หน้า 1 จากทั้งหมด 2
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 09, 2009 4:40 pm
โดย jessi
ทราบมาว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญหุ้นเรือ ผมเป็นมือใหม่เข้าไปอ่านในคลังกระทู้คุณค่าและมีเรื่องไม่เข้าใจอยากเรียนถามเพิ่มครับ
ข้อหนึ่ง ที่คุณหมอเคยเขียนว่าหุ้นวัฏจักรขาขึ้นจะกินเวลาเพียงแค่ 20% แต่ขาลงจะกินเวลา 80% อยากทราบว่าวงจรขาขึ้นทำไมถึงสั้นกว่ามาก
ข้อสอง วัฏจักรที่ว่านับเฉพาะเดินเรือ กับปิโตรเคมี เท่านั้นใช่หรือไม่ นับ อสังหาริมทรัพย์และยานยนต์ด้วยหริอเปล่า
ข้อสามสินค้าเกษตรอย่างราคาหมูไก่ ก็มีรอบขาขึ้นสั้นเช่นกันใช่หรือไม่ก็คือ 20% ของวงจรแต่ถ้าราคาน้ำมันแพงและพลังงานทดแทนมาขาขึ้นน่าจะยาวกว่าปกติไหมครับ
ข้อสี่หุ้นเดินเรือขึ้นตั้งแต่ปี 45 และจุดสูงสุดคือปี 50 แบบนี้วัฏจักรขาลงก็ต้องประมาณ 20 ปีถูกไหมครับเพราะยาวกว่าขาจขึ้นสี่เท่า
ข้อหกล่าสุดราคายางขึ้นมาแล้ว sta สต็อกวัตถุดิบมากขึ้นแต่ที่เคยอ่านคุณหมอเขียนว่าขาขึ้นวัตถุดิบจะน้อยลงแบบนี้มีอะไรผิดหรือเปล่าครับ
ข้อเจ็ด ผาแดงเริ่มมีกำไรและราคาสังกะสีเริ่มขึ้นคุณหมอมีความเห็นอย่างไรครับ
ผมเป็นมือใหม่แต่อยากรู้รบกวนตอบคำถามให้ด้วยเถอะครับ
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 09, 2009 8:15 pm
โดย สามัญชน
คำถามยากจังเลยครับ เยอะด้วย
ผมต้องรวบรวมเรี่ยวแรงไม่ใช่น้อยๆแน่เลย
จะพยายามมาตอบทีละข้อนะครับ
ขอไปนั่งคิดทบทวนก่อน
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 09, 2009 10:07 pm
โดย newbie_12
รอโหวตเก็บเข้ากระทู้คุณค่าแล้วครับ อิอิ
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2009 8:13 am
โดย กุหลาบงามหลังฝน
ขอเป็นนักเรียนนั่งฟังด้วยคนครับ

ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2009 8:22 am
โดย SoLid_frOg
ปูเสื่อรอฟังคุณหมอครับ :D
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2009 3:34 pm
โดย SEHJU

:shock: :shock:
โอ้โหพี่ท่าน... ไมถามยากจังอ่ะ
จะรอดูว่าท่านประธาน จะใช้เวลาในการที่จะตอบคำถามนี้ซักเท่าไหร่...
เดี๋ยวผมจะถามมั่งนะเนี่ย อิอิ :lol:
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2009 3:52 pm
โดย Ann2281
รอฟังด้วยค่ะ
และอยากถามว่าปีหน้าอุตสาหกรรมรถยนต์และอิเล็กโทรนิคส์จะฟื้นตัวหรือไม่
จากเดิมที่จดๆจ้องๆ ปีนี้ตั้งใจแน่วแน่จะทำการบ้านศึกษาอย่างจริงจัง
ขอเป็นน้องใหม่ VI ด้วยคนนะคะ

ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2009 4:18 pm
โดย beammy
Electronic นี่ชัวร์ครับ
Automotive นี่ก้อชัวร์ครับ
จัดไป :8)
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2009 4:26 pm
โดย Ann2281
ขอบคุณค่ะ มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไรคะ
เผื่อจะได้เป็นความรู้เพื่อหาปลาในอนาคตค่ะ
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 10, 2009 4:41 pm
โดย Suysak
เอาแบบวัฏจักรบอลโลกไหมคับ สี่ปีมีครั้ง :lol:
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 1:31 am
โดย luckyman
ขอถามด้วยครับ
คือสงสัยว่า ณ ตอนที่ปิโตรอยู่จุดสูงสุดนี่ จะสังเกตเห็นว่าดีมานเยอะมากมาก หลายๆ บริษัทได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ และจะมีบริษัทใหม่ๆ หันมาแจมทำด้วยเพื่อเป็นการเพิ่มซัพพลาย
แล้วพอถึงช่วงขาลงก็พากันขาดทุน
แล้วมาขาขึ้นอีกที กราฟมันจะเป็นรูปประมาณไหนเหรอครับ ใช่เป็นลูกคลื่นที่เล็กลงเรื่อยๆ ปะครับ เพราะดีมานไม่น่าจะเพิ่มมาก(ประมาณคงที่) แต่จะมีซัพพลายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ณ ช่วงสูงสุดทุกๆ รอบ
หรือ จะเป็นลูกคลื่นที่ขึ้นลง ขึ้นลงสม่ำเสมอ เพราะดีมานกับซัพพลายเพิ่มเท่าๆกันครับ
ขอบคุณครับ
รอ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 3:54 am
โดย boom
รอฟังอย่างใจจดจ่อ
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 7:02 am
โดย beammy
Ann2281 เขียน:ขอบคุณค่ะ มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไรคะ
เผื่อจะได้เป็นความรู้เพื่อหาปลาในอนาคตค่ะ
ขออนุญาตตอบในกระทู้พี่หมอนิดนึงครับ
ผมก้อรู้งูๆ ปลาๆ นะ
ผมดูกำลังการผลิตเป็นหลักเลยครับ
อย่างบริษัทผม เพิ่มกำลังการผลิตรถกระบะจาก 18JPH (Job Per Hour) 1 กะ เป็น 16 JPH 2 กะ
รายได้ก้อต้องมากขึ้นสิครับ :roll:
กลุ่มอิเล็กฯ ก้อไม่ต่างกัน ครับ :8)
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 7:57 am
โดย newbie_12
beammy เขียน:
ขออนุญาตตอบในกระทู้พี่หมอนิดนึงครับ
ผมก้อรู้งูๆ ปลาๆ นะ
ผมดูกำลังการผลิตเป็นหลักเลยครับ
อย่างบริษัทผม เพิ่มกำลังการผลิตรถกระบะจาก 18JPH (Job Per Hour) 1 กะ เป็น 16 JPH 2 กะ
รายได้ก้อต้องมากขึ้นสิครับ
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 10:51 am
โดย beammy
newbie_12 เขียน:ไม่ทราบบริษัทของคุณ beammy ใช้โคมไฟของ STANLY หรือเปล่าครับ
ใช้ครับ ใช้ทุก Model ที่มีผลิตที่นี่เลยครับ :8)
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 9:26 pm
โดย SEHJU
beammy เขียน:
ขออนุญาตตอบในกระทู้พี่หมอนิดนึงครับ
ผมก้อรู้งูๆ ปลาๆ นะ
ผมดูกำลังการผลิตเป็นหลักเลยครับ
อย่างบริษัทผม เพิ่มกำลังการผลิตรถกระบะจาก 18JPH (Job Per Hour) 1 กะ เป็น 16 JPH 2 กะ
รายได้ก้อต้องมากขึ้นสิครับ
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 9:53 pm
โดย dome@perth
เข้ามารอดูคำตอบพี่หมอครับ

ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 9:56 pm
โดย KB
คุณหมอโดนการบ้านไปหนักเลย
ของแสดงว่าเห็นเรื่องธุรกิจรถยนต์ จำไม่ได้แล้วว่าอ่านหนังสือจากเล่มไหน พูดถึงธุรกิจรถยนต์ในช่วงขาลงยอดขายจะลดลงมาก กำลังซื้อชะลอตัว แต่พอเศรษฐกิจฟื้นมันก็จะโตก้าวกระโดดในช่วงปีแรกๆ ที่เศรษฐกิจฟื้น เหมือนกับว่าความต้องการซื้อได้ถูกอัดอั้นไว้ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี แต่มาซื้อพร้อมกันตอนเศรษฐกิจดีขึ้น ในหนังสือมีข้อมูลเชิงสถิติบอกตัวเลขยอดขายรถในแต่ละปีย้อนหลังติดต่อกันหลายปีให้ดู สรุปได้ดังที่กล่าวมา
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 11, 2009 10:09 pm
โดย SEHJU
KB เขียน:คุณหมอโดนการบ้านไปหนักเลย
ของแสดงว่าเห็นเรื่องธุรกิจรถยนต์ จำไม่ได้แล้วว่าอ่านหนังสือจากเล่มไหน พูดถึงธุรกิจรถยนต์ในช่วงขาลงยอดขายจะลดลงมาก กำลังซื้อชะลอตัว แต่พอเศรษฐกิจฟื้นมันก็จะโตก้าวกระโดดในช่วงปีแรกๆ ที่เศรษฐกิจฟื้น เหมือนกับว่าความต้องการซื้อได้ถูกอัดอั้นไว้ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี แต่มาซื้อพร้อมกันตอนเศรษฐกิจดีขึ้น ในหนังสือมีข้อมูลเชิงสถิติบอกตัวเลขยอดขายรถในแต่ละปีย้อนหลังติดต่อกันหลายปีให้ดู สรุปได้ดังที่กล่าวมา
Beating the street <<<< Peter Lynch :)
Re: ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 12, 2009 12:10 pm
โดย สามัญชน
[quote="jessi"]ทราบมาว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญหุ้นเรือ ผมเป็นมือใหม่เข้าไปอ่านในคลังกระทู้คุณค่าและมีเรื่องไม่เข้าใจอยากเรียนถามเพิ่มครับ
ข้อหนึ่ง ที่คุณหมอเคยเขียนว่าหุ้นวัฏจักรขาขึ้นจะกินเวลาเพียงแค่ 20%
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 12, 2009 12:10 pm
โดย สามัญชน
หลักการสั้นๆบันทัดนี้แหละ ผมมาคิดได้หลังจากผมชวดกำไรมากมายไปแล้ว
ตอนนั้นปลายปี 2545 ผลการดำเนินงานทั้ง psl และ tta เริ่มกลับมาดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากย่ำแย่มายาวนาน
ผมก็เห็นนะ
หุ้นทั้งสองตัวปรากฏกายอยู่ในตะแกรงร่อนของผมในลำดับต้นๆเลย
แต่ก็เหมือนไก่ตาฟางมองไม่เห็นคุณค่า
เพราะทั้งสองตัวมีหนี้สินมหาศาลกดหัวอยู่
d/e สูงเลยล่ะ
ก็หลักการเขาบอกไว้อย่างนั้น และห้ามเอาไว้
ไข่แมลงเม่าอย่างผมจะกล้าหืออืออะไร :lol:
ยังดีที่ประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอย
ผมสนใจหุ้น sat เมื่อช่วงกลางปีนี้
ตอนนั้นราคา 5-6 บาท ก็มีคนทักท้วงว่า
หนี้เยอะนะ มียืดชำระหนี้ด้วย ปันผลอาจจะงดจ่าย
แต่บทเรียนจากหุ้นเรือยังตราตรึงอยู่ในใจ
ผมก็เลยซื้อเข้าไป ไม่ค่อยกลัวแล้ว :lol: :lol:
แต่ตอนนี้ราคาขึ้นมาเยอะแล้ว
ใครจะซื้อตามก็ต้องรับผิดชอบตัวเอง
ห้ามโทษผมอย่างเด็ดขาด :lol:
อ้าวตอบคำถามซักที
เรื่องขาขึ้นจะกินเวลาเพียงแค่ 20% แต่ขาลงจะกินเวลา 80% ผมก็คุ้นๆเหมือนกันนะ ไม่แน่ใจว่าพูดไว้ที่ไหนหรือเปล่า
แต่ตัวเลขอาจจะปรับหน่อย เพราะขึ้นอยู่กับว่าเราเขียนกราฟเรื่องอะไร
ถ้าเรื่องเวลากับราคาหุ้นก็อาจจะเป็นไปได้ 20/80
ถ้าเวลากับอัตราการเติบโตของกำไรอาจจะเป็น 30/70
ถ้าเวลากับผลกำไรอาจจะ 40/60
เพราะราคาหุ้นจะตอบสนองเร็วกว่าใครๆทั้งขึ้นทั้งลง
ทั้งหมดนี้สำหรับหุ้นวัฎจักรที่เป็น commodity cyclical stock นะครับ
สำหรับ economical cyclical stock อาจจะแตกต่างออกไปบ้าง
ปล. ตัวเลขพวกนี้มาจากการกะๆเอาด้วยตาเปล่า ไม่ได้ทำวิจัยอะไรเลย :lol:
Re: ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 12, 2009 12:31 pm
โดย สามัญชน
jessi เขียน:ข้อสอง วัฏจักรที่ว่านับเฉพาะเดินเรือ กับปิโตรเคมี เท่านั้นใช่หรือไม่ นับ อสังหาริมทรัพย์และยานยนต์ด้วยหริอเปล่า
นับหมดครับ
ที่จริงธุรกิจทุกอย่างหนีความเป็นวัฏจักรไม่พ้นหรอกครับ
ถาม.อ้าว.....แล้วทำไมต้องแบ่งเป็นหุ้นประเภทต่างๆในเมื่อมันเป็นวัฏจักรทุกตัว
ตอบ. อ้าวถ้าไม่แบ่ง มันก็เป็นก้อนเพียงก้อนเดียว แถมเป็นก้อนใหญ่ซะด้วย ดูก็ยาก วิเคราะห์ก็ยาก ใช้ประโยชน์ก็ยาก ทำไมจะไม่แบ่งล่ะ
ถาม.แล้วแบ่งโดยใช้หลักการอะไรล่ะ ถึงจะดี
ตอบ.ก็ยึดหลักความสะดวกในการนำไปใช้น่ะสิ วิธีของปีเตอร์ ลินช์สะดวกสุดๆ ของนักวิชาการท่านอื่นก็มีแบ่งนะ แต่นำไปใช้ยากส์ อาจจะเหมาะกับการทำวิจัยหรือเหมาะกับอะไรก็ตาม แต่เราชอบปีเตอร์ ลินช์ อ่ะ
ถาม. บัฟเฟตต์ก็เก่งเหมือนกัน ทำไมไม่ชอบ
ตอบ. ชอบสิ แต่ชอบน้อยกว่า
ถาม. บัฟเฟตต์แบ่งเป็น หุ้นที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน กับไม่ยั่งยืน หรือ ได้เปรียบกับไม่ได้เปรียบ แล้วยังมีพวกเสียเปรียบอีก เสียเปรียบก็มีเสียชั่วคราว เสียถาวร ใช้ยากนักหรือ มันเป็นวิธีของคนที่รวยเป็นอันดับสองของโลกเชียวนะ ไม่สนใจหรือ
ถามอีก. แล้วไหนว่าหุ้นทุกตัวเป็นวัฏจักร วัฏจักรแปลว่าวงกลม แปลว่ามันมีขึ้นมีลง มีเกิดมีดับ แต่บัฟเฟตต์พูดเรื่องยั่งยืน มันจะไม่แย้งกันหรือ จะว่าบัฟเฟตต์พูดผิดหรือไง
ตอบ.โหถามเยอะจัง เคยตอบไปแล้วอ่ะ
ลองไปค้นๆไม่ได้หรือ
อ้าว..ค้นให้ก็ได้
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... 91&start=0
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=10587
Re: ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 12, 2009 12:47 pm
โดย สามัญชน
jessi เขียน: ข้อเจ็ด ผาแดงเริ่มมีกำไรและราคาสังกะสีเริ่มขึ้นคุณหมอมีความเห็นอย่างไรครับ
โดดไปข้อเจ็ดก่อน อันนี้กิ๊กเก่า
เอาจดหมายที่ผมตอบพี่ป้อมเมื่อ 24 พย.มาให้ดูง่ายกว่า :lol:
วันนั้นพี่ป้อมโทรมาถามผมเรื่องป๋าแดง
ผมก็ตอบไปว่าไม่น่าสนใจ
แต่ก็กังวลลึกๆว่าคำตอบจะผิดหรือเปล่า
เกิดราคาพุ่งกระฉูด พี่ป้อมก็เสียโอกาสแย่เลย
งั้นผมมาทบทวนป๋าแดงใหม่ดีกว่า
1. แนวโน้มราคาสังกะสี
อันนี้บอกยาก เพราะที่ราคาขึ้นมาก็ยังหาเหตุผลไม่เจอเหมือนกัน
ทั้งๆที่สต็อคก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าดีมานด์เยอะจัด และเยอะเกินซัพพลาย
สต็อคก็น่าจะลดลง
แถมเหมืองที่เปิดใหม่ก็ไม่ใช่น้อยๆ (ข้อมูลถึงปี 2008)
พอปี 09 จะปิดเหมืองทำให้ซัพพลายลดลงก็จะดูประหลาดไปหน่อย
อย่างไรก็ตาม ถ้าตรงนี้เราไม่รู้ก็แขวนไว้ก่อน
2. สมมติว่าราคาสังกะสีประคองตัวเองได้ในระดับนี้ ขึ้นลงกว่านี้ไม่มาก
และยืนระยะได้นานหน่อยอีกสักหนึ่งปี
แค่ราคาสังกะสีอยู่ที่เท่านี้ผมว่า จะสร้างกำไรให้ป๋าแดงมหาศาล
เพราะงวดนี้ไม่ได้ขายล่วงหน้าที่ราคาต่ำๆเหมือนคราวที่แล้ว
กำไรน่าจะเป็นพันล้านขึ้นไป
ซึ่งราคาหุ้นที่สี่พันล้านต้นๆ (19บาท) ถือว่า undervalue มากพอสมควร
แต่ถ้าราคาสังกะสีปรับตัวขึ้น ราคาหุ้นก็พุ่งปรี๊ดเหมือนใช้ไวอากร้าเลยล่ะ
หลังจากวันนั้น ผมก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนใหญ่ชี้ว่า
supply ปีนี้จะชนะดีมานด์ 320,000 ตัน
ปีหน้าก็ยังชนะอีกประมาณ 280,000 ตัน
ผมก็เลยเดาว่าราคาสังกะสีไม่น่าจะขึ้นไปมากนัก เผลอๆน่าจะเริ่มดิ่งลง
ก็เลยไม่สนใจเท่าไหร่
ที่จริงงวดนี้การที่ราคาสังกะสีขึ้นมาซะเยอะ ก็อธิบายยากเหมือนกัน เพราะสต็อคเองก็ปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ
ในแง่ความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องน่ากลัว
แต่จะน่าสนใจถ้า
1. งวดนี้บริษัททำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ราคาปัจจุบันประมาณ 2,200 เหรียญ/ตัน ทั้งหมดที่ผลิตได้ หรืออย่างขี้เหร่ก็สักครึ่งหนึ่ง
2. ทำสัญญาที่ราคานี้ทั้งปี 2553 หรือจะลากปี 2554 ด้วยก็ยิ่งดี
3. การทำสัญญานี้เป็นเรื่องเป็นไปได้ เพราะราคาล่วงหน้าถึงที่ 3 เดือน 15 เดือน 27 เดือน ก็อยู่ในช่วงราคานี้ทั้งนั้น
http://www.lme.co.uk/zinc.asp
คราวที่แล้วขนาดบริษัทขายล่วงหน้าที่ 1,600 เหรียญ/ตัน กำไรยังงามขนาดนั้นเลยครับ :lol:
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 12, 2009 2:53 pm
โดย hmunoi
ขอบคุณพี่หมอสามัญชนมากฮับ
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 12, 2009 5:45 pm
โดย sorawut
ขอบคุณพี่หมอมากๆครับ
ซื้อหุ้นวัฐจักรจ๋าๆนี่เหมือนเล่นกับไฟเลยครับ
บินเล่นล้อไฟอยู่ดีๆ จู่ๆลมที่ไหนพัดมาไม่รู้
ไฟลุกไหม้ปีกเรา ตกไปตายอนาถ
ผมรู้ตัวว่าไม่สามารถตาม และคำนวณทิศทางลมได้
ขอชื่นชมอยู่บนพื้นแล้วกันครับ :lol: :lol: :lol:
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 12, 2009 6:25 pm
โดย phoncu
เข้ามาปูเสื่อเก็บความรู้ด้วยคนครับ

ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 13, 2009 11:04 am
โดย hmunoi
ขอชื่นชมพี่หมอสามัญชนนะครับ
ไม่ทราบว่าพี่หมอมีพื้นฐานทางด้านโลหะหรือป่าวครับ
เพราะรู้ราคาละเอียดทีเดียวเลยครับ
พี่หมอจะถามน้องๆบ่อยๆว่าโพสไหม
ผมก็เลยมาโพสบ้างครับ
ในเวป www.lme..co.uk
จะมีราคาหลายแบบ เช่น ราคาspot ต่อวัน, ต่อเดือน
forward price รายเดือน, รายไตรมาตร, รายปีก็มีนะครับ
ซึ่งผมว่าคล้ายฟิวเจอร์ก็สามารถใช้คาดคะเนราคาและแนวโน้มได้ครับ
ตลาดการค่าโลหะใหญ่ๆมี 3 ที่ ครับ
- London Metal Exchange (LME)
- Newyork
- Singapore
จากความคิดผมคนเดียวนะครับ
สังกะสีใช้ในวงค่อนข้างจำกัด สักหน่อย
ไม่เหมือน ทองแดง ดีบุก นะครับ เพราะ 2 อย่างนี้ใช้ในหลายอุตสาหกรรม
เช่น อิเล็กตรอนิกส์
ส่วนเงิน และ ทอง จัดเป็น Precious Metal ไม่มีค่าถลุงครับ
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 13, 2009 11:49 am
โดย pk8
มุมมองของ Jim Rogers เกี่ยวกับ commodity เมื่อ September 12, 2008
He said the bull run in crude oil prices is not over yet and expects prices of sugar, cotton and coffee to rise sharply.
Zinc and silver prices may also witness some upside, Rogers said. He said despite the fall in gold, he is not selling the yellow metal and will buy more if it falls further."
http://sufiy.blogspot.com/2008/09/jim-r ... shine.html
ข้างล่างนี่เมื่อ Oct. 9, 2009
Commodity supplies will lag behind demand during the next 10 to 20 years, further fueling a rally in raw materials, according to investor
The commodities boom is not over and the bull market has several years to go.
Agricultural commodities are among his favorites, because demand for food, including grain and sugar, is rising in countries such as India and China. Rogers said cotton may gain as farmers produce less fiber in favor of growing biofuel crops such as corn.
Oil could reach between $150 and $200 a barrel, because known reserves of crude are declining
The supply of everything continues to decline, Rogers said. If the world economy recovers, commodities will do the best, because supply is being restricted. If the world economy does not recover, commodities will still be the best place to be, because governments are printing huge amounts of money.
http://www.bloomberg.com/apps/news?pid= ... KhQFXpJujY[/quote]
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 13, 2009 12:01 pm
โดย pk8
ส่วนข่างล่างนี่เป็นมุมมองของ Goldman Sachs ครับ
Goldman Sachs notes in the oil market a slower than expected recovery in developed market demand has left global stocks at higher levels than expected, though long-dated prices have received support from OECD spare capacity drawdown on the back of solid expectations for emerging market economic growth.
To reflect this the broker leaves its 2010 average price forecast at US$90 per barrel, with prices likely to be lower early in the year but higher by the September quarter as demand returns to pre-recession levels. In 2011 the broker expects prices will average US$110 per barrel, driven by strong demand from emerging markets forcing prices higher to ration demand from developed markets once OPEC spare capacity is exhausted and non-OPEC output continues to decline.
In the natural gas market it has been stronger than expected unconventional production that has maintained supply despite a collapse in investment. This trend suggests higher production in 2010 and to reflect this Goldman Sachs has cut its NYMEX price forecast to US$6/mmBtu, down from US$7.30 previously.
If there was a similar decline in production in 2011 it would tighten the market however, meaning prices will need to move up the curve to encourage higher-cost unconventional and low-cost conventional investment. To reflect this the broker expects NYMEX prices will average US$6.50/mmBtu in 2011.
Supply availability issues are most apparent in the base metals complex, as the demand outlook is nearly the same for most metals given the urbanisation and industrialisation of emerging markets. This makes a ranking system appropriate, with Goldman Sachs putting copper in the most preferred position given its tight supply picture, following by zinc, with nickel and aluminium as the least preferred albeit with limited downside in both cases.
With the global economy expected to pick up strongly in the first half of next year base metal prices are tipped to hit new highs by the middle of 2010, with copper forecast to trade above US$8,100 per tonne and zinc at better than US$2,600 per tonne. By the end of next year prices should retreat somewhat however as growth momentum slows in the second half, while 2011 should again see prices move higher. Copper should again trade above US$8,100 per tonne that year, while zinc prices should exceed US$2,900 per tonne.
For precious metals the fact the US Federal Reserve remains on hold with respect to interest rates gives prices some additional upside room, though this trend should reverse once the US economic recovery strengthens and interest rates begin to move higher.
To reflect such a scenario, Goldman Sachs has lifted its 3, 6 and 12-month gold price forecasts to US$1,200, US$1,260 and US$1,350 per ounce respectively, which implies a 2010 average price forecast of US$1,265 per tonne and a 2011 average of US$1,425 per tonne. Near-term risk is to the upside in its view, with an earlier than expected tightening of US monetary policy the major downside risk through 2010 and 2011.
In the agricultural commodities Goldman Sachs notes weather remains the primary driver of prices given its impact on the supply side, this despite significant investment in seed technology. If it is assumed there is a return to more normal growing conditions in the coming year that leaves corn best placed for upside in its view given low inventories and high energy prices.
For soybeans, production in South America is expected to improve, so alleviating the threat of supply side issues. In wheat Goldman Sachs sees little upside given a combination of ample supply and a relatively lacklustre demand outlook. Having been the star performer over the past year or so, the broker now sees downside risk to sugar prices over the next year and beyond.
http://www.stockhideout.com/market-news ... igher.html
ส่วนนี้เครดิตคุณ nanchan ครับ
ขอเรียนถามหมอสามัญชนเรื่องหุ้นวัฏจักรครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ธ.ค. 13, 2009 4:47 pm
โดย HENDRIX
เห็นพี่หมอใจดี ผมเลยจะถามบ้าง
1. ข้อแรก พี่หมอขยายความอันนี้ให้หน่อยครับ ผมเข้าใจว่าเหมือนคุณโยสอนให้ลืมต้นทุนใช่หรือเปล่าครับ
ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนครับว่าผมไม่เชี่ยวชาญเรื่องหุ้นเรือ
แถมเคยขาดทุนจากหุ้นเรือด้วย หรืออาจจะได้กำไรก็ไม่แน่ใจ
2 . หากมองย้อนกลับไปในการลงทุนหุ้นเรือ พี่หมอคิดว่าผิดพลาดตรงไหน นอกจากที่มีหนี้สูงจึงตัดสินใจลงทุนช้าไป แล้วยังมีด้านอื่นไหมครับที่ทำให้ไม่เป็นไปตามที่คาด เช่นในแง่อุปสงค์ อุปทานของกองเรือ
3. จากตัวอย่างหุ้นเรือ พี่หมอเลิกลงทุนจังหวะไหนครับ มีอะไรที่ทำให้รู้ว่าผิดคาด
4 . หุ้นทั้งกระดานพี่หมอดูยังไงว่าตัวไหนจะเข้าสู่ขาขึ้น แบบว่ากรองหุ้นยังไงครับว่าตัวไหนเริ่มน่าสนแล้วและพี่หมอใช้ PBV ประกอบไหมครับ
ขอบคุณครับ