หน้า 1 จากทั้งหมด 1

การรับรู้รายได้ของคอนโด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 25, 2009 7:28 am
โดย อะไรดีละ
เคยสงสัยไหมครับ...
ทำไมคอนโดของ SPALI และ LPN  จึงรับรู้รายได้เมื่อโอน
แต่คอนโดของ NOBLE และ CI  จึงรับรู้รายได้ตามเปอร์เซนต์การก่อสร้าง
มันต่างกันตรงไหน

NOBLE บอกว่า  เขาไม่ต้องการลูกค้าที่เป็นนักเก็งกำไร  ก็เลยเก็บเงินดาวน์เยอะถึง 30% นั่นละจุดต่าง
เพราะ บริษัทที่เก็บเงินดาวน์สูงกว่า 20% ขึ้นไป  จึงจะสามารถลงบัญชีรับรู้รายได้ตามเปอร์เซนต์การก่อสร้างได้

ขณะที่ SPALI และ LPN  ยินดีต้อนรับลูกค้าทุกประเภท  เก็งกำไร  ลงทุน  อยู๋เอง ....  เก็บเงินดาวน์ไม่ถึง 20% แน่ๆ  

ผมพลาดเรื่องของ PRECHA ตรงการรับรู้รายได้คอนโดฯ ก็ตรงจุดนี้ละครับ
คอนโดฯ ของที่นี่เก็บค่าทำสัญญา รวม เงินดาวน์  แค่ราว 13% เท่านั้นเองละครับ...ที่เหลือก็จ่ายตอนโอน  
ดังนั้นจึงรับรู้รายได้เมื่อโอนครับ  
:)

การรับรู้รายได้ของคอนโด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 25, 2009 9:14 am
โดย nasesus
แสดงว่า noble ci กลุ่มผู้ซื้อ คือซื้อจริง เอาจริงๆ ถ้าทิ้งก็เจ็บจริง งั้น backlog ของสองตัวนี้ก็คุณภาพกว่า คุณอะไรดีล่ะจะว่าอย่างนั้นใช่มั้ยครับ


ปล.แต่ตอนผมเป็นผู้ถือหุ้นครับมีทั้งสองตัวแหละ ซื้อจริง โดนจริง ถ้าขายทิ้งก็เจ็บจริงๆครับ ฮ่าๆๆ

การรับรู้รายได้ของคอนโด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 25, 2009 9:15 am
โดย Linzhi
ผมเคยสงสัยเหมือนกันว่า ทำไม PS เก็บดาวน์แค่ 10 % เอง

เก็บดาวน์มากดีกว่าอยู่แล้ว ในแง่ได้ลูกค้าที่มีคุณภาพ แต่มีเหตุผลอื่นมั๊ยครับ?

การรับรู้รายได้ของคอนโด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 25, 2009 9:18 am
โดย nasesus
ผมว่าการรับรู้รายได้ตามการก่อสร้าง ทำให้เราเห็นกำไรแต่ละไตรมาสค่อนข้างเดินราบเรียบกว่า ส่วนที่รับรู้เมื่อโอน ต้องคอยจังหวะซื้อช่วงไตรมาสที่กำไรน้อยหรือขาดทุน แต่ยังไงก็ตามผมว่า backlog ของบริษัททั้งสองแบบ มีคุณภาพพอๆกันแหละครับ จะให้ ps ไปเก็บแพงๆก็ไม่ได้เพราะเน้นบ้านราคาถูก เค้าเก็บตอนจองน้อยก็ถูกต้องแล้วครับ

การรับรู้รายได้ของคอนโด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 25, 2009 10:00 am
โดย gold saint
อืม แต่ผมลองดูใน หมายเหตุประกอบงบการเงิน Q2/2009 ของ LPN ข้อ 3.11 ระบุไว้ดังนี้
การรับรู้รายได้และค่าใช้จ่าย:
รายได้จากการขายอาคารชุด     รับรู้โดยวิธีอัตราร้อยละของงานที่ทำเสร็จซึ่งจะคำนวณโดยใช้อัตราส่วนของงานที่ก่อสร้างที่เสร็จแล้ว  เปรียบเทียบกับต้นทุนทั้งหมดที่ประมาณไว้ โดยบริษัทฯ จะเริ่มรับรู้รายได้เมื่อมีการทำสัญญาจะซื้อจะขายไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของโครงการที่เปิดขาย และรับชำระเงินเกินกว่าร้อยละ 20 ของแต่ละสัญญา และงานพัฒนา  และงานก่อสร้างได้ผ่านขั้นตอนเบื้องต้นแล้ว ไม่น้อยกว่าร้อยละ   10   ของงานก่อสร้างของแต่ละโครงการ     ทั้งนี้บริษัทฯ จะหยุดรับรู้รายได้ทันทีเมื่อผู้ซื้อผิดนัดชำระเงินเกินกว่า  3 งวดติดต่อกัน  และอัตราส่วนงานที่ทำเสร็จสูงกว่าเงินค่างวดที่ถึงกำหนดชำระ

เอ แต่ที่คุณ "อะไรดีล่ะ" บอกว่า LPN รับรู้รายได้เมื่อโอน ซึ่งผมอยากรู้ว่าดูจากข้อมูลที่ไหนครับ

การรับรู้รายได้ของคอนโด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 25, 2009 10:01 am
โดย อะไรดีละ
nasesus เขียน:แสดงว่า noble ci กลุ่มผู้ซื้อ คือซื้อจริง เอาจริงๆ ถ้าทิ้งก็เจ็บจริง งั้น backlog ของสองตัวนี้ก็คุณภาพกว่า คุณอะไรดีล่ะจะว่าอย่างนั้นใช่มั้ยครับ


ปล.แต่ตอนผมเป็นผู้ถือหุ้นครับมีทั้งสองตัวแหละ ซื้อจริง โดนจริง ถ้าขายทิ้งก็เจ็บจริงๆครับ ฮ่าๆๆ

ก็ไม่เชิงครับ...แต่ผมคิดว่า NOBLE, CI  มีการลงบัญชีแบบ aggressive กว่า
ซึ่งในอนาคตอาจมีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการบัญชีได้  โดยอาจเปลี่ยนมาเป็นรับรู้รายได้เมื่อโอนเท่านั้น
แบบนั้น ก็จะกระทบกับตัวเลขกำไรขาดทุนของ 2 บริษัทนี้ได้มาก
นี่อาจเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ 2 ตัวนี้ยืนที่ P/E ต่ำเกินปกติครับ

การรับรู้รายได้ของคอนโด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 25, 2009 10:04 am
โดย อะไรดีละ
[quote="gold saint"]อืม แต่ผมลองดูใน หมายเหตุประกอบงบการเงิน Q2/2009 ของ LPN ข้อ 3.11 ระบุไว้ดังนี้
การรับรู้รายได้และค่าใช้จ่าย:
รายได้จากการขายอาคารชุด

การรับรู้รายได้ของคอนโด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 25, 2009 10:12 am
โดย sak007
CI นี่หุ้นน้อยมาก
มีจำนวนหุ้นจดทะเบียนแค่ 120 ล้านหุ้นเองหรือ
มิน่าซื้อขายกันวัน ๆ แค่หลักแสนหุ้น
หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในเมือเจ้าของ
ราคาพาร์ 5 บาท บุ๊ค 8 บาท

อนาคตน่าจะมีการแตกพาร์บ้างนะ
กระจายให้รายย่อยบ้าง

การรับรู้รายได้ของคอนโด

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 25, 2009 10:50 am
โดย อะไรดีละ
sak007 เขียน:CI นี่หุ้นน้อยมาก
มีจำนวนหุ้นจดทะเบียนแค่ 120 ล้านหุ้นเองหรือ
มิน่าซื้อขายกันวัน ๆ แค่หลักแสนหุ้น
หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในเมือเจ้าของ
ราคาพาร์ 5 บาท บุ๊ค 8 บาท

อนาคตน่าจะมีการแตกพาร์บ้างนะ
กระจายให้รายย่อยบ้าง
ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นนะครับ....เดี๋ยวจะลองไปเสนอดูละกันครับ