หน้า 1 จากทั้งหมด 1

Free Cash Flow

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 02, 2009 11:55 pm
โดย vi_tal signs
จำเป็นไหมครับ  ว่าจะต้องใช้สูตรเดียว  ได้ทุกอุตสาหกรรม

FCF = net  profit + amortization + depriciation - cwc - capex

Free Cash Flow

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ย. 03, 2009 6:03 pm
โดย support
เอ๋ไม่แน่ใจนะครับ  ว่า FCF ใช่กับหุ้น trunaround  และ  DFC ใช่กับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่มีการใช้ซ้ำ ๆ หรือเปล่า รอความเห็นต่อไปดีกว่า

Free Cash Flow

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 04, 2009 11:49 am
โดย niyom_value
ของผมจะใช้
กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน - กระแสเงินสดจากการลงทุน = FCF

คิดว่าน่าจะดูได้ทุกอุตสาหกรรม แต่ตัวเลขอาจแตกต่างไปตามอุตสาหกรรมครับ

Free Cash Flow

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ย. 04, 2009 10:12 pm
โดย kornjackrit
ถ้าทำได้ก็สุดยอดครับ  :D

เราอาจจะดู FCF สำหรับแต่ละปีได้
แต่ผมว่ามันยากมากที่จะเอาไปประเมินราคาหุ้นที่เหมาะสม
ของหุ้นในทุกๆอุตสาหกรรมได้

สาเหตุเพราะ FCF เป็น Valuation ที่ตั้งอยู่บนสมมุติฐานมากมายในอนาคต
ซึ่งถ้าสมมุติฐานที่ตั้งไว้ผิดไปเพียงนิดเดียว มูลค่าที่หาได้ก็จะผิดไปอย่างมากมาย

ดังนั้น การประเมินมูลค่าหุ้นด้วยวิธี DCF จาก FCF สำหรับอุตสาหกรรม
หรือธุรกิจที่มีความผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจมักจะได้ผล
ไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่าที่ควร แต่ถ้าใช้วิธีนี้กับอุตสาหกรรม
ที่มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอไม่ผันผวน เช่น สาธารณูปโภคพื้นฐาน
ไฟฟ้า ประปา หรือกลุ่ม ค้าปลีก วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ค่อนข้างใช้ได้ผลดี

Free Cash Flow

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 8:57 am
โดย chavanakorn
จริงๆแล้ว ทั้งวิธี DCF และ FCF สามารถนำมาประเมินมูลค่าหุ้นได้ทุกอุตสาหกรรม และ ทุกบริษัทครับ แต่ต้องประเมินตัวแปรต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งรายรับ และ รายจ่ายได้อย่างค่อนข้างแม่นยำด้วยนะครับ มูลค่าถึงจะไม่ผิดเพี้ยนไปจากความจริงที่จะเกิดขึ้นมากนัก แต่ถ้าเราใช้วิธีการประเมินโดยไม่ได้ forward อนาคต แต่ใช้ข้อมูลในอดีตมาประเมินอนาคต อันนี้คงใช้ได้แต่กิจการที่มีความสม่ำเสมอในรายรับ และ รายจ่าย อย่างที่คุณkornjackrit ได้กล่าวถึง

Free Cash Flow

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 23, 2009 12:35 am
โดย phakphum
หากใช้กับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับกิจการเงินสดจะอันตรายมากครับ เพราะเราไม่สามารถแยกแยะได้ชัดเจนว่าเงินสดใดที่เป็นเงินสดจากการดำเนินกิจการ เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มหลักทรัพย์ เป็นต้น

ปรกติ VI จะหลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้น 2 กลุ่มนี้อยู่แล้วด้วยครับ