วิถีชีวิตวิธีลงทุนแบบวีไอ โดย โจ ลูกอิสาน....ที่ต้องอ่าน
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 12:28 am
พี่โจ ได้กรุณาส่งแนวคิดสั้นๆ มาร่วมในการเสวนา
"วิถึชีวิตวีธีลงทุน แบบวีไอ" ซึ่งจัดเมือวันเสาร์ที่ 5 ธค 52 ที่ผ่านมา
อ.ไพบูลย์ จึงฝากให้นำมา post ไว้ ครับ
อ่านกันดูนะครับ
วิถีชีวิตวิธีลงทุนแบบ VI
1.นักลงทุนเน้นคุณค่าต้องมีจิตอิสระ อิสระจากอารมณ์และอคติ หมายถึงพิจารณาการลงทุนตามเหตุและผลอย่างแท้จริง ไม่ใช้อารมณ์ และขจัดอคติ ความลำเอียงต่างๆ เช่นความรักหุ้น ความชอบหุ้น ความเชื่อต่างๆที่ไม่จริง อคติเหล่านี้อยู่กับเราโดยไม่รู้ตัว ส่งผลเสียต่อการลงทุน ยกตัวอย่างอคติบางอย่างนะครับ
-ซื้อหุ้นเพราะว่าเซียนก็ซื้อ
-ซื้อหุ้นเพราะว่าผู้บริหารสวย หล่อ
-ซื้อหุ้นตามกระแส เฮไหนเฮนั่น มีเพื่อนขาดทุนรู้สึกดีกว่ากำไรแต่ไม่มีเพื่อน
-หลีกเลี่ยงหุ้นบางตัวเพราะเป็นหุ้นบาป เป็นการใช้ความเชื่อมากกว่าการมองเป็นธุรกิจ
-หลีกเลี่ยงหุ้นบางตัวเพราะเราเคยขาดทุนตัวนี้มาก่อน ทำให้เข็ดหยาด ที่จริงการขาดทุนที่ผ่านมา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยกับการลงทุนในปัจจุบันเลย
เราจะขจัดอคติทางอารมณ์ ต่างๆได้เราต้องมีความคิดที่เป็นอิสระ ไม่ไหลไปตามกระแส นั่นทำให้เราต้องมีความรู้ที่อยู่บนพื้นฐานแบบเหตุและผล เราอาจจะไม่สามารถเป็น vi ที่ดีได้หากเรา...
-กลัวสังคมไม่ยอมรับ
-กลัวตกกระแส
-เชื่อคนอื่นมากกว่าเชื่อเหตุผลที่ถูกต้อง
-เชื่อโดยไม่ไตร่ตรอง หูเบา
-เห่อหลินปิง
การลงทุนvi เป็นวิธีการครึ่งนึง อีกครึ่งนึงเป็นการควบคุมอารมณ์ให้คิดแบบเหตุและผล ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ยาก ปริญญาเอกหลายๆใบก็ช่วยไม่ได้ คล้ายๆกันการลดความอ้วน ทุกคนรู้วิธีที่จะลดน้ำหนักกันทุกคน แต่ยังมีคนอ้วนเต็มบ้านเต็มเมือง การลงทุนแบบ vi เป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่าย หลักการสมเหตุสมผลที่สุด แต่เวลาทำจริงๆกลับยาก เพราะมีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องนั่นเอง เวป tvi มียูสเซอร์ 23,000 คน แต่มีคนที่แอคทีฟไม่เกิน 1 พันคน นี่คงเป็นเพราะ vi ต้องฝืนธรรมชาติ ต้องฝืนอารมณ์ของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นเป็น vi ต้องเป็นคนส่วนน้อยครับ
2.แนวทางการลงทุนกับแนวทางการใช้ชีวิตต้องไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเราลงทุนตามแบบ vi แต่กลับใช้ชีวิตกลับฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินไม่คำนึงถึงความคุ้มค่า ไม่วางแผน อย่างนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเพราะความคิดกับการปฎิบัติจะขัดแย้งกันตลอดเวลา ดังนั้นเป็น vi ต้องเป็นทั้งชีวิตและจิตใจหรือพูดได้ว่าเป็น vi ต้องเป็นโดยจิตวิญญานเท่านั้น
3.การลงทุนแบบเน้นคุณค่าเสมือนการปลูกต้นไม้ เราได้นั่งพักใต้ร่มเงาต้นไม้ นั่นเพราะเราได้ปลูกมันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราลงทุนวันนี้เพื่ออนาคตทางการเงินที่ดีในอีก 10 - 20 ปีข้างหน้า การลงทุน vi ไม่มีทางลัด ถ้าอยากรวยเร็วๆให้เล่นหวย ให้เล่น tfex แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงมหาศาล ต้นทุนส่วนหนึ่งการการลงทุนแบบ vi คือความอดทน อดทนจนกว่าผลของมหัศจรรย์การทบต้นจะส่งผล ในปีแรกๆ เงินลงทุนจะเติบโตไปอย่างช้าๆ เงิบๆ หงอยๆ จนถึงจุดหนึ่งในปีหลังๆ เงินลงทุนจะเติบโตแบบจรวด เงินเพิ่มจนเรานับเงินไม่ทัน ดังนั้นอนาคต(ที่ดี)เริ่มตั้งแต่วันวานครับ
4.ชีวิตตลาดหุ้นกับชีวิตคนก็คล้ายๆกัน ในแง่ที่ว่าเราไม่สามารถประมาทมันได้ วันดีคืนดีหุ้นอาจพุ่งทะลุฟ้า แต่วันร้ายๆหุ้นอาจตกฟลอร์ทั้งตลาด เหมือนชีวิตที่เหตุการณ์ร้ายและดีเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยไม่มีคำเตือน ดังนั้นไม่ว่าจะชีวิตจริงๆหรือชีวิตการลงทุน จงอย่าตั้งอยู่ในความประมาท อย่ามองแต่ผลตอบแทนจนลืมความเสี่ยง เมื่อรู้ว่าเราอาจจะตายที่ไหน ก็อย่าไปที่นั่น ลงทุนอะไรที่มีโอกาสหมดตัว ก็อย่าไปลงทุนครับ
"วิถึชีวิตวีธีลงทุน แบบวีไอ" ซึ่งจัดเมือวันเสาร์ที่ 5 ธค 52 ที่ผ่านมา
อ.ไพบูลย์ จึงฝากให้นำมา post ไว้ ครับ
อ่านกันดูนะครับ
วิถีชีวิตวิธีลงทุนแบบ VI
1.นักลงทุนเน้นคุณค่าต้องมีจิตอิสระ อิสระจากอารมณ์และอคติ หมายถึงพิจารณาการลงทุนตามเหตุและผลอย่างแท้จริง ไม่ใช้อารมณ์ และขจัดอคติ ความลำเอียงต่างๆ เช่นความรักหุ้น ความชอบหุ้น ความเชื่อต่างๆที่ไม่จริง อคติเหล่านี้อยู่กับเราโดยไม่รู้ตัว ส่งผลเสียต่อการลงทุน ยกตัวอย่างอคติบางอย่างนะครับ
-ซื้อหุ้นเพราะว่าเซียนก็ซื้อ
-ซื้อหุ้นเพราะว่าผู้บริหารสวย หล่อ
-ซื้อหุ้นตามกระแส เฮไหนเฮนั่น มีเพื่อนขาดทุนรู้สึกดีกว่ากำไรแต่ไม่มีเพื่อน
-หลีกเลี่ยงหุ้นบางตัวเพราะเป็นหุ้นบาป เป็นการใช้ความเชื่อมากกว่าการมองเป็นธุรกิจ
-หลีกเลี่ยงหุ้นบางตัวเพราะเราเคยขาดทุนตัวนี้มาก่อน ทำให้เข็ดหยาด ที่จริงการขาดทุนที่ผ่านมา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยกับการลงทุนในปัจจุบันเลย
เราจะขจัดอคติทางอารมณ์ ต่างๆได้เราต้องมีความคิดที่เป็นอิสระ ไม่ไหลไปตามกระแส นั่นทำให้เราต้องมีความรู้ที่อยู่บนพื้นฐานแบบเหตุและผล เราอาจจะไม่สามารถเป็น vi ที่ดีได้หากเรา...
-กลัวสังคมไม่ยอมรับ
-กลัวตกกระแส
-เชื่อคนอื่นมากกว่าเชื่อเหตุผลที่ถูกต้อง
-เชื่อโดยไม่ไตร่ตรอง หูเบา
-เห่อหลินปิง
การลงทุนvi เป็นวิธีการครึ่งนึง อีกครึ่งนึงเป็นการควบคุมอารมณ์ให้คิดแบบเหตุและผล ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ยาก ปริญญาเอกหลายๆใบก็ช่วยไม่ได้ คล้ายๆกันการลดความอ้วน ทุกคนรู้วิธีที่จะลดน้ำหนักกันทุกคน แต่ยังมีคนอ้วนเต็มบ้านเต็มเมือง การลงทุนแบบ vi เป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่าย หลักการสมเหตุสมผลที่สุด แต่เวลาทำจริงๆกลับยาก เพราะมีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องนั่นเอง เวป tvi มียูสเซอร์ 23,000 คน แต่มีคนที่แอคทีฟไม่เกิน 1 พันคน นี่คงเป็นเพราะ vi ต้องฝืนธรรมชาติ ต้องฝืนอารมณ์ของคนส่วนใหญ่ ดังนั้นเป็น vi ต้องเป็นคนส่วนน้อยครับ
2.แนวทางการลงทุนกับแนวทางการใช้ชีวิตต้องไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเราลงทุนตามแบบ vi แต่กลับใช้ชีวิตกลับฟุ่มเฟือย ฟุ้งเฟ้อ ใช้เงินไม่คำนึงถึงความคุ้มค่า ไม่วางแผน อย่างนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเพราะความคิดกับการปฎิบัติจะขัดแย้งกันตลอดเวลา ดังนั้นเป็น vi ต้องเป็นทั้งชีวิตและจิตใจหรือพูดได้ว่าเป็น vi ต้องเป็นโดยจิตวิญญานเท่านั้น
3.การลงทุนแบบเน้นคุณค่าเสมือนการปลูกต้นไม้ เราได้นั่งพักใต้ร่มเงาต้นไม้ นั่นเพราะเราได้ปลูกมันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราลงทุนวันนี้เพื่ออนาคตทางการเงินที่ดีในอีก 10 - 20 ปีข้างหน้า การลงทุน vi ไม่มีทางลัด ถ้าอยากรวยเร็วๆให้เล่นหวย ให้เล่น tfex แต่นั่นก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงมหาศาล ต้นทุนส่วนหนึ่งการการลงทุนแบบ vi คือความอดทน อดทนจนกว่าผลของมหัศจรรย์การทบต้นจะส่งผล ในปีแรกๆ เงินลงทุนจะเติบโตไปอย่างช้าๆ เงิบๆ หงอยๆ จนถึงจุดหนึ่งในปีหลังๆ เงินลงทุนจะเติบโตแบบจรวด เงินเพิ่มจนเรานับเงินไม่ทัน ดังนั้นอนาคต(ที่ดี)เริ่มตั้งแต่วันวานครับ
4.ชีวิตตลาดหุ้นกับชีวิตคนก็คล้ายๆกัน ในแง่ที่ว่าเราไม่สามารถประมาทมันได้ วันดีคืนดีหุ้นอาจพุ่งทะลุฟ้า แต่วันร้ายๆหุ้นอาจตกฟลอร์ทั้งตลาด เหมือนชีวิตที่เหตุการณ์ร้ายและดีเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยไม่มีคำเตือน ดังนั้นไม่ว่าจะชีวิตจริงๆหรือชีวิตการลงทุน จงอย่าตั้งอยู่ในความประมาท อย่ามองแต่ผลตอบแทนจนลืมความเสี่ยง เมื่อรู้ว่าเราอาจจะตายที่ไหน ก็อย่าไปที่นั่น ลงทุนอะไรที่มีโอกาสหมดตัว ก็อย่าไปลงทุนครับ