บัฟเฟตต์ชี้สหรัฐดีขึ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 17, 2009 8:03 pm
บัฟเฟตต์ชี้สหรัฐดีขึ้น
แต่ยังไม่เริ่มหลุดพ้น
จากภาวะถดถอย---------------
คาร์ลสบัด บัฟเฟตต์ชี้เศรษฐกิจสหรัฐยังไม่เริ่มหลุดพ้นจากภาวะถดถอยที่เลวร้ายที่สุดนับแต่เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ แต่"ความน่ากลัว"ที่ตามมากับการเกือบล่มสลายของระบบการเงินเมื่อปีที่แล้วหมดไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ารัฐบาลเข้าแทรกแซง
วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เขายังคงมีแนวโน้มในด้านบวกต่อโครงการบรรเทาสินทรัพย์ที่มีปัญหา(TARP)ให้กับธนาคาร โดยกล่าวว่า มันอาจคืนกำไรให้กับรัฐบาลในที่สุด
"ในขณะนี้เราไม่เห็นว่ามันดีขึ้นหรือเลวลง แต่สามารถพูดได้ว่าดีกว่าหกเดือนก่อน ความน่ากลัวเมื่อปีที่แล้วหมดไปและนั่นเป็นเพราะรัฐบาลส่วนหนึ่ง"
บัฟเฟตต์ได้ให้สัมภาษณ์แก่รอยเตอร์ในงานของฟอร์จูนที่เมืองคาร์ลสบัด มลรัฐแคลิฟอร์เนียว่า เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น แต่มันจะฟื้น แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ โดยอาจจะเป็นพรุ่งนี้ นอกจากนี้ยังกล่าวว่า คณะบริหารโอบามากำลังสร้างความคืบหน้ากับโครงการTRAP และอาจจะจบลงด้วยการทำกำไร และจะไม่เสียหายอย่างแน่นอน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็กล่าวเมื่อวันอังคารว่า มาตรการที่คณะบริหารของเขาใช้กอบกู้เศรษฐกิจกำลังได้ผล แต่เตือนว่า จะต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะมีการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์
เบ็น เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐก็ได้แสดงความเห็นที่ค่อนข้างมีกำลังใจว่า ภาวะถดถอยที่นานที่สุดและรุนแรงที่สุดนับแต่ค.ศ. 1930 น่าจะจบลงแล้ว แต่เขารู้สึกว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแอไปอีกระยะหนึ่ง
ข้อมูลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาชี้ว่า ยอดขายปลีกของสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคมในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบสามปีครึ่ง และดัชนีการผลิตของรัฐนิวยอร์กใกล้สูงสุดในรอบสองปี
นักเศรษฐศาสตร์เห็นพ้องกันโดยทั่วไปว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในช่วงต้นของการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 7 ทศวรรษ แต่หลายคนยังคงเป็นกังวลเกี่ยวกับดีมานด์ของผู้บริโภคที่ยังซบเซา โดยการว่างงานที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อรายได้
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ธนาคารใหญ่ๆของสหรัฐจำนวนหนึ่งยังคงเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือทางการเงินของรัฐบาลเป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่คาดว่าจะมีธนาคารชุดต่อไปที่จะได้รับอนุญาตให้ออกจากโครงการจนกว่าจะใกล้สิ้นปี
ธนาคาร 10 แห่งได้รับอนุมัติให้ชำระเงินคืนแก่รัฐบาลไปแล้ว 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าธนาคารใหญ่รายอื่นๆจะได้รับอนุญาตให้ออกจากโครงการธนาคารอย่างเช่น ซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ ออฟ อเมริกา ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล และต้องการที่จะออกจากโครงการนี้
บัฟเฟตต์กล่าวว่า ธนาคารต้องการออกจากโครงการTARP และพวกเขาจะได้ออกจากโครงการนี้ และยังกล่าวว่า กรอบเวลาในการออกจากโครงการนี้ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ
วันที่ 17 ก.ย. 2552 แสดงข่าวมาแล้ว 9ช.ม. 41นาที
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/gen ... ?cid=31433
แต่ยังไม่เริ่มหลุดพ้น
จากภาวะถดถอย---------------
คาร์ลสบัด บัฟเฟตต์ชี้เศรษฐกิจสหรัฐยังไม่เริ่มหลุดพ้นจากภาวะถดถอยที่เลวร้ายที่สุดนับแต่เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ แต่"ความน่ากลัว"ที่ตามมากับการเกือบล่มสลายของระบบการเงินเมื่อปีที่แล้วหมดไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ารัฐบาลเข้าแทรกแซง
วอร์เรน บัฟเฟตต์ กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เขายังคงมีแนวโน้มในด้านบวกต่อโครงการบรรเทาสินทรัพย์ที่มีปัญหา(TARP)ให้กับธนาคาร โดยกล่าวว่า มันอาจคืนกำไรให้กับรัฐบาลในที่สุด
"ในขณะนี้เราไม่เห็นว่ามันดีขึ้นหรือเลวลง แต่สามารถพูดได้ว่าดีกว่าหกเดือนก่อน ความน่ากลัวเมื่อปีที่แล้วหมดไปและนั่นเป็นเพราะรัฐบาลส่วนหนึ่ง"
บัฟเฟตต์ได้ให้สัมภาษณ์แก่รอยเตอร์ในงานของฟอร์จูนที่เมืองคาร์ลสบัด มลรัฐแคลิฟอร์เนียว่า เศรษฐกิจยังไม่ฟื้น แต่มันจะฟื้น แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ โดยอาจจะเป็นพรุ่งนี้ นอกจากนี้ยังกล่าวว่า คณะบริหารโอบามากำลังสร้างความคืบหน้ากับโครงการTRAP และอาจจะจบลงด้วยการทำกำไร และจะไม่เสียหายอย่างแน่นอน
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็กล่าวเมื่อวันอังคารว่า มาตรการที่คณะบริหารของเขาใช้กอบกู้เศรษฐกิจกำลังได้ผล แต่เตือนว่า จะต้องใช้เวลาอีกระยะจึงจะมีการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์
เบ็น เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐก็ได้แสดงความเห็นที่ค่อนข้างมีกำลังใจว่า ภาวะถดถอยที่นานที่สุดและรุนแรงที่สุดนับแต่ค.ศ. 1930 น่าจะจบลงแล้ว แต่เขารู้สึกว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแอไปอีกระยะหนึ่ง
ข้อมูลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาชี้ว่า ยอดขายปลีกของสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนสิงหาคมในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบสามปีครึ่ง และดัชนีการผลิตของรัฐนิวยอร์กใกล้สูงสุดในรอบสองปี
นักเศรษฐศาสตร์เห็นพ้องกันโดยทั่วไปว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในช่วงต้นของการฟื้นตัวจากภาวะถดถอยที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 7 ทศวรรษ แต่หลายคนยังคงเป็นกังวลเกี่ยวกับดีมานด์ของผู้บริโภคที่ยังซบเซา โดยการว่างงานที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อรายได้
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่า ธนาคารใหญ่ๆของสหรัฐจำนวนหนึ่งยังคงเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือทางการเงินของรัฐบาลเป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่คาดว่าจะมีธนาคารชุดต่อไปที่จะได้รับอนุญาตให้ออกจากโครงการจนกว่าจะใกล้สิ้นปี
ธนาคาร 10 แห่งได้รับอนุมัติให้ชำระเงินคืนแก่รัฐบาลไปแล้ว 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังไม่มีทีท่าว่าธนาคารใหญ่รายอื่นๆจะได้รับอนุญาตให้ออกจากโครงการธนาคารอย่างเช่น ซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ ออฟ อเมริกา ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล และต้องการที่จะออกจากโครงการนี้
บัฟเฟตต์กล่าวว่า ธนาคารต้องการออกจากโครงการTARP และพวกเขาจะได้ออกจากโครงการนี้ และยังกล่าวว่า กรอบเวลาในการออกจากโครงการนี้ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ
วันที่ 17 ก.ย. 2552 แสดงข่าวมาแล้ว 9ช.ม. 41นาที
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/gen ... ?cid=31433