Thai VI

แทนที่จะไปกดดันราคาหุ้นตัวเองให้ลงไป  
กลับไปกดดันราคาหุ้น อสังหาฯ ตัวอื่น ลงไปแทน
เพราะ นักลงทุนสถาบันต้องพยายามคงสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มนี้ไว้
ดังนั้น  เมื่อต้องใช้เงินถึง 660 ล้านบาทเพื่อมาซื้อหุ้นขายคืนของ SPALI
ก็เลยขายทิ้งหุ้นอย่าง QH, AP, LPN, SC และ NOBLE พลอยโดนไปด้วย
ตกกันไปตามกันตั้งแต่ 2-4%  
ขายเพชร  ไปซื้อ  พลอย  กันหรือเปล่าครับเนี่ย  อิๆๆ

ไม่เกี่ยวมั้งครับเนี่ยะ

วันนี้ฝรั่งขายกันตั้ง 2 พันกว่าล้าน คนก็ตกใจ เททิ้งกันทุกกลุ่มแหละครับ

:lovl:

   

 :?:

[quote="อะไรดีละ"]แทนที่จะไปกดดันราคาหุ้นตัวเองให้ลงไป

       

ให้ 5 ตัวเลยครับ...

[quote="picatos"]

[quote="อะไรดีละ"]แทนที่จะไปกดดันราคาหุ้นตัวเองให้ลงไป

ต่างคนต่างความคิด สู้ต่อไป ทาเคชิ

[quote="RONNAPUM"][quote="อะไรดีละ"]แทนที่จะไปกดดันราคาหุ้นตัวเองให้ลงไป

ผมแปลกใจมากๆ ที่หลายๆ คน  ไม่เข้าใจความคิดเห็นแบบนี้
มันพื้นฐานมากๆ เลยสำหรับนักลงทุนสถาบัน
เงินมันมีอยู่จำกัด  ก้อนเดียวเลย  
เมื่อจำเป็นต้องซื้อหุ้น SPALI 660 ล้านบาท  ก็จำเป็นต้องขายหุ้นอื่นออกมาเพื่อนำเงินมาซื้อตัวนี้
และ นักลงทุนสถาบันจะต้องพยายามคงสัดส่วนของหุ้นอสังหาฯ เป็นเปอร์เซนต์ของหุ้นทั้งหมดเอาไว้  ดังนั้น  การเลือกขายหุ้นอสังหาฯ ตัวอื่น จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
แล้วการขายหุ้นออกมาภายในเวลาแค่ 1-2 วัน  ในหุ้นอสังหาฯ  เพื่อให้ได้เงินมา 600 กว่าล้านบาท  ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย  นี่จึงเป็นการเร่งกดราคาหุ้นลงไป
หุ้นหลายตัวจึงตกต่ำกว่าตลาดฯ อย่างเห็นได้ชัด

การขายหุ้นที่ซื้อคืนของ LPN หากทำในลักษณะ PO แบบเดียวกัน
ก็น่ากังวลเหตุการณ์แบบนี้เช่นกันนะครับ

ปริมาณการซื้อขายหุ้นของ LPN, QH, SC  เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวเมื่อวานนี้
ปกติแล้ว  ราคาหุ้นลง  ปริมาณซื้อขายควรจะลดลง  
แต่นี่เป็นสัญญาณบอกชัดๆ ว่า...สถาบัน "จำเป็นต้องขาย"  
เพื่ออะไร....
"เพื่อนำเงินไปซื้อ  หุ้นขายคืนของ SPALI  ไงละครับ"  

งั้นผมถามคุณอะไรดีละอย่างนึงดิครับ
ถ้าเป็นแบบที่คุณอะไรดีละคิดจริง คือกองทุนจะคงสัดส่วนหุ้นอสังหาที่ถือ
ทำไม กองทุนต้องไปซื้อหุ้นที่ขายคืนตลาดของ spali ด้วยครับ

เค้าจะคงสัดส่วนอะไรกันแน่ครับ

สิ่งที่ผม Post เป็นแค่ความคิดเห็น ของผมนะครับ
(ยังไม่ใช้ข้อเท็จจริง ที่พิสูจน์ได้)

อะไรดีละ เขียน:แทนที่จะไปกดดันราคาหุ้นตัวเองให้ลงไป  
กลับไปกดดันราคาหุ้น อสังหาฯ ตัวอื่น ลงไปแทน
เพราะ นักลงทุนสถาบันต้องพยายามคงสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มนี้ไว้
ดังนั้น  เมื่อต้องใช้เงินถึง 660 ล้านบาทเพื่อมาซื้อหุ้นขายคืนของ SPALI
ก็เลยขายทิ้งหุ้นอย่าง QH, AP, LPN, SC และ NOBLE พลอยโดนไปด้วย
ตกกันไปตามกันตั้งแต่ 2-4%  
ขายเพชร  ไปซื้อ  พลอย  กันหรือเปล่าครับเนี่ย  อิๆๆ

ผมขอแสดงความคิดเห็นนะครับว่า ข้อความของคุณ อะไรดีละ เป็นแค่ความคิดเห็น หรือสมมุติฐาน ที่ ยังไม่ใช้ข้อเท็จจริง และยังไม่ได้รับการพิสูจน์ นอกจากความคิดเห็นที่ใช้ในการขยายความ ดังนี้

อะไรดีละ เขียน: ปริมาณการซื้อขายหุ้นของ LPN, QH, SC  เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวเมื่อวานนี้
ปกติแล้ว  ราคาหุ้นลง  ปริมาณซื้อขายควรจะลดลง  
แต่นี่เป็นสัญญาณบอกชัดๆ ว่า...สถาบัน "จำเป็นต้องขาย"  
เพื่ออะไร....
"เพื่อนำเงินไปซื้อ  หุ้นขายคืนของ SPALI  ไงละครับ"

ข้อความนี้ก็เป้นความคิดเห็นของคุณอะไรดีละ นะครับ


**************

ผมชอบอ่านความคิดเห็นที่คุณอะไรดีละ เขียนนะครับ เพราำะทุกคนมีมุมมองที่ต่างกัน

แต่บางครั้ง ผมว่า ความคิดเห็นที่แสดง มันมีนัยยะแฝง ความกระทบกระทั่งกันอยู่นะครับ

สิ่งที่ผม Post เป็นแค่ความคิดเห็น ของผมนะครับ

อาจเป็นได้ว่าที่กองทุนต้องการไปซื้อหุ้นขายคืนของ spali เพราะว่าถ้า spali ขายหมดจะบันทึกเป็นกำไร ทำให้ไตรมาสต่อไปจะมีกำไรส่วนนี้เพิ่มทำให้งบกำไรขาดทุนจะยิ่งดูดีขึ้นไปอีก เลยเป็นที่หมายตาของกองทุน เป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่าครับ

ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิดจริง แสดงว่าพวกกองทุนก็คิดถูก คงไม่ได้ขายเพชรซื้อพลอย เพราะว่ากำไรไตรมาสหน้าอาจเป็นตัวเร่งที่ดีก็เป็นได้ นั่นหมายถึงราคาน่าจะวิ่งขึ้นไปอีก กองทุนคงคิดว่าราคาน่าจะสูงขึ้นไปได้อีก

Cash is King ครับ

ไม่ว่าบริษัทหรือบุคคล ลงทุนทุกอย่างก็เพื่อเงินสด

เมื่อคุณอะไรดีล่ะกำลังเดาอารมณ์ของ Mr.Market

ผมว่า Mr. Market อาจจะอารมณ์ไม่ดีเพราะทะเลาะกับ Mrs. Market
สาเหตุเพราะแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย (QH, AP, LPN, SC และ NOBLE )

ปล. เดี๋ยวโดนข้อหาเชียร์หุ้นออกหน้าออกตา ผมไม่ได้มี spali แม้สักหุ้นเดียวครับ หนำซ้ำยังมี noble เต็มปอดเลยด้วยซ้ำ :lol:  :lol:  :lol:

ถ้าเป็นการโพส โดยจิตใจที่หวังดีจริงๆ ผมขอยกย่องพี่ อะไรดีล่ะ ว่า เป็นคนจริง มากๆ เพราะ รู้ๆ กันอยุ่ว่า เว็บนี้ spali ตรึม เสี่ยงสหะบาทามาก

เอาเป็นว่า ใจร่มๆ คุยกันด้วยเหตุ และผล ล่ะกันนะครับ

ส่วนตัวผม ขอเป็นผู้อ่านต่อ


เพลินดี

BeSmile เขียน:
ผมชอบอ่านความคิดเห็นที่คุณอะไรดีละเขียนนะครับ เพราำะทุกคนมีมุมมองที่ต่างกัน

แต่บางครั้ง ผมว่า ความคิดเห็นที่แสดง มันมีนัยยะแฝง ความกระทบกระทั่งกันอยู่นะครับ

สิ่งที่ผม Post เป็นแค่ความคิดเห็น ของผมนะครับ

ผมชอบอ่านความคิดเห็นที่คุณอะไรดีละ post เช่นกัน  เพราะว่ามักจะเป็นมุมที่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญ...จึงชอบมากครับ..ขอเป็นกำลังใจ

ผมไม่ได้สนับสนุนว่าสิ่งที่ post ถูกหรือผิดอย่างไร  น่าเชื่อถือเพียงใด.....เพราะแท้แล้วขึ้นอยู่กับความเชื่อและวิจารณญานของแต่ละคน  แต่เพียงการให้แง่คิดมุมมองที่ดีก็พอแล้ว  จึงน่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า

ส่วนที่บางท่านอาจเห็นแย้งติติง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผมเห็นว่า นั่นก็เป็นสิ่งที่ดี คือ เสียงสวรรค์ ที่จะทำให้เราพัฒนาครับ ก็อยากให้ทุกคนอดทนในรับฟังเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกันความเห็นที่ดี

หากขายตัวนี้   เพื่อไปซื้อตัวนั้น   เพื่อรักษาถ่วงน้ำหนัก

แล้วผู้ถือหน่วยลงทุนขายกองทุน

กองทุนก็ต้องกลับมาขายศุอีก



แบบซื้อแพง  ขายถูกประมาณนั้น

nasesus เขียน:ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิดจริง แสดงว่าพวกกองทุนก็คิดถูก คงไม่ได้ขายเพชรซื้อพลอย เพราะว่ากำไรไตรมาสหน้าอาจเป็นตัวเร่งที่ดีก็เป็นได้ นั่นหมายถึงราคาน่าจะวิ่งขึ้นไปอีก กองทุนคงคิดว่าราคาน่าจะสูงขึ้นไปได้อีก

การขายหุ้นแบบนี้ไม่บันทึกเป็นกำไรสุทธิ  ในงบกำไรขาดทุนครับ
แต่จะบันทึกเพิ่ม BV ในงบดุล  

ผม post เพื่อขยายมุมมองอีกด้าน  ที่ผมเชื่อว่าเพื่อนหลายๆ คนมองข้ามไป
ผมเชื่อโดยบริสุทธิใจเลยว่า  หุ้นอย่าง QH, LPN เมื่อวานถูกเทขาย เพื่อนำเงินไปรับ SPALI  ที่นักลงทุนสถาบัน bid ได้ราคาต่ำๆ มาในมือ  ก็เลยต้องหาแหล่งเงินเพื่อไปซื้อ  และ  QH, LPN ก็เหมาะที่สุดที่จะขายครับ

nasesus เขียน:อาจเป็นได้ว่าที่กองทุนต้องการไปซื้อหุ้นขายคืนของ spali เพราะว่าถ้า spali ขายหมดจะบันทึกเป็นกำไร ทำให้ไตรมาสต่อไปจะมีกำไรส่วนนี้เพิ่มทำให้งบกำไรขาดทุนจะยิ่งดูดีขึ้นไปอีก เลยเป็นที่หมายตาของกองทุน เป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่าครับ

รู้สึกจะไม่ได้รับรู้เป็นกำไรขาดทุนนะครับ แต่น่าจะไปเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นแทน

[quote="อะไรดีละ"]ปริมาณการซื้อขายหุ้นของ LPN, QH, SC

.
 

ขายเพชร  ไปซื้อ  พลอย  กันหรือเปล่าครับเนี่ย  อิๆๆ

.
 ผมว่าดูถูกผู้บริหารกองทุนเกินไปหน่อยนะครับ
.
   

เมื่อจำเป็นต้องซื้อหุ้น SPALI 660 ล้านบาท  ก็จำเป็นต้องขายหุ้นอื่นออกมาเพื่อนำเงินมาซื้อตัวนี้

.
 ผมว่าถ้าหู้นไม่ดีกองทุนก็ไม่จำเป็นต้องซื้อนี่ครับ ?
.

ตอนให้ bid ราคากัน  SPALI อาจยืนที่ 6 บาทครับ
นักลงทุนสถาบันหวังเอากำไรส่วนต่างตรงนี้  ก็ bid เข้าไป  ใครละจะนึกว่าได้กันมาอย่างง่ายๆ ที่ 5.55
พอยืนยันว่าได้หุ้นแน่...ก็ต้องหาเงินมาจ่ายค่าหุ้น  
แล้วจะทำไง  ขาย SPALI ที่ถืออยู่ก็ไม่พอ  ก็เลยต้องไปไล่ขายตัวอื่นด้วย
ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดามากๆ นะครับ

อะไรดีละ เขียน:

การขายหุ้นแบบนี้ไม่บันทึกเป็นกำไรสุทธิ

ผมยังกังวลต่อเนื่องไปถึง  การขายหุ้นของ SIRI  ด้วย
ถ้าหากเปลี่ยนจาก PP มาเป็น PO  จะมีผลกระทบอย่างหนักต่อหุ้น อสังหาฯ ตัวอื่นๆ  
เพราะต้องใช้เงินถึงกว่า 6 พันล้านบาทเลย สำหรับการเพิ่มทุนคราวนี้