หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 9:57 pm
โดย oatty
โลกในมุมมองของ Value Investor                       18 กรกฎาคม 2552

วิธีคิดเรื่องหนึ่งที่ผมเห็นว่ามีความสำคัญมากต่อการที่จะเป็นนักวิเคราะห์หุ้นแบบ Value Investment ที่ดีก็คือ  การคิดคาดการณ์สถานการณ์ในอนาคตแบบที่ใส่  “ความน่าจะเป็น”  หรือ  Probability เข้าไปด้วย  

ลองมาคาดดูสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ  ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  เราก็จะพบว่ามีเหตุการณ์น้อยมากหรือแทบไม่มีเลยที่มีความแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจหรือตลาดหุ้น  แต่เหตุการณ์บางอย่างนั้นมักจะมีความ  “แน่นอน”  หรือมีโอกาสเกิดขึ้นได้สูงกว่าเหตุการณ์อีกอย่างหนึ่งมาก

โอกาสที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นในวันพรุ่งนี้เป็นเท่าไร?   ร้อยเปอร์เซ็นต์!  โอกาสที่ฝนจะตกในวันพรุ่งนี้ที่กรุงเทพและที่ถนนรางน้ำเป็นเท่าไร?   นักพยากรณ์อากาศอาจจะบอกว่า 80%  โดยพิจารณาจากภาพถ่ายของกลุ่มเมฆหนาที่ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้าเหนือกรุงเทพในวันนี้   แต่ถ้าถามใหม่ว่าฝนจะตกไหมในอีก 7 วันข้างหน้า?  คำตอบอาจจะเป็น  50-50 โดยที่นักพยากรณ์ไม่ได้ดูกลุ่มเมฆแต่ดูว่าในช่วงฤดูฝนในประเทศไทยนั้น  โอกาสที่ฝนจะตกในแต่ละวันคือ  50%

การพยากรณ์นั้น  ดูเหมือนว่าถ้าพยากรณ์ในระยะเวลาสั้น  ๆ  ในอนาคต   โอกาสที่จะพยากรณ์ได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงจะสูงกว่าการพยากรณ์อะไรที่อยู่ห่างออกไป  เหตุผลก็คือ  ในการพยากรณ์นั้น  เรามักจะมีข้อมูลต่าง ๆ  มาสนับสนุนเช่นกลุ่มเมฆที่ปรากฏขึ้น  และเมฆนั้นเป็นตัวชี้ว่าในไม่ช้ามันจะกลั่นตัวเป็นฝน

ถามว่าพรุ่งนี้หุ้นจะขึ้นหรือหุ้นจะลง?  ข้อมูลที่มีอยู่ก็คือราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นในวันนี้  ทั้งในตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ   นักเล่นหุ้นส่วนใหญ่มักจะเชื่อว่าถ้าวันนี้หุ้นขึ้นแรงและมีปริมาณการซื้อขายมาก  พรุ่งนี้ดัชนีหุ้นก็มักจะปรับตัวขึ้น   เขาอาจจะบอกว่าพรุ่งนี้หุ้น  “น่าจะ” ขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าตลาดหุ้นนิวยอร์คเปิดแล้วหุ้นวิ่งขึ้น   เพราะเขาเชื่อว่าหุ้นไทยนั้น  มักจะปรับตัวขึ้นลงตามหุ้นนิวยอร์ค  แต่ถ้าถามต่อไปว่าหุ้นขึ้นแล้วยังไง?  เราจะเข้าไปซื้อหรือ?  ถ้าซื้อก็แปลว่าเราซื้อแพง  แล้ววันต่อไปมันลงเรามิขาดทุนหรือ?   ดังนั้น   การคาดการณ์แบบนี้แม้ว่าจะถูกแต่ก็ไม่มีประโยชน์ในการที่จะทำให้เราได้กำไรได้   และนี่ยังไม่ได้รวมถึงค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายที่อาจจะกินกำไรของเราไปอีก

นักลงทุนหลายคนกลัวไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ปี2009  ดังนั้นเขาขายหุ้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวออกหมดเพราะเขาคิดว่าถ้ามันลามไปมาก ๆ  การท่องเที่ยวจะถูกกระทบหนัก  คนจะไม่เดินทาง   แต่ถามว่าโอกาสที่มันจะลามไปอย่างควบคุมไม่ได้นั้นมีกี่เปอร์เซ็นต์?  เขาอาจจะไม่ได้คิด   แต่ประเด็นที่สำคัญกว่าก็คือ  ราคาหุ้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอาจจะตกต่ำลงไปมากแล้วจนมันคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับทรัพย์สินของบริษัท  พูดง่าย ๆ  ถ้าจะสร้างทรัพย์สินแบบเดียวกัน   จะต้องใช้เงินมากกว่าการซื้อหุ้นมาก

ในกรณีดังกล่าว  เราลองตั้งคำถามใหม่ว่า   โอกาสที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่จะยังมีผลต่อการท่องเที่ยวเดินทางในอีก 2-3 ปีข้างหน้านั้นเป็นเท่าไร?  คำตอบของเราอาจจะเป็นว่า  “น้อยมาก”  เหตุผลก็คือ  เมื่อถึงเวลานั้น  โลกอาจมีวัคซีนที่แพร่หลายแล้ว   ไข้หวัดอาจจะหายไปหรือกลายเป็นเหมือนไข้หวัดใหญ่ธรรมดาที่คนส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันแล้ว  หรือทุกประเทศก็มีการติดเชื้อใกล้เคียงกัน  จะอยู่หรือไปที่ไหนก็เหมือนกัน   ดังนั้น  ผลประกอบการของบริษัทท่องเที่ยวเดินทางก็น่าจะกลับมาเหมือนเดิมในอีก 2-3 ปี  และถ้าราคาหุ้นได้ตกลงมามากมายเช่นเหลือเพียงครึ่งเดียว   การลงทุนในหุ้นดังกล่าวก็อาจจะมีโอกาสได้กำไร  100% ในเวลา 2-3 ปี ซึ่งคุ้มค่ามากในการลงทุน

ถามว่าวิกฤติเศรษฐกิจนั้น  จะฟื้นไหมในช่วงครึ่งปีหลัง?  โอกาสอาจจะเป็น 50-50 หรือ 50%   ถ้าเราเปลี่ยนคำถามใหม่เป็นว่า  โอกาสที่เศรษฐกิจจะฟื้นในปีหน้าเป็นเท่าไร?   คำตอบอาจจะเป็น 70%  โอกาสที่จะฟื้นในอีก 2 ปีข้างหน้าเป็นเท่าไร?  คำตอบอาจจะเป็น 80%  ถ้า  3 ปี  อาจจะเป็น 90% หรือมากกว่า   การยืดเวลาทำให้ความแน่นอนหรือความเป็นไปได้สูงขึ้น   และถ้าเรามั่นใจมากว่าภายในเวลา 3-4 ปีเศรษฐกิจต้องฟื้นแน่  คำถามต่อไปก็ง่ายขึ้น  นั่นคือ   บริษัทไหนจะได้ประโยชน์แน่ ๆ  และกำไรของบริษัทจะต้องกลับมาอย่างน้อยเท่าเดิมก่อนที่จะเกิดวิกฤติ?   หลังจากนั้นก็มาดูว่าราคาหุ้นของบริษัทนั้นตกต่ำลงมาแค่ไหนและราคาควรจะกลับไปที่เดิมได้หรือไม่?  ทั้งหมดนั้น  แน่นอน  เป็นการคาดการณ์  แต่ที่สำคัญก็คือ  “ความน่าจะเป็น”  เป็นเท่าไร   ถ้าคำตอบก็คือ  สูงมาก  เช่น  80-90%   แบบนี้  ถ้าเราลงทุนในหุ้นตัวที่ราคาตกลงมาครึ่งหนึ่ง   ก็มีโอกาสสูงที่เราจะกำไร 100%  ในเวลา 3-4 ปีซึ่งคุ้มค่ามาก

เท็คนิคในการ  “ยืดเวลา”  เพื่อ “เพิ่มความแน่นอน” ในการพยากรณ์นี้  ดูเหมือนจะขัดแย้งกับสามัญสำนึกปกติของคนที่ว่า  “ยิ่งนานยิ่งไม่แน่นอน”  เพราะ  “ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก”   แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเหตุการณ์หรือสิ่งที่ผมยกมานั้นเป็นเรื่องที่รุนแรงและไม่ปกติ   ซึ่งเรื่องแบบนี้มักจะไม่สามารถอยู่ได้นานมาก  “เวลา” จะช่วยรักษาหรือแก้ไขให้มันกลับมาสู่ภาวะปกติ   ดังนั้น  ถ้าเรา “ทนรอ”ได้   เราก็อยู่ในสถานะที่จะฉกฉวยโอกาสที่เกิดขึ้นเนื่องจากคนส่วนใหญ่  “รอไม่ได้”

สำหรับผมเองนั้น  การลงทุนหรือการที่จะซื้อหุ้นตัวไหนนั้น  ผมต้องการ  “ความแน่นอน”  ซึ่งแน่นอน  ไม่ใช่โอกาสเกิดขึ้นต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นไปไม่ได้   แต่ผมต้องการความน่าจะเป็นที่ประมาณ70-80% ขึ้นไป   และในเรื่องของกิจการหรือหุ้นนั้น  การหาความ “แน่นอน” ขนาดนั้นได้  ส่วนใหญ่ผมต้อง  “ยืดเวลา”  ในการพยากรณ์ออกไปไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีขึ้นไป  และคำถามมักจะเป็นว่า  บริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นหรือไม่  และ  ราคาหุ้นในขณะนี้ถูกหรือไม่เมื่อถึงเวลานั้น

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 10:23 pm
โดย Diablo
ขอบคุณครับ  :D

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.ค. 19, 2009 10:25 pm
โดย Linzhi
ขอบคุณครับ เย็นนี้ผมแอบเขียนบทความในบล็อคตัวเอง
เนื้อหาส่วนหนึ่งคนละเรื่องเดียวกันโดยบังเอิญ

สงสัยช่วงนี้จะซื้อหุ้นตัวเดียวกันกับดร. อิอิ

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 20, 2009 12:38 am
โดย Isamu
ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมครับ
ผมชอบคำว่า "ถ้ายืดเวลาออกไปแล้วก็จะพยากรณ์ได้แม่นยำขึ้น"
เพิ่งเคยได้ยินเป็นที่แรก แล้วก็ใช่จริงๆด้วย ขอบคุณครับ

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 20, 2009 1:01 am
โดย ศิษย์เซียน007
ขอบคุณท่านอ.ครับ  :bow: วิชาคณิตที่ตอนเรียนผมไม่คอยสนใจแต่ใช้ได้ดีตอนคาดคะเนอนาคตครับ

ถ้าอาศัยการมองภาพรวมหรือภาพหว้างอย่างที่หมอสมว่าไว้ ผมคิดว่าหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวน่าจะหมดเสน่ห์ไปมากผู้ที่สนใจทางศาสนาน่าจะเข้าใจได้ดีครับ  :idea:

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 20, 2009 6:58 pm
โดย eyebrow
ขอบคุณครับ   ตามเก็บรายสัปดาห์ :cool:

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 20, 2009 7:20 pm
โดย Paul VI
ชอบบทความนี้มากเลย ตรงกับใจตอนนี้เลย... :8)

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.ค. 20, 2009 9:52 pm
โดย baby-investor
ท่าน ดร. ถือเป็นสุดยอดนักทำนายอนาคตเลยนะครับ ตั้งแต่ติดตามผลงานการลงทุนของท่าน รู้สึกไม่เคยทำนายผิดเลย นับถือจากใจจริงครับ  :bow:

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 21, 2009 7:12 am
โดย gnomeller
ชอบเวลาที่ ดร. ออกมาวิเคราห์ หรือแสดงความเห้นครับ
ขอบคุณครับ

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 21, 2009 3:56 pm
โดย humdrum
กราบสวัสดีครับอาจารย์ครับ
     ขอบพระคุณมากครับ
    อ่านแล้ว รู้สึกได้เลยว่า
  อะไรก็มารบกวนอาจารย์ไม่ได้ ถ้าอาจารย์ไม่ยอมให้รบกวน
  ความน่าจะเป็น กับ เวลานี่แยกกันไม่ออกเลยนะครับ
   ผมอ่านเรื่องที่ ท่านอาจารย์เขียนแล้วผมนึกถึงตอนเข้าป่านะครับ
  ผมว่านะครับ อีกอย่างที่แยกออกจากความน่าจะเป็นไม่ออกคือเรื่อง "สติ"
     ผมไปเข้าป่า สังเกตุว่า เวลาตั้งแคมป์ตอนกลางคืน พรานมักจะหาทำเลที่ตั้งในที่สูง ชิดกับเชิงผาเสมอ  โดยมีเหตุผลว่า ในป่าเรื่องอะไรก็เกิดได้ทั้งนั้น อย่างน้อยถ้าช้างเกิดบุกเข้ามา แล้วเรายิงไล่ไม่ทัน  ยังมีซอกหินเป้นที่กำบังไว้หลบบ้าง โห....ฟังเหตุผลแล้ว เป็นคนที่รอบครอบมาก ๆครับ
      แล้วเรื่องนี้เป็นเหตุให้พรานทั่วไปโยงความไม่แน่นอนนี้เข้ากับความเชื่อต่าง ๆ ในเรื่องของคาถาอาคม  ผมเห็นเขาบ่นพรึมพรำไปตลอด เวาถามว่า พรานท่องอะไร เขาก็บอกว่า ไม่มีคาถาอะไรพิเศษ นอกจาก  สติ บวกกับ ฝีมือ เท่านั้น  พรานบอกผมว่า สติที่มั่นคง เป็นคาถาศักสิทธิ์เหนือกว่าคาถาใด ๆ ครับ

     แล้วพรานนี่นะครับอาจารย์ โห.... ประสาทสัมผัสทุกส่วนใช้ออกเต็มที่  มีสติเยือกเย็นเหลือประมาณ  ตาดี ประสาทดี ตัดสินใจเร็ว  รู้จักป่า รู้จักธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ เป็นอย่างดีเยี่ยม  ใจเย็น มีความอดทนอดกลั้นอย่างเหลือขนาด  แต่เขายังเผื่อเรื่องพลาดเอาไว้นะครับ

     อย่างเรื่องยิงหมูป่านี่เห็นได้ชัดครับ เขาบอกผมว่า  ถ้าหมูป่ามันวิ่งสวนมา ยิงแล้วไม่โดน ให้ทิ้งปืน แล้วกระโดดขึ้นต้นไม่อย่างเร็วที่สุด ไม่ต้องยิงซ้ำ เพราะมันเร็วมาก อีกทั้ง  ถ้าเป็นสัตว์อื่น วิ่งชาร์ตแล้ว ถ้าไม่ชนเรา มันจะวิ่งหนีไปเลย แต่ถ้าเป็นหมูป่ามันจะหันหลักลับมาชาร์ตอีก ให้ขึ้นต้นไม้ทันที  

     ไม่อย่างนั้นตัวเราจะกลายเป็นหมูแน่ๆ ครับ.... :wink:

  ผมชอบบทความนี้มากครับ ขอบพระคุณมากครับ..... :bow:

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 21, 2009 8:03 pm
โดย Hughes
ขอบคุณที่เตือนสติครับ

ช่วงนี้ใจร้อนจนจะกลายเป็นพวก day trader ไปแล้ว  :lol:

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 21, 2009 9:16 pm
โดย Diablo
สวัสดีครับพี่ฮิวจ์ หายไปนานเลยนะครับ  :D

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 21, 2009 11:38 pm
โดย Hughes
ช่วงนี้ยุ่งๆน่ะครับ ต้องขยันหารายได้มาซื้อหุ้น :oops:

คุณ Diablo สบายดีนะครับ :lol:

[quote="Diablo"]สวัสดีครับพี่ฮิวจ์ หายไปนานเลยนะครับ

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ ก.ค. 22, 2009 10:32 am
โดย แม่แฝด3
:bow:

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.ค. 23, 2009 10:15 pm
โดย MafiaO
บทความของอาจารย์เป็นเสมือนเข็มทิศของ vi เลยครับ  :o

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.ค. 24, 2009 10:11 am
โดย niyom_value
ให้แง่คิด สำหรับการดำเนินชีวิตในตลาดหุ้นได้ดีเลยครับ

ขอบคุณมากครับ (ทั้งคนเขียน+คนนำมา post)

ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 8:07 am
โดย slowseaa
เป็นบทความที่ยอดเยี่ยม อีก 1 บทความครับ ขอบคุณมากๆ ครับ

Re: ความน่าจะเป็น / ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 18, 2011 9:05 pm
โดย earthcu
เข้ามาขุดเอากระทู้เก่าๆมาอ่านเพื่อเตือนสติในด้านการลงทุน

ขอขอบคุณท่านอาจารย์นิเวศน์ สำหรับความรู้ดีๆที่มอบให้เสมอมา
และขอขอบคุณพี่ oatty ที่นำมา post ด้วยครับ