หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 03, 2004 9:47 am
โดย ลูกอิสาน
กสิกรไทย ล้างขาดทุน เล็งจ่ายปันผล

'บัณฑูร'จี้รัฐเร่งสางปัญหาใต้ ห่วงกระทบธุรกิจ ยึดแนวทางเพิ่มขนาดแบงก์ ถือ100% ในธุรกิจหลักทรัพย์ เช่าซื้อ ลิสซิ่ง

ธุรกิจแบงก์ในปัจจุบันมีกรอบที่ใหญ่ขึ้นมีโอกาสทางธุรกิจที่สถาบันการเงินสามารถเดินได้หลายรูปแบบ ความจำเป็นต้องควบรวมหรือซื้ออะไรเข้ามาถือว่าเป็นการลงทุนทางธุรกิจที่จะต้องพิจารณาว่าได้ผลกลับมาเป็นผลที่ดีโดยทิศทางของอุตสาหกรรมการเงินมีทิศทาง จะรวมกันมากกว่าที่จะแยกกันอยู่ แต่การรวมจะต้องมีข้อดีและมีภาระที่จะต้องจัดการต่อไป? นายบัณฑูร กล่าว

นายบัณฑูร กล่าวว่า ธุรกิจที่ธนาคารมีความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนเพิ่ม ได้แก่ ธุรกิจที่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ในอดีต เนื่องจากกฎหมายไม่อนุญาตให้ทำ เช่น ธุรกิจหลักทรัพย์, ธุรกิจเช่าซื้อและลิสซิ่ง หรือการจัดจำหน่ายหุ้น ซึ่งการจะเข้าไปลงทุนในธุรกิจเหล่านั้น ธนาคารจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 100% ส่วนธุรกิจที่ธนาคารเคยถือไว้อยู่ เช่น บริษัท ภัทรลิสซิ่ง ที่ธนาคารถือหุ้น 70% ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะซื้อเพิ่มหรือขายออกไปทั้งหมด โดยจะต้องขึ้นอยู่กับราคาและผลที่ได้จากธุรกิจ
อาจจะเป็นข่าวดี หรือข่าวร้ายของ PL ก็ได้ครับ ข่าวดี KBANK อาจจะซื้อ PL
ข่าวร้าย KBANK อาจจะตั้งหรือซื้อธุรกิจใหม่ ที่เป็นคู่แข่ง PL และอาจจะขาย PL ทิ้ง
เพื่อนๆ ที่ถือ PL มองประเด็นนี้อย่างไรบ้างครับ
ผมสงสัยว่า KBANK ถือ PL 70% จริงหรือเปล่าครับ เพราะึเคยดูถืออยู่แค่ 10 % เท่านั้นเอง... :roll:

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 03, 2004 2:55 pm
โดย สามัญชน
นั่นสิครับที่จำได้มีไม่ถึง 10 % นี่นา ก็เลยลองไปดูใหม่
ล่าสุดเมื่อ 09/01/04 ปรากฎรายชื่อผู้ถือหุ้นดังนี้ครับ

ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)............2,523,300.......8.41 %
บริษัท ภัทรประกันภัย จำกัด (มหาชน).........2,400,000.......8.00 %
บริษัท สมบัติล่ำซำ จำกัด..........................2,280,000.......7.60 %
บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด..............2,000,000.......6.67 %
บริษัท จุลินทร์วงศ์ จำกัด..........................1,200,000........4.00 %
นาง อำนวย มาลยเวช..............................1,000,000........3.33 %
บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด........................816,400........2.72 %
นาย บรรยงค์ ล่ำซำ....................................720,000........2.40 %

ที่เหลือมีคนละไม่ถึง 2 %

คุณลูกอีสานไปเจอข่าวนี้จากที่ใหนครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 03, 2004 4:29 pm
โดย ลูกอิสาน
ผมนำมาจากกรุงเทพธุรกิจครับ

ผมดูจากรายชื่อผู้ถือหุ้น คาดว่าเป็นกลุ่มกสิกร ถือหุ้นอยู่ประมาณ 30-40% ของหุ้นทั้งหมดครับ รวมทั้งคุณบัณฑูร ด้วย

หลังจากมีแผนแม่บทการเงินฉบับใหม่ อนุญาติให้แบงค์ทำธุรกิจที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ทำให้หลังจากนี้คงมีการซื้อ-ขาย กิจการในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเงินเกิดมากขึ้นครับ เช่น บริษัทประกันชีวิต-ประกันภัย นายหน้าหลักทรัพย์ เช่าซื้อ ส่วนธุรกิจเงินทุน คงจะค่อยๆ หายไปครับ เหมือนข่าวด้านล่างครับ
แบงก์กรุงศรีฯปรับทิศบง. รุกธุรกิจเช่าซื้อรถ-เครื่องจักร

แบงก์กรุงศรีอยุธยา เตรียมปรับเปลี่ยน "บง.กรุงศรีอยุธยา" บริษัทไฟแนนซ์ในเครือ รุกทำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์หรือเครื่องจักร คาดรายละเอียดแผน จะได้ข้อสรุปใน 1-2 เดือนนี้ ขณะเดียวกัน ย้ำในปีนี้ธนาคารยังไม่มีแผนเพิ่มทุนในปีนี้ เนื่องจากเงินกองทุนยังเพียงพอต่อการขยายธุรกิจ
ข่าวนี้น่าจะมีผลดีต่อ PL ครับ เพราะหากมีการซื้อจริง อาจจะมีการให้ราคาสูงกว่ากว่าราคาตลาด เพราะ PL ค่อนข้างซื้อขายกันอยู่ที่ราคาต่ำที่พีอีประมาณ 7.5 เท่า ของกำไรปีนี้

สำหรับข้อด้อยของ PL น่าจะเป็นฐานทุนที่ค่อนข้างต่ำ ทำให้ D/E ค่อนข้างสูงครับ มีโอกาสที่จะมีการเพิ่มทุนครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 03, 2004 4:39 pm
โดย คนเรือ VI
อันนี้ผมขอแสดงความเห็นว่า ถ้า kbank ไม่ซื้อเอง ก็คงต้องขายให้กับ bankอื่นนะครับ PL คงจะหายไปเป็น unit หนึ่งของแบงค์อื่นมากกว่าครับ การเพิ่มทุนไม่น่าจะจำเป็นครับ น่าจะได้เห็น tender offer มากกว่าครับ

แต่ผมเองไม่คิดว่า จะมี premium มากนักครับ เพราะเป็น friendly takeover ครับ

อันนี้เป้นแค่ความเห็นครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 03, 2004 5:13 pm
โดย นักดูดาว
แบงก์กรุงศรีฯปรับทิศบง. รุกธุรกิจเช่าซื้อรถ-เครื่องจักร

แบงก์กรุงศรีอยุธยา เตรียมปรับเปลี่ยน "บง.กรุงศรีอยุธยา" บริษัทไฟแนนซ์ในเครือ รุกทำธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์หรือเครื่องจักร คาดรายละเอียดแผน จะได้ข้อสรุปใน 1-2 เดือนนี้ ขณะเดียวกัน ย้ำในปีนี้ธนาคารยังไม่มีแผนเพิ่มทุนในปีนี้ เนื่องจากเงินกองทุนยังเพียงพอต่อการขยายธุรกิจ
แบ่งเค้กกันใหญ่เลย หุๆๆ ตอนนี้นับลิซซิ่งรถยนต์ได้เยอะมากครับ NFS KK TISCO SICCO SPL NVL SCAN PL TK MIDA THANI นอกตลาดก็มี GE Capital และอื่นๆอีกมากมาย หมดหรือยังเนี่ย หุๆๆ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 04, 2004 1:14 am
โดย toon
พี่ลูกอีสาน ผมว่าข่าวดังกล่าวไม่น่าจะมีผลทั้งด้านดีและด้านลบนะ เพราะธุรกิจลิสซิ่งที่ธนาคารพูดถึงผมว่าน่าจะหมายถึงการเช่าซื้อรถส่วนบุคคลนะครับ ซึ่งธุรกิจดังกล่าว pl มีน้อยเพราะเน้น การให้เช่ารถกับบริษัทและองค์กรมากกว่า ซึ่งถ้าเราคิดในแง่ของการที่ ธนาคารควบรวมผมว่าก็น่าจะเป็นผลดีกับผู้ถือหุ้น pl นะครับ แต่ไม่แน่อาจจะไม่ซื้อคืนหุ้นทั้งหมดก็ได้ และภายหลังซื้อคืนธนาคารก็น่าจะขยายธุรกิจ pl ไปสู่การเช่าซื้อส่วนบุคคลมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีกับผู้ถือ pl ที่มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ back up อยู่ หรือแม้แต่หาก kbank จะขายหุ้นทั้งหมดทิ้ง ตามความคิดเห็นผมนะ ผมว่า kbank ก็อาจจะตั้งบริษัทใหม่ขึ้นหรือไป take บริษัทอื่นๆ มา แต่ผมว่าบริษัทดังกล่าวน่าจะไปเน้นธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ส่วนบุคคล มากกว่าจะให้เช่ารถแก่บริษัทต่างๆ เหมือน pl นะครับ เพราะ เช่าซื้อส่วนบุคคลตลาดใหญ่กว่ามาก ถ้าหากเป็น
อย่างที่ผมคิด ผมว่า pl เองก็ยังสามารถให้บริการเช่ารถแก่ kbank ได้อยู่ดี ผมว่าข้อได้เปรียบสำคัญของ pl ต่อคู่แข่งรายอื่นที่เข้ามาสู่ ธุรกิจการให้เช่ารถ นั่นก็คือ การบริการต่างๆ การจัดหาอู่ซ่อม การให้ความช่วยเหลือเมื่อรถเสีย ผมว่าสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญมากสำหรับธุรกิจการให้เช่ารถแก่บริษัทต่างๆ
นอกจากนี้หากคิดในแง่ที่ kbank ต้องการจะมาเล่นในตลาด ให้เช่ารถแก่บริษัท แบบ pl จริงๆ ผมคิดหาเหตผลไม่ออกว่า ถ้า kbank ต้องการอย่างนั้นจริงๆ ยิ่งต้อง take pl ใหญ่เลย เพราะ kbank เองก็มีหุ้นอยู่แล้ว การเจรจาขายหุ้นกับ pl ก้คนรู้จักกันทั้งนั้น และประสิทธิภาพการทำงาน การให้บริการ ในธุรกิจ ของpl ก็ทำได้ดีอยู่แล้ว
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามที่ผมวิเคราะห็ก็คงไม่โทษกันนะครับ
ปล. pl คงไม่เพิ่มทุนหรอกพี่ลูกอีสาน(ยกเว้นกรณีที่ถูกtake over) เพราะเขามีโครงการออกหุ้นกู้ไว้แล้ว


ขอนอกเรื่องนะครับพี่ลูกอีสาน คืออยากขอความคิดเห็นเกี่ยวกับ SITHAI พี่ว่ากิจการเขา ถ้าตัดเรื่องที่ว่าราคาพลาสติกสูง แล้วทำให้ต้นทุนการผลิตของเขาสูงออกไป ดูแค่ความสามารถในเชิงแข่งขันในธุรกิจ เมลามีนกับพลาสติกของเขา พี่คิดว่าเขาเก่งใหมครับ สู้กับบริษัทในธุรกิจเดียวกันได้รึเปล่า และ brand ของเขาพี่ว่ายังคงแข่งแกร่งเหมือนในอดีตใหมครับ ไม่ทราบพี่พอจะรู้ประวัติผู้บริหารของเขาที่ ชื่อ สนั่น อังอุบลกุล ใหมครับ อยากรู้ว่าเขาจบที่ไหน เคยทำงานที่ใดมาก่อน มีความสามารถแค่ใหนในธุรกิจพลาสติกและเมลามีนที่เขาบริหารอยู่

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 04, 2004 11:57 am
โดย ลูกอิสาน
นายสนั่น อังอุบลกุล ตำแหน่ง : กรรมการ และกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อายุ 58 ปี
คุณวุฒิการศึกษา : ปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัย Oglethorpe, Atlanta, Georgia, U.S.A.
ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการตลาด
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ปริญญาบัตร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 3
การอบรม : หลักสูตรสำหรับประธานกรรมการ 2000 รุ่นที่ 4/2001
จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
ประสบการณ์การทำงาน : ปี 2515 ปัจจุบัน บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
การถือหุ้นในบริษัท : 33,287,929 หุ้น (ณ 31 ธันวาคม 2546)

ท่านเพิ่งแต่งงานได้ไม่นานครับ คงเป็นเพราะทุ่มเทเวลาให้กับงานมากครับ :D

Sithai มีธุรกิจหลักๆ คือผลิตภัณฑ์เมลาลีน -พลาสติก-แม่พิมพ์ ผมมองว่าธุรกิจเมลาลีน บริษัทน่าจะมีความสามารถในการแข่งขันครับ คู่แข่งที่ผลิตสินค้าระดับเดียวกันมีน้อย แต่ธุรกิจพลาสติก มีคู่แข่งเยอะมากครับ ทั้งที่ผลิตในแบรนด์เอง และ OEM ธุรกิจอย่างนี้คงทำกำไรมากๆ ได้ยากครับ


ส่วน PL ซึ่งเป็นผู้ให้บริการที่ใหญ่ที่สุดในตลาด ให้เช่ารถต่อนิติบุคคล ผมมองว่าทั้ง KBANK และ PL คงไม่เข้าไปเล่นในตลาดเช่าซื้อบุคคลธรรมดาครับ เพราะมีคู่แข่งค่อนข้างเยอะ คงขยายกิจการปัจจุบันมากกว่า และเห็นด้วยว่าหาก KBANK ต้องซื้อ น่าจะพิจารณา PL เป็นอันดับแรกแน่นอน
ปล. pl คงไม่เพิ่มทุนหรอกพี่ลูกอีสาน(ยกเว้นกรณีที่ถูกtake over) เพราะเขามีโครงการออกหุ้นกู้ไว้แล้ว
ประเด็นนี้ ุผู้ถือหุ้น PL คงต้องให้ความสำคัญครับ เข้าใจว่า D/E ปัจจุบัน ประมาณ 3 เท่า ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง บริษัทขออนุมัติผู้ถือหุ้นออกหุ้นกู้อีกไม่เกิน 5000 ล้าน ซึ่งอาจจะมีปัญหาในการขายเพราะ หุ้นกู้มักมีเงื่อนใขให้ดำรงสัดส่วน D/E ที่ไม่ให้สูงเกินไป จนเป็นความเสี่ยงต่อผู้ถือหุ้นกู้ครับ :roll:

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 04, 2004 2:01 pm
โดย toon
ขอบคุณสำหรับข้อมูลคุณ สนั่น อังอุบลกุล นะครับ ผมพยายามหาข้อมูลท่านตั้งนาน แต่หาไม่เจอสักที ข้อมูลพี่ลูกอีสาน แน่นจริงๆ ครับ

ผมยังคงมั่นใจนะพี่ ว่า pl ไม่น่าจะเพิ่มทุนนะ การที่เขามี d/e ที่สูง เกิดจากการที่บริษัทไปกู้เงินมาเพื่อซื้อสิทรัพย์ในที่นี้ ก็คือ รถยนต์ และนำรถยนต์ที่ได้มาปล่อยให้เช่าแก่กิจการ โดยที่ราคาค่าเช่าตลอดอายุการใช้งานของรถ จะเท่ากับ เงินที่ใช้ซื้อรถ + ต้นทุนต่างๆ ของบริษัทเช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าบริการของบริษัท + กำไรที่ต้องการของบริษัทนะครับ ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้จัดได้ว่าเป็นการให้เช่าซื้อประเภทหนึ่ง ( จำได้จากที่เคยเรียนมาเกี่ยวกับ Finance ) แต่จะแตกต่างจากกรณีการให้เช่าซื้อของบุคคล ฉะนั้นผมคิดว่าน่าจะพอเปรียบเทียบกับบริษัทเช่าซื้อทั่วไปที่อยู่ในตลาดได้ ซึ่งหากเราดูบริษัทเช่าซื้อในตลาดหลายๆ ตัวก็มักมี d/e ที่สูงนะครับ
ปล. ตอนนี่พี่ลูกอีสานกำลังจ้องตัวไหนอยู่ครับ พอจะชี้แนะเป็นแนวทางบ้างได้ใหมครับ ตอนนี้ผมสะสมกำลังไว้เป็นกะตัก เห็นบริษัทที่มั่นใจหลายบริษัทราคาตกลงมามาก แต่พอเห็น p/e เกิน10 ทีไร ใจไม่สู้สักที กลัวต้องไปอยู่บนดอย เลยคิดแต่ว่า ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม :lol: :lol:

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 05, 2004 12:01 pm
โดย สามัญชน
วันนี้ผมโทรไปถามคณะกรรมการบริหารท่านหนึ่งของ PL ว่า " เห็นข่าวคุณบัณฑูรบอกว่าอาจจะ take over PL หรือขายทิ้งทังหมด ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรแน่ " ได้คำตอบว่า " ผมยังไม่ทราบเรื่องเลยครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็จะต้องมีการประชุม แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกที ( แจ้ง กลต. )"

เมื่อไม่ได้ผลทางนี้ผมก็เลยมาคิดเองว่า ใครหรือฝ่ายใหนจะเป็นผู้ได้ประโยชน์ถ้ามีการซื้อหรือขาย PL และใครเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ

ก่อนอื่นเมื่อพิจารณาธุรกิจของ PL ผมมองว่าเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรมาก ( ROE ประมาณ 20 % ) และมีอัตราการเติบโตที่สูงและมีอนาคตในระยาวอีกหลายๆปี น่าจะเป็นที่หมายปองของแทบทุกฝ่าย

ทีนี้ในมุมมองของฝ่าย kbank จะได้อะไรถ้าซื้อ PL ไปทั้งหมด

1. เป็นการขยายปริมาณและประเภทของธุรกิจออกไปให้ใหญ่มากขึ้น ถ้าขายออกไปแล้วตั้งบริษัทขึ้นใหม่ ก็จะต้องไปแข่งกับ PL เดิมซึ่งไม่น่าจะดี

2. kbank เองเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง PL ขึ้นมาและให้แยกออกมาเป็นบริษัทต่างหากโดยเจตนาที่จะมอบภาระงานด้านยานยนต์ออกไปจาก kbank เพื่อความคล่องตัวแทนที่จะให้เป็นหน่วยยานยนต์ใน kbank ซึ่งอาจจะเป็นภาระมากกว่า

3.และเมื่อแตกออกมาเป็นบริษัทจำกัดแล้ว ก็สามารถประกอบธุรกิจลิสซิ่งได้ และสร้างผลกำไรได้มากกว่าเป็นหน่วยยานยนต์ของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง โดยสาเหตหลักอีกอย่างหนึ่งน่าจะเป็นเพราะ KBANKเอง( เดิมที )ไม่สามารถทำธุรกรรมประเภทลิสซิ่งได้ เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

4.เมื่อเปิดโอกาสให้ bank สามารทำธุรกรรมได้มากขึ้นผมเดาว่าโดยวิญญาณนักธุรกิจเมื่อเห็นโอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว ถ้าไม่เอาก็ไม่ใช่นักธุรกิจ ส่วนจะเอาที่ราคาเท่าไหร่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

5.คุณบัณฑูรให้สัมภาษณ์ว่า " ธุรกิจใดก็ตามถ้าทำแล้วมีพลังให้ส่งเสริมให้การบริการดีขึ้น ก็ควรจะทำ แต่ถ้าทำแล้วอุ้ยอ้าย ไม่สามารถแก้ปัญหากับลูกค้าได้ก็ไม่ควรทำแต่โลกธุรกิจการเงินในปัจจุบันถ้าเล็กไปจะยืนไม่อยู่? " ผมเดาว่าเขาอยากได้ PL แต่ขอในราคาถูกๆ

ทีนี้มุมมองฝ่าย PL

1.ผมคิดว่าผู้ถือหุ้นรู้นะครับว่า PL เป็นบริษัทที่ดีและมีอนาคต และราคาซื้อขายปัจจุบันเป็นราคาที่ต่ำมาก

2.ถ้ามีคนขอซื้อในราคานี้ผมว่าเขาไม่อยากขาย ( ใช้ข้อมูลล่าสุด 09/01/04 ว่ากลุ่ม kbank ถือหุ้นไม่ถึง 50 % )

3.แต่ถ้าไม่ขายเลยแล้วเกิดยักษ์ใหญ่อย่าง kbank เปิดบริษัทใหม่มาสู้ แน่นอนว่าผลกำไรขั้นต้นของ PL ตกลงแน่ และลูกค้าอย่าง kbank ก็ต้องหายไปด้วย

4.จุด win-win น่าจะอยู่ที่ freindly takeover สมประโยชน์รายใหญ่ทุกฝ่าย

ส่วนรายย่อยไม่ทราบครับ

เป็นความเห็นส่วนตัวครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 05, 2004 1:41 pm
โดย นักดูดาว
กลัว KBANK จะ Take Under(price) นะสิครับ

1. ขอซื้อราคากันเองจากบริษัทในควบคุม หรือ...
2. ที่เลวร้ายกว่า.. เพิ่มทุนแบบ PP ในราคาถูกๆ ให้ KBANK อันนี้รายย่อยเละเลยนะครับ
3. เพิ่มทุน PO แต่ขายให้บริษัทในเครือในราคาลดพิเศษ แต่สำหรับรายย่อย เต็มราคา

เรื่องเปิดบริษัทใหม่ ไม่น่าจะเป็นไปได้ มีของดีในมือ ทำไมต้องเปิดบริษัทใหม่เริ่มต้นกันใหม่ เพิ่มทุนอย่างที่ว่า (PP) แล้วขยายงานดีกว่าครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 05, 2004 3:28 pm
โดย ลูกอิสาน
หาก KBANK จะซื้อ PL ผมกลับมองว่าน่าจะให้ราคาสูงกว่าตลาดพอสมควรครับ เนื่องจาก...

1. PL มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรายย่อยกระจัดกระจายมาก และรายย่อย+รายใหญ่ถือหุ้น PL ประมาณ 50 % ของหุ้นทั้งหมด หากเสนอซื้อราคาต่ำกว่าตลาด คงจะมีมีคนขายให้น้อยมาก เหมือนกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับ SPP เสนอซื้อ PPPC หรือกรณี LST เสนอซื้อ UPOIC ที่ราคาต่ำๆ ทำให้ซื้อหุ้นได้น้อย และไม่สามารถ delist ออกจากตลาดได้

2.คุณบัญฑูร ให้สัมภาษณ์ว่าต้องการซื้อทั้ง 100 % ดังนั้น น่าจะให้ราคาสูงกว่าตลาดเพื่อจูงใจให้รายย่อยขายหุ้น

3.ราคา PL เทรดกันที่พีอีประมาณ 7.5 ของกำไรปีนี้ โดยที่กำไร เพื่มขึ้นปีละประมาณ 30% ติดต่อกันหลายปี ดังนั้น ราคาตลาดซื้อขายกันที่ราคาค่อนข้างต่ำแล้วครับ

4.PL ให้ปันผลปีนี้ประมาณ 6-7% ของราคาตลาด และปันผลจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่เท่ากับกำไรที่เพิ่มขึ้นทุกปี

ส่วนการเพิ่มทุนแบบ Private placement ที่ราคาต่ำ ผมมองว่ามีโอกาสน้อยครับเพราะผู้ถือหุ้นใหญ่รายอื่นๆ คงไม่ยอม การเพิ่มทุนต้องผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นครับ

ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญานนะครับ เพราะเรื่องที่คุยยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง และไม่รับประกันว่าจะเกิดขึ้น เป็นเพียงการคาดการณ์และคุยกันไป ตามข้อมูลที่ได้รับมาครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 05, 2004 4:42 pm
โดย Invisible hand
ไม่ทราบคุณลูกหมอตำแยโทรไปถามกรรมการท่านไหนครับ คุณเกริกชัยหรือคุณภิภพครับ หรือเป็นกรรมการที่มาจากทางธนาคารกสิกรฯ

ผมคิดว่าน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนหนึ่งของ PL ที่ต้องติดตามดูครับ แต่อย่างน้อยด้วย P/e ปัจจุบันที่ 7 เท่าก็น่าจะทำให้ downside risk ของผู้ถือหุ้นไม่น่าจะสูงมากครับแม้ว่าจะจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 05, 2004 6:46 pm
โดย สามัญชน
คุณพิภพครับ ( โห คุณ invisible hand เดาแม่นจริงๆทั้งที่กรรมการมีตั้งหลายท่าน ) เมื่อเช้าครับช่วง สิบโมงเศษๆ เขาบอกว่าเขายังไม่ทราบข่าวเลย คงจะเป็นเพราะว่าข่าวออกในกรุงเทพธุรกิจฉบับวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันพักผ่อนก็เลยยังไม่ทราบ

เพื่อนๆที่สนใจลองโทรไปถามดูบ้างก็ดีนะครับ น่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมแล้วล่ะครับ เบอร์ 026932288 ต่อ 0 แล้วก็บอกขอสายคุณพิภพ หรือท่านอื่นก็ได้ ผมไม่กล้าโทรอีก เพราะว่าโทรไปหลายครั้งแล้วกลัวเขารำคาญผม

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 05, 2004 7:31 pm
โดย สามัญชน
ดีใจมากครับที่คุณ invisible hand เข้ามาอยู่ใน TVI ผมนับถือเป็นอาจารย์นานแล้วนะครับ

ปล. ผมเคย copy ความเห็นของคุณ IH มาไว้ใน TVI ด้วยคงไม่สงวนลิขสิทธิ์นะครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 05, 2004 11:31 pm
โดย Invisible hand
อะไรที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ copy ได้เลยครับ

เรื่องนี้อาจจะต้องถามคุณเกริกชัยครับ เพราะเป็น MD แต่ผมคิดว่าคนที่จะตัดสินใจจริงๆ คือทางกสิกรฯ ครับ

คุณภิภพเป็น CFO เป็นคนอัธยาศัยดีมากคนหนึ่งครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2004 8:20 am
โดย นะ
นำข่าวมาจากกระทิงเขียวครับ พิจารณาดูเล่นๆ ครับ

เช็คข่าวกันเองนะครับ ว่าฝรั่งซื้อ option set index ที่ 650 ในเดือน กพ กำหนด ส่งมอบ สิ้นเดือน มีค และ มีการซื้อ option set ที่ 800 ส่งมอบ 15 พค


อ้ออีกข่าวนะครับ KBANK จะ ทำออฟเฟอร์ บริษัทลิสซิ่ง ในตลาดที่ตัวเองถือหุ้นอยู่ 70% ในราคา 1.2 BV
และซื้อหุ้น บล. ชื่อเหมือนกันนี้ นอกตลาด ตอนนี้อยู่ระหว่างการ ตีมูลค่าอยู่

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2004 9:19 am
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เช็คข่าวกันเองนะครับ ว่าฝรั่งซื้อ option set index ที่ 650 ในเดือน กพ กำหนด ส่งมอบ สิ้นเดือน มีค และ มีการซื้อ option set ที่ 800 ส่งมอบ 15 พค 
ได้ข่าวจากคนที่เคยไปเล่น บอกว่าไม่มีผลอะไร เพราะซื้อขายกันน้อยมาก

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2004 10:30 am
โดย สามัญชน
มีข่าวล่าสุดมาแจ้งครับ

1. ก่อนอื่นขอยืนยันข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสัดส่วนผู้ถือหุ้น PL เป็นอย่างที่เห็นใน web นั่นแหละครับ มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมไม่มาก หุ้นส่วนใหญ่เกิน 50 % กระจัดกระจายอยู่ในมือรายย่อย กลุ่ม kbank ไม่ได้มีหุ้นอยู่ 70 % แต่อย่างใด

2.ข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ว่า kbank สนใจธุรกิจลิสซิ่งน่าจะเป็นธุรกิจลิสซิ่งประเภทเช่าซื้อมากกว่า

3.ถึง kbank อยากได้ PL แต่ถ้าให้ราคาถูกๆ คงจะไม่มีใครขายให้แน่ครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 07, 2004 8:46 pm
โดย สามัญชน
ผมชอบมุมมองของคุณ _ลูกอีสานและอีกหลายท่านนะครับ

อยากเชิญลุงขวด คุณนะ คุณsirivajj คุณstockms คุณyoyosun คุณเข็ม คุณประจวบและท่านอื่นๆร่วมให้ความเห็นด้วยครับ[/code]

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2004 12:23 am
โดย Invisible hand
พอดีมีเพือนถามใน greenbull เลยขอ copy คำตอบมานะครับ

-----------------------------------

คำถาม เห็นมีข่าวว่าคุณบัณฑูรสนใจจะ take over PL หรือคะ คุณ invisible hand คิดยังไงคะ

คำตอบ

เท่าที่อ่านเห็นคุณบัณฑูรไม่ได้ระบุชื่อบริษัทนะครับ แต่เห็นบอกว่าเป็นลิสซิ่งในเครือ และ kbank ถือ 70% ซึ่งผมงงว่า kbank หรือทั้งกลุ่มรวมกันก็ไม่น่าจะถือหุ้น pl ถึง 70%

นอกจากนี้ผมคิดว่า pl เป็น operating lease คือ ให้เช่ารถ ซึ่งขนาดธุรกิจค่อนข้างเล็กเมื่อเที่ยบกับตลาด hire purchase ดังนั้น ลิสซิ่งที่ทาง kbank จะทำน่าจะเป็น hire purchase มากกว่า ลองดูสิครับ Pl ปีที่แล้วทั้งปีกำไร 150 กว่าล้าน ซึ่งน้อยมากเมื่อเที่ยบกับกำไรของ kbank ดังนั้น kbank น่าจะสนใจ hire purchase มากกว่า

ส่วนอนาคตของ PL ผมก็ยังไม่ทราบว่า Kbank จะมีนโยบายยังไง แต่ยังไงพอร์ตรถของกลุ่มกสิกรฯ ก็คงเป็นของ PL ต่อไปเนื่องจาก kbank มีนโยบาย outsource คงไม่ดึงพอร์ตรถกลับไปบริหารเองแน่นอน และบริษัทให้เช่ารถที่มี capacity ที่จะให้เช่ารถจำนวนมากมีเพียง 2 บริษัทเองครับ ( รวม PL ด้วย )

ประเด็นเรื่องอนาคตของ PL คงเป็นความเสียงอยู่บ้าง แต่ความเสี่ยงตรงนี้ก็ถูกจำกัดโดยการที่ P/e ของ PL ของปี 2004 อยู่ที่ 7 เท่า และทาง MD ของ PL ก็ถือหุ้นด้วยรวมประมาณ 1 แสนหุ้น หาก tender offfer จริงก็ไม่ควรต่ำกว่าราคาตลาดครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2004 12:34 am
โดย Invisible hand
แก้ข้อมูลนะครับ MD ของ PL และภรรยา ( น่าจะนะครับเพราะนามสกุลเดียวกัน ) ถือ PL รวมกัน 6 แสนกว่าหุ้นครับ รายการที่ 15 กับ 24 ครับ

1 ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 2,523,300 8.41
2 บริษัท ภัทรประกันภัย จำกัด (มหาชน) 2,400,000 8.00
3 บริษัท สมบัติล่ำซำ จำกัด 2,280,000 7.60
4 บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด 2,000,000 6.67
5 บริษัท จุลินทร์วงศ์ จำกัด 1,200,000 4.00
6 นางอำนวย มาลยเวช 1,000,000 3.33
7 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 816,400 2.72
8 นายบรรยงค์ ล่ำซำ 720,000 2.40
9 บริษัท ยุพงษ์ จำกัด 576,000 1.92
10 นายสมชาติ โสตธิมัย 545,000 1.82
11 นายวรพจน์ ฉัตรเสถียรพงศ์ 534,100 1.78
12 นายเกรียงไกร วรวัฒน์พิบูลย์ 529,733 1.77
13 นายฉลอง วรวัฒน์พิบูลย์ 479,400 1.60
14 บริษัท พิพัฒนสิน จำกัด 437,500 1.46
15 นายเกริกชัย ศิริภักดี 407,667 1.36
16 นายรัชกาล โสตธิมัย 400,000 1.33
17 นายรัฐภูมิ โสตธิมัย 400,000 1.33
18 นายอภิชญา บุรานนท์ 393,700 1.31
19 นายบัณฑูร ล่ำซำ 374,666 1.25
20 กองทุนเปิด พรีมาเวสท์ สเปซิฟิกเฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ 360,900 1.20
21 นางนันทา รุ่งนพคุณศรี 335,800 1.12
22 นายธงชัย ล่ำซำ 307,740 1.03
23 นางสุมัณฑนา โมกขะเวส 300,000 1.00
24 นางอรวรรณ ศิริภักดี 264,000 0.88

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2004 12:42 am
โดย Invisible hand
นอกจากนี้ PHA ถือ PL ด้วย 8% หาก tender ที่ต่ำกว่าราคาตลาดจริง ผู้ถือหุ้นของ PHA จะเสียประโยชน์ ซึ่ง PHA เป็นบริษัทจดทะเบียนผู้ถือหุ้นของ PHA เองก็คงไม่ยอมเหมือนกันครับ และยังไม่นับที่คนตระกูลล่ำซำถือหุ้นในนามส่วนตัว ( คุณบัณฑูรก็ถือด้วย ) ดังนั้นโอกาสที่จะ tender ต่ำกว่าราคาตลาดคงจะมีน้อยมั้งครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2004 9:15 am
โดย สามัญชน
ขอบคุณครับ สบายใจขึ้นเยอะครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2004 10:39 am
โดย นะ
รู้สึกว่า Kbank ประกาศเพิ่มทุนไว้แล้ว

ถ้า 1 PL= 1 Kbank ละ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 08, 2004 6:35 pm
โดย smartfan
ดิฉันว่า pl เป็นหุ้นชั้นดีมีคุณค่านะคะ และผู้ถือหุ้นตัวนี้ส่วนใหญ่น่าจะเป็นผู้ที่รู้คุณค่าของมันอยู่ และราคาระดับนี้ก็ต่ำมากอยู่แล้ว หากใครต้องการซื้อก็คงต้องให้ราคาที่สมเหตุสมผลหน่อย เพราะไม่งั้นเราๆท่านๆก็คงไม่ขาย อย่างน้อยก็พวกเราใน TVI นี้(ใช่มั้ยคะ) ฉะนั้นยิ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยิ่งจะไม่น่าจะใจอ่อนขายง่ายๆ ของดีราคาถูก คุณภาพคับแก้วแบบนี้หากันไม่ได้ง่ายๆในสมัยนี้นะคะ ยังไงๆดิฉันก็ยังมอง positive อยู่นะคะ เอ..หรือจะปลอบใจตัวเอง :)

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 09, 2004 9:26 am
โดย สามัญชน
นั่นสิครับเราลองมานับหุ้นที่ชาว TVI ถืออยู่ ดีใหมครับ รวมๆกันอาจจะมีอำนาจต่อรองมากขึ้นก็ได้นะครับ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 4:04 am
โดย bigshow
มี 9000 หุ้น ลุงขวดกับพี่ invisible hand น่าจะมีเยอะ

ข่าวร้าย หรือ ข่าวดี ของ PL..

โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 23, 2004 9:58 am
โดย บุคคลทั่วไป
มี 10,000 หุ้น