การดำเนินชีวิตโดยเน้นคุณค่า " Value Living "
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 24, 2009 8:20 pm
วันนี้ นั่งๆ กินข้าวอยู่ก็คิดอะไรเพลินๆ ขึ้นมาได้ครับ
คือคิดว่า ถ้าเราเอาหลัก VI มาประยุกต์ กับการดำเนินชีวิตประจำวันก็น่าจะดีไม่น้อย และเหมาะสำหรับคนที่ยังทำงานกินเงินเดือนอย่างผม ยกตัวอย่างเช่น
เราเลือกบริษัทที่ความมั่นคง ไม่ก่อหนี้ ---> ทำตัวเองให้มีหนี้สินต่ำกว่าทุนเยอะๆ ไม่ก่อหนี้ที่ไม่จำเป็น มี Cash flow ดีๆ มี ROA สูงขึ้นเรื่อยๆ จะได้ไม่ซื้อของสินเปลือง
เราเลือกบริษัทที่มี กำไรสม่ำเสมอ Growth สูงๆ ---> ขยันทำงาน พัฒนาตัวเอง และ หาโอกาสอย่างสม่ำเสมอ รายได้จะได้ โตขึ้นเรื่อยๆ ( ขอเงินเดือนเพิ่มขึ้น 20 % ทบต้นต่อปี เป็นระยะเวลา 40 ปี นี้ก็น่าจะรวยแล้ว )
เราเลือกบริษัทที่มี Competitive Advangtage --> อยู่ที่ไหนก็ ให้เพื่อนร่วมงานเลือกเรา หัวหน้าเลือกเรา ลูกน้องเลือกเรา ลูกค้าเลือกเรา อย่างไรก็ได้เปรียบคู่แข่งคนอื่นๆ
เราเลือกบริษัทที่มีความทนทานต่อภาวะภายนอกได้สูง เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ--> ทำตัวเราให้มี Product Mix ที่ดี รายได้หลายๆ ทาง ( เล่นหุ้นอย่างเดียว ก็เสี่ยงตามภาวะตลาดหุ้นเหมือนกันนะ ผมว่า ถึงแนว VI ก็เถอะ )
ฯลฯ
พอสิ้นไตรมาสนึง ก็ Review ตัวเองทีนึง
ดูงบดุล / กำไรขาดทุน / กระแสเงินสด / ดูขีดความสามารถ ของตัวเองเปรียบเทียบกับ คนใน range ของเรา
เราอาจจะพบว่า ตัวเรานั้น Value มากน้อยแค่ไหน แล้วเราอยากลงทุนในตัวเองหรือป่าว ( ฮ่าๆๆ )
อืมม ท่าจะเป็นเอามากนะเรา ...
อย่างไรก็ตามผมคิดว่า คนที่ประสบผลสำเร็จในการลงทุน แนว VI มากๆ ไม่ว่าจะเป็น Buffet หรือ ดร. เองก็ตามน่าจะทำตัวเองให้มี Value อยู่อย่างสม่ำเสมอ และจึงประสบความสำเร็จในการลงทุนต่อมา อย่าง Buffet เอง ใครๆ ก็อยากลงทุนในตัวเค้า ( บริษัท ) .... มันน่าจะเป็นอย่างนี้นะ
เท่านี้แหละครับ
ไม่รู้ว่าบริษัทของใครน่าลงทุนบ้างครับ
คือคิดว่า ถ้าเราเอาหลัก VI มาประยุกต์ กับการดำเนินชีวิตประจำวันก็น่าจะดีไม่น้อย และเหมาะสำหรับคนที่ยังทำงานกินเงินเดือนอย่างผม ยกตัวอย่างเช่น
เราเลือกบริษัทที่ความมั่นคง ไม่ก่อหนี้ ---> ทำตัวเองให้มีหนี้สินต่ำกว่าทุนเยอะๆ ไม่ก่อหนี้ที่ไม่จำเป็น มี Cash flow ดีๆ มี ROA สูงขึ้นเรื่อยๆ จะได้ไม่ซื้อของสินเปลือง
เราเลือกบริษัทที่มี กำไรสม่ำเสมอ Growth สูงๆ ---> ขยันทำงาน พัฒนาตัวเอง และ หาโอกาสอย่างสม่ำเสมอ รายได้จะได้ โตขึ้นเรื่อยๆ ( ขอเงินเดือนเพิ่มขึ้น 20 % ทบต้นต่อปี เป็นระยะเวลา 40 ปี นี้ก็น่าจะรวยแล้ว )
เราเลือกบริษัทที่มี Competitive Advangtage --> อยู่ที่ไหนก็ ให้เพื่อนร่วมงานเลือกเรา หัวหน้าเลือกเรา ลูกน้องเลือกเรา ลูกค้าเลือกเรา อย่างไรก็ได้เปรียบคู่แข่งคนอื่นๆ
เราเลือกบริษัทที่มีความทนทานต่อภาวะภายนอกได้สูง เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ--> ทำตัวเราให้มี Product Mix ที่ดี รายได้หลายๆ ทาง ( เล่นหุ้นอย่างเดียว ก็เสี่ยงตามภาวะตลาดหุ้นเหมือนกันนะ ผมว่า ถึงแนว VI ก็เถอะ )
ฯลฯ
พอสิ้นไตรมาสนึง ก็ Review ตัวเองทีนึง
ดูงบดุล / กำไรขาดทุน / กระแสเงินสด / ดูขีดความสามารถ ของตัวเองเปรียบเทียบกับ คนใน range ของเรา
เราอาจจะพบว่า ตัวเรานั้น Value มากน้อยแค่ไหน แล้วเราอยากลงทุนในตัวเองหรือป่าว ( ฮ่าๆๆ )
อืมม ท่าจะเป็นเอามากนะเรา ...
อย่างไรก็ตามผมคิดว่า คนที่ประสบผลสำเร็จในการลงทุน แนว VI มากๆ ไม่ว่าจะเป็น Buffet หรือ ดร. เองก็ตามน่าจะทำตัวเองให้มี Value อยู่อย่างสม่ำเสมอ และจึงประสบความสำเร็จในการลงทุนต่อมา อย่าง Buffet เอง ใครๆ ก็อยากลงทุนในตัวเค้า ( บริษัท ) .... มันน่าจะเป็นอย่างนี้นะ
เท่านี้แหละครับ
ไม่รู้ว่าบริษัทของใครน่าลงทุนบ้างครับ