Thai VI

อยากถามความคิดเห็นพี่ท่านอื่นว่า ชอบลงทุนใน หุ้น Growth stock Or Value stock มากกว่ากัน ควรจะมีในพอร์ตเป็นกี่ % และจะตัดสินใจว่าหุ้นตัวนี้เป็น Growth stock Or Value stock  ได้อย่างไรครับ  :roll:  :idea:

สำหรับผมก็เอาทั้งคู่แหละครับ เมื่อเจอโอกาส แต่ส่วนใหญ่จะชอบGrowth มากกว่า อะครับ

เรื่องสัดส่วนไม่ได้จัด อาจจะเพราะว่าไม่เห็นความสำคัญสักเท่าไร

ส่วนตัวแล้วผมชอบ Growth stock มากกว่าครับและดูปันผลร่วมด้วย เพราะจะทำให้ได้กำไร 2 เด้ง ทั้งส่วนต่างและปันผล ซึ่งก็หายากเหมือนกันครับ ต้องใจเย็นๆหาไปเรื่อยๆ บางทีเจอแล้วราคาขึ้นมาสูงมากก็ไม่เสี่ยงซื้อ ถ้าเจอตัวที่ใช่แล้วละก็ ผมซื้อเต็มพอร์ตเลยครับ...

รวยด้วยหุ้น...

http://www.kewell007.blogspot.com/

ความรู้สึกส่วนตัว
growth stock เป็น subset ของ value stock รึเปล่าครับ??
ถ้าตามนิยาม growth=โต
                  value=ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน
growth แพงๆไม่ใช่ value
growth ถูกๆ =value --> ต้องรีบกอบโกย  :shock:

ถ้าหากเราเลือก หุ้น Growth แต่มันมีราคาแพงๆแล้ว กับเราเลือกที่จะลงทุน หุ้น value ที่ราคาถูกๆ อันไหนที่เราจะถือไว้แล้วจะเสี่ยงกว่ากัน ในสภาพตลาดตอนนี้

เรารอที่มันเข้าเป้าจริงๆแล้วค่อยลงมือดีกว่าครับ
"search for the obvious"
เหมือนใน science of hitting ที่ buffett กล่าวไว้

เลือกหุ้น growth ที่อนาคตจะกลายเป็นหุ้น value ในราคาที่ under value ครับ

หุ้นเวลูคืออะไร
หุ้นโกรทคืออะไร

หุ้นก็คือหุ้นของกิจการ ที่ขึ้นอยู่กับว่า อยู่ในช่วงชีวิตไหนของมัน กำลังจะโต
หรือกำลังโต หรือโตแล้ว หรือกำลังตกดิน สั้นยาวต่างกันไป
โตสั้น(มีเหตุการ คาตาไลต์เร่งราคา)
โตยาว(อยู่ในเทรนขาขึ้น)

ส่วนแนวเวลู คือวิธีการเลือกหุ้น(กิจการ/dca) การประเมินมูลค่าแท้จริง และการเลือกราคาที่จะซื้อ

ปล เลือกเข็นครกลงเขาน่าจะดีกว่า ครับ

ส่วนตัวผมเลือกซื้อหุ้นที่ถูกกว่ามูลค่าพื้นฐานในปัจจุบันประมาณ 1 เท่าตัวเป็นอย่างต่ำและหุ้นตัวที่เลือกนั้นจะต้องมีการกำไรเติบโตได้ในอนาคตด้วย
ถ้าไม่ได้ตามนี้ผมหยุดลงทุนครับ  

จะ growth หรือ value ได้ทั้งหมดขอให้กิจการดี มีกำไรต่อเนื่อง
เพิ่มขึ้นทุกปี ผู้บริหารวิสัยทัศน์เยี่ยม ราคาย่อมเยา
นั่นแหล่ะกิจการที่ผมต้องการ

naris เขียน:เลือกหุ้น growth ที่อนาคตจะกลายเป็นหุ้น value ในราคาที่ under value ครับ

อันนี้เป็นแก่นของ PE forward ใช่มั้ยครับ

พี่ naris พูดง่ายแต่ความจริงมันทำยากนะครับ
เมื่อไหร่ที่เราจะเจอหุ้น under value ที่คิดว่าอนาคตมันจะ Growth และจะมั่นใจว่าจะ Growth จริง

รู้ตัวอีกทีมันก็แพงแล้ว[/code][/quote]

tamrollin เขียน:พี่ naris พูดง่ายแต่ความจริงมันทำยากนะครับ
เมื่อไหร่ที่เราจะเจอหุ้น under value ที่คิดว่าอนาคตมันจะ Growth และจะมั่นใจว่าจะ Growth จริง
รู้ตัวอีกทีมันก็แพงแล้ว[/code]

[/quote]ผมว่ามีเยอะนะ แต่ถ้าพี่รอจนมั่นใจว่าจะ growth จริง ตอนนั้นคงไม่ทันแล้ว อย่างตอนนี้ผมยังมีหลายตัวเลย ที่กำลังรอให้คนอื่นมั่นใจว่ามัน growth จริงอยู่ครับ

tamrollin เขียน:พี่ naris พูดง่ายแต่ความจริงมันทำยากนะครับ
เมื่อไหร่ที่เราจะเจอหุ้น under value ที่คิดว่าอนาคตมันจะ Growth และจะมั่นใจว่าจะ Growth จริง

รู้ตัวอีกทีมันก็แพงแล้ว

ใช่ครับ การที่จะได้ครอบครองหุ้นสิบเด้งนั้นต้องไม่ง่าย
ต้องทำการบ้านหนัก ติดตามกระแสเทรนด์ของโลก อ่านธุรกิจและโมเดลของธุรกิจให้ขาด ไปควานหาบริษัทที่ตรง แถมยังหนักแน่นในความคิดของตนเวลาซื้อและถือรอ
ให้ง่ายขึ้นมาหน่อยแต่อาจไม่ได้สิบเด้ง ก็ต้องมีความอดทนสูงและมีความกล้า รอจังหวะหุ้น Growth ราคาแพง ตกลงมาโดยไม่มีเหตุผล ค่อยเข้าไปกว้านซื้อครับ เอาน่านะ ทำได้แน่ๆ  :)

normally, growth stock will do better in bull market while value stock will do better in bear market.

Growth stock mean Company have high P/B ratio and higher expectation for earning which make it have high P/E also. The Value stock have low P/B (less than 2) and low P/E because it may be distressed company or undervalued companies.

In long run, Value stocks return is far better than Growth stocks. Well, in long run I mean at least more than 5 years.