ทุนนิยมอาจล่มสลายในไทย
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 10:33 am
นี่อาจไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่น ผมจะยกประเด็นให้เห็นๆ กัน
1. การเปลี่ยนแนวคิดเชิงเศรษฐศาสตร์
จากที่ไทยใช้ "เศรษฐศาสตร์ทุนนิยม" มาช้านาน โดยแนวคิดนี้เน้นที่ว่าคนเรามีความโลภไม่จำกัด การมีทรัพย์สินมากขึ้น และ บริโภคมากขึ้น จะทำให้มีความสุขมากขึ้น
ขณะที่ "พุทธเศรษฐศาสตร์" ซึ่งเป็นรากฐานของ "เศรษฐกิจพอเพียง" นั้น มีแนวคิดว่า เราควบคุมความโลภได้และ ควรจะกระทำอย่างยิ่ง
การมีทรัพย์สินน้อยลง และ บริโภคน้อยลงต่างหาก คือ ความสุขที่มากขึ้น
มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ถ้า "เศรษฐกิจพอเพียง" หยั่งรากลงลึกเท่าใด ก็หมายถึง "ทุนนิยม" จะมีความอ่อนแอลงมากเท่านั้น
2. การที่รัฐเข้ามาทำสวัสดิการ และ ประชานิยมมากขึ้น
จากแต่เดิมชาวบ้านต้องหาเงินจ่ายค่ำน้ำ ค่าไฟ ค่ารถเมล์เอง....กลายเป็นฟรีให้ทั้งหมด
จ่ายเงินค่าเรียนฟรีจริง ให้ผู้ปกครองปีละกว่า 1 พันบาทต่อหัว
จ่ายเงินค่าเบี้ยยังชีพคนชรา ให้อีกปีละ 6 พันบาทบาทต่อหัว
จ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพ สปสช. ให้หัวละ 2.4 พันบาทต่อปี
แถมด้วย การขายบ้านเอื้ออาทร ในราคาขาดทุนต่ำกว่าต้นทุนนั่นเอง
ส่วนอาหาร ก็มีธงฟ้าราคาประหยัด ขายแข่งเอกชนที่ต่ำกว่าต้นทุนอีกแล้ว
สรุปก็คือ รัฐเข้ามาแย่งเอกชนขายสินค้า และ บริการ
ส่วนใหญ่ก็แทบจะแจกฟรี...ต่อไปคนไทยก็ใช้บริการพื้นฐานได้ฟรีหมด เหลือแต่สิ่งฟุ่มเฟือยเท่านั้น ที่ยังต้องใช้เงินซื้อ
นี่เป็นแนวคิดของ "เศรษฐกิจสังคมนิยม" โดยแท้ครับ
1. การเปลี่ยนแนวคิดเชิงเศรษฐศาสตร์
จากที่ไทยใช้ "เศรษฐศาสตร์ทุนนิยม" มาช้านาน โดยแนวคิดนี้เน้นที่ว่าคนเรามีความโลภไม่จำกัด การมีทรัพย์สินมากขึ้น และ บริโภคมากขึ้น จะทำให้มีความสุขมากขึ้น
ขณะที่ "พุทธเศรษฐศาสตร์" ซึ่งเป็นรากฐานของ "เศรษฐกิจพอเพียง" นั้น มีแนวคิดว่า เราควบคุมความโลภได้และ ควรจะกระทำอย่างยิ่ง
การมีทรัพย์สินน้อยลง และ บริโภคน้อยลงต่างหาก คือ ความสุขที่มากขึ้น
มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ถ้า "เศรษฐกิจพอเพียง" หยั่งรากลงลึกเท่าใด ก็หมายถึง "ทุนนิยม" จะมีความอ่อนแอลงมากเท่านั้น
2. การที่รัฐเข้ามาทำสวัสดิการ และ ประชานิยมมากขึ้น
จากแต่เดิมชาวบ้านต้องหาเงินจ่ายค่ำน้ำ ค่าไฟ ค่ารถเมล์เอง....กลายเป็นฟรีให้ทั้งหมด
จ่ายเงินค่าเรียนฟรีจริง ให้ผู้ปกครองปีละกว่า 1 พันบาทต่อหัว
จ่ายเงินค่าเบี้ยยังชีพคนชรา ให้อีกปีละ 6 พันบาทบาทต่อหัว
จ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพ สปสช. ให้หัวละ 2.4 พันบาทต่อปี
แถมด้วย การขายบ้านเอื้ออาทร ในราคาขาดทุนต่ำกว่าต้นทุนนั่นเอง
ส่วนอาหาร ก็มีธงฟ้าราคาประหยัด ขายแข่งเอกชนที่ต่ำกว่าต้นทุนอีกแล้ว
สรุปก็คือ รัฐเข้ามาแย่งเอกชนขายสินค้า และ บริการ
ส่วนใหญ่ก็แทบจะแจกฟรี...ต่อไปคนไทยก็ใช้บริการพื้นฐานได้ฟรีหมด เหลือแต่สิ่งฟุ่มเฟือยเท่านั้น ที่ยังต้องใช้เงินซื้อ
นี่เป็นแนวคิดของ "เศรษฐกิจสังคมนิยม" โดยแท้ครับ