หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ขอความคิดเห็นครับ BCP:PE ต่ำ, BOOK VALUE ต่ำทำไม่ราคาไม่วิ่ง

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 06, 2010 10:19 am
โดย STOCK HUNTER
ขอความคิดเห็นครับ BCP : PE ต่ำ, BOOK VALUE ต่ำทำไม่ราคาไม่วิ่งครับ

ขอความคิดเห็นครับ BCP:PE ต่ำ, BOOK VALUE ต่ำทำไม่ราคาไม่วิ่ง

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 06, 2010 10:41 am
โดย yoko
ลองอ่านข้อมูลในร้อยคนร้อยหุ้นดู    เขามองว่าปีที่แล้วกำไรที่ทำได้
ไม่ใช่มาจากผลการดำเนินงานจริง

ขอความคิดเห็นครับ BCP:PE ต่ำ, BOOK VALUE ต่ำทำไม่ราคาไม่วิ่ง

โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 06, 2010 12:41 pm
โดย luckyman
ปีนี้กำไรจะได้น้อยกว่าปีที่แล้วครับ
ปีที่แล้ว ได้ส้มหลนจากการ hedge

Re: ขอความคิดเห็นครับ BCP:PE ต่ำ, BOOK VALUE ต่ำทำไม่ราคาไม่

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 12:03 am
โดย Packky
STOCK HUNTER เขียน:ขอความคิดเห็นครับ BCP : PE ต่ำ, BOOK VALUE ต่ำทำไม่ราคาไม่วิ่งครับ
ผมคิดว่า PE และ PB ต่ำๆ ไม่แน่นอนว่าราคาหุ้นต้องปรับตัวสูงขึ้นเสมอไปครับ ควรดูปัจจัยอย่างอื่นประกอบด้วยครับ  :8)  :8)  :8)

ขอความคิดเห็นครับ BCP:PE ต่ำ, BOOK VALUE ต่ำทำไม่ราคาไม่วิ่ง

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 11:33 am
โดย MYBIZ
ไม่ค่อยวิ่งเพราะปีที่แล้ววิ่งมาเยอะแล้วน่ะสิครับ อิอิๆๆ

ขอความคิดเห็นครับ BCP:PE ต่ำ, BOOK VALUE ต่ำทำไม่ราคาไม่วิ่ง

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2010 12:26 pm
โดย Onokung
กำไรส่วนที่เปลี่ยนแปลงไป หลักๆ น่าจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
- กำไรส่วนสต๊อก ราคาน้ำมันเองก็  แนวโน้มเพิ่มจากปี 52 ที่ค่าเฉลี่ย 53 เหรียญ เป็น 69 เหรียญ  

จากเว็บ http://www.inflationdata.com/inflation/ ... _Table.asp

- กำไรจากค่าการกลั่น รวมปีที่แล้วที่ 3.98  ต้นปี อยู่ที่ 4.5

- กำไรจาก Hedging อันนี้ เป็น ????


จาก
1. คำอธิบายและวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน

   1.1 การวิเคราะห์กำไรขาดทุน
       1)  ผลการดำเนินงานสำหรับงวดปี 2552 งบการเงินรวมมีผลกำไรสุทธิ 7,523 ล้านบาท ประกอบด้วยผล
           กำไรของบริษัทฯ จำนวน 7,475 ล้านบาท กำไรของบริษัท บางจากกรีนเนท 54 ล้านบาท ขาดทุนของ
           บริษัท บางจากไบโอฟูเอล 5 ล้านบาท หักกำไรระหว่างกันจำนวน 1 ล้านบาท และเมื่อหักขาดทุนส่วนที่
           เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (Minority Interests) จำนวน 1 ล้านบาท แล้วคงเหลือกำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือ
           หุ้นบริษัทฯ จำนวน 7,524 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 6.57 บาท
       2)  ผลการดำเนินงานเฉพาะบริษัท บางจากฯ ในปี 2552 มี EBITDA จากผลประกอบการจริงจำนวน 9,081
           ล้านบาท เมื่อรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันจำนวน 3,163 ล้านบาท (ประกอบด้วยผลกำไรจาก
           สต๊อก 2,221 ล้านบาท และกลับรายการค่าเผื่อการปรับมูลค่าสินค้าลดลงจำนวน 942 ล้านบาท)
จึงทำ
           ให้มี EBITDA รวม 12,244 ล้านบาท ผลประกอบการแยกตามประเภทธุรกิจเป็นดังนี้
แล้วถ้าเอาตัวเลข ของค่าการกลั่นมาคิดล่ะ
ปีที่แล้ว ค่าการกลั่น อยู่ที่ 3.98 เฉลี่ยทั้งปี จาก
                                                                    ผลแตกต่าง
ค่าการกลั่นจาก                         ปี 2552            ปี 2551
                                                                        +/-
ค่าการกลั่นพื้นฐาน                        3.98              6.79           -2.81
GRM Hedging                           5.62             (0.25)          +5.87
สต๊อกน้ำมัน                              2.22             (4.54)          +6.76
LCM                                   0.94             (1.03)          +1.97
รวม                                  12.76              0.97          +11.79
ปีนี้ค่าการกลั่นต้นปี อยู่ที่  4.5
จากข่าว

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) มั่นใจ ค่าการกลั่นน้ำมันปีนี้จะขยับตัวดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 4-5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนปัญหามาบตาพุด เชื่อ รัฐบาลหาทางออกได้ก่อนหลายประเทศถอนการลงทุน

       นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มค่าการกลั่นน้ำมันในตลาดโลกขณะนี้เริ่มปรับตัวขึ้น โดยล่าสุดค่าการกลั่นอยู่ที่ระดับกว่า 4.50 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับปลายปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1-2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น ส่งผลให้กลุ่มโรงกลั่นน้ำมันได้รับผลดี ทั้งนี้ คาดว่า ค่าการกลั่นของบางจากปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเบื้องต้นประมาณการณ์ค่าการกลั่นเฉลี่ย (ไม่รวมสต๊อกน้ำมัน) ปีนี้ไว้ที่ระดับ 4-5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล พร้อมมั่นใจว่า ค่าการกลั่นช่วงครึ่งปีหลังนี้ดีกว่าช่วงต้นปี เพราะกลุ่มโรงกลั่นมีโอกาสฟื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับ ความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น
แต่ปัญหาของตัวเลขประมาณกำไรน่าจะอยู่ตรงที่ บางจาก Hedging เอาไว้ที่เท่าไหร่ แล้วก็Hedge เอาไว้ในสัดส่วนกี่ %