนมือได้
อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ  
* ไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขาย
จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ
* ไม่เกิน 2,823,600  หน่วย
ราคาเสนอขายต่อหน่วย
* หน่วยละ 0 บาท (ศูนย์บาท)
สิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ
* ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ 1 หุ้น (ยกเว้นมีการปรับสิทธิ)
ราคาการใช้สิทธิ
* 26 บาท ต่อหุ้น
ระยะเวลาการใช้สิทธิ
* ทุกๆ รอบ 12 เดือนนับจากวันที่ออกและเสนอขาย
เงื่อนไขเพิ่มเติมในการใช้สิทธิสำหรับกรรมการและพนักงาน
กรรมการและ/หรือพนักงานที่ประสงค์จะใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัท สามารถใช้สิทธิดังกล่าวตามสัดส่วนที่ได้รับการจัดสรรดังนี้:
การใช้สิทธิครั้งที่ 1
* สามารถใช้สิทธิได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนได้รับจัดสรร
การใช้สิทธิครั้งที่ 2
* สามารถใช้สิทธิได้ไม่เกินร้อยละ 40 ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนได้รับจัดสรร
(รวมสิทธิที่ได้จากการใช้สิทธิครั้งที่ 1)
การใช้สิทธิครั้งที่ 3
* สามารถใช้สิทธิได้ไม่เกินร้อยละ 60 ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนได้รับจัดสรร
(รวมสิทธิที่ได้จากการใช้สิทธิครั้งที่ 1 และ 2)
การใช้สิทธิครั้งที่ 4
* สามารถใช้สิทธิได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนได้รับจัดสรร
(รวมสิทธิที่ได้จากการใช้สิทธิครั้งที่ 1, 2 และ 3)
การใช้สิทธิครั้งที่ 5
* สามารถใช้สิทธิได้ไม่เกินร้อยละ 100 ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนได้รับจัดสรร
(รวมสิทธิที่ได้จากการใช้สิทธิครั้งที่ 1, 2, 3 และ 4)
เงื่อนไขเพิ่มเติมในการขายสำหรับกรรมการและพนักงาน
กรรมการและ/หรือพนักงานที่ประสงค์จะขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการจัดสรรในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สามารถขาย
ใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวตามสัดส่วนดังนี้:
การขายครั้งที่ 1
* ภายในช่วง 12 เดือนแรกนับจากวันที่ออกและเสนอขาย สามารถขายได้ไม่เกินร้อยละ 20
ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนได้รับจัดสรร
การขายครั้งที่ 2
* ภายในช่วง 12 เดือนหลังจากช่วงการขายครั้งที่ 1 สามารถขายได้ไม่เกินร้อยละ 40
ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนที่ได้รับจัดสรร
(รวมสัดส่วนที่สามารถขายได้ในช่วงระยะเวลาอนุญาตขายครั้งที่ 1)
การขายครั้งที่ 3
* ภายในช่วง 12 เดือนหลังจากช่วงการขายครั้งที่ 2 สามารถขายได้ไม่เกินร้อยละ 60
ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนที่ได้รับจัดสรร
(รวมสัดส่วนที่สามารถขายได้ในช่วงระยะเวลาอนุญาตขายครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2)
การขายครั้งที่ 4
* ภายในช่วง 12 เดือนหลังจากช่วงการขายครั้งที่ 3 สามารถขายได้ไม่เกินร้อยละ 80
ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนที่ได้รับจัดสรร
(รวมสัดส่วนที่สามารถขายได้ในช่วงระยะเวลาอนุญาตขายครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3)
การขายครั้งที่ 5
* ภายในช่วง 12 เดือนหลังจากช่วงการขายครั้งที่ 4 สามารถขายได้ไม่เกินร้อยละ 100
ของใบสำคัญแสดงสิทธิทั้งหมดที่กรรมการและ/หรือพนักงานแต่ละคนที่ได้รับจัดสรร
(รวมสัดส่วนที่สามารถขายได้ในช่วงระยะเวลาอนุญาตขายครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4)
ตลาดรองของใบสำคัญแสดงสิทธิ
* ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิทธิและประโยชน์อื่นนอกเหนือจากสิทธิและประโยชน์ที่พึงมีและพึงได้จากหุ้นสามัญตามปกติ
* ไม่มี
(หุ้นสามัญที่ออกเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิในครั้งนี้จะมีสิทธิและฐานะ
เท่าเทียมกันกับหุ้นสามัญของบริษัทที่ออกไปก่อนหน้านี้ทุกประการ)

2.3 การดำเนินการของบริษัท กรณีที่มีเศษของหุ้น
- ไม่มี -

2.4 เมื่อพ้นวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายและมีใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยังไม่ได้มีการใช้สิทธิให้
ถือว่าใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวสิ้นสภาพลงในทันที โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าวไม่มีสิทธิเรียก
ร้องใดๆ จากบริษัทและในกรณีนี้หากมีหุ้นสามัญที่จัดสรรไว้ เพื่อรองรับการใช้สิทธิเหลืออยู่ให้
คณะกรรมการนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณายกเลิกหุ้นสามัญส่วนที่เหลือต่อไป

3. กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุน/ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
ตามโครงการ ESOP

กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2549 ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2549
เวลา 14.30 น. ณ สถานที่จะกำหนดภายหลัง โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการ
โอนหุ้นของบริษัทเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2549
เวลา 12.00 น. จนกว่าการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จ

4. การขออนุญาตเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน ต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
และเงื่อนไข การขออนุญาต (ถ้ามี)

4.1 ผู้ถือหุ้นของบริษัทจะต้องพิจารณาวาระต่อไปนี้;
* การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทแก่กรรมการและ
พนักงานของบริษัท
* การออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่เพื่อรองรับการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิ
* การเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิ
* แก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทเพื่อรองรับการจดทะเบียนเพิ่มทุนจดทะเบียน

4.2 การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิตามโครงการ ESOP
ในครั้งนี้จะต้องได้รับอนุญาตจาก กลต.

4.3 ต้องขออนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการนำใบสำคัญ
แสดงสิทธิเข้าจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

5. วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน และการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม

5.1 วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนของบริษัท
เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท
ตามโครงการ ESOP

5.2 การใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม
เงินทุนทั้งหมดที่ได้จากการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิจะถูกนำไปใช้
เป็นทุนหมุนเวียนและขยายกิจการ ตามความเหมาะสมของจำนวนเงินที่ได้รับและ
ช่วงระยะเวลาที่ได้รับนั้นๆ

6. ประโยชน์ที่บริษัทจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน

โครงการ ESOP นี้มีเจตนาหลักเพื่อเป็นแรงจูงใจและตอบแทนแก่กรรมการและ
พนักงานของบริษัท เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทอัน
จะส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทในที่สุด

7. ประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน

7.1 นโยบายเงินปันผล
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี
โดยขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจและโครงการดำเนินธุรกิจในอนาคตของบริษัท

7.2
สิทธิในการรับเงินปันผล
หุ้นเพิ่มทุนที่ใช้รองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิจะมีสิทธิรับเงินปัน
ผลเท่าเทียมหุ้นเดิมทุกประการ และผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทจะมีสิทธิได้รับเงินปันผลเมื่อ
ชื่อของตนปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น

7.3 อื่น ๆ
- ไม่มี -

8. รายละเอียดอื่นใดที่จำเป็นสำหรับผู้ถือหุ้นเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ
ในการอนุมัติการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน:
- ไม่มี -

9. ตารางระยะเวลาการดำเนินการในกรณีที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้
เพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน

9.1 ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549
- 8 พฤษภาคม 2549
9.2 ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2549
- 26 พฤษภาคม 2549
9.3 ยื่นมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อจดทะเบียนเพิ่มทุนจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ (?MOC?)
- ภายใน 14 วันหลังจากวันประชุมผู้ถือหุ้น

9.4 ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออกใหม่แก่กรรมการและ
พนักงานกับ กลต.
- หลังจาก MOC รับจดทะเบียนเพิ่มทุนจดเบียนแล้ว และเมื่อพ้นจากวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 ไปแล้ว

บริษัทขอรับรองว่าสารสนเทศในแบบรายงานนี้ถูกต้องและครบถ้วนทุกประการ



_________________________
(นายเย็บ ซู ชวน)
ประธานกรรมการ

ก็แฟร์แล้วนี่ ราคาตอนนี้ 25.75 ออก esop 26

ถ้าไม่ทำผลงานให้ดี แล้วราคาหุ้นไม่โต

ก็ไม่มีใครได้อะไร

ก็แฟร์แล้วครับ

แต่ไม่เห็นด้วยกับ ck เรือง dca เพราะ dca จริง ไม่ต้องออก esop ครับ อิอิ

Jeng เขียน:ก็แฟร์แล้วนี่ ราคาตอนนี้ 25.75 ออก esop 26

ถ้าไม่ทำผลงานให้ดี แล้วราคาหุ้นไม่โต

ก็ไม่มีใครได้อะไร

ก็แฟร์แล้วครับ

แต่ไม่เห็นด้วยกับ ck เรือง dca เพราะ dca จริง ไม่ต้องออก esop ครับ อิอิ

DCA มันเกี่ยวยังไงกับ ESOP ครับ ? ผมไม่มีความรู้ครับ

ถ้ากิจการนั้นๆมี dca ก็ไม่จำเป็นต้องเอา esop มาล่อเพื่อให้สร้างผลงาน

แล้วจะได้ กำไร

เพราะบริหารธรรมดาก็ได้กำไร

ถ้าบริษัทต้องพิจารณ esop ในลักษณะแพงกว่า ราคาตลาด พี่ว่าไม่มี dca ครับ

แต่ถ้าจะให้เงินกันฟรีๆ ก็ให้ esop ต่ำกว่า ราคาตลาด อันนั้น ในมุมผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างพวกเราบอกว่าไม่แฟร์ไง

แต่การให้ esop สูงกว่า หรือเท่ากับราคาตลาด คืออะไร

ก็คือว่า ให้ตั้งใจทำงานนะ ถ้ากำไรไม่เพิ่ม ราคาหุ้นไม่เพิ่ม พวกเอ็งก็อด

Doraemon เขียน:ผิดหวังเหมือนกันครับ ปีที่แล้วเพิ่งจะออกหุ้นบุริมสิทธิ์เพิ่มทุนไปเอง

หุ้นบุริมสิทธิ์ที่ออกไปตอนนั้นราคาแถวๆ 34 บาทต่อหุ้น น่าจะใกล้เคียงกับราคาตลาดตอนนั้น ผมว่าน่าจะแฟร์นะ

ส่วน ESOP งวดนี้ก็กำหนดราคาแปลงใกล้เคียงกับราคาตลาดตอนนี้อีกเหมือนกัน

กรณี ESOP นี่ผมไม่ comment นะ แต่กรณีหุ้นบุริมสิทธิ์ที่ออกขายให้ญี่ปุ่นตอนปีก่อน ผมไม่เห็นว่าน่าผิดหวังตรงไหน ถ้าไม่มั่นใจในกำไรอนาคต อย่างมากก็เอาเงินของญี่ปุ่นมาซื้อหุ้นคืนจากตลาดในราคาปัจจุบัน กลายเป็นขาย PP แพง มา repurchase ถูกกว่าในตลาด กำไรเห็นๆ

แหะ แหะ คือผมโลภมากน่ะครับ อยากให้กิจการโตได้เยอะๆ แต่ไม่อยากให้เพิ่มทุน :lol:

ครับ ไม่มี dca แล้วครับ


ตอนนั้น (สองปีที่แล้วนะ) ฟังนักวิเคราะห์ระดับเซียนว่ามา :lol: