Thai VI

ดิฉันเจออยู่บริษัทหนึ่งรายงานตลาด ว่าได้ทำการซื้อหุ้นคืนจากตลาด 45,000,000 หุ้นเพื่อบริหารทางการเงินของบริษัท เมื่อปี 45 และแจ้งให้ตลาดทราบว่าจะจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนภายใน สิงหาคม 46 ถึง ตุลาคม 48 ดิฉันงงค่ะว่าทำไมต้องซื้อคืนแล้วเอาออกมาขายอีกเพื่ออะไรค่ะ

บริษัทอะไรเหรอครับ ผมจะไปศึกษาดู กำลังหา case แบบนี้ศึกษาพอดี
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

grammy ค่ะ

การซื้อหุ้นคืนจากตลาดเป็นการปรับลดส่วนของผู้ถือหุ้นเพื่อลดจำนวนหุ้นและปรับให้จำนวนหุ้นน้อยลง มันมีสองกรณีคือถ้าเอาเงินสดมาจากกำไรสะสม ส่วนของผู้ถือหุ้นก็จะไม่เปลี่ยนแปลงในมูลค่า แต่จำนวนหุ้นจะลดลง ทำให้ EPS เพิ่มขึ้นได้ ถือเป็นการคืนกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้เพราะราคาของหุ้นมักจะเพิ่มขึ้น

แต่ในกรณีที่กู้เงินมาซื้อหุ้นคืนก็คือการเพิ่ม สัดส่วนของหนี้ในโครงสร้างทางการเงินของบริษัท อันนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะตอบง่ายๆ ว่าดีไม่ดี ต้องดูระดับหนี้เดิมและความเสี่ยงของธุรกิจในอนาคตด้วย

หวังว่าคงช่วยนะครับ

ถ้าจำไม่ผิดเป็นกฎของตลาดนะครับ (ถ้าผิดพลาด ขออภัยไว้ด้วยครับ)

การซื้อหุ้นคืนถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการตอบแทนผู้ถือหุ้น และการบริหาร access cash ของ firm ซึ่งจะทำให้ supply ของหุ้นในตลาดลดลง แต่ Set มีข้อกำหนดว่าหากซื้อมาเก็บไว้เกินกว่า 2 ปีจะต้องตัดหุ้นนั้นออกไปจากบัญชีเลย (ส่วนผู้ถือหุ้นจะลดลง) ในกรณีนี้ผมว่าบริษัทไม่อยากที่จะตัดหุ้นที่ซื้อคืนมาออกจากบัญชี จึงเลือกที่จะขายคืนมาในตลาดภายใน 2 ปีครับ

หากจำไม่ผิดพลาด การซื้อหุ้นคืน จะต้องขายหุ้นคืนภายใน 3 ปี
หากไม่ขาย ต้องทำเรื่องลดทุนส่วนนั้นกับกระทรวงพาณิชย์
คาดว่า บริษัทส่วนใหญ่ที่ซื้อหุ้นคืน จะไม่ขายออก แต่ทำการลดทุนมากกว่า

ผมเข้าใจว่า 3 ปีหากไม่จำหน่ายคืนในตลาด ต้องลดทุนจดทะเบียนอย่างที่คุณลูกอิสานว่าครับ ซืงจะทำให้ EPS สูงขึ้นถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นทางหนึ่ง บริษัทจะขายคืนหากเห็นบริษัทราคาหุ้นอาจจะสูงเกินพื้นฐาน

กรณีของ Grammy นี่เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ถ้าผมจำไม่ผิด Grammy ซื้อหุ้นคืนในราคาประมาณ 17-19 บาท
ราคาของหุ้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงปีผ่านมา (ขึ้นไปถึง 20 กว่าบาท)
ตอนที่บรษัทประกาศขายหุ้นคืนราคากลับลงมาอยู่ในระดับเดียวกันกับที่ซื้อ
เนื่องจากราคาปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาที่ซื้อ ดังนั้นบริษัทจะขาดทุนหากขายหุ้นออกมาจริงๆ ตามประกาศ
ด้วยเหตุดังกล่าวบริษัทอาจจะไม่ขายหากไม่จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ
กรณีนี้อาจจะมองได้ว่าผู้บริหารคาดการณ์ผิดพลาดครับ

สำหรับ MBK นั้นแตกต่างกัน ขอยกตัวอย่างครับ (ผมเองถือหุ้น MBK อยู่ด้วย โปรดใช้วิจารณญานครับ)
กรณีของ MBK นั้นแตกต่างกัน MBK ซื้อหุ้นคืนที่ระดับราคา 34.5 บาทได้เป็นจำนวนเกือบ 6%
ถึงแม้ตอนนี้บริษัทยังไม่ประกาศขายหุ้นกลับคืนในตลาด แต่บริษัทก็ทำได้หากเห็นสมควร
กรณีที่ MBK ขายออกมา บริษัทจะได้กำไรพอสมควรเนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันถูกกว่าราคาตอนซื้อ
หากไม่ตัดสินใจขายออกมาภายใน 3 ปีบริษัทจำเป็นต้องลดทุนลง 6% ตามที่ซื้อคืน
ผมมองว่ากรณีดังกล่าว ผู้ถือหุ้นมีแต่ได้กับได้ครับ ถ้าขายคืนก็ได้กำไรส่วนต่าง
ถ้าลดทุน จำนวนหุ้นก็น้อยลงอย่างถาวร EPS ก็จะดีขึ้นเนื่องจากหุ้นน้อยลง
กรณีนี้น่าจะสรุปได้ว่า ผู้บริหารคาดการณ์ถูกต้อง

อย่างที่ผมแจ้งให้ทราบ มีถือหุ้น MBK อาจจะ bias ครับใช้วิจารณญานด้วยครับ
อีกอย่างนี่เป็นข้อมูลถึงปัจจุบันครับ อนาคตราคาของทั้ง grammy และ MBK
อาจจะไม่เป็นอย่างที่ว่า ข้อมูลข้างต้นอาจจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียวครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกระจ่าง แต่ก็ยังสงสัยต่ออีกว่า ทำอย่างนี้เท่ากับมีการเก็งกำไรในหุ้นตัวเองหรือเปล่าค่ะ

ไม่เชิงเก็งกำไร เพราะเค้าซื้อแล้วขายกลับไม่ได้ในระยะสั้น แต่เป็นการพยุงราคาหุ้นนะเป็นไปได้คับ

ยกตัวอย่างเช่นปูนนกกำลังซื้อหุ้นคืนทำให้ราคาตอนนี้ไม่ลงมากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับปูนใหญ่

แล้วอย่างนี้จำนวนหุ้นที่ใช้หารกำไรจะเป็นกี่หุ้นครับ ถ้าเกิดซื้อหุ้นคืนแล้วแต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะลดทุนลงไปหรือจะนำมาขายคืน

เท่าที่เห็นตัวหารจะลดลงนะครับ

ขอบคุณครับคุณ ayethebing ถามต่ออีกนิดนะครับ
ถึงแม้จะซื้อคืนไปสักปีแล้วแต่ยังไม่ได้เลือกว่าจะตัดหุ้นที่ซื้อคืนออกไปเลยหรือเอามาขายคืน ก็จะทำให้ตัวหารลดลงเหรอครับ ??

บริษัทที่มีการซื้อหุ้นคืน มีประโยชน์กับผู้ถือหุ้นมากไหมคับ

หรือแค่บางส่วน

Blueblood เขียน:ขอบคุณครับคุณ ayethebing ถามต่ออีกนิดนะครับ
ถึงแม้จะซื้อคืนไปสักปีแล้วแต่ยังไม่ได้เลือกว่าจะตัดหุ้นที่ซื้อคืนออกไปเลยหรือเอามาขายคืน ก็จะทำให้ตัวหารลดลงเหรอครับ ??

หุ้นที่บริษัททำการซื้อคืนไป จะไม่ได้รับเงินปันผลครับ