Thai VI

EAST WATER ได้ทำการ POST ยอดขายน้ำดิบของเดือนธันวาคม ปี52 วันนี้บนเว็บของบริษัท

มาดูกันนะครับว่าสุปทั้ง  4Q09เป็นอย่างไร

OCTOBER 09    18,266,176 M3  UP 0.5%
OCTOBER 08    18,176,451 M3  

NOVEMBER 09  18,672,677 M3  UP 13.8%
NOVEMBER 08  16,397,377 M3

DECEMBER 09  20,352,949 M3   UP 17.7%
DECEMBER 08  17,285,844 M3  

4Q09                 57,291,802       UP  10.5%
4Q08                 51,859,672

ใครหนอช่างใช้น้ำมากขึ้นเยอะจัง ไม่รู้จักประหยัดน้ำกันบ้างเลย  :D  :D  :D

ขอเถียงครับ
ถ้าไม่มีความรู้แล้วไซร้  จินตการอย่างเดียวก็มั่วนิ่มเดาสุ่มทั้งวัน
ถ้ามีแต่ความรู้แล้วใช้ไม่เป็น ก็เต่าแบกตำรา อยู่แต่ในกรอบ
ถ้ามีทั้งคู่ถึงจะดี

[quote="konkaikong"]EAST WATER ได้ทำการ POST ยอดขายน้ำดิบของเดือนธันวาคม ปี52 วันนี้บนเว็บของบริษัท

มาดูกันนะครับว่าสุปทั้ง

ผมว่ามันน่าจะมาจาก Q4 ปีที่แล้วที่เศรษฐกิจแย่มากๆ จนหลายๆโรงงานในมาบตาพุดต้องลดกำลังการผลิต (ทำให้ยอดการใช้น้ำลดลงตามกันไปด้วย) หรือเปล่าครับ

ถ้าเป็นไปได้ช่วยลงยอดของปี 07 ให้ด้วยได้มั๊ยครับ จะได้ Confirm ว่ายอดใช้นำขึ้นจริงๆ

จัดให้

OCT07   18,292,974 M3

NOV07   18,148,799 M3

DEC07    19,248,091 M3

ที่เหลือแล้วแต่ท่าน  :D

[quote="miracle"]ขอเถียงครับ
ถ้าไม่มีความรู้แล้วไซร้

[quote="miracle"]ขอเถียงครับ
ถ้าไม่มีความรู้แล้วไซร้

[quote="miracle"]ขอเถียงครับ
ถ้าไม่มีความรู้แล้วไซร้

แล้วตกลงพี่จะผมจินตนาการถึงอะไรครับ
จำนวนน้ำประปาที่ใช้ในอนาคตหรือ
ผู้ที่ใช้น้ำประปาที่มากขึ้นเป็นใครหรือ

ผมหาความสัมพันธ์ของหัวข้อกับเนื้อหาไม่เจอครับ

ผมว่าสิ่งที่สำคัญกว่าจินตนาการ คือการนำความรู้ไปใช้ครับ

ไม่สำคัญว่าเราจะมีความรู้เท่าไหร่ แต่สำคัญที่เราจะใช้มันอย่างไรครับ

ข้อมูลมันบอกจำนวนอะไร
ถ้าหน่วยเป็น บาท ก็บอกแค่การเพิ่มขึ้นของยอดขายเท่านั้้น
ถ้าบอกเป็น จำนวนหน่วยของน้ำ ก็บอกว่า ส่งน้ำไปขายได้มากขึ้น
ไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนผู้ใช้บริการน้ำประปาซักหน่อย

ถ้าอยากรู้ข้อมูลจำนวนผู้ใช้น้ำ ต้องไปถาม กปน และ กปภ ไม่ใช่หรือ
มันจะได้เห็นภาพสัมพันธ์ว่า คนใช้น้ำมาก ขายได้มาก
แต่ถ้าคนใช้น้อยแล้วขายได้มาก มันบอกว่า คนใช้น้ำมากขึ้น
อืมๆๆ

สังเกตได้เลยว่าปี 2008 ผิดปรกติ และยิ่งถ้าดูเทียบระหว่าง ปี 2007 ไปปี 2009 นั้น Growth/ปี จะเหลือเพียง

October            -0.07%
November        +1.14%
December        +2.87%

ซึ่งถือได้ว่าเพิ่มขึ้นน้อยมากนะครับ

จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ครับ

ความรู้ในวันนี้ มักจะมีใครบางคนจินตนาการไว้ในอดีต แล้วจึงพัฒนามาเป็นความรู้ โดยจากการทดลอง การค้นคว้า และการจินตนาการถึงวิธีการ

ลองอ่าน wikipedia เยอะๆครับ

ต้องมีควบคู่กันถึงจะดีนะครับ

555+
อ่านๆแล้วรู้สึกว่าเหมือนกำลังเถียงกันว่า มือข้างไหนสำคัญกว่ากันครับ 555+

ผมเข้าใจว่าสาเหตุที่คนที่พูดว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับความรู้จนมองข้ามจินตนาการไป แต่หากวันหนึ่งมีคนพูดว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ก็จะทำให้ และคิดตามว่ามันสำคัญกว่ายังไงหว่าไอ้จินตนาการเนี๊ย จนสุดท้าย ก็มีผลทำให้คนที่อ่าน ตระหนัก ถึงความสำคัญของจินนาการมากขึ้น

ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องมานั่งจับผิดคำพูดกันหรอกครับ เรามานั่งคิดกันว่า เราได้อะไรอะไรจากคำพูดนี้ดีกว่าครับ....เพราะถ้ามานั่งเถียงกันเดี่ยวก็มีคนโพสมาว่า อ่าวจินตนาการสำคัญกว่าความรู้มันไม่ได้หมายถึงความรู้ไม่สำคัญนะ ความรู้เสมือนนิ้วทั้ง4สำคัญมากๆ แต่ก็ขาดจินนาการซึ่งเป็นนิ้วโป้งไม่ได้ไม่งั้นคงไม่มีไฟฟ้า เครื่องบิน หรืออะไรอีกมายในโลกนี้....เถียงกันมันส์เลยครับทีนี้555+

ดังนั้นสรุป....ตอนนี้ทุกคนก็ตกเป็นเหยื่อของที่ที่พูดว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ แล้วหละครับเพราะตอนนี้ทุกคนน่าจะตระหนักมากขึ้นและไม่ลืมมัน

ความรู้ทำให้คิดในกรอบ
จินตนาการทำให้คิดนอกกรอบ แต่ถ้าขาดความรู้มาสนับสนุน ก็อาจจะกลายเป็นเพ้อเจ้อไป

ตอนที่เราวิเคราะห์บริษัท เราไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบทุกอณุในการทำธุรกิจได้

เราอาจหาความรู้จากจาก 56-1 รายงานประจำปี ข่าวสาร คู่แข่ง เข้าไปใช้บริการเอง ฯลฯ
แต่สุดท้ายก็ต้องใช้จินตนาการในการปะติดปะต่อภาพที่เหลืออยู่ดี    

จินตนาการกับความรู้ ไม่ใช่มือซ้ายขวาครับ

ลองเปรียบง่ายๆ เวลาคุณเห็นสาวสวยคนนึงแล้ว "จินตนาการ"อยากได้เป็นแฟน จนจีบติด แต่งงานแต่งการเป็นสามีภรรยา ตอนนี้ก็จะมี"ความรู้" แล้วล่ะครับ

[quote="miracle"]ขอเถียงครับ
ถ้าไม่มีความรู้แล้วไซร้

นักดูดาว เขียน:จินตนาการกับความรู้ ไม่ใช่มือซ้ายขวาครับ

งั้นเป็นเท้าซ้ายกับเท้าขวาก็ได้ครับ

ความรู้ช่วยต่อยอดให้จินตนาการ
ขณะเดียวกัน

พอแต่งงานแล้ว ได้ความรู้แล้ว
เราก็จินตนาการได้อีกตั้งหลายอย่างนะ  ว่ามะ  

อะอะ ท่านประธานจินตนาการถึงอะไรบ้างครับ
ผมเดาว่า จินตนาการถึงเสรีภาพ แน่นอนเลย

นักดูดาว เขียน:จินตนาการกับความรู้ ไม่ใช่มือซ้ายขวาครับ

ลองเปรียบง่ายๆ เวลาคุณเห็นสาวสวยคนนึงแล้ว "จินตนาการ"อยากได้เป็นแฟน จนจีบติด แต่งงานแต่งการเป็นสามีภรรยา ตอนนี้ก็จะมี"ความรู้" แล้วล่ะครับ

555555555555+
ฮาตกโต๊ะเลยพี่

[quote="สามัญชน"]
พอแต่งงานแล้ว ได้ความรู้แล้ว
เราก็จินตนาการได้อีกตั้งหลายอย่างนะ

[quote="สามัญชน"][quote="miracle"]ขอเถียงครับ
ถ้าไม่มีความรู้แล้วไซร้

จินตนาการ โดยไม่ใช้ความรู้เรียกว่าเฟ้อฝัน (คนบ้า)
ใช้ความรู้โดยไม่มีจินตนาการเรืยกว่าทื่อด้าน (หุ่นยนต์)

ถ้าสองอย่างไม่ไปพร้อมๆกันก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร

โลกเราที่พัฒนาได้เพราะคนที่มีความรู้ รู้จักใช้จินตนาการ
หรือไม่ก็คนที่มีจินตนาการแล้วไปหาความรู้เพิ่มเติม

Outliers เขียน:จินตนาการ โดยไม่ใช้ความรู้เรียกว่าเฟ้อฝัน (คนบ้า)
ใช้ความรู้โดยไม่มีจินตนาการเรืยกว่าทื่อด้าน (หุ่นยนต์)

เข้าใจเปรียบครับ 555+ เห้นภาพเลย