Thai VI

1. คาดว่าปีนี้ pha จะถูกแย่งตลาดไปหรือไม่
2. ราคาที่เหมาะสม ในการซื้อเก็บ
3. ถ้าเทียบ ระหว่าง pha กับ safe ภาษีใครดูดีกว่า ณ ปัจจุบัน
4. pha มีโครงการ merge กับบริษัทประกันเจ้าไหนหรือไม่

(thank you)

ข้อที่ 2-3 ผมคงไม่ตอบหรือ/และ ตอบให้ไม่ได้

ขออนุญาติเอาสิ่งที่ผมถามผู้บริหารในวันนี้ ที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเกี่ยวมาให้ฟังก็แล้วกัน

1. คาดว่าปีนี้ pha จะถูกแย่งตลาดไปหรือไม่

มีการพูดถึงการแข่งขันที่จะรุนแรงมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามกำไรจากส่วนการประกันภัยคงจะมี "เสถียรภาพ" (ผมตีความเอาเองว่า จะ flat หรือเพิ่มขึ้นไม่มาก) เนื่องจากการรับความเสี่ยงในการประกันภัยแบบอนุรักษ์นิยมของ PHA

4. pha มีโครงการ merge กับบริษัทประกันเจ้าไหนหรือไม่

คำถาม Financial Master Plan ของรัฐบาลจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง
คำตอบ ผลกระทบน่าจะเกิดกับบริษัทขนาดเล็กๆ ในขณะที่ PHA เป็นบริษัทประกันภัยขนาดค่อนข้างใหญ่ ผลกระทบไม่มาก

คำถาม มีแนวโน้มการควบรวมมากขึ้น มีนโยบายและแนวทางรับมืออย่างไร
คำตอบ บริษัทมีความคิดมานานแล้วในการควบรวม แต่ในระยะสั้น คงยังไม่มี เพราะต้องการให้เกิดผลประโยชน์ของทั้งผู้ถือหุ้นและบริษัท อีกประการ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่มีการควบรวมก็ยังไม่มาก เหมือนกับว่าการควบรวมยังเพิ่งเริ่ม "ตั้งไข่" เท่านั้น

มีการอ้างถึง เมืองไทยประกันภัยด้วยแต่ก็ได้รับการปฎิเสธ

ข้อ 2 ผมตอบให้ไม่ได้ครับ รู้แต่ว่า ด้วยอัตราเงินปันผลประมาณ 13.75 บาท (หัก 2 บาทที่จ่ายเป็นพิเศษออก) และราคา 180 บาท จะได้ D/P = 7.6 %

ข้อ 3 เผอิญไม่รู้เรื่อง SAFE เลยตอบให้ไม่ได้[/quote]

สิ่งที่ผมกังวลมากที่สุดสำหรับphaคือ รายได้ไม่ได้มาจากcore ธุรกิจอย่างแท้จริง ที่กำไรเพิ่มสูงมากในปีก่อนส่วนหนึ่ง(ซึ่งมากพอควร)มาจากการนำเงินไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้เงินมาถึง สองร้อยกว่าล้านบาท (ปี 46 เป็นปีทองเลยของตลาดหุ้น.) แต่ในปีนี้ไตรมาส 1 เห็นกันอยู่ว่าดัชนีลดลงจาก 800 จุดมาอยู่แถว 700 จุด ผลการดำเนินงานจากส่วนนี้ของ pha ก็คงไม่ดีไปด้วย (คงไม่ได้กำไรและอาจขาดทุนด้วยซ้ำ) ดังนั้นผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ของปี 47 คงไม่สู้ดีนัก รอดูไปก่อนดีกว่าครับ

รายได้จากการลงทุนก็เป็น core ของบริษัทประกันภัยส่วนที่สำคัญมากๆ ครับ ไม่แพ้รายได้จากเบี้ยประกัน ยิ่งถ้าเป็นประกันชีวิตละก้อ ยิ่งสำคัญที่สุดในบริษัทเลย

จากข้อมูล 2545 และ 2546 คือ รายได้เติบโตอย่างน่าสนใจคือ 17% แต่กำไรเท่าเดิม

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การประกันภัยต่อ มีปริมาณค่อนข้างสูง มากกว่ากฎเกณฑ์ของกรมการประกันภัย ทำให้สัดส่วนกองทุนสำรองต่อเบี้ยการรับประกันมีสูงตอบรับกับนโยบายอนุรักษ์นิยมของบริษัท

เห็นด้วยที่ว่าปีนี้ตลาดหุ้นจะทำได้ไม่ดีเท่าปีที่แล้ว แต่ Q1 เดียวยังไม่ได้บอกอะไรครับ รอดูทั้งปีดีกว่า

อ้อ PHA มีหุ้น PL กับ THAIRE ที่ให้ปันผลได้ดีอยู่พอสมควร และยังมีหุ้น KBANK อีกส่วนหนึ่งครับ (เห็นกสิกรกำไรดีนี่ไตรมาส 1) ซึ่งอาจจะเป็น realized gain ในส่วนแรก และ unrealized gain ในส่วนหลังครับ

อยากถามคุณนักดูดาว นัอง ayethebing ว่า พอร์ทการลงทุนของบริษัทประกันภัย นี่ เขาถือเป็น core bussiness หรือไม่ครับ

และอยากถามต่อว่า ถ้าปีที่แล้วลงทุนแล้วได้กำไรมาก นี่หมายถึง มีการซื้อหุ้นขายหุ้นใช่หรือไม่

เพราะถ้าไม่มีการขาย การถือหุ้น กระจายแบบที่บริษัทประกันส่วนใหญ่ถือ ก็ไม่จำเป็นต้องทำงบ consolidate ใช่หรือไม่ นั่นหมายถึง ราคาหุ้นขึ้น แต่บริษัทไม่ได้รับรู้รายได้ จากราคาที่ขึ้น

ถ้าไม่มีการขายหุ้น การได้รับรู้รายได้จากปันผลอย่างเดียว ก็ไม่น่าจะมากเท่าไร

ถ้าบริษัทประกันมีการซื้อหุ้น ขายหุ้น เพื่อให้เกิดการรับรู้กำไร อยากถามต่อว่า ปีนี้จะเสี่ยงหรือไม่ ถ้าราคาหุ้นตกลงมา

เราจะดูอย่างไรว่า บริษัทประกันนั้นๆกำลังอยู่ในจุดที่ควรอยู่ เช่น

บริษัทที่ซื้อหุ้นขายหุ้น ตลอดเวลา ถือว่าดี

หรือ

บริษัท ที่ซื้อแล้วถือยาว เกิดเป็น hidden asset มากมาย ถือว่าดี

อยากได้เหมือนกัน ที่ราคา 160 บาท ฝันไปหรือเปล่า

เห็น ช่วงเกิด panic ราคาไม่ดิ่งเท่าไหร่เลย

ว่าไปแล้ว pha ก็อึดดีนะครับ

อยากฟังความเห็นเปรียบเทียบ safe กับ pha จัง :lol:

SAFE น่ะเหรอ อย่าไปซื้อมันเลย หุ้นอะไรไม่รู้จัก..P/E ก็สูง ปันผลก็ต่ำ ขายๆๆๆๆๆ ดีกว่า

เอ้ แต่เห็นรู้สึกว่าใครถืออยู่ หรือไม่ได้ถือแล้วหว่า :lol:

แหมถามยากจัง ผมลองตอบดูนะครับ

อยากถามคุณนักดูดาว นัอง ayethebing ว่า พอร์ทการลงทุนของบริษัทประกันภัย นี่ เขาถือเป็น core bussiness หรือไม่ครับ

ผมว่าใช่ครับ ประกันภัยนี่สัดส่วนของกำไรที่เกิดจากการทำประกันกับการลงทุนเนี่ย สำคัญพอๆ กันเลย และถ้าเป็นประกันชีวิต ยิ่งสำคัญมากกว่า

การประกันภัยเบี้ยประกัน เป็นจ่ายแบบไม่ได้เงินคืนนะ แต่เบี้ยประกันชีวิตนี่ต้องคืน ถ้าเค้าเอาเงินที่ได้ไปบริหารเพื่อสร้างรายได้ไม่ได้ ก็แย่สิ

และอยากถามต่อว่า ถ้าปีที่แล้วลงทุนแล้วได้กำไรมาก นี่หมายถึง มีการซื้อหุ้นขายหุ้นใช่หรือไม่

มีสองส่วนคือ กำไรที่รายงานในปีนั้นๆ กับ กำไรสะสมที่เป็น unrealized gain จากการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของสินทรัพย์ ตัวแรกเกิดจากการซื้อขาย ตัวหลังเกิดจากการเพิ่มค่าของราคาหุ้น

เพราะถ้าไม่มีการขาย การถือหุ้น กระจายแบบที่บริษัทประกันส่วนใหญ่ถือ ก็ไม่จำเป็นต้องทำงบ consolidate ใช่หรือไม่ นั่นหมายถึง ราคาหุ้นขึ้น แต่บริษัทไม่ได้รับรู้รายได้ จากราคาที่ขึ้น

ใช่ครับ จะสะสมอยู่ในส่วนของผู้ถือหุ้นและสินทรัพย์ครับ

ถ้าไม่มีการขายหุ้น การได้รับรู้รายได้จากปันผลอย่างเดียว ก็ไม่น่าจะมากเท่าไร

ก็อาจใช่ แต่เท่าที่เห็นเค้าก็มีการซื้อขายกันบ่อยๆ นะครับ

ถ้าบริษัทประกันมีการซื้อหุ้น ขายหุ้น เพื่อให้เกิดการรับรู้กำไร อยากถามต่อว่า ปีนี้จะเสี่ยงหรือไม่ ถ้าราคาหุ้นตกลงมา

ถ้าราคาหุ้นตก แล้วยังไม่ขายกทำให้กำไรสะสมลดแน่ๆครับ เหมือนกำไรแล้วยังไม่ขายแต่กลับข้าง มีมูลค่าการด้อยของสินทรัพย์เกิดแน่ๆ ครับ

เสี่ยงนะมันเสี่ยงอยู่ แต่คงไม่ถึงกับทำให้ขาดทุนครับ อย่างมากก็กำไรน้อยลงครับ

เราจะดูอย่างไรว่า บริษัทประกันนั้นๆกำลังอยู่ในจุดที่ควรอยู่ เช่น

บริษัทที่ซื้อหุ้นขายหุ้น ตลอดเวลา ถือว่าดี

หรือ

บริษัท ที่ซื้อแล้วถือยาว เกิดเป็น hidden asset มากมาย ถือว่าดี

อันนี้ต้องดูพอร์ทที่เค้าถืออยู่ด้วยมั้งครับ ว่า หุ้นที่มีอยู่มันมีราคาปัจจุบันที่ undervalue อยู่หรือเปล่า ก็เหมือนดูพอร์ทของคนๆ นึงแล้วคิดว่า เอ๊ะ ไอ้พอร์ทคนนี้มันน่าสนใจนะ น่าจะโตได้ ถ้า.... อะไรเทือกนี้แหละครับ เรื่องพอร์ทนี่ต้องพี่ครรชิตเลย แกหาออกมาได้แน่ๆ

ข้อสุดท้ายนี่ตอบไม่ค่อยถูกอะครับ แต่เท่าที่ผมดูใน PHA เค้ามีหุ้นในตระกูลเค้าที่ถือค่อนข้างยาว ส่วนที่เหลือก็มีเข้ามีออกครับ

พอร์ทของประกันภัยที่เจ๋งมากๆ อีกอันคือ BKI ของลุงขวดและพี่ครรชิตครับ

อ้อสำหรับประกันภัยบริษัทอื่นๆ ต้องระวังนิดนึงนะครับ ว่าเค้าควร conservative นิดนึงเพราะได้ยินว่าเค้าขยายเพดานสัดส่วน port ในส่วนของหุ้นสำหรับบริษัทประกันภัยแล้ว

งั้นคุณนักดูดาวรีบขายให้หมดเลยครับ ผมจะรอรับ

พี่เล็กได้ไปมั้ยครับ ประชุม PHA

อุตส่าห์หนีงานไปนะเนี่ย อิอิ ไม่เจอใครเลย

CK เขียน:งั้นคุณนักดูดาวรีบขายให้หมดเลยครับ ผมจะรอรับ

ท่าน CK ตั้งรับที่ซีลลิ่งพรุ่งนี้เลยนะ ผมจะตามเฮียคลายเครียดมาช่วยขายอีกแรง

คุณ ayethebing ตอบได้ครบถ้วนกระบวนความ หาที่เสริมไม่ได้เลยครับ

แหมเฮียนักดูดาวก็เปรียบเทียบให้ฟังเลยดี้ ว่า SAFE กับ PHA ตัวไหนเด่นด้อยกว่ากันในแง่ไหน เผื่อผมจะตามไปถือตามบ้างงะ

เอหรือว่าจะใช้ ratio ของคุณนักดูดาวมาเทียบ พอร์ทลงทุนต่อมูลค่าสินทรัพย์ แหมดีจัง เอาไว้หา hidden asset ได้ระดับนึงเลย

ข้างบนผมเองครับ

แหมคิดถึงเฮียปรัชญาจัง คุยเรื่องประกันอย่างเงี้ยเนี่ย

เอาซักยกนะ pha กับ safe ตอนนี้อยู่ข้างเวทีคอยดูผล

สองบริษัทนี้ ถ้าเปรียบเป็นนักสู้ก็น้ำหนักพอๆกัน แต่ศิลปะการต่อสู้คนละชนิดกันอะครับ จะเปรียบไงดีหนอ

ผมขอเรียบเรียง เรื่องธุรกิจประกันภัยทั่วๆไป ตามที่ได้ศึกษาด้วยตัวเองมาเป็นอีกกระทู้ก็แล้วกันครับ

นักดูดาว เขียน:ผมขอเรียบเรียง เรื่องธุรกิจประกันภัยทั่วๆไป ตามที่ได้ศึกษาด้วยตัวเองมาเป็นอีกกระทู้ก็แล้วกันครับ

อะฮ้า ต้องรอฟังซะแล้วครับ ระดับคุณนักดูดาวพูดถึงหุ้นประกัน
นี่ถ้าพี่ปรัชญายังอยู่ เราจะได้มุมมองของประกันยักษ์ใหญ่สองเจ้า
คือ BKI กับ TIC มาประดับความรู้ด้วยนะนี่

บิดที่ลิ่งบ่ไหวครับ หุ้นเซฟๆก็ต้องซื้อราคาเซฟๆ หน่อย แล้วถ้าให้เฮีย
คค.ขายมา 3 แสนหุ้น ผมเป็นต้องขายบ้านแน่ๆ อาจจะถึงขั้นติดหนี้สินได้

ว่าแต่ 17% นี่ชื่อคุณธิติพลหรือเปล่าครับ ฮ่าๆ

โถๆๆๆ ผมมันคนเบี้ยน้อยหอยน้อย เก็บเงินได้เต็มกระปุกเล็กๆก็ไปซื้อเก็บสะสม คงไม่ได้เสี้ยวของที่ท่าน CK ยกยอไว้หรอกครับ อิๆๆๆ

เขียนเสร็จไปส่วนนึงแล้วนะครับ รบกวนวิจารณ์ด้วย ไม่รู้ท่านอ่านแล้วจะงงหรือเปล่า