Thai VI

คำถามเก่าเอากลับมาเล่าใหม่ครับ
จากบทความ "เข้าใจลงทุน.. รู้ทันการเก็งกำไร" ของเฮืย Mon money ครับ
สรุปแล้ว Value Investor ควรเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือไม่ ครับ
อยากฟังความคิดของพี่ๆและเพื่อนๆครับ

การที่จะเรียนรู้ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ เสมือนรู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม แต่ปัญหาคืออย่าทำให้การเรียนรู้ของสองสิ่งแล้วเกิดความสับสนในตัวเองไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นพวกโลเลได้

มีป๋าอยู่คนหนึ่งในwebนี้แกเก่งเทคนิคเอาการ แต่อยู่ๆแกเกิดเปลี่ยนแนวมาเป็นVI ผมว่าป๋าแกคงมีคำแนะนำอะไรดีๆบ้าง

ป๋าก็อย่าให้รอนานนักนะ

หมายถึงป๋านี่หรือเปล่า?

ผมศึกษาด้านเทคนิกมาบ้างครับ จะว่าเก่งก็ยังห่างไกล ศึกษาด้านเทคนิกก็เหมือนความรู้ทุกสาขาแหละครับ ต้องทุ่มเทและให้เวลากับมันพอสมควร ถ้าผมไปพูดเรื่องเทคนิกในเว็บอื่น จะโดนโห่ไล่เลยครับ

ถามว่าผมเชื่อสัญญาณทางเทคนิกหรือไม่ ไม่เชื่อครับ

ถามว่าผมดูเทคนิกประกอบการตัดสินใจซื้อขายหรือไม่ แน่นอนครับ

ตามความเห็นของผม TA หรือ Technical Analysis เป็นสาขาหนึ่งของจิตวิทยามวลชน เรื่องแนวรับแนวต้านกับเทรนด์ลายน์พอจะเชื่อถือได้ทีเดียว ส่วนใหญ่ผมดูแค่นี้ ใช้ประกอบการตัดสินใจครับ พวก RSI Oscilator MACD Bollinger Band นี่ดูไปงั้นๆเอง

เท่าที่ผานมา ผมใช้จิตวิทยามวลชนประกอบการตัดสินใจว่า ราคาหุ้นที่เท่านั้นเท่านี้มีคนต้องการซื้อหรือขายมากแค่ไหน เมื่อมาประกอบกับข้อมูลอื่นๆ ก็พอจะทำให้กำหนด strategy การซื้อขายได้ดีทีเดียว

เช่นถ้าหุ้นที่ผมดูเกิดทำสามเหลี่ยมแล้วเบรคขึ้นกระทันหัน ถึงผมยังเก็บไม่ครบก็จะซื้อตามน้ำเลยครับ เพราะค่อนข้างแน่ใจว่าจะมีคนเฮโลตามแน่ๆ แต่งานนี้ปกติจะมีการขายทำกำไรช่วงสั้นผสมด้วย เพื่อลดความเสี่ยง

ที่ผ่านมาก็อาศัยความได้เปรียบที่เพื่อนที่ทำงานเป็น TA ขนานแท้ อ่านสัญญาณออกทุกตัว ก็ถามเอาครับ

แต่อย่างที่น้อง Genie พูดเป๊ะเลยครับ ถ้าดูสองอย่างพร้อมกันแล้วตัดสินใจเมื่อไหร่ เละตุ้มเป๊ะเลยครับ วิธีที่ดีที่สุดคือ ถ้าตัดสินใจซื้อ/ขายด้วยเทคนิก ก็ต้องทำตามสัญญาณล้วนๆครับ อย่าโลเล จะพลาดหนักทีเดียว

พล่ามมาซะยาว ข้ามไปก็ไม่เป็นไรครับ ขอสรุปประโยคเดียว "ผมว่าไม่คุ้มครับถ้าจะศึกษาให้ลึกซึ้ง"

ผมไม่ค่อยเชื่อเรื่อง Technical ครับ

ผมคิดว่า หากเรารู้แนวต้าน แนวรับ ราคาหุ้นก็น่าจะ manupulate ได้
หลายคนอาจจะไม่เห็นด้วย ต่างคน ต่างความคิดครับ

คือผมว่ามันต้องเลือกครับว่าเราจะเป็นนักลงทุนหรือนักค้าหุ้น เพราะถ้าเราจะเป็นนักลงทุนต้องคิดอย่างธุรกิจ แต่ถ้าจะเป็นนักค้าหุ้นต้องคิดอย่างพ่อค้าครับ

เสริมนิดนึง ถ้าพอร์ตเราเล็กอาจจะไม่ต้องดูเทคนิกมากนัก

ถ้าพอร์ตใหญ่ เวลาซื้อหรือขายทีต้องระวังไม่ทำให้สัญญาณเปลี่ยน ไม่งั้นคนเฝ้าเทคนิกอาจจะแห่ตาม ทำให้ไม่สามารถซื้อหรือขายได้ทั้งหมดที่ตั้งใจ (หมายเหตุ: ต้องอีก 15 ปีขึ้นไป port ผมถึงจะใหญ่ขนาดนั้น -- หวังว่า)

ผมคิดว่าควรจะเรียนนิดๆหน่อยๆไปเรื่อยๆนะครับ อยู่ที่จะใช้ยังไงเท่านั้นเอง

ผมเป็น VS มาก่อน มาศึกษา VI อย่างขมักขะเม้นช่วงหลังๆนี่เองครับ แต่ตอนนี้บอกตรงๆว่าซื้อขายดูเทคนิกเป็นหลักเลยครับ คือดูเทคนิกเพื่อตั้งราคาของหุ้นที่เราดูพื้นฐานว่าโอเค

สำหรับการลงทุนแล้วเวลามีค่ามาก การจะเลือกทำอะไรสักอย่างคงต้องประเมินมูลค่าว่าคุ้มกันหรือไม่ ถ้าคุณไม่เห็นว่ามันสร้างมูลค่าเพิ่มอะไรให้คุณ คุณจะไปเสียเวลากับมันไหมครับ?

CK เขียน: ตามความเห็นของผม TA หรือ Technical Analysis เป็นสาขาหนึ่งของจิตวิทยามวลชน เรื่องแนวรับแนวต้านกับเทรนด์ลายน์พอจะเชื่อถือได้ทีเดียว ส่วนใหญ่ผมดูแค่นี้ ใช้ประกอบการตัดสินใจครับ พวก RSI Oscilator MACD Bollinger Band นี่ดูไปงั้นๆเอง

เท่าที่ผานมา ผมใช้จิตวิทยามวลชนประกอบการตัดสินใจว่า ราคาหุ้นที่เท่านั้นเท่านี้มีคนต้องการซื้อหรือขายมากแค่ไหน เมื่อมาประกอบกับข้อมูลอื่นๆ ก็พอจะทำให้กำหนด strategy การซื้อขายได้ดีทีเดียว

แล้วตอนนี้หนังสือเล่มใหม่ของคุร WEB ช่วยได้ดีไหมครับ