Thai VI

อิอิ จะไปแคะกระปุกหมู มาซื้อ

ยังมีตัวที่ div. yield ถึง 10% เหลืออีกหรือครับพี่ ถ้ามีขอด้วย ๆ ตอนนี้เท่าที่เห็น ที่ให้เยอะหน่อยก็ประมาณ 7 % กว่า ๆ อะครับ

ม่ายรู้ว่า PB ของ เฮียคลายเครียด จะได้เท่าไรนะครับ
แต่คงน่าดูเหมือนกัน
ดูกราฟหุ้นตัวนี้แล้ว อึ้งครับ อึ้ง

โห่ ยังมีกระปุกอีกอ่ะ อิจฉา

ศุภาลัยไง ไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง

ASTL ครับ แต่ต้องซื้อเมื่อปีก่อนนั้น

TVI ไงครับ 9% กว่าๆ

TVI กับ UPOIC ครับ
แต่ UPOIC ขึ้นXD แล้ว

พี่ jeng>>>>>>> lh ครับ ราคาหุ้นตอนนี้ 11.1 ปันผล 1.15 ประมาณ 10 % พอดี แต่จ่ายระหว่างการไปแล้ว 0.45 บาท เหลือจ่าย 0.70 บาท ตอนเดือน พ.ค. 47 ยังไม่ขึ้น XD ครับ แต่ไม่รู้ขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้าคิดที่เหลืออยู่ 0.70 บาท ก็ได้ประมาณ 6.3%

พี่ Jeng .......สรุป lh ขึ้น XD ึ7 พ.ค. 47 ครับ

singerก็เกือบถึงจ้า :lol:

จะเห็นได้ว่า ปัจจบันนี้บริษัทที่มี YIELD เกิน 10% เมื่อเทียบกับราคาปัจจบันนี้ไม่มีแล้ว ทั้งๆที่หลายบริษัทก็จ่ายปันผลมากขึ้น เพราะราคาของห้นเหล่านั้นปรับตัวสงขึ้นรับกับผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

ดังนั้นผมขอเปลี่ยนคำถามใหม่ดีไหมครับ ว่าคณคิดว่าปีหน้าบริษัทไหนจะจ่ายเงินปันผลมากกว่า 10% คิดจากราคาปัจจบัน

ตอบได้เลยครับคุณ chatchai บ่อมีเด้อ

ถ้าดูจากปันผลของปี 46 เทียบกับ ราคาปัจจุบัน โดยกำหนดให้ ปันผลมากกว่า 10% จะออกมาดังนี้ (แต่ปีหน้า เพื่อนคาดเอาเองครับ)

CEI กำลังเดี่ยง ปีนี้ทั้งปี EPS จะติดลบหรือเปล่า ก็ไม่รู้

หุ้นบางตัวมีแจงหุ้นปันผล ผมเที่ยบมาเป็นตัวเงิน เช่น PATKL LEE GFPT

มีหุ้นอาหารอยู่หนึ่งตัว
ที่จ่ายปันผลปีที่แล้วเป็น 20.8 % ของราคาหุ้นปัจจุบัน
หุ้นตัวนั้นคือ TVO ครับ หากจำไม่ผิดจ่ายเป็นเงินสด 1.6 บาท
จ่ายเป็นหุ้น 1 บาท ราคาปัจจุบัน 12.5 บาท
ผลตอบแทนแท้จริงอาจจะสูงกว่านั้น
หากขายหุ้นปันผลออกไปที่ราคาตลาด

แต่ปีนี้่คงจะไม่ได้มากอย่างนั้น เพราะจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น
และสถานะการเงินของ TVO ก็เริ่ิมมีความเสี่ยงมากขึ้น
การปันผลสูงๆ ติดต่อกันหลายๆ ีปี ทำให้ TVO มีหนี้เงินกู้ถึงเกือบๆ 4,000 ล้านบาท ทั้งที่เคยเป็นหุ้นที่ฐานะทางการเงินค่อนข้างแข็งแกร่งมาก่อน...

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมหลายคนถึงยังคิดว่าการที่บริษัทจ่ายปันผลเป็นห้นนั้น ผ้ถือห้นได้รับปันผลตามมลค่านั้นจริงๆ ทั้งๆที่ผ้ถือห้นแถบไม่ได้อะไรเลยจากการจ่ายปันผลเป็นห้น

จากข้อมลของพี่ครรชิต จะเห็นได้ว่าบริษัทส่วนใหญ่จะเป็น 2 แบบนี้

1. จ่ายปันผลเป็นห้น

2. ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2546 ตกต่ำลงอย่างมาก

เหลือบริษัทไหนบางที่จ่ายปันผลเป็นเงินสดจริงๆ และผลการดำเนินงานในปี 2546 ยังคงดีอย่ครับ

เสนอ cpi ครับพี่เจ๋ง

คุณ ChatChai ครับ
ผมไม่ค่อยเข้าใจในประเด็นในกระทู้ที่ตอบเลยขอถามเพิ่ม ดังนี้แล้วกันนะครับ

1. กรณีที่ บ.แจกหุ้นปันผล สมมติ 5 ต่อ 1 ให้กับผู้ถือหุ้น
(สมมติราคา พาร์ 1 บาท ปัจจุบันราคาตลาด 10 บาท)
อย่างนี้ บ.ก็จะบอกว่า จ่ายหุ้นปันผลเทียบเท่า 0.20 บาทต่อหุ้น และมีเงินสดปันผลให้สำหรับ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย .033 บาท โดยประมาณ
ในด้านนักลงทุน ก็จะเปรียบเทียบกับราคาตลาดแล้วมองว่า ตัวเองเสมือนได้ปันผล 2.00 บาท + .33 บาท (เพราะราคาตลาดแพงกว่าราคาพาร์ 10 เท่า และสมมติให้คิดว่า Dilution Effect เป็น 0%)

กับ 2. การที่ บ.ไม่ล่ะ จ่าย ปันผลเป็นเงินสดออกมาให้ผู้ถือหุ้นเลย 2.00 บาท ต่อหุ้น แล้วก็ทำการเพิ่มทุน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 10 บาท

วิธีการทั้ง 2 จะแตกต่างกันต่อนักลงทุนในมุมมองของคุณฉัตรชัย อย่างไรครับ
คือ ผมเข้าใจว่า ทั้ง 2 วิธี นักลงทุนที่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน ก็จะมีส่วนได้เสียใน บ.เหมือนกันและเหมือนเดิม
เพียงแต่วิธีแรก ตัว บ.ไม่ต้องไปเสียเวลาและดอกเบี้ยในการกู้เงินมาจ่ายปันผลแล้วรอเงินและเวลาจากการเรียกชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุน

รบกวนคุณฉัตรชัยและเพื่อนๆ ผู้เชี่ยวชาญ ชี้แนะหรือแสดงความเห็นด้วยครับ
ขอบคุณครับ

แบบว่าเห็นด้วยกับคุณฉัตรชัยมากๆ ครับในเรื่องหุ้นปันผล

เงินปันผลคือเอากำไรสะสมมาจ่าย หุ้นปันผลต้องเพิ่มทุนมาก่อนแล้วค่อยเอากำไรสะสมมาจ่าย ก็คือเอาส่วนของผู้ถือหุ้น (กำไรสะสม) มาเพิ่มในช่องหุ้นทุนจดทะเบียน สรุปกระเป๋าซ้ายกับกระเป๋าขวานั่นเอง

ที่มันมีเงินรั่วออกไปก็ภาษีหัก ณ ที่จ่ายนี่แหละ

แบบที่สองที่คุณ sirivajj กล่าวถึงไม่เคยเห็นเกิดพร้อมกันครับ (จากประสบการณ์อันน้อยนิด) เพราะเสียทั้งภาษีและค่าธรรมเนียมการเพิ่มทุนครับ

โดนกับตัวเองกับ LEE ครับ เขียนเพราะบ่นว่าไม่ชอบเลยหุ้นปันผล คนอื่นที่เห็น dividend yield สูงๆ ก็นึกว่าจะได้เงินสดเป็นรายได้ พอได้เป็นหุ้นปันผล เป้าหมายการลงทุนก็ผิดไปครับ

ป.ล. ผมไม่ได้หายไปไหนไกลหรอกครับ ยังตามอ่านอยู่แต่คงมีเวลาโพสต์ได้น้อยลงครับ

ผมว่ามีหลายตัว เช่น

Stock--Cash Div--price @ Mar29
CPI------0.45--4.80
TAF-----10.00--(CM)
UPOIC--5.00--42.75
UVAN---3.50--28.00
AJ--------0.50---5.00
LH-------1.15---11.00
SPALI---0.50----5.05
ASSET--7.00----76.50

คิดจากเงินสดปันผลกับราคาปัจจุบัน แต่ไม่ได้คำนึงถึงแนวโน้มกำไร/ปริมาณเงินสดในปีต่อไป และ dilution จากหุ้นเพิ่มทุน และ วอแรนท์ที่แปลงสภาพในอนาคต

เห็นด้วยครับ หุ้นปีนผลไม่ได้ให้ประโยชน์กับผู้ถือหุ้นเลย

ส่วนที่ปันมากกว่า 8% ก็มีเช่น
TAF LST TUF PRANDA TPA PPPC TIW SE-ED CCET PHA

ผมอธิบายดดยยกตัวอย่างดังนี้นะครับ

บริษัท A

งบดล

มีทนจดทะเบียน 1000 ล้านบาท (มีห้นสามัญ 100 ล้านห้น PAR 10 บาท)
กำไรสะสม 2000 ล้านบาท

รวมส่วนผ้ถือห้น 3000 ล้านบาท

BV จะเท่ากับ 30 บาทต่อห้น

งบกำไรขาดทน

บริษัทกำไรสทธิ 300 ล้านบาท
EPS 3 บาท

ถ้าราคาห้นเท่ากับ 30 บาท ดังนั้น P/BV จะเท่ากับ 1 เท่า และ P/E เท่ากับ 10 เท่า

ถ้าเรามีห้นบริษัท A จำนวน 1000 ห้น ก็จะมีมลค่า 30000 บาท

หลังจากนั้นบริษัทก็จ่ายปันผลเป็นห้น 1 ห้นเดิมต่อ 1 ห้นใหม่ที่ราคา 10 บาท

งบดลหลังปันผล

ทนจดทะเบียน 2000 ล้านบาท (มีห้นสามัญ 200 ล้านห้น PAR 10 บาท)
กำไรสะสม 1000 ล้านบาท

ส่วนของผ้ถือห้น 3000 ล้านบาท

BV จะเท่ากับ 15 บาทต่อห้น

งบกำไรขาดทนหลังปันผล

กำไรสทธิเท่าเดิม 300 ล้านบาท
EPS 1.50 บาท

ดังนั้นถ้าให้ P/BV เท่าเดิมคือ 1 เท่า ราคาห้นก็จะเท่ากับ 15 บาท และถ้าคิด P/E เท่าเดิมที่ 10 เท่า ราคาห้นก็จะเท่ากับ 15 บาท

มลค่าห้นของเราซึ่งมีห้นเพิ่มขึ้นเป็น 2000 ห้นก็ยังคงเท่าเดิมคือ 30000 บาท

จะต่างอะไรกับการที่บริษัทจะไม่จ่ายปันผลละครับ

จะเห็นได้ว่าเราไม่ได้ประโยชน์จากห้นปันผลเลยครับ นอกจากที่เราสามารถขอเครดิต TAX เท่านั้นครับ

การที่บริษัท A จ่ายปันผลเป็นห้นปันผลมลค่า 10 บาท แล้วคำนวณว่า Yield ของบริษัทเท่ากับ 10/30 = 33.33% นั้นผมคงไม่เห็นด้วยครับ

แต่ที่คณ sirivajj ถามถึง 2 กรณีนั้น ผมมีความเห็นว่าคล้ายกันมากครับ เป็นการจ่ายปันผลหรอกนักลงทนครับ ผ้ถือห้นไม่ได้ประโยชน์จริงๆ

ผมมีความเห็นว่าบริษัทที่มีการประกาศจ่ายเงินปันผลทั้งสองกรณีที่คณ sirivajj กล่าวถึงนั้น ผ้บริหารของบริษัทคงมีวัตถประสงค์เพื่อกระต้นราคาห้นของบริษัทมากเกินไปครับ ถ้าใครไม่เข้าใจอาจจะหลงเข้าไปซื้อห้นเพราะคิดว่าจะได้เงินปันผลเป็นจำนวน 33.33% จริงครับ

หุ้นที่จะปันผล 10% ในรอบการปันผลปีนี้คงหายากมาก หรือถ้ามีก็เป็นหุ้นประเภทที่ว่าไม่รู้ว่า 1-3 ปีข้างหน้าจะปันผลได้แบบนี้อีกรึเปล่า แต่ผมคิดว่าน่าจะมีเหมือนกันนะครับ ที่หุ้นบางตัวอาจจะปันผลได้ 10% ในอีก 2-4 ปีข้างหน้าเมื่อเทียบกับราคาตลาดขณะนี้ อันนี้คงต้องเป็นสิ่งที่ value investor อย่างเราจะช่วยกันระดมความคิดเพื่อหานะครับ

คุณเจ๋งตั้งกระทู้หลายๆ กระทู้ได้มีประเด็นน่าสนใจทีเดียวครับ ถ้าเป็นนักฟุตบอลคงต้องยกให้เป็นมิดฟิลด์ตัวจ่ายบอลแบบซีดานเลยนะครับ : )

TAF ครับ แต่ติด cm ไม่มีสภาพคล่อง

ผมเคยซื้อได้ แต่ขายเร็วไปหน่อย แล้วก็ไม่ยอมลงมาให้ซื้ออีกครับ

se-ed w1 สิครับ ซื้อแล้วเอาแปลง น่าจะได้ 8-9%

คุณลูกอีสานครับ

TVO นับจากก่อน dilution หรือหลัง dilution ครับ

ปันผล 2.60 บาทน่าจะนับจากก่อนรวมหุ้นปันผล 1:1 ครับ
ถ้านับจริงๆต้องนับว่าได้ปันผล 1.30 บาทครับ เพราะหลัง
จากได้หุ้นปันผลแล้ว จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเท่าตัวครับ

ส่วนตัวที่ผมส่งเข้าประกวดคือ F&D ครับ ที่ราคา 42 บาทก็
ยังได้ปันผลเกิน 7% อยู่ดี น่าจะติด 1 ใน 5 ของ top yield
ในตลาดณ.วันนี้

ส่วนผลการดำเนินงานก็ไม่ได้น่าเกลียดนัก มีหนี้อยู่พอควร
แต่ค่อนข้างจะ manageable ทีเดียว

อาจจะไม่หรู (ในแง่งบกระแสเงินสด) เท่า WG แต่ผมค่อนข้าง
จะพอใจครับ ทีมผู้บริหารใช้ได้ (เท่าที่ดูข้อมูลย้อนหลัง)

เสนอ cm ครับยังพอมีหวัง เนื่องจากบริษัทลูกในเครือเริ่มดีขึ้นครับ แต่ดูแล้วมันอ้างอิงกับการส่งออก เดายากเหมือนกัน

ขอบคุณคุณ Chatchai ครับ

ตัวอย่างที่ยกมา ทำให้ผมเข้าใจชัดเจนดีครับ
มานึกถึงตอนนี้อีกที ผมว่า ถ้าผู้บริหารไม่กลัวจะโดนผู้ลงทุนด่า หรือกลัวราคาหุ้นตก มั่นใจในฝีมือการบริหารและผลการดำเนินงาน
แล้วงดปันผลไปเลยเพื่อรักษาเงินไว้ใช้ในการลงทุน ในด้านผู้ลงทุนก็น่าจะไม่แตกต่างกันเลยนะครับ

แต่อย่างที่ว่าล่ะครับ ขืนทำอย่างที่ว่าโดย งดปันผลทั้งที่มีกำไรล่ะก้อ
เป็นเรื่องแน่เลย

ยกมือเห็นด้วยกับพี่ chatchai เลยครับ
ผู้ถือหุ้นไม่ได้ประโยชน์อะไรจริงๆ นอกจากเครดิตเงินปันผล
(ซึ่งบางคนก็ไม่ได้ด้วยซ้ำ)......
แต่ไม่เห็นใครพูดกันว่ามันไม่ดีตรงไหน ผมก็เลยเงียบๆบ้าง
แฮะ ไม่เก๋าพอ ต้องรอให้เก๋าๆอย่างพี่ chatchai มาพูดเอง แน่นกว่าเยอะ

ส่วนพี่เจ๋ง แกสวมวิญญาณ beckham เปิดมาเป็น 100 ลูกแล้ว
ใครจะ follow ตุงตาข่ายก็แล้วแต่ความสามารถแล้วล่ะครับ
ผมยังเตะไม่โดนซักลูกเลย

ปันผล 2.60 บาทน่าจะนับจากก่อนรวมหุ้นปันผล 1:1 ครับ
ถ้านับจริงๆต้องนับว่าได้ปันผล 1.30 บาทครับ เพราะหลัง
จากได้หุ้นปันผลแล้ว จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเท่าตัวครับ

น่าจะเป็นอย่างที่พี่ CK บอกครับ
วันนี้ผมดูราคาที่ 12 บาท ก็ให้ผลตอบแทนมากกว่า 10 %นะ
แต่ผมคงยังไม่ซื้อครับ เพราะ พีอี fully diluted ประมาณเกือบๆ 10 เท่า
แต่ผลของการขยายกำลังการผลิต การจ่ายปันผลมากๆ ทำให้ tvo
มีหนี้เงินกู้เกือบๆ 4000 ล้านบาท กระแสเงินสดจากการดำเินินงานก็ติดลบมาสองปีแล้ว..แต่ยังคงจ่ายปันผลมากๆ ผมไม่ค่อยเข้าใจผู้บริหารครับ

:lol: spali น่าสนใจนะครับถ้าต้องการเน้นปันผลในปีนี้ p/e ก็ยังตำอยู่ครับ