Thai VI

ความเร็วในการวิ่งผ่านของตังเงินจากธุรกิจนึงไป
ยังอีกธุรกิจนึง บางทีก็ช้ามาก...บางทีก็เร็ว หรือ อาจจะ
เรียกว่า  เร็วมากๆ จนตาเรามองแทบอ่านไม่ทัน หรือ ลายตานั่นเอง

ขนาดนอนหลับอุตุ...
กิจการก็ยังมียอดขาย ขยับไปมาตลอดเวลา เพราะบางธุรกิจ ก็ปิดช่วงเย็น
บางธุรกิจก็ขอแข่งต่อ ยันเช้า

ตื่นเช้างัวเงียๆ แปรงฟัน หรือ เข้าส้วมทำธุระส่วนตัว ที่ไหนก็ไม่รู้
ก็ไม่วายเห็น กิจการที่เราลงทุนไว้มาแปะให้อ่านอีก แหมมันน่าจริงๆ

จะเดินอ่านหนังสือเรื่อยเปื่อยสักเล่ม ก็ต้องเจอ
ฝ่ายการตลาดเข้า เอาโฆษณามาลงไว้ให้อ่านอีก
เออ อะไรจะปานนั้น (ฮะๆ...)

สงสัยงานนี้ เดินไป ขำไปคนเดียว ตลอดทาง
(ฮะๆ...ฮะๆ)

ความเร็วในการวิ่งผ่านของตังเงินจากธุรกิจนึงไป
ยังอีกธุรกิจนึง บางทีก็ช้ามาก...บางทีก็เร็ว หรือ อาจจะ
เรียกว่า  เร็วมากๆ จนตาเรามองแทบอ่านไม่ทัน หรือ ลายตานั่นเอง

ขนาดนอนหลับอุตุ...
กิจการก็ยังมียอดขาย ขยับไปมาตลอดเวลา เพราะบางธุรกิจ ก็ปิดช่วงเย็น
บางธุรกิจก็ขอแข่งต่อ ยันเช้า

ตื่นเช้างัวเงียๆ แปรงฟัน หรือ เข้าส้วมทำธุระส่วนตัว ที่ไหนก็ไม่รู้
ก็ไม่วายเห็น กิจการที่เราลงทุนไว้มาแปะให้อ่านอีก แหมมันน่าจริงๆ  

จะเดินอ่านหนังสือเรื่อยเปื่อยสักเล่ม ก็ต้องเจอ
ฝ่ายการตลาดเข้า เอาโฆษณามาลงไว้ให้อ่านอีก
เออ อะไรจะปานนั้น (ฮะๆ...)

-   หมายถึง การเก็บเงินจากลูกค้า หรือ ระยะเวลาขายเฉลี่ย  หรือจำนวนรอบการขาย

อยากให้ขยายความเพิ่มเติม ครับ  

อ่านแล้วงงครับ

เราจะตีความแบบจุลภาค ก็ได้ หรือ จะตีความแบบมหภาค ก็ได้
สุดแท้แต่มุมมองของผู้อ่าน จริงมั๊ยเอ่ย?

นายสต็อก เขียน:เราจะตีความแบบจุลภาค ก็ได้ หรือ จะตีความแบบมหภาค ก็ได้
สุดแท้แต่มุมมองของผู้อ่าน จริงมั๊ยเอ่ย?

ไม่เถียงล่ะกันครับ  เอาเป็นว่าผมกลับไปอ่านพื้นฐานให้แน่นกว่านี้ดีกว่า

จะได้เข้าใจเรื่องราวที่ท่านนายสต็อกกล่าว

ต้องการจะสื่อถึงอะไรครับ ผมรู้ไม่ลึกซึ้ง

แต่ถ้ามันเป็นประโยชน์ก็อยากรู้ไว้

ถ้ามองแบบจุลภาคก็เป็นกระแสเงินสดของแต่ละกิจการ

ถ้ามองแบบมหภาคก็ฟันโฟลวรึเปล่าครับ  :?: