Thai VI

มาแสดงยินดีด้วยคับ  จะสองร้อยแล้วคับ
 :D  :D

ขึ้นเร็ว ด้วยแรงเชียร์จากโบรกเจ้าดัง ด้านการทำราคาอย่างนี้ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลย

DemonInvesting เขียน:ขึ้นเร็ว ด้วยแรงเชียร์จากโบรกเจ้าดัง ด้านการทำราคาอย่างนี้ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลย

มีโบรคไหนเชียร์บ้างครับ กินเองได้เชียร์ด้วยป่าว

DemonInvesting เขียน:ขึ้นเร็ว ด้วยแรงเชียร์จากโบรกเจ้าดัง ด้านการทำราคาอย่างนี้ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลย

เห็นด้วยครับ  

ตอนนี้ผมเปลี่ยนแปลงการลงทุนของผมแล้ว โดยยึดหลักทำกำไรเอาทุนคืนก่อน  แต่เดิมผมยึดหลัก อ.นิเวศน์ ถือยาวเข้าไว้  ปี 2550 หุ้น3ทหารเสือวิ่ง ยาว ผมมีถึง 2 ตัวด้วยกัน คือ snc กับ uec ถือยาว จากกำไร มาเป็นขาดทุน เลยสอนให้ผมคิดใหม่ทำใหม่ ทำกำไรไว้ก่อน เอาทุนคืนเสียก่อน เปลี่ยน แบบ การลงทุน แบบ อ.เทพ ที่สอนให้พยายามลดทุน ถ้าเป็นไปได้ ลดให้เหลือ 0 คือหุ้นที่มีนั้นคือกำไรทั้งหมด  สำหรับตัว kye ขายหมูไปแล้วครับ แต่ยังเหลือไว้ไปประชุม  ยินดีกับคุณ tooyen และ คุณนริศ  แถมเพื่อนนักลงทุนอีกท่านที่อยู่ชัยภูมิ ที่ยังถือยาวและได้กำไรมากทีเดียวสำหรับหุ้นตัวนี้  ประชุมใหญ่คราวหน้า รายใหญ่ ๆ ทั้งหลายไม่รู้จะมานั่งใกล้ ๆ กับ รายย่อยแบบเราหรือเปล่าหนอ    :oops:  :oops:

[quote="ลุงขวด"]ตอนนี้ผมเปลี่ยนแปลงการลงทุนของผมแล้ว โดยยึดหลักทำกำไรเอาทุนคืนก่อน

[quote="ลุงขวด"]ตอนนี้ผมเปลี่ยนแปลงการลงทุนของผมแล้ว โดยยึดหลักทำกำไรเอาทุนคืนก่อน

[quote="ลุงขวด"]ตอนนี้ผมเปลี่ยนแปลงการลงทุนของผมแล้ว โดยยึดหลักทำกำไรเอาทุนคืนก่อน

ขอเสริมอีกนิดนะคับ
อย่างวันที่ติดเวิร์ดเทรดถล่มลงมา
ใครจะคิดว่ามันจะเป็นไปได้ครับ
แต่มันก็เกิด
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอนจิง ๆ

และมันน่าจะสอนให้เราได้คิดว่า
อย่าไปยึดติดกับวัตถุสิ่งของอะไร
ที่คิดว่ามันจะยั่งยืนไปได้ตลอด
อะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้ แหะ ๆ
ผมเองก็เห็นด้วยกับ วิธีการนี้นะครับ ^_^

แต่ผมว่าใครอยากจะเดินตาม อ.นิเวศน์ อาจจะต้องตั้งโจทย์ถามตัวเองใหม่นะครับ
เช่น ถ้าวันนี้เราต้องการจะซื้อกิจการสัก 2-3 แห่งให้ลูกของเรา
และเพื่อให้ลูกของเราเป็นเจ้าของกิจการนั้นต่อจากเราในอนาคต
เราจะซื้อกิจการอะไรให้ลูกของเราล่ะครับ..?

SNC หรือเปล่า ..? UEC ดีมั๊ย..? เอ่.. แต่ KYE ก็อาจจะน่าสนใจ ?

ปล.
ที่ผ่านๆ มาก็เงี้ยะครับ คุยกันแผล็บๆ เดี๋ยวก็มีตัวใหม่มากระตุกต่อมโลภ :lol:

ส.สลึง เขียน:แต่ผมว่าใครอยากจะเดินตาม อ.นิเวศน์ อาจจะต้องตั้งโจทย์ถามตัวเองใหม่นะครับ
เช่น ถ้าวันนี้เราต้องการจะซื้อกิจการสัก 2-3 แห่งให้ลูกของเรา
และเพื่อให้ลูกของเราเป็นเจ้าของกิจการนั้นต่อจากเราในอนาคต
เราจะซื้อกิจการอะไรให้ลูกของเราล่ะครับ..?

SNC หรือเปล่า ..? UEC ดีมั๊ย..? เอ่.. แต่ KYE ก็อาจจะน่าสนใจ ?

ปล.
ที่ผ่านๆ มาก็เงี้ยะครับ คุยกันแผล็บๆ เดี๋ยวก็มีตัวใหม่มากระตุกต่อมโลภ :lol:

ส่วนตัวผม  ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากซื้อกิจการ TPAC ให้ลูกของผมครับ    

ผมว่าประเด็นนึงที่ VI ไม่ควรมองข้ามในการลงทุนเพื่ออนาคตของลูก ก็คือ...
"ที่มาของรายได้ สำคัญกว่า รายได้" ครับ

ปล.
แต่ผมยังไม่มีลูก แถมกำพร้าเมียอีกตางหากนะ :lol:

ส.สลึง เขียน:ผมว่าประเด็นนึงที่ VI ไม่ควรมองข้ามในการลงทุนเพื่ออนาคตของลูก ก็คือ...
"ที่มาของรายได้ สำคัญกว่า รายได้" ครับ

ปล.
แต่ผมยังไม่มีลูก แถมกำพร้าเมียอีกตางหากนะ :lol:

ถามใจตัวเองให้ชัดๆๆๆ  กัน  

เราลงทุนในหุ้นเพื่ออะไรกันแน่  

ชัยชนะ  ความสะใจ  การยอมรับว่า ข้าเก่ง  ข้ารวย  

                 V.S.      

พ่อแม่ที่ชราลงทุกวัน  ลูกหลาน  ตัวเอง

ปล.  ผมกล้าพูดว่า ความรู้สึกแรกของเกือบทุกคนในนี้  เป็นดังข้อความสีแดง   ผมก็ด้วย

วันก่อนไปฟังสัมมนา มีหัวข้อ ว่า trade for living  ฟังแล้วไม่ตรงไปทัศนะของผมเลยครับ  เขา แนะให้ trade โดยใช้เทคนิคนั่นเอง   ผมฟังแล้วงานนี้ไม่ได้อบรมต่อแน่  ผมดูเทคนิคแบบงูงูปลาปลา  ไม่ได้เรื่องเลย แต่ก็เอามาช่วยดูแนวโน้มของเส้นเท่านั้นเองครับ   จากหัวข้อนั้น ผมนึกในใจ อยากเปลี่ยนหัวข้อเป็น  dividents for living, trade for joyness มากกว่า   เงินมันทำงานในส่วนของผมก็คือ รายได้จากเงินปันผลนั่นเองครับ  ตอนนี้อยู่ได้เพราะเงินปันผล  ถ้าไม่มีเงินปันผลเตรียมไว้ ก็แย่เลย ต้องขอเงินลูกกินเป็นแน่  ผมพูดหลายครั้งแล้วว่า ตอนหนุ่มเราใช้แรงงานกำลังของเราทำงานหาเงิน   แต่ยามชราเราใช้เงินทำงานแทนเรา นั่นแหละเป้าหมายที่สำคัญครับ  :)  :lol:

ลุงขวด เขียน:แต่เดิมผมยึดหลัก อ.นิเวศน์ ถือยาวเข้าไว้

ถือยาว ไม่ใช่ว่าไม่ขายเลยนะครับลุงขวด
ผมว่าคนตีความอ.นิเวศน์ผิดกันเยอะ
ถือยาวหลายๆคนคิดว่าต้องรักหุ้นจะขึ้นแรงขนาดไหนต้องถือไป
ลงแรงขนาดไหนก็ต้องกล้าซื้อเพิ่ม ก็ช้ำกันมาเยอะ

ผมว่าโอกาสในตลาดหุ้นมีอยู่เสมอ(แต่ไม่ใช่ทุกวันนะ  :lol: )
ปีละ2-3ครั้ง หุ้นสัก 1-2ตัว ก็เยอะแล้ว (ยกเว้นปีที่วิกฤตจริงๆ หุ้นมานอนตายกันเพียบ)

ยาวสั้น ก็คล้ายๆอ้วนผอม มันอยู่ที่แต่ละคนจะคิดเท่าไรยาว เท่าไรสั้น
อย่าง อ.นิเวศน์ถือ wg ก็สั้นกว่า พี่ฉัตรชัย ความคิดต่างกัน
มุมมองต่างกัน ความจำเป็นต่างกัน take risk ได้ต่างกัน
พอร์ตไม่เท่ากัน ความเฮงต่างกัน ฯลฯ อีกมากมาย
ใช่ว่าการถือหุ้นถูกกว่า ดีกว่า แล้วจะวิ่งไปได้เร็วกว่าเสมอไป
มันอยู่ที่โชคและจังหวะด้วย เพียงแต่การถือหุ้นหรือเงินสด
ทำให้เราไม่เป็นทุกข์ใจไม่สบายกาย แม้หุ้นจะขึ้นหรือลง
ผมว่าตรงนี้ดีกว่านะ เห็นคนอื่นร่ำรวยก็มีมุทิตาจิต ยินดีกับเค้า
บางคนอิจฉาเค้าให้เป็นทุกข์ซะงั้นก็มี

ผมเคยอ่านบทความของนิตยสารฉบับนึง หลายปีมาแล้ว
เป็นการให้สัมภาษณ์ ถามตอบของ อ.นิเวศน์
ตอนแรกก็พูดถึงว่า วอเรนท์ บัฟเฟต ทำไมบริจาคทรัพย์ก้อนใหญ่
(เกือบทั้งหมด)เข้ามูลนิธิ ไม่เก็บไว้ให้ลูกหลาน
อ. ตอบว่า ก็ไม่ทั้งหมด เหลือแค่ 5% ลูกหลานก็สบายมากแล้ว ให้ทั้งหมด
ทำให้ลูกหลานขี้เกียจทำงานหากิน
ถามต่อว่า แล้ว อ.นิเวศน์ จะบริจาคแบบ วอเรนท์ บัฟเฟต ไหม
อ. ตอบประมาณว่า ก็แบบบัฟเฟต แต่ขึ้นกับว่า สุดท้ายแล้ว พอร์ตขนาดไหน

ผมคิดว่า จุดมุ่งหมายของ นักลงทุนหรือเศรษฐี ทียิ่งใหญ่จริงๆ
คือการตอบแทนให้กับสังคม หรือโลกที่เราอาศัยอยู่ โดยปราศจากความเห็นแก่ตัว
จุดมุ่งหมายแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้เฮง นะครับผมว่า.. ไม่ใช่ผิวๆแบบเราๆ
แค่ financial freedom ให้มรดกลูกหลาน หรือบริจาค เล็กๆน้อยๆเอามาลดหย่อนภาษี  :8)

ส.สลึง เขียน:ผมว่าประเด็นนึงที่ VI ไม่ควรมองข้ามในการลงทุนเพื่ออนาคตของลูก ก็คือ...
"ที่มาของรายได้ สำคัญกว่า รายได้" ครับ

ปล.
แต่ผมยังไม่มีลูก แถมกำพร้าเมียอีกตางหากนะ :lol:

ผมชอบคำนี้จัง

ถ้าผมมีลูก ผมจะสอนให้ลูกผมหาเงิน มากกว่าให้เงินครับ

สอนให้ลูกจับปลาดีกว่า จับปลาให้ลูกครับ เหมือน พ่อแม่ รังแกฉัน

อย่าลืมมองอัตราการทำกำไรในอนาคตนะครับ
ประสบการณ์ในปีที่ผ่านมา สอนอะไรเราได้หลายอย่าง
ในตลาดหุ้นมีทั้ง ความกลัว และ ความโลภ
จะทำอย่างไร ที่จะมี philosophy ที่เหมาะสมสำหรับตัวเราเอง

ตัวเราเองต้องหาคำตอบให้ตัวเองครับ

มีความสุขกับการลงทุนนะครับ  :D

[quote="noooon010"]อย่าลืมมองอัตราการทำกำไรในอนาคตนะครับ
ประสบการณ์ในปีที่ผ่านมา สอนอะไรเราได้หลายอย่าง
ในตลาดหุ้นมีทั้ง ความกลัว และ ความโลภ
จะทำอย่างไร ที่จะมี philosophy ที่เหมาะสมสำหรับตัวเราเอง

ตัวเราเองต้องหาคำตอบให้ตัวเองครับ
มีความสุขกับการลงทุนนะครับ

ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีสำหรับหุ้นตัวนี้

วันนี้บวกไปอีก 20% กว่า

ติด most active value ด้วย....

กลับมานั่งคิด ...ถ้าเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อนเราซื้อตัวนี้ ป่านนี้คงรวยเละไปแล้ว  :roll:

กลับมานั่งคิดอีกที ....ใครมันจะไปคาดเดาได้ สรุปแล้วมันก็กึ่งๆพนัน

ถ้าไม่มีคนดันคนแรก แล้วเม่าตามมากันเป็นพรวน ไม่รู้จะมีวันแบบนี้มั้ย

สำหรับผมคิดว่าหุ้นตัวนี้ ณ.ราคาัปัจจุบันค่อนข้างแพงแล้ว

ถึง P/E จะไม่สูง แต่ B/V ก็เริ่มอิ่มตัวแล้วนะครับ

หุ้นตัวนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของ การต่อสู้ระหว่าง ความโลภ กับ ความกลัวนะครับ

นั่นสินะครับ ไม่รู้จะเรียกอะไรดี