หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ส.ค. 06, 2009 10:32 pm
โดย knupp
รบกวนพี่ ๆ ด้วยครับ อ่านข่าวจากหน้านี้แล้วสงสัยอ่ะครับ :lol:

http://www.settrade.com/simsImg/news/2009/09024878.t09

ถ้ายังกระจายหุ้นไปยังรายย่อยไม่ครบถ้วนแล้วบริษัทจะเป็นยังไงต่อเหรอครับ
รายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วนตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป



         ปัจจุบัน มีบริษัทจดทะเบียนจำนวน 21 บริษัท ที่มีคุณสมบัติด้านการกระจายการถือหุ้นของ

ผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วนตามข้อกำหนดติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ขึ้นไป ดังนี้

              1. บริษัท รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (BATA)

              2. บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (GL)

              3. บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) (GRAND)

              4. บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) (IHL)

              5. บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) (MEDIAS)

              6. บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) (NSI)

              7. บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI)

              8. บริษัท แพ็คฟู้ด จำกัด (มหาชน) (PPC)

              9. บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) (PRG)

              10. บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) (RANCH)                1/

              11. บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ROH)

              12. บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (SCNYL)

              13. บริษัท ซีฮอร์ส จำกัด (มหาชน) (SH)

              14. บริษัท แชงกรี-ลา โฮเต็ล จำกัด (มหาชน) (SHANG)

              15. บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN)

              16. บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) (SIM)

              17. บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) (SVH)

              18. บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (TCP)

              19. บริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) (UFM)

              20. บริษัท ยูเนี่ยนเทคโนโลยี่ (2008) จำกัด (มหาชน) (UTC)           2/

              21. บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) (VNT)



        ทั้งนี้ การประกาศรายชื่อดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ว่าด้วยการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งกำหนดว่าบริษัทจดทะเบียนต้องมีจำนวนผู้ถือหุ้นสามัญ

รายย่อยไม่น้อยกว่า 150 ราย และผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของทุนชำระแล้ว

ของบริษัท โดยพิจารณาจากรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันประชุมสามัญประจำปีของบริษัท

        บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวมีหน้าที่รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาปีละ 1 ครั้งพร้อมกับการ

นำส่งรายงานการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย จนกว่าบริษัทจะมีคุณสมบัติเรื่องการกระจายราย

ย่อยครบถ้วน ทั้งนี้ PRG มีงวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งจะครบกำหนดนำส่งรายงานการกระจาย

การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552 และมีหน้าที่ต้องรายงานความคืบหน้าหาก

ยังมีผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วน



(ศึกษารายละเอียดของข้อกำหนดฯ ได้จาก www.set.or.th)





หมายเหตุ:

  1/ RANCH อยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์โดยสมัครใจ โดย London 8 Limited

บริษัท ธงชัย เอเชีย จำกัด และบริษัท มิดเดิ้ล วิลเลจ จำกัด เป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในระหว่าง

วันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2552

  2/ UTC อยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์โดยสมัครใจ โดยบริษัทสหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน)

เป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน 2552 ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2552





                          *********************

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 07, 2009 2:48 pm
โดย pak
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่อนผันเกณฑ์ Free Float ชั่วคราว ลดภาระบจ.
วันที่ 3 มิถุนายน 2552 13:46 น.

ที่มา : ตลท.
 
นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่อนผันหลักเกณฑ์กรณีบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ไม่ครบถ้วนโดยจะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มเป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายแก่บริษัทจดทะเบียน และให้เวลาบริษัทจดทะเบียนในการปรับตัว

หลักเกณฑ์ชั่วคราวดังกล่าว จะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มจากบริษัทจดทะเบียนที่มีเกณฑ์ Free Float ไม่ครบถ้วน โดยยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นระยะเวลา 2 ปี (2552 2553) และให้บริษัทจดทะเบียนรายงานความคืบหน้าต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ปีละ 1 ครั้ง จากเดิมที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป และบริษัทจดทะเบียนต้องรายงานความคืบหน้าทุก 6 เดือน

ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนด 2 ปี หากบริษัทใดยังไม่สามารถแก้ไขปัญหา Free Float ได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่ม โดยจะนับระยะเวลาต่อจากปี 2551 (ไม่นับปี 2552 และ 2553)

การผ่อนผันหลักเกณฑ์นี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว และจะเริ่มมีผลตั้งแต่การจ่ายค่าธรรมเนียมในปี 2552 ซึ่งมีกำหนดจ่ายในเดือนกรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป


*******************************************

ว่าแต่...หลังจากนั้นแล้ว บริษัทจะเป็นยังไงต่อ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 30, 2009 11:35 pm
โดย canman34222
:P

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ย. 15, 2009 4:19 pm
โดย PTEE
ถ้าผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อยต่ำกว่า 150 ราย หรือถือรวมกันต่ำกว่า 15% ของทุนจดทะเบียน(ชำระแล้ว) นี่จะทำให้ผิดกฎครับ  บริษัทดี ๆ ส่วนใหญ่ก็ถือกันไม่ปล่อย


มันจะผิดกฎก็ไม่น่าจะรุนแรง จริงมั้ยครับ

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 04, 2009 11:53 pm
โดย pak
Free Float

ค่า free float ของหุ้นในแต่ละบริษัทจดทะเบียนเป็นข้อมูลที่แสดงถึงจำนวนหุ้นที่ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงเพื่อการซื้อขายได้ปกติ โดยหลักการ หุ้น free float คือหุ้นที่ไม่ได้ถือโดยนักลงทุนกลุ่ม strategic shareholder และไม่ได้เป็นหุ้นที่ซื้อคืน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่ระบุชัดเจนว่าผู้ถือหุ้นคนใดหรือกลุ่มใดเป็น strategic shareholder ฝ่ายวิจัยและยุทธศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. จึงได้ประมาณการค่า free float เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามข้างล่างนี้ ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่กลุ่มผู้ถือหุ้นได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือมีความเห็นว่าตัวเลขยังไม่ถูกต้อง สามารถติดต่อฝ่ายวิจัยและยุทธศาสตร์เพื่อปรับปรุงค่า free float ([email protected])

ดูข้อมูล Free Float ของแต่ละบริษัทฯได้ที่ http://capital.sec.or.th/webapp/freefloat/freefloat.php

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 04, 2009 11:54 pm
โดย pak
หลักเกณฑ์ในการประมาณการค่า Free Float

1. free float หมายถึง หุ้นของบริษัทจดทะเบียนในส่วนที่ไม่ได้ถือโดย strategic shareholder และไม่ได้เป็นหุ้นที่ซื้อคืน โดยที่ strategic shareholder หมายถึง ผู้ลงทุนที่ถือหุ้นเพื่อการมีส่วนร่วมในการบริหารหรือเพื่อเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ ในที่นี้รวมผู้ถือหุ้นกลุ่มต่อไปนี้
1) รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ
2) กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหาร 4 ระดับแรกนับต่อจากผู้จัดการลงมา รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่มีความสัมพันธ์
3) ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้น > 5% โดยนับรวมผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ยกเว้นผู้ถือหุ้นกลุ่มดังต่อไปนี้คือ บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย กองทุนรวม และกองทุนที่ออมแบบมีภาระผูกพัน
4) ผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุม
5) ผู้ถือหุ้นที่มีข้อตกลงในการห้ามขายหุ้นภายในเวลาที่กำหนด

2. ค่า free float ประมาณการจากข้อมูลปิดสมุดทะเบียนในการประชุมประจำปีผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุดของแต่ละบริษัทในแต่ละปี และปรับปรุงค่าประมาณการ free float ในช่วงหลังปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ในกรณีสำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ดังต่อไปนี้
1) กรณีเพิ่มทุน โดย public offering, exercise warrant, preferred stock/debenture conversion จำนวนหุ้นที่ออกใหม่นับเป็นหุ้น free float
2) กรณีเพิ่มทุน โดย private placement จำนวนหุ้นที่ออกใหม่นับเป็นหุ้นที่ถือโดย strategic shareholder
3) การเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของผู้บริหารตามรายงานแบบ 59-2
4) กรณีผู้ถือหุ้นกลุ่ม strategic shareholder ขายหุ้นออกโดย public offering หุ้นที่ขายออกนับเป็น free float
5) กรณีหุ้นที่เป็น treasury stock การซื้อกลับคืนทำให้ free float ลดลง  ละการนำหุ้นออกขายจะทำให้ free float เพิ่มขึ้น

3. แหล่งข้อมูลที่ใช้ประมาณการค่า free float มาจากฐานข้อมูล SET SMART ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้ยกเว้นข้อมูลจากรายงาน 59-2 มาจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ที่มา : http://capital.sec.or.th/webapp/freefloat/ffinfo.htm

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 04, 2009 11:59 pm
โดย pak
ข่าวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ Free Float

รายละเอียดจะอยู่ด้านล่างนะขอรับ โดยมีหัวข่าวโดยสรุป (เรียงลำดับตามวันเวลาของข่าว) คือ
- วันที่ 1 มี.ค. 50 เรื่อง "บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติแนวทางส่งเสริมสภาพคล่องหลักทรัพย์"
- วันที่ 18 มิ.ย. 50 เรื่อง "ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแนวทางส่งเสริมบจ.เพิ่มสภาพคล่องหุ้น"
- วันที่ 3 มิ.ย. 52 เรื่อง "ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่อนผันเกณฑ์ Free Float ชั่วคราว ลดภาระบจ."
- วันที่ 2 ก.ค. 52 เรื่อง "รายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วนตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป"

***************************************************

บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติแนวทางส่งเสริมสภาพคล่องหลักทรัพย์
[ วันที่ 1 มีนาคม 2550 16:46 น. ]
ที่มา ตลท.

คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติอนุมัติแนวทางการส่งเสริมสภาพคล่องการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะทำงานร่วมกับชมรมวาณิชธนกิจ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ สนับสนุนให้คำแนะนำเพิ่ม Free float แก่ บริษัทจดทะเบียนที่มีสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) ต่ำกว่าเกณฑ์ เผยแนวทางเพิ่มสภาพคล่องทำได้ทั้งการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน การแตกมูลค่าหุ้น หรือการจ่ายหุ้นปันผล ส่วนบริษัทที่มีปัญหา ให้เวลาแก้ไข 3 ปีก่อนย้ายไปอยู่ในกลุ่ม NPG หรือ Non Performing Group และขึ้นเครื่องหมาย SP ก่อนพิจารณาเพิกถอน พร้อมยกเลิก Call Market หวังกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนเร่งแก้ไขปัญหา Free float  

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการประชุมวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2550 ได้มีมติอนุมัติแนวทางในการส่งเสริมสภาพคล่องการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเห็นชอบให้มีการทำงานร่วมกับชมรมวาณิชธนกิจ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้คำแนะนำและสนับสนุนแนวทางแก้ปัญหา    เพื่อเพิ่มสัดส่วน Free float ของบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง เช่น การเสนอขายหุ้นต่อประชาชน การแตกมูลค่าหุ้น หรือการจ่ายหุ้นปันผล เป็นต้น เพื่อกระตุ้นให้บริษัทที่มี  Free float ไม่เป็นไปตามเกณฑ์เร่งแก้ไขปัญหา เพื่อเพิ่มความน่าสนใจแก่ตลาดหุ้นไทย และที่สำคัญคือไม่ส่งผลกระทบต่อ ผู้ถือหุ้นรายย่อย

คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่าการเพิ่มสภาพคล่องของบริษัทจดทะเบียนเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ในการเพิ่มสภาพคล่องของการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะเพิ่มความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยต่อผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นประโยชน์กับบริษัทเอง ดังนั้น การทำงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้ง การกำหนดแนวทางดูแลบริษัทจดทะเบียนที่มีปัญหาเรื่อง Free float ของบริษัทที่ต่ำกว่าเกณฑ์ จะมีส่วนช่วยส่งเสริมให้การซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่มีคุณภาพดี มีสภาพคล่องและเป็นที่สนใจของผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น นายสุทธิชัยกล่าว

สำหรับแนวทางดำเนินการกับบริษัทจดทะเบียนที่มี  Free float ต่ำกว่าเกณฑ์ (150 รายถือหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ15 ของทุนชำระแล้ว) นั้นจะยกเลิกมาตรการ Call Market (การจับคู่ซื้อขายโดยอัตโนมัติในคราวเดียว  ณ ราคาเดียว) และให้ซื้อขายโดยระบบจับคู่ซื้อขายอัตโนมัติตามปกติ โดยจะให้เวลาบริษัท  3 ปี แก้ไขปัญหาก่อนที่จะย้ายบริษัทจดทะเบียนที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ไปอยู่ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ภายในกำหนด (NPG หรือ Non Performing Group) โดยหากยังไม่สามารถแก้ไขได้ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาเพิกถอนบริษัทดังกล่าวต่อไป

สำหรับแนวทางการดำเนินการกับบริษัทที่มี Free float ต่ำกว่าเกณฑ์นั้น  ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งให้บริษัทที่มี Free float ต่ำกว่าเกณฑ์ทราบถึงขั้นตอนการดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเมื่อครบปีที่ 1 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศ ชื่อบริษัท และเมื่อครบปีที่ 2 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศให้บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนและขึ้นเครื่องหมาย NC (Non Compliance) พร้อมทั้งหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ (SP) จนกว่าจะได้รับคำชี้แจงถึงแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวของบริษัท และหลังจากนั้น บริษัทจะมีเวลาอีก 1 ปี เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว นับจากวันที่ประกาศให้บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน

หากบริษัทยังไม่สามารถแก้ไขปัญหา Free float ต่ำกว่าเกณฑ์ได้เมื่อครบปีที่ 3 จะมีการย้ายบริษัทไป NPG และขึ้นเครื่องหมาย SP จนกว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไข  อย่างไรก็ตาม หากบริษัทตั้งใจที่จะแก้ปัญหา และหลักทรัพย์ของบริษัทยังมีสภาพคล่อง เป็นที่น่าสนใจของผู้ลงทุน ก็จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องถูกย้ายเข้าไปในกลุ่ม NPG  ทั้งนี้ บริษัทที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศชื่อจะต้องแจ้งความคืบหน้าเป็นระยะๆ ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ผู้ลงทุนได้ทราบความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา

สำหรับมาตรการใหม่ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศใช้นี้ จะขอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก่อนและเมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว จะมีผลบังคับใช้กับบริษัทที่มี Free float ต่ำกว่าเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งหมด

ทั้งนี้ บริษัทที่มี Free float ต่ำกว่าเกณฑ์ 1 ปีขึ้นไปในปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศชื่อบริษัทดังกล่าว และให้ซื้อขายโดยระบบจับคู่ซื้อขายอัตโนมัติตามปกติ และให้เวลาแก้ไขภายใน 1 ปี หากไม่สามารถแก้ไขได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศว่าบริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ส่วนบริษัทที่มี Free Float  น้อยกว่า 1 ปี ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งบริษัทและ  ให้เวลาแก้ไขตามขั้นตอนข้างต้นต่อไป

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียน 15 บริษัท ที่มี Free float ต่ำกว่าเกณฑ์มานานกว่า 1 ปี และซื้อขายในระบบ Call  Market

***************************************************

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแนวทางส่งเสริมบจ.เพิ่มสภาพคล่องหุ้น
[ วันที่ 18 มิถุนายน 2550 08:05 น. ]

ที่มา ตลท.

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยแนวทางส่งเสริมการสร้างสภาพคล่องให้บจ.ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) ต่ำกว่าเกณฑ์ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. แล้ว โดยจะยกเลิก Call Market ตั้งแต่ 4 ก.ค.นี้  และให้บริษัทเปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาทุก   6 เดือน  หากไม่สามารถเพิ่มสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ตามกำหนด จะเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มตั้งแต่ปีที่ 2 จนกว่าจะแก้ไขได้ ระบุการเพิ่มสภาพคล่องของบจ.เป็นการสร้างความน่าสนใจให้บริษัท และส่งผลให้การระดมทุนเป็นไปได้สะดวกขึ้น  เผยจะประกาศรายชื่อบจ.ที่มี  Free float ต่ำกว่าเกณฑ์เป็นปีที่ 2 ขึ้นไป  2  ก.ค. นี้

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การปรับปรุงมาตรการสำหรับบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วนหรือบริษัทจดทะเบียนที่มีสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free float) ต่ำกว่าเกณฑ์ (จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยน้อยกว่า 150 ราย หรือถือหุ้นรวมกันน้อยกว่าร้อยละ 15 ของทุนชำระแล้ว) ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แล้ว โดยจะมีการยกเลิก Call Market  ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2550 นี้ นอกจากนี้ จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทจดทะเบียนเพิ่ม พร้อมทั้งให้มีการรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาทุก 6 เดือน

สภาพคล่องของหลักทรัพย์ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่มความน่าสนใจให้แก่บริษัทจดทะเบียน ซึ่งจะมีผลให้บริษัทสามารถระดมทุนได้ง่ายและสะดวกขึ้น ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงพยายามส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนมีสภาพคล่องมากขึ้น  โดยการยกเลิก Call Market และให้หลักทรัพย์ของบริษัทกลับมาซื้อขายในระบบปกติ (Automatic Order Matching : AOM) จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายและช่วยให้การกระจายหุ้นเป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น  และจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย  

ส่วนการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่ม จะเริ่มเมื่อบริษัทจดทะเบียนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นปีที่ 2 ขึ้นไปจนกว่าจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศชื่อบริษัทดังกล่าวให้ผู้ลงทุนทราบ โดยหวังว่าจะเป็นแนวทางที่จะช่วยกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญและเร่งแก้ไขปัญหาการกระจายผู้ถือหุ้นรายย่อยได้เร็วขึ้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ซึ่งในที่สุดแล้วการเพิ่มสภาพคล่องของหลักทรัพย์จะส่งผลดีต่อบริษัท  ผู้ลงทุน และตลาดทุนโดยรวม  นางภัทรียากล่าว

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาคุณสมบัติด้านการกระจายการถือหุ้นรายย่อยของบริษัทจดทะเบียนจากรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ    วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น  เพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทและจะให้เวลาบริษัทจดทะเบียนในการแก้ไขการกระจายการถือหุ้นให้ครบถ้วน โดยในปีแรก ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งให้บริษัทจดทะเบียนได้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ไข  หากยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขการกระจายการถือหุ้นได้ในปีที่ 2  ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะแจ้งการขาดคุณสมบัติให้ผู้ลงทุนได้ทราบ และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มจนกว่าบริษัทจะแก้ไขเหตุดังกล่าวได้  พร้อมกันนี้จะให้บริษัทจดทะเบียนรายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาทุก 6 เดือน  เพื่อให้ผู้ลงทุนได้ทราบความคืบหน้าในการดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศรายชื่อของบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระจายการถือหุ้นต่ำกว่าเกณฑ์เป็นปีที่ 2 ขึ้นไปในวันที่ 2 ก.ค.นี้

กรรมการและผู้จัดการกล่าวด้วยว่าการเสริมสภาพคล่องการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ  เป็นแนวทางหนึ่งในการเพิ่มความน่าสนใจแก่ตลาดหุ้นไทย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเร่งสนับสนุนให้มีการทำงานร่วมกับชมรมวาณิชธนกิจ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้คำแนะนำและสนับสนุนแนวทางการเพิ่มสัดส่วน Free float ของบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง

Call  Market  เป็นวิธีการจับคู่คำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์อัตโนมัติ  โดยใน 1 วันทำการจะมีการจับคู่คำสั่งซื้อขาย 3 ครั้ง คือ  ช่วงเปิดตลาดภาคเช้า เวลา 9.55 10.00 น. ช่วงเปิดตลาดภาคบ่าย เวลา 14.25 14.30 น. และช่วงปิดตลาดภาคบ่าย เวลา 16.3516.40 น.  ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ  เริ่มใช้ระบบ Call Market   ตั้งแต่ปี 2545

***************************************************

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่อนผันเกณฑ์ Free Float ชั่วคราว ลดภาระบจ.
วันที่ 3 มิถุนายน 2552 13:46 น.

ที่มา : ตลท.

นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานกำกับตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผ่อนผันหลักเกณฑ์กรณีบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อย (Free Float) ไม่ครบถ้วนโดยจะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มเป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายแก่บริษัทจดทะเบียน และให้เวลาบริษัทจดทะเบียนในการปรับตัว

หลักเกณฑ์ชั่วคราวดังกล่าว จะยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มจากบริษัทจดทะเบียนที่มีเกณฑ์ Free Float ไม่ครบถ้วน โดยยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวเป็นระยะเวลา 2 ปี (2552 2553) และให้บริษัทจดทะเบียนรายงานความคืบหน้าต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ปีละ 1 ครั้ง จากเดิมที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่มตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป และบริษัทจดทะเบียนต้องรายงานความคืบหน้าทุก 6 เดือน

ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนด 2 ปี หากบริษัทใดยังไม่สามารถแก้ไขปัญหา Free Float ได้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่วนเพิ่ม โดยจะนับระยะเวลาต่อจากปี 2551 (ไม่นับปี 2552 และ 2553)

การผ่อนผันหลักเกณฑ์นี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว และจะเริ่มมีผลตั้งแต่การจ่ายค่าธรรมเนียมในปี 2552 ซึ่งมีกำหนดจ่ายในเดือนกรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป

***************************************************

รายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วนตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป
[ 02/07/09, 17:01 น. ]


ปัจจุบัน มีบริษัทจดทะเบียนจำนวน 21 บริษัท ที่มีคุณสมบัติด้านการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วนตามข้อกำหนดติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ขึ้นไป ดังนี้
1. บริษัท รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (BATA)
2. บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (GL)
3. บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน) (GRAND)
4. บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) (IHL)
5. บริษัท มีเดีย ออฟ มีเดียส์ จำกัด (มหาชน) (MEDIAS)
6. บริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) (NSI)
7. บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (OISHI)
8. บริษัท แพ็คฟู้ด จำกัด (มหาชน) (PPC)
9. บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) (PRG)
10. บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน) (RANCH)                1/
11. บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ROH)
12. บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (SCNYL)
13. บริษัท ซีฮอร์ส จำกัด (มหาชน) (SH)
14. บริษัท แชงกรี-ลา โฮเต็ล จำกัด (มหาชน) (SHANG)
15. บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SHIN)
16. บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) (SIM)
17. บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) (SVH)
18. บริษัท ไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน) (TCP)
19. บริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) (UFM)
20. บริษัท ยูเนี่ยนเทคโนโลยี่ (2008) จำกัด (มหาชน) (UTC)           2/
21. บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) (VNT)

ทั้งนี้ การประกาศรายชื่อดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน ซึ่งกำหนดว่าบริษัทจดทะเบียนต้องมีจำนวนผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อยไม่น้อยกว่า 150 ราย และผู้ถือหุ้นรายย่อยถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของทุนชำระแล้วของบริษัท โดยพิจารณาจากรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันประชุมสามัญประจำปีของบริษัท

บริษัทจดทะเบียนดังกล่าวมีหน้าที่รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาปีละ 1 ครั้งพร้อมกับการนำส่งรายงานการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย จนกว่าบริษัทจะมีคุณสมบัติเรื่องการกระจายรายย่อยครบถ้วน ทั้งนี้ PRG มีงวดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งจะครบกำหนดนำส่งรายงานการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552 และมีหน้าที่ต้องรายงานความคืบหน้าหากยังมีผู้ถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วน

(ศึกษารายละเอียดของข้อกำหนดฯ ได้จาก www.set.or.th)


หมายเหตุ:
1/ RANCH อยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์โดยสมัครใจ โดย London 8 Limited บริษัท ธงชัย เอเชีย จำกัด และบริษัท มิดเดิ้ล วิลเลจ จำกัด เป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในระหว่าง วันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ถึงวันที่ 17 กรกฎาคม 2552

2/ UTC อยู่ระหว่างดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์โดยสมัครใจ โดยบริษัทสหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ในระหว่างวันที่ 9 มิถุนายน 2552 ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2552

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 12:04 am
โดย pak
ที่ผมต้องศึกษาหาข้อมูลเรื่อง Free Float นี้ ก็เป็นเพราะรูปด้านล่างนี้อ่ะนะขอรับ

รูปภาพ

(^_^)

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 12:05 am
โดย pak
และนี่คือตัวอย่างของ "รายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาการกระจายรายย่อยไม่ครบ" ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯอ่ะนะขอรับ


**************************************************

วันที่ 25 พฤษภาคม 2552

เรื่อง      รายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาการกระจายรายย่อยไม่ครบถ้วน
เรียน      กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

   บริษัทฯ ขอรายงานความคืบหน้าการแก้ปํญหาการกระจายรายย่อยไม่ครบถ้วน ดังนี้
     
   ตามที่บริษัทฯ ได้เสนอ คณะกรรมการบริษัทฯ ให้พิจารณาแก้ไข 2 ช่องทาง ตามที่เคยชี้แจงให้ทราบเมื่อวันที่ 14 พฤษจิกายน 2551 คือ
   - ผู้ถือหุ้นต่างประเทศรายใหญ่เสนอขาย
   - กรรมการที่ถือหุ้นเสนอขาย  

   แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงทรุดตัวอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ราคาหุ้นปัจจุบันของบริษัทฯ ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่ำกว่าราคาพาร์มาก ทำให้ผู้ถือหุ้นไม่ต้องการขายหุ้นในขณะนี้ คณะกรรมการจึงเห็นสมควรให้ติดตามดูภาวะของตลาดหุ้นไทยไปอีกระยะหนึ่ง และจะรายงานความคืบหน้าต่อไป

   จึงเรียนมาเพื่อทราบ

                         ขอแสดงความนับถือ


                        (นางวารุณี ถนอมศักดิ์)
                   ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบริหาร

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 12:05 am
โดย pak
Free Float ที่ต่ำ มักจะมาคู่กับ สภาพคล่องที่ต่ำในการซื้อขายหุ้นบนกระดาน
แต่ก็ไม่แน่เสมอไป อาทิเช่น Case ที่ผมเคยเห็น เช่น

- หุ้นของบริษัท ซีฮอร์ส จำกัด (มหาชน) (SH)
ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) (EE)
โดยในปัจจุบัน ข้อมูลใน Settrade ยังแสดงว่า %การถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (%Free float) ของ EE = 11.50%
แต่หุ้นก็มีการซื้อขายที่คึกคักมากทีเดียวในช่วงที่ผ่านมา

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 12:06 am
โดย pak
สำหรับแนวทางในการแก้ปัญหา Free Float ผมขอยกตัวอย่างอีกซักบริษัทฯแล้วกันนะครับ เช่น

***************************************************

บอร์ด PPC เห็นชอบแนวทางแก้ Free Float ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 15% ในปี 54
[ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2008 09:53:36 น. ]

นายวิวัฒน์ กนกวัฒนาวรรณ กรรมการบริหาร บมจ.แพ็คฟู้ด (PPC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรับทราบปัญหาการมีผู้ถือหึ้นรายย่อยต่ำกว่าเกณฑ์และมีมติเห็นชอบแนวทางและกรอบเวลาในการแก้ไขปัญหาการกระจายหุ้นรายย่อย (Free Float) เนื่องจากในวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2551 บริษัทฯ มีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย 405 ราย ถือหุ้นรวมร้อยละ 6.82 เท่านั้น ต่ำกว่าเกณฑ์ของทางการ

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา 6 แนวทาง มีดังนี้
1. ทำให้บริษัทได้เปรียบในเชิงธุรกิจ
  - บริษัทฯ ได้ยื่นขอทบทวนอัตราภาษี Anti Dumping  
  - ขยายตลาดต่างประเทศและในประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงทำให้ธุรกิจน่าสนใจในมุมมองของนักลงทุน      
2. ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อาจจะขายหุ้นออกไปบางส่วน หรือ
3. บริษัทอาจดำเนินการเพิ่มทุนเพื่อจำหน่ายให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยที่มิได้เป็นผู้มีส่วนร่วมในการบริหารงาน (Non-Strategic shareholders) หรือ
4. บริษัทอาจดำเนินการเพิ่มทุนเพื่อใช้สำหรับโครงการในอนาคต หรือ
5. บริษัทอาจจัดให้มีโครงการเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัท หรือ
6. แนวทางอื่นตามที่จะได้ศึกษาเพิ่มเติม

สำหรับแนวทางดังกล่าว มีกำหนดเวลาในการเพิ่มสัดส่วนของการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย จาก 6.82% ในปี 51 เป็น 15% ในปี 54

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 12:07 am
โดย pak
และหากหาข้อมูลเกี่ยวกับ "สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้น"
เราอาจจะไปพบศัพท์คำว่า "Market Maker" ซึ่งมีความหมาย ดังนี้ขอรับ

**************************************************

Market maker


Market maker ก็คือ การเข้าไปทำให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น และมีการเคลื่อนไหวของราคาที่มีสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลน้อยที่สุด

การเป็น market maker จะต้องมี 2 อย่างครับ คือ มีหุ้นตัวนั้นๆ และมีเงิน market maker ก็จะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมทั้งในส่วนของ bid และ offer คือ ต้องเอาหุ้นไปตั้ง offer และเงินส่วนหนึ่งก็เอาไว้ bid หุ้น เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับหุ้น

เรียกง่ายๆ ว่าการดูแลหุ้นนั่นเอง และมีส่วนคล้ายวิธีการปั่นหุ้น แต่ market maker ตามทฤษฎี ไม่ใช่การปั่นหุ้นนะครับ เพราะอย่างที่บอกนะครับ คือต้องดูแลราคาไม่ให้มีการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่สมเหตุสมผล ก็ทั้งทางขาขึ้นและทางลง และที่ต่างกับการปั่นหุ้นแน่ๆ คือ market maker จะไม่เน้นการโยนหุ้นกันเองเพื่อสร้าง volume หรือการทำกราฟเพื่อเรียกรายย่อยแน่ๆ ครับ

จริงๆ แล้วหุ้นจำนวนมากในกระดานก็มี market maker อยู่ครับแต่มีแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เจ้าของหุ้นนั่นแหละครับที่เป็น market maker กันเอง แต่หลายๆ ทีก็ใช้ความเป็น market maker ในทางที่ผิด คือใช้สร้างราคาหุ้นกัน

ข้อดีของ market maker คือ สร้างสภาพคล่องให้กับหุ้น และเพิ่มเสถียรภาพให้กับราคาหุ้น ปกติแล้วบริษัทจดทะเบียนอาจจะเป็น market maker เอง หรือในต่างประเทศอาจจะให้ broker เป็น market maker ให้ได้ครับ

แต่ถ้านำไปใช้ผิดวิธี market maker ก็คือการปั่นหุ้นนี่เองครับ ซึ่งจริงๆ แล้วเคยมีการคุยกันว่าจะให้มี market maker แบบถูกกฎหมายในบ้านเรา แต่ทางการคงจะกลัวการนำไปใช้ผิดประเภทกันอยู่

ยกตัวอย่าง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ broker ต่างประเทศแห่งหนึ่งมี order ขนาดใหญ่ขายหุ้นแบบ basket คือ ขายหุ้น blue chip หลายๆ ตัวในท้ายตลาด จึงทำให้หุ้น blue chip หลายตัวลงไปเกิน 5% แต่ในนั้นก็มีหุ้น blue chip บางตัวที่เด้งกลับมาได้ ผมรู้เลยครับว่าหุ้นตัวนั้นมี market maker ดูแลหุ้นอยู่ครับ

ที่มา : http://bbznet.pukpik.com/scripts3/view. ... r=numtopic

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 12:10 am
โดย pak
ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯก็ได้มีแนวคิดเกี่ยวกับ "Market Maker" เหมือนกันนะครับ ตามเนื้อข่าวนี้

***************************************************

ตลท.ฟื้นMarket Maker รับมือตลาดหุ้นซบ
[ วันที่ 11 มีนาคม 2552 17:45 ]

รูปภาพ

ตลท.หามาตรการรับมือตลาดหุ้นซึมยาว เล็งปัดฝุ่น Market Maker เริ่มจาก IPO ขณะที่สมาคมบล.เสนอลดภาษี หนุนบจ.ซื้อหุ้นเข้าพอร์ต ปลุกตลาดคึก!

ในวันนี้ (11 มี.ค.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีการหารือกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เพื่อระดมสมอง ในการผลักดันมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นไทย ที่ซบเซาจากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้ต่างชาติขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้ความเห็นหลังการหารือว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯและโบรกเกอร์ ได้มีการหารือถึงแนวทางการเพิ่มสภาพคล่อง ไม่ว่าจะเป็นการนำระบบผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market maker) กลับมาใช้ ซึ่งคงจะเริ่มกับหุ้นที่มีการเสนอขายครั้งให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) ก่อน

อีกทั้งจะมีการผลักดันในเรื่องของกองทุนร่วมลงทุนภายใต้ Matching Fund อย่างจริงจัง เพราะตลาดมีความพร้อมอยู่แล้ว รวมถึงการลงทุนในสินค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะตลาดอนุพันธ์ซึ่งถือว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น และ Gold Futures ที่มีวอลุ่ม 1 พันสัญญาในแต่ละวัน เพราะฉะนั้น จึงน่าจะหาโอกาสการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ให้มากขึ้น
     
"แผนที่หารือในครั้งนี้คงเป็นแผนระยะสั้น แต่หวังผลในระยะยาว และเราก็จะมาพบกันทุก 3 เดือนเพื่อประเมินและพูดคุยถึงสิ่งที่ทำ ต้อยอมรับว่าสภาวะเช่นนี้คงต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำ"

สำหรับวอลุ่มตลาดที่ปรับตัวลดลงในขณะนี้ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า มีความกังวลแต่ขอประเมินสถานการณ์ในไตรมาส 1 ว่า เป็นอย่างไร ก่อนที่จะทบทวนวอลุ่มเฉลี่ยทั้งปี


เสนอเว้นภาษีบจ.กำไรซื้อขายหุ้น-กระตุ้นการลงทุน
ด้านนายกัมปนา โลหเจริญวนิช นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า สมาคมมีข้อเสนอแนะภายใต้สภาวะวอลุ่มตลาดที่ปรับลดลง โดยในเดือนก.พ.วอลุ่มเฉลี่ย 7 พันกว่าล้านบาท ลดลงถึง 50% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลต่อรายได้ของโบรกเกอร์ที่มีฐานรายได้ที่มาจากรายได้นายหน้า 70-80% จึงได้เสนอให้เปิดช่องบล.สามารถลดทุนของตัวเอง โดยเฉพาะบล.ที่มีฐานทุนที่มาก เพื่อนำไปคืนทุนส่วนหนึ่งให้กับผู้ถือหุ้น

เรื่องการลดทุนคงจะขึ้นกับแต่ละบล. แม้จะต้องยอมรับว่า บล.ในไทยเป็นสถาบันที่มี equity สูง มีฐานทุนกว่า 6.3 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งดีในแง่ที่มีทุนไว้รองรับภาวะที่ตกต่ำ ต้องดูความจำเป็นเรื่องฐานทุนสูงในช่วงนี้โดยเฉพาะโบรกเกอร์ที่มีสัดส่วนรายได้จากค่านายหน้า 70-80% ขณะเดียวกันอยากให้เจ้าหน้าที่การตลาดหารายได้ที่นอกเหนือจากรายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น"

นายกสมาคมบล. กล่าวอีกว่า ทางสมาคมยังได้เสนอให้มีการลดภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น (Capital Gain) ให้กับบริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นบริษัทอื่นเข้าพอร์ตลงทุน เพื่อช่วยกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดหุ้นได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องได้อีกทางหนึ่งด้วย

ถ้ากระจายการถือหุ้นของรายย่อยไม่ครบแล้วจะเป็นยังไงต่อครับ

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 05, 2009 12:15 am
โดย pak
ผมเอาข้อมูลที่เคยนั่งอ่านเกี่ยวกับ "Free Float" และ "สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้น" มารวบรวมเก็บไว้ที่กระทู้นี้ละกันนะครับ
จะได้ง่ายสำหรับการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป


ใครมี "ข่าว" หรือมี "Case Study" ที่น่าสนใจ...ก็ช่วยแจมด้วยนะขอรับ
(^_^)