Thai VI

แนวโน้มระยะกลาง ระยะยาวเป็นอย่างไร ขอความเห็นครับ

คงต้องว่ากันเป็นรายตัว รายกลุ่มไปครับ เหมาเข่งนี่ตอบยากพอควร

ถ้าให้ดีผมว่าเล่นหุ้นจีนที่ อยู่ที่ฮ่องกงดีกว่า หรือหุ้นบริษัทไต้หวันที่มีการลงทุนในจีน เป็นจำนวนมาก ก็ได้

ตลาดหุ้นจีนที่เซี่ยงไฮ้ กับ เซินเจิ้น ที่โตเร็วมากเพราะสภาพคล่องมันบวมมาก เนื่องจากการออมสูง และ การเติบโตของเศรษฐกิจ

มาตรฐานบัญชี และ ธรรมาภิบาลของบางบริษัทนั้นให้เป็นที่น่าสังเกตุยิ่งนัก ช่วงก่อน Hamburger Crisis นั้นมีหลายบริษัทในจีนเอาเงินไปเก็งอสังหา และ หุ้น แทนที่จะหากินกับกิจการหลัก

ถ้าเน้นปลอดภัยขอแนะนำให้ถือบริษัท TOP 10 ของจีนที่มีรัฐบาลหนุนหลังอยู่ดีกว่าครับ

เข่งที่ว่าก็ประมาณนี้ครับพี่คนขายของ มีตัวไหน ไม่เข้าท่าบ้างหรือไม่ครับ?

1. Jardine Strategic Holdings
2. Swire Pacific B
3. China Mobile
4. Standard Chartered
5. Aeon Stores Consumer
6. ASM Pacific Technology
7. PetroChina
8. Hong Kong & Shanghai Hotels
9. Hang Lung Group
10. Dairy Farm International

คุณนักดูดาวรอแป๊บนะครับ เดี๋ยวว่างๆจะมาร่วมแชร์ความคิด

ถ้าตัวไหนพอมีบทวิเคราะห์ ก็จะ email ไปให้ครับ

ขอบคุณมากครับ อันที่จริงผมลอกการบ้านมาจากกองทุนแห่งหนึ่งครับ ถ้าดูแล้วพอไปไหวก็คิดว่าจะซื้อกองทุนที่ว่านี้ซะเลย เพราะซื้อหุ้นในตลาดฮ่องกงด้วย เห็นกำลังลดราคาพอดี

นักดูดาว เขียน:เข่งที่ว่าก็ประมาณนี้ครับพี่คนขายของ มีตัวไหน ไม่เข้าท่าบ้างหรือไม่ครับ?

1. Jardine Strategic Holdings
2. Swire Pacific B
3. China Mobile
4. Standard Chartered
5. Aeon Stores Consumer
6. ASM Pacific Technology
7. PetroChina
8. Hong Kong & Shanghai Hotels
9. Hang Lung Group
10. Dairy Farm International

Aberdeen China Gateway fund  :lol: ฟันธง

ซื้อไปแล้วครับ กองทุน ABCG ผมเชื่อว่าระยะยาวแล้วดีกว่ากองทุนดัชนี

ต้องขออภัยคุณนักดูดาวด้วนะครับที่ไม่ได้มาโพสต์เรื่องหุ้น

จีนตามที่สัญญาไว้ทั้งนี้เพราะเครื่องคอมผมโดนไวรัสเล่นงาน

ทำให้ไม่สามารถ LOG ON เข้าไปดู ACCOUNT ที่ฮ่องกงได้

เนื่องจาก Security System ไม่ให้ผ่าน แต่ถ้าให้ดูจากตัวที่

เลือกมานี่ผมว่าทางกองทุนเขาเน้นเรื่องความมั่นคงมากกว่าจะ

เน้นเติบโต การเลือกหุ้นค่อนข้างอนุรักษ์นิยมพอควร เป็นประเภท

Defensive มากกว่า ผมว่า Return ประมาณ 5-10% ทบต้นต่อปี

เป็นที่หวังได้ แต่คงต้องติดตามเรื่องฟองสบู่ของเศรษฐกิจจีน

ด้วยนะครับ การที่จีนปล่อนให้เงินไหลเข้า ไม่ให้เงินของบุคคล

ธรรมดาในประเทศไหลออก อัตราแลกเปลี่ยนมีการนั่งทับเอาไว้

ไม่ให้แข็งตัวมากไป ทำให้สภาพคล่องในระบบมีสูงมาก เพราะเงินทีเข้ามาแทบไม่ต้องห่วงว่าเงินหยวนจะอ่อนค่า

ราคาอสังหาในเมืองใหญ่บางโครงการราคาขึ้นมาหนึ่งเท่าในสอง
ปี บริษัทจดทะเบียนบางแห่งเริ่มมาทำดอนโดขาย ทั้งๆที่ธุรกิจหลักคือการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า

บริษัท PING AN ประกันชีวิตประกาศสร้างตึกที่สูงที่สุด บริษัทแถบกวางโจวบางแห่งลงทุนสร้างสนามกอฟล์เพื่อรับรองลูกค้า

ผมเห็นการใช้เงินแบบนี้แล้วให้เป็นห่วงยิ่งนัก ถึงแม้ระยะยาวผมมองจีนดีมากแต่ระยะสั้นคงต้องผ่านด่านหินอีกหลายด่านครับ

สรุป แล้ว ซื้อ กองทุนที่ฮ่องกงดีกว่าใช่ไหมครับ

ถ้าไปซื้อหุ้นที่จีน เองไม่ดีใช่ไหมครับ

รบกวนแนะนำด้วยครับ

แล้วอย่างนั้นมีกองทุนไหนบ้างครับ ขอบคุรครับ

ผมเพิ่งอ่านบทวิเคราะห์ฉบับใหม่ของฟิลลิปครับ มีมุมมองต่อการลงทุนในกองทุนหุ้นจีนพอดี ถ้าสนใจส่งฉบับเต็มให้ได้ครับ

ผมเลือก ABCG ไปแล้ว เพราะเหตุนี้ครับ

3) กองทุนหลักลงทุนในบริษัทที่มีรายได้หลักมาจากประเทศจีน
กองทุนประเภทนี้จะไม่สนใจตลาดที่บริษัทนั้นไปจดทะเบียนแต่จะคำนึงถึงรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทจะต้องมาจากประเทศจีนเป็นหลัก
ซึ่งประกอบด้วย Aberdeen China Gateway Fund (ABCG) และ กองทุนที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่าง K-CHINA แม้ว่านโยบายการลงทุน
จะเป็นแบบ Bottom-up Approach เหมือนกันแต่ลักษณะหุ้นที่ลงทุนของทั้ง 2 กองลงทุนนั้นกลับมีความแตกต่างกันมาก โดย ABCG
จะเน้นการลงทุนในบริษัทฮ่องกงที่มีรายได้หลักมาจากจีน และต้องเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งทั้งในด้านฐานะทางการเงิน และธุรกิจ
ในขณะที่ K-CHINA จะเน้นลงทุนในหุ้น H Share เป็นหลัก โดยจะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต นอกจากนี้ K-CHINA
ยังมีนโยบายจ่ายปันผล และทำการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ

ply33 Posted: Mon Nov 16, 2009 10:47 pm    Post subject:  

--------------------------------------------------------------------------------

สรุป แล้ว ซื้อ กองทุนที่ฮ่องกงดีกว่าใช่ไหมครับ

ถ้าไปซื้อหุ้นที่จีน เองไม่ดีใช่ไหมครับ

รบกวนแนะนำด้วยครับ

แล้วอย่างนั้นมีกองทุนไหนบ้างครับ ขอบคุรครับ

บริษัทจีนชั้นนำนั้นโดยมาก จะมีการออกหุ้น H-SHARE ซึ่ง listed อยู่ที่ตลาด HANG SENG ที่ฮ่องกง โดยส่วนมาก

หุ้นของบริษัทเดียวกันที่ listed อยู่ทั้ง PRC & HK ราคาที่ HK จะถูกกว่าครับ เช่น อภิมหาหุ้นอย่าง PETRO CHINA

ราคาที่ Shanghai Stock Exchange ณ วันนี้อยู่ที่ 13.4 RMB แต่ที่ Hang Seng ราคาหุ้นละ 10.12 HK$ ทั้งนี้เป็นเพราะสภาพคล่องที่โป่งพองของเศรษฐกิจจีน

ประชาชนตาดำๆจะเอาเงินออกมาลงทุนนอกประเทศก็ไม่ได้ ทำให้เงินไปอัดแน่นกันที่ตลาดหุ้นและอสังหา

ดังนั้นกองทุนหุ้นจีนโดยมาก จะเป็นกองที่ลงทุนใน GREATER CHINA ซึ่งรวมถึงฮ่องกง และ ไต้หวันด้วย เพราะเขาสามารถซื้อหุ้นไดราคาดีกว่า ไม่ต้องซื้อหุ้น A-Share ที่ listed อยู่ที่ Shanghai & Shenzhen ที่มีราคาโป่งพองมาก

หากท่านลองหาอันดับ TOP 100 ของบริษัทจีนมาดู (ลองค้นดูได้ที่ www.ft.com หรือ www.fortune.com) ท่านจะพบว่าบริษัทไม่ได้กำไรดีอย่างที่หลายท่านคิด

บริษัทที่กำไรเป็นเนื้อเป็นหนังมีไม่มาก ผมว่า CHINA Stories ทั้งหลายช่วยผลักดันราคาไปข้างหน้าเพราะฝันว่าอนาคตจีนนั้นสวยหรู ส่วนตัวผมว่าจีนมีพื้นฐานที่ดี ในการเติบโตในระยะยาว

แต่ส่วนตัวเท่าที่ผมสัมผัสมา ผมว่าบริษัทของจีนต้องพัฒนาการบริหารจัดการอีกมากครับ จึงสามารถทัดเทียมบริษัทต่างชาติได้

หลายบริษัทแข็งแกร่งเพราะรัฐบาลจีเป็นผู้ถืดหุ้นใหญ่ และให้การช่วยเหลืออยู่ หากไม่มี "ต้า เกอ" มาช่วยอุ้มนี่ ผมว่าแลกกันหมัดต่อหมัดไม่น่าจะยืนครบยกครับ

ลองดูอันนี้ก่อนก็ได้นะครับ สำหรับ CHINA TOP 100

แต่มันเป็น version ของปี 2007 ครับ

ถึงจะเก่าไปหน่อยแต่คงพอให้เห็นภาพได้บ้าง

http://money.cnn.com/magazines/fortune/ ... /index.htm

大哥, 谢谢你.