Thai VI

ระหว่างสามอย่างนี้(เรียงลำดับความสำคัญ)
1.งบการเงินของบริษัท
2.ธุรกิจในกลุ่มนั้นๆ
3.ภาพรวมเศรษฐกิจ

ไม่มีอะไรตายตัวครับ

ถ้าภาพรวมเศรษฐกิจพัง ทุกอย่างก็กระทบกันเป็นลูกโซ่
ถ้าบริษัทอยู่ในธุรกิจที่ไม่ดี ก็ยากที่จะทำกำไรได้งดงาม
ถ้าตัวบริษัทเองยังเอาตัวเองไม่รอด ก็ต้องเผ่น

สรุปในฐานะผู้ถือหุ้น งบการเงินสำคัญที่สุด แต่ผู้บริหารบริษัทนั้นสำคัญกว่า  :lol:   :lol:

ผมว่ามันต้องผสมๆกันอ่ะคับ แต่ถ้าส่วนตัวผมให้น้ำหนัก ธุรกิจในกลุ่มนั้นๆก่อนครับ เพราะถ้าแนวโน้มธุรกิจในอนาคตไม่ดี ต่อให้งบการเงินสวยหรูก็เหมือนตะวันกำลังจะตกดิน
ในทางตรงข้ามถ้าแนวโน้มธุรกิจดี งบการเงินน่าจะเป็นตัวถัดมาที่จะมานั่งเฟ้นครับว่าบริษัทนั้นๆเป็นอย่างไร น่าลงทุนไหม
สุดท้ายแนวโน้มเศรษฐกิจภาพรวมผมกลับเฉยๆนะเพราะมองว่ามันเหมือนกงล้อที่มันหมุนไปมา มีขึ้นมีลงเป็นธรรมดาครับ
 :D

สนใจอะำไรก็ตามที่จะทำให้เราประเมินมูลค่าที่แท้จริงได้ครับ

อาจจะทั้งหมดนั้นเลย หรือแค่งบอย่างเดียวก็ำได้
ขึ้นอยู่กับว่าเก่งอะำไร

บางคนเก่งงบมาก แค่อ่านงบก็รู้ไส้รู้พุงบริษัท คาดการณ์แนวโน้มได้เป็นปี ๆ เลยทีเดียวครับ

พื้นฐานธุรกิจที่ดี ประกอบธุรกิจอยู่ในส่วนที่มีคูคลองป้องกันการรุกล้ำของคู่แข่ง (DCA)

งบการเงินเป็นแค่ส่วนประกอบหล่ะครับ

newbie_12 เขียน:พื้นฐานธุรกิจที่ดี ประกอบธุรกิจอยู่ในส่วนที่มีคูคลองป้องกันการรุกล้ำของคู่แข่ง (DCA)

งบการเงินเป็นแค่ส่วนประกอบหล่ะครับ

เท่าที่ผมเคยอ่านมาเกี่ยวกับการเลือกหุ้นของปรามาจารย์ VI ก็ตามนี้เลยครับ
งบการเงินเอาไว้ตอกย้ำความเป็น super stock

Isabuy เขียน:ระหว่างสามอย่างนี้(เรียงลำดับความสำคัญ)
1.งบการเงินของบริษัท
2.ธุรกิจในกลุ่มนั้นๆ
3.ภาพรวมเศรษฐกิจ

ถ้าเป็นผมนะครับ
1 ธุรกิจในกลุ่มนั้นๆ อยากได้ธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง
2.งบการเงินของบริษัท แสดงถึงสุขภาพของบริษัทนั้น
3.ภาพรวมเศรษฐกิจ ถ้าบริษัทดี จะมีแรงทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจได้ดีครับ

ตัวบริษัท.... จบข่าว