Thai VI

จะลองเล่นหุ้นเขียวดู

วันไหนแดงมาเหมือนประจำเดือน เลิกเล่น

ตอนแดงๆ ทั้ง เล่นสั้นเล่นยาว เห็นบ่นกันทั้งนั้น

ตอนเขียวๆ นี่ ทั้งสั้น ทั้งยาว ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่

สรุปว่าเล่นตอนเขียวๆนี่ กำไรถ้วนหน้า

แต่เราจะเล่นเฉพาะวันที่มันเขียวๆได้อย่างไรหละ

เพื่อนๆคนไหนเล่นแบบนี้ ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยครับ

ปัญหาคือไม่รู้ว่าวันไหนมันจะเขียว วันไหนมันจะแดงครับพี่เจ๋ง บางวันแดงมาเกือบทั้งวันจู่ๆเขียวบ่ายก็มี บางวันเหลือร้าย เขียวมาตั้งนานแต่มาตกม้าตายตอนท้ายก้อเยอะครับ ... แต่ผมเห็นด้วยกับพี่เจ๋งครับ เวลาหุ้นลงอะไรๆ มันก็แย่ไปหมด จริงๆนะครับ

อิอิ ก็จริงอย่าง tom ว่าไว้

เพื่อนๆท่านอื่นคิดอย่างไรบ้างครับ มีวิธีดูหรือไม่ ว่าเขียว หรือแดง

tom ครับ พี่จำได้ สมัยเมื่อปีที่แล้ว นี่หุ้นขึ้นจนกระทั่งเราลืมไปเลย ว่า จะมีช่วงหุ้นลง

ตอนหุ้นลง เรายังคิดเลยว่า เดี๋ยวก็ขึ้น

ซึ่งเดี๋ยวก็ขึ้นนี่

ช่วงนี้ชักจะเข็ดแล้ว เพราะเดี๋ยวก็ขึ้น บางทีมันก็นานเหมือนกัน

และหุ้นในพอร์ทก็ลบไปเรื่อยๆ

ถ้าเราเล่นแบบ ถือเงินสดไว้ตลอดเลย

แล้ว พอมันแดง หรือ ไม่แน่นอน เราก็เลิกเล่น

พอมันเขียว เราก็เข้าไปซื้อ แล้วก็ถือไว้จนกว่ามันจะแดง

อิอิ

ไม่รู้แบบนี้เกี่ยวกับเทคนิคหรือเปล่านะ

คือดูเซ็ทมาก่อนเลย

เอ สงสัยเล่นแบบนี้ไม่มีใครเอาด้วยอิอิ

เอาเป็นว่าหนุกๆ ส่วนตัว เฉพาะในส่วนของการเก็งกำไร

วันจันทร์ เขียว ถือ แดง ขาย

นับจากไหนดีนี่

อืม

เอาตอนปิดตลาดดีกว่า

เอ

ถ้าตลาดปิดแล้วจะไปขาย ที่ไหนหละ

อืม

อ๋อ ใกล้ปิดตลาด สัก 10 นาที ถ้าเขียวถือ ถ้าแดงขาย

เล่น แบบ ลาสเวกัสไปเลย อิอิ

ผมอยากคิดว่าการเลือกซื้อหุ้นตามแบบ vi และรู้จังหวะการซื้อขายแบบ TA เป็นเรื่องง่ายนะครับ แต่ว่า...มันทำให้ความอดทนการถือหุ้นลดลงครับ บางทีเราเหมือนปลาติดแหครับ ยิ่งดิ้นยิ่งเจ็บ บางทีอยู่เฉยๆ ได้กำไรเยอะกว่าอีก นานาจิตตังครับ ....

พอร์ทส่วนใหญ่เล่นแบบถือยาว อยู่เฉยๆสบายกว่าครับ >> tom

แต่ก็เพื่อความมันส์ส่วนตัวครับ ส่วนน้อยๆเอามาเล่นสั้น หนุกดี

ไม่อยากเรียก VI VS แล้ว เรียกแล้วมันสับสน และนำไปสู่ความแตกแยก

ขอเรียก เล่นสั้น กับเล่นยาว ดีกว่า

ดีครับ พี่เจ๋ง แต่สงสัยต้องรอให้พอร์ตโตกว่านี้หน่อยครับ ถึงจะแบ่งมาซื้อสั้นๆ บ้างครับ

ยกตัวอย่างเช่น วันนี้ซื้อ หุ้น XXX ในราคา yy บาท

วันจันทร์ ไม่สนใจว่า ราคา yy จะขึ้นไปแค่ไหน แต่สนใจว่าจะต้องลงไม่เกิน 5 % ไม่งั้น cut loss ก่อน

ถ้าขึ้นก็แล้วไป

แต่ ถ้าดัชนีลบ ก็ขายไปก่อน และเก็บความมั่นคงสูงสุด คือเงินสดในกระเป่า เพราะการถือหุ้น เป็นแค่การถือโอกาสในการที่ราคาจะขึ้นไป แต่อาจจะได้ผลตรงกันข้าม

ถ้าดัชนีบวก ก็ let profit run

คือ ในเมื่อหุ้นมันขึ้นมา 3 วันติด และราคาก็ขึ้นไป บางครั้งอาจจะไม่มีเหตุผลก็ตาม เราจะขายมันไปทำไม หลายครั้งขายไปก็มานั่งมอง ว่าขายหมูอีกแย้ว

..........................................................................

ความจริงไม่อยากดูดัชนี แต่ดัชนีลงทุกวันที่ผ่านมา มันก็กดราคาหุ้นดีๆ ให้ลงไปด้วย แต่ไม่ทั้งหมด

ในขณะที่ดัชนีเป็นบวก มันก็ทำให้อารมณ์ของคนดี และทำให้ราคาหุ้นขึ้นไปด้วย บางครั้งก็ไม่มีเหตุผลอะไร แต่ก็ไม่ทั้งหมด

คือไม่ใช่สูตรตายตัว

แต่ถ้าเล่นแบบเก็งกำไร แต่ก่อนผมจะดูที่หุ้นเป็นหลัก

ขอเปลี่ยนเป็นดูดัชนีก่อนละกัน

......................................................................

ส่วนที่ถือแบบ VI ก็ถือไปเลย ไม่ต้องมานั่งดูกันทุกวัน วันไหนราคาอะไร ก็ยังไม่รู้เลย

makro bigc egcomp wg ถือยาวไปเลย ไม่ต้องไปตามมันมากหรอก

ถ้าพอร์ตขนาดจิ๋ว พี่เจ๋งว่าเล่นยาวๆๆๆ จะได้ผลตอบแทนดีกว่าเล่นสั้นมั้ยครับ หรือมีปัจจัยอะไรมาเกี่ยวข้องบ้าง

พี่ว่า

1. เราอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างไร เช่น เราต้องทำงานประจำ ไม่มีเวลาตาม เล่นยาวก็น่าจะดี เล่นสั้นนี่พี่ว่าก็ไม่ควร

2. เราชอบแบบไหน ถ้าเราชอบเล่นยาว แล้วมาเล่นสั้น ก็แย่เหมือนกัน มันไม่ตรงกับจริต

3. เราถนัดแบบไหน

โดยส่วนตัว แล้วเชื่อว่า การเล่นยาว จะนำมาซึ่งกำไรมากกว่าการเล่นสั้นครับ

ไม่ว่าจะใช้เม็ดเงินมากหรือน้อยก็ตาม

เล่นตามใจฉันครับพี่ วันไหนว่าง จิตจะเริ่มไม่ปกติครับ คันไม่คันมือ อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องเสียตังค์ก็มีครับ

2-3วันนี้ตลาดดีครับพี่ แต่ผมดูเฉยๆ ไม่คัน ทั้งนั้นครับ

พี่เจ๋ง comment เรื่อง VI/VS ได้ดีครับ ผมเห็นด้วย เอาเป็นว่า ตามถนัดดีกว่าครับ

เพื่อนที่ทำงานคนนึง เธอบอกว่าเธอเล่น "ปั่นแปะ" อ่ะค่ะ
เพิ่งรู้ว่าเธอเล่นมา 2-3 ปีแล้ว ถนัดแนว ซื้อวันนี้ขายพรุ่งนี้ ทำแบบนี้ทุกวัน
กำไรนิดหน่อยเธอก็ขายซะแล้ว ค่า P/E ROE งบดุลอะไรเธอไม่รู้จัก
เล่นโดยฝากเล่นในพอร์ตเพื่อน เพื่อนเป็นมาร์ จะคอยช่วยบอกว่าวันนี้ซื้อตัวไหนดี ส่วนใหญ่ที่เล่นก็พวก หุ้นหวาดเสียวที่เจ้าเข้าทั้งหลาย อาศัยข่าวจากมาร์คอยกระซิบ

เฉลี่ยแล้วเธอบอกว่าได้ประมาณ วันละ 1000 บาท แทบไม่เคยเสียเลย
ติงติงมาคิดว่า ทำอย่างนี้ซัก 2-3 ปี จะได้ซักเท่าไร

แต่ก็แปลก ดูเธอมีความสุขดีกับการเล่นแบบนี้
แต่ติงติงคงไม่เอาด้วยอ่ะค่ะ
เล่าให้ฟังสนุกๆ ลางเนื้อชอบลางยาค่ะ

ผมชอบวันที่ตลาดแดง ๆ ครับ ยิ่งแดง ๆ ติด ๆ กันสองสามวันจะคันไม้คันมืออยากเสียตังค์มากเป็นพิเศษ :lol: :lol:
สองวันนี้ตลาดเขียว ผมมองดูด้วยความเซ็งเพราะหมดตรูดแล้ว เงินเดือนยังไม่ออก :lol: :lol:
วันไหนเขียว ๆ ก็ดูว่าตัวที่เขียวนี่ผมกะถือยาวหรือเปล่า ถ้าไม่ และกำไรดีพอ ก็ let profit run (away) ครับ :lol: :lol: :lol:

การลงทุนคือ การทำเงินที่มีอยู่ให้เกิดผลตอบแทนสูงสุด

วันนี้ก็เหมือนเมื่อวาน คือ ผมเลิกเล่น

เคยเล่นอยู่ 2-3 ครั้ง ครับ

เอาหุ้นที่มีอยู่มาชอร์ตเล่นในวันเดียว ผลก็คือ เสียของไปพอสมควรครับ

แต่ช่วงหลังๆ นี่รู้สึกว่า ของที่เสียไป มันมักจะกลับมาให้ซื้ออยู่เรื่อย บางทีก็แอบกระหยิ่มยิ้มย่อง ทำเป็นไม่สนใจ (... จริงๆ คือ หมดตังค์แล้ว) เผลอแผลบเดียวมันกระเด้ง ไปไกล

ไกล แบบ แลเห็น ลิบๆ น่ะครับ ...

ในช่วงนี้ต้องใช้วิธี short against port ครับ จะทำให้มีหุ้นเท่าเดิมแต่เงินเหลือมากขึ้น หรือ มีหุ้นมากขึ้นในจำนวนเงินเท่าเดิม เห็นคุณวิบูลย์007 ก็เริ่มใช้วิธีนี้ยามหุ้นลงครับ

ผมว่ากระทู้นี้ดีนะ แต่ไม่ค่อยมีคนอ่าน

ผ่านไป 1 เดือน จาก ดัชนี 693 เหลือ 648 ลบไป แค่ 45 จุด แต่ทำไมบรรยากาศมันไม่ค่อยดีเลย

ถ้ามันลบต่อไปเรื่อยๆ เช่น หลุด 600 ขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้น

แต่ถ้าเราคิดว่ามันจะหลุด 600 แล้วเรา cut loss แต่มันดันไม่หลุด เสร็จแล้วมันวิ่งขึ้นไปใหญ่เลย เราจะทำไงดี

โอ ตลาดหุ้น นี่ ทำนายยากจริงๆ

Jeng เขียน:ถ้ามันลบต่อไปเรื่อยๆ เช่น หลุด 600 ขึ้นมา อะไรจะเกิดขึ้น

แต่ถ้าเราคิดว่ามันจะหลุด 600 แล้วเรา cut loss แต่มันดันไม่หลุด เสร็จแล้วมันวิ่งขึ้นไปใหญ่เลย เราจะทำไงดี

โอ ตลาดหุ้น นี่ ทำนายยากจริงๆ

ตามหลักการ เรา Cut Loss เมื่อมันหลุดครับ ไม่ใช่เมื่อมันจะหลุด
เมื่อมันหลุดแนวรับ ไป แรวรับนั้นจะกลายเป็นแนวต้าน

และถ้ามันทะลุแนวต้าน(ที่มันหลุดไปเมื่อวันก่อน) มาได้ เราก็ต้องกล้าซื้อกลับครับ

อันนี้เป็นโดยหลักการของการเล่นเก็งกำไรแบบนึงนะครับ จริงๆมีวิธีการหลายแบบแล้วแต่ชอบครับ

สำคัญที่วินัยครับ รอบที่ผ่านมาผมโดนไปเยอะที่บอกพี่เจ๋งผ่าน PM หนะแหละ เหตุเพราะขาดวินัยครับ ผมว่าวินัยนี่แหล่ะ ยากที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะ VS หรือ VI ขาดวินัยเมื่อไหร่ วิบัติจะมาเยือน :lol:

ต่อให้มันหลุด 600 แล้วเราค่อย cut loss สมมุติ มันหลุด 600 ไปอยู่ ที่ 590 แล้วเรา cut loss เพราะคิดว่า ไม่ไหวแล้ว แนวต้านใหญ่ 600 ยังเอาไม่อยู่ ลงต่อแหงๆเลย

สุดท้าย อีกวัน เกิดมันวิ่งขึ้นมา 30 จุด กลายเป็น 620 แล้วเราจะทำอย่างไร

ถ้าเรายังรู้สึกว่า เอ หรือว่า มันขึ้นมาเพื่อออกของ เดี๋ยวมันจะลงต่อ

สมมุติว่า อีกวัน มันบวกอีก20 จุด ไป 650 แล้วเริ่มมีข่าวดีตามมา เราจะทำอย่างไร

พอเราเข้าไปซื้ออีก ที่ 650 เลือกตัวดีๆแล้ว แต่ราคาก็เริ่มขึ้นมามากแล้ว

ผลคือ วันต่อมา มันลง 10 จุดจะทำอย่างไร

โอย ยากจริงๆ

Jeng เขียน:

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ตามหลักการ เรา Cut Loss เมื่อมันหลุดครับ ไม่ใช่เมื่อมันจะหลุด 

ต่อให้มันหลุด 600 แล้วเราค่อย cut loss สมมุติ มันหลุด 600 ไปอยู่ ที่ 590 แล้วเรา cut loss เพราะคิดว่า ไม่ไหวแล้ว แนวต้านใหญ่ 600 ยังเอาไม่อยู่ ลงต่อแหงๆเลย

สุดท้าย อีกวัน เกิดมันวิ่งขึ้นมา 30 จุด กลายเป็น 620 แล้วเราจะทำอย่างไร

ถ้าเรายังรู้สึกว่า เอ หรือว่า มันขึ้นมาเพื่อออกของ เดี๋ยวมันจะลงต่อ

สมมุติว่า อีกวัน มันบวกอีก20 จุด ไป 650 แล้วเริ่มมีข่าวดีตามมา เราจะทำอย่างไร

พอเราเข้าไปซื้ออีก ที่ 650 เลือกตัวดีๆแล้ว แต่ราคาก็เริ่มขึ้นมามากแล้ว

ผลคือ วันต่อมา มันลง 10 จุดจะทำอย่างไร

โอย ยากจริงๆ

ผมไล่ดูกราฟ SET ในอดีตย้อนไป 5-6 ปี การสวิงแบบที่ว่าแทบไม่เคยเกิดครับ มีก็น้อยมาก เหตุเพราะเจ้ามือใหญ่ หรือ ฝรั่งที่ลากจะไม่ค่อยได้อะไร เพราะฝรั่งเองเวลาลากจะต้องอาศัยโมเมนตัมจากรายย่อยครับ จะใช้เงินตัวเองลากหมดไม่ได้มันจะเจ๊งเอา ดังนั้นการลากถ้าวันแรกที่ลาก ลากด้วย Volume แล้วลากยาวพอ เช่น 30 จุด วันต่อไปก็มักไปต่อครับ

ในตลาดเค้าว่ากันว่ามีอยู่ 3 สภาวะคือ หมี กระทิง และตีกรรเชียงข้าง(กระต่าย)

ในตลาดแบบหมีนี่ ถ้าไม่ป๋าจริง ควรหยุดเล่นครับ ในตลาดตีกรรเชียงนี่ยังพอเล่นได้นะครับ สำหรับมือเทคนิคนะ

แต่สำหรับตัวผม ผมว่าจุดที่ยากคือ

1. ต้องหาเทรนให้ได้ ว่าตอนนี้ เราอยู่ใน กระทิง หมี หรือ กระต่าย กันแน่
เค้าเรียกว่าหา Cycle ให้ได้ครับ ซึ่งนี่แหละ คือ สุดยอดเลย ไม่ว่าจะหาด้วยวิธีเทคนิค หรือ วิเคราะห์พื้นฐาน เศรษฐกิจอะไรก็แล้วแต่ คือ ถ้าหาได้นี่รวยได้ไม่ยากเลยครับ
ผมเลยถามบ่อยๆไงว่า พี่ๆเพื่อนๆคิดว่า เรากำลังอยู่ในภาวะไหนกันแน่ เพราะถ้าเรารู้แล้วว่าเราอยู่ในภาวะไหน เราจะจัดกองทัพของเราให้เหมาะกับการเล่นในแต่ละแบบได้ไม่ยากครับ

ปัญหาคือ มันจับเทรนกันยาก กว่าจะจับได้มักเจ็บตัวกันไปแล้ว

2. ตัวหุ้นที่จะเล่น ใน หมี กับ กระต่าย

SET เวลาอยู่ในขาขึ้น เอาหินเขวี้ยงหุ้นเอาก็รวยได้ แต่ถ้าอยู่ในภาวะหมี หรือ กระต่าย มันต่างกันครับ

สมมุติว่า SET ขึ้น 4 วันนะ เป้น Rebound แล้วจะลงต่อ ปัญหาที่ยากที่สุดคือ ตัวไหนมันจะวิ่ง แล้วเราจะเข้าทันมั้ย เข้าแล้วได้ Margin พออิ่มมั้ย
บางทีเจ้ามือก็แสบครับ พวกเล่นวันเดียวก็เยอะ วันนึงเล่นตัวนึง อีกวันเล่นอีกตัวนึงเหมือนเกมส์ตีตุ่น เลยครับ

วันนี้สงสัยไม่ได้เล่น

ทำไมไม่เล่นละครับ
ช่วงนี้คนถือหุ้นดี แต่ไม่มั่นใจ มักจะขายให้
ตอนผมแอบเก็บ SAUCE เมื่อปีที่แล้วก็บรรยากาศนี้
วันนี้ผมยังทะยอยเก็บบางตัวที่คาดว่าราคาต่ำกว่าvalueมาก

ทำไมไม่เล่นละครับ
ช่วงนี้คนถือหุ้นดี แต่ไม่มั่นใจ มักจะขายให้
ตอนผมแอบเก็บ SAUCE เมื่อปีที่แล้วก็บรรยากาศนี้
วันนี้ผมยังทะยอยเก็บบางตัวที่คาดว่าราคาต่ำกว่าvalueมาก

คิดว่าลงต่อ

จะ 4 โมงแล้ว วอลลุ่มยังไม่ถึง 1 หมื่นล้าน

สวัสดีครับพี่ jeng วันนี้ผมก็ไม่ได้เข้าครับ เห็นครึ่งวันแล้วไม่ค่อยมี volume
ช่วงบ่ายแดงด้วย ก็เลยไม่ได้เข้าครับอาจารย์ อิ..อิ..

อิอิ ลงทะเบียนด้วยก็ดีนะ

อย่างน้อยที่สุด โพสมาตั้งนานก็มีลูกศิษย์ 1 คน อิอิ