หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ดัชนีวิ่งใกล้แตะจุดพีค

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 15, 2009 7:39 pm
โดย vichit
ดัชนีวิ่งใกล้แตะจุดพีค

แมงเม่าอย่าซื้อเพลิน

*พี/อีพุ่งปรี๊ดแล้ว22เท่า

*ให้ซื้อหุ้นราคามีอัพไซด์

โบรกฯมองดัชนีหุ้นยังปรับขึ้นได้อีกตามราคาน้ำมัน จับตาต้นเดือนตุลาคมนี้มีโอกาสแตะ 690  จุด  แต่เตือนเป็นระดับที่วิ่งไกล้จุดสูงสุดแล้ว แนะรายย่อยอย่าช้อปเพลิน เหตุพี/อีสูงกว่า 22 เท่า เกือบมากสุดในเอเชีย แนะมองหาหุ้นที่ราคายังมีอัพไซด์ ทั้งหุ้นเล็ก ราคาถูก ปันผลสูง และแข็งแกร่ง ทั้ง TVO, SPI, TPAC,TRT, TRC ฯลฯ ส่วนหุ้นตัวใหญ่น่าลงทุน เช่น ADVANC PTTEP BCP KTB และ BAY

นางสาวจิตรา  อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด(มหาชน) กล่าวในงานสัมมนา "ลงทุนหุ้นเด่น เล็ก&ใหญ่ สร้างกำไร

2  ต่อ" ที่จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์"ข่าวหุ้นธุรกิจ" ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และ mai ว่า ภายในต้นเดือนตุลาคมนี้คาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นไปที่ 690 จุด หลังจากปรับตัวขึ้นมากว่า 200 จุดนับตั้งแต่ตลาดหุ้นลงไปถึงจุดต่ำสุดที่ 387 จุด

"เราปรับประมาณการณ์ดัชนีไปที่ 690 จุด Upside 10% ที่น่าจะเห็นได้ภายใน 1-2 เดือนนี้หรือประมาณต้นเดือนสิงหาคม    ด้วยปัจจัยพื้นฐานในกรณีการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ 580-600 จุด ส่วนที่เกินคือจำนวนเงินในระบบการลงทุนที่มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งโบรกเกอร์ต่างประเทศบางแห่งประมาณการณ์สูงถึง 715-725 จุด Upside ถึง 25%"

การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้นั้น ต้องพิจารณาจากธุรกิจที่มีอัตราเติบโต มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีหนี้มากนัก ผลประกอบการที่ดีโดยเป็นการเติบโตจากไตรมาส  4/51 ราคาหุ้นถูกเมื่อเทียบกับความสามารถในการทำกำไร เงินปันผลดีและสม่ำเสมอ  ซึ่งเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในต่างประเทศแล้ว  ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเงินปันผลสูงที่สุดในเอเชียที่ 5% ขณะที่ตลาดอื่นๆ อยู่ที่ 3-4%

นางสาวจิตรา  กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากปรับตัวมาแล้ว  2  ครั้ง โดยพิจารณาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 55 ดอลลาร์ต่อบาเรล มาอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อบาเรล ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองที่ระดับราคา 80 ดอลลาร์ต่อบาเรล และทุกๆ 1 ดอลลาร์ต่อบาเรล จะส่งผลทำให้หุ้น ปตท.และ ปตท.สผ.ปรับเพิ่มขึ้น 2 บาท

ทั้งนี้แนะนำหุ้นเล็กราคาต่ำ คือ บมจ.น้ำมันพืชไทย(TVO) ราคาเป้าหมาย 17 บาท Upside 16% เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีการเติบของรายได้ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่ 59% มาจากการขายกากถั่วเหลืองและ 30% มาจากการขายน้ำมันพืช มโดยบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ในตลาดน้ำมันพืชสุงสุดถึง  57%  และตลาดกากถั่วเหลืองถึง 60% ขณะที่ราคาน้ำมันพืชและกากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีถึง 35%

หุ้นบมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง(SPI) คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/52 คงไม่ดีมากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ได้ฟื้นตัวมากนัก ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะกลับมาดีอีกครั้งในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ ยังถือว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจ มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง  มีหนี้สินต่อทุนเพียง  0.1 เท่า สภาพคล่องดี มีเงินสดกว่า 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.68 บาทต่อหุ้น

มีสินทรัพย์หมุนเวียนภายใน 1 ปีที่คาดว่าจะกลายเป็นเงินสดได้ ต่อหนี้สินที่ 1.5 บาทต่อหุ้น ขณะที่ผู้บริหารได้ซื้อหุ้นคืนจากกองทุนสิงคโปร์ส่งผลให้กลายเป็นเจ้าของบริษัท ซึ่งความเป็นเจ้าของจะช่วยทำให้งานบริหารเป็นไปอย่างมั่นคง แนะนำซื้อในราคาเป้าหมาย 2.25 บาท PE 5-6 เท่า และมีเงินปันผลที่ 5%

และหุ้น บมจ.พลาสติก และหีบห่อไทย(TPAC) ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท Upside 35% คาดเงินปันผล 10% PE 4 เท่า มีอัตราการเติบโตของกำไรปีละ 15% เนื่องจากเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค แม้ไม่ได้แป็นหุ้นที่มีเสถียรภาพมากนักแต่ก็เป็นหุ้นที่มีผลประกอบการดีขึ้นทุกๆ ปี

นายสุกิจ อุดมกิจศิริกุล ผู้กรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัยพ์ บล.นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า หุ้นที่น่าสนใจลงทุน เช่น บมจ.บริษัท ถิรไทย(TRT) มีพื้นฐานการเติบโตที่ดี มาร์จิ้นสูง มีเงินปันผลสูงหรือประมาณ 0.60 บาทต่อหุ้น มีอัตราการเติบโตปีละ 5.7%,  บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น(TRC) แม้ว่าการก่อสร้างในระยะสั้นมีการชะลอตัว แต่เชื่อว่าในระยะยาวจะเริ่มมีงานเข้ามามาก โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจ็ค ดังนั้นธุรกิจก่อสร้างยังไปได้ดี ROE อยู่ที่ 17% สูงกว่าบริษัทอื่นในตลาด มาร์จิ้นสูง มีการจัดการที่ดี

หุ้นบมจ.ไทย เอ็น ดี ที(TNDT) เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนสูง และมีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง, หุ้น บมจ.โรงพยาบาลไทยนครินทร์(TNH) แม้จำนวนผู้ป่วยลดลงแต่รายได้ไม่ลดลง  แต่กลับเพิ่มขึ้น ขณะที่โรงพยาบาลได้เพิ่มการบริการ และเพิ่มความเชี่ยวชายด้านการแพทย์  เชื่อว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจ  มีเงินปันผลถึง 7% และหุ้น บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส(UMS) มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ แนวโน้มราคาถ่านหินยังเพิ่มขึ้น

นายรณกฤต  สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป  จำกัด(มหาชน)  กล่าวเตือนนักลงทุนว่าอย่าประมาท เนื่องจากขณะนี้ PE ได้อยู่ในระดับที่สูงถึง 22 เท่า ซึ่งสูงมากกว่าตลาดหุ้นเอเชีย เช่น สิงคโปร์อยู่ที่ 12% มาเลเซีย 18%  และจีนที่ 16% ทั้งนี้หากดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องก็จะส่งผลทำให้ค่า PE เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ขณะที่อัตราการเติบโตของบริษัท บจ. ยังมีไม่มากนัก

"ทั้งปีเรามองว่า บจ.น่าจะโตเฉลี่ยที่ 4% ซึ่งการโตแค่นี้ค่า PE ก็ไม่น่าจะสูงมากนัก

เพราะแค่ 15 เท่าก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว แต่ตอนนี้ถือว่าสูงเกินไป ต้องระวังหากหุ้นปรับลง ซึ่งขณะนี้มีหุ้นหลายกลุ่มที่เกินมูลค่าไปแล้ว เช่น ปตท. เกิน 14% ปตท.สผ. 24% และกลุ่มพลังงาน 3% กลุ่มแบงก์ 25% พรอพเพอร์ตี้ 30%"นายรณกฤต กล่าว

สำหรับหุ้นเด่นที่น่าสนใจ ต้องเป็นหุ้นที่มีปันผลสูงต่อเนื่อง และนักลงทุนต้องรู้ว่าตัวเองต้องการลงทุนในระยะสั้น  กลางหรือยาว  และรู้จักจังหวะในการขาย เช่น บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น(SYNTEC) Upside 127%, บมจ.ลานนารีซอร์สเซส (LANNA) 77%, บมจ.เมเจอร์  ซีนีเพล็กซ์  กรุ้ป (MAJOR) 24.1%, บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(TICON) 19.6%, บมจ.โกลว์ พลังงาน(GLOW) 27.7%, บมจ.ศุภาลัย (SPALI) 11.8%

นางศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป กล่าวว่า หุ้นเด่นตัวใหญ่ๆ  ซึ่งดูแล้วมี  5  ตัว คือ BECL KBANK CPF ADVANC AP SGP เพราะหุ้น ADVANC  จะได้ปัจจัยบวกจากแนวโน้ม  3G ทำให้จ่ายปันผลได้ประมาณ 7% ของ Yield หุ้น AP น่าเล่น เพราะสามารถออกพันธบัตรมาไฟแนนซ์ตัวเอง

หุ้น  BAY มีการเติบโตจากเข้าไปซื้อพอร์ตของรายอื่น, หุ้น BCP มีกำไรโดดเด่น, BECL  ปีนี้จะเก็บค่าผ่านทางวงแหวนรอบนอก  จากเดิมฟรี และเพิ่มค่าทางด่วน, BGH มีเครือข่ายเยอะ ทำให้เกิดการกระจายฐานรายได้

CPF มีกำไรที่ substain ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้กำไร ประกอบกับขยายการลงทุนไปต่างประเทศ ทำให้ฐานรายได้กระจายเพิ่มขึ้น, IRPC เพิ่มกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก

จนถือเป็นรายใหญ่ของโลก,   K-Bank   มีกำไรมาก  เพราะมีรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมกระจายทั่วพอร์ต, PTTEP และ PTT ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันในตลาดโลก, SCCC ลิ้งค์กับโครงการลงทุนภาครัฐ และเป็นเพียวซีเมนต์ ไม่เหมือนปูนใหญ่ที่ทำธุรกิจหลากหลาย, TUF ขายสินค้าหลากหลาย เช่น ทูน่า กุ้ง ฯลฯ ก็ทำให้รายได้กระจาย

นายเจริญ  เอี่ยมวัฒนธรรม  ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  บล.เคทีซีมิโก้ กล่าวว่าช่วงนี้หุ้นมีโอกาสขึ้นไปแตะ  642  จุด  จากเดิมมองที่  580  จุด แต่คาดการณ์แนวโน้มสูงสุดที่ปลายปี 710 เฉพาะกลางปีคาดจะแตะ 640-650 และยังมีโอกาสขึ้นไปต่อเรื่อยๆในเงื่อนไขว่าต้องมีเม็ดเงินต่างชาติเข้ามาเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ตลาดเริ่มเสี่ยง เพราะมีปริมาณพันธบัตรออกมามาก ทำให้ราคาหุ้นไม่ถูก

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า หุ้นเด่นๆ  ในมุมมองของตนนั้น  คือ ADVANC ให้ราคาเป้าหมาย 100 บาท ในเงื่อนไขที่ยังไม่ทำ 3G แต่ถ้ามี 3G จะเป็น 120 บาท เพราะปันผลดี และเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดผู้ให้บริการมือถือ จัดเป็นผู้นำด้านต้นทุน มีหนี้สินต่อทุนต่ำมากเพียง 0.2 เท่า

AP เป็น Valueation ล้วนๆ, BBL ราคาเป้าหมาย 110 บาท เทรดประมาณ 1 เท่าตามมูลค่าทางบัญชี ปริมาณหนี้เสีย(NPL) ก็ไม่ได้ทำให้มูลค่าทางบัญชีลดลง เพราะเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของประเทศ จึงเป็นแบรด์ที่มีกู๊ดวิลล์ค่อนข้างดี

CPALL ให้ราคาเป้าหมาย 18 บาท แต่ราคากลางๆประมาณ 15 บาท ถือเป็นโมเดลธุรกิจที่ดี    แม้ราคาจะยกฐานขึ้น    เพราะมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น   จากปัจจัยการขยายร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในปีนี้ที่คาดว่าจะครบ  5 พันสาขา และมีเป้าหมายจะขยายให้ครบ 7 พันสาขาทั่วประเทศ

KTB ราคาเป้าหมาย 8.60 บาท เพราะเป็นแบงก์รัฐ จึงมีส่วนแบ่งงานมาก ปัจจุบันยังซื้อขายถูก  ถือว่าต่ำกว่ามูลค่าอยู่ดี, IRPC 13 บาท เพราะเพิ่มกำลังผลิตเม็ดพลาสติกเยอะมาก เป็นเบอร์ 2 ของโลก ทำให้จ่ายปันผลได้ดี คาดว่าปีนี้กำไรจะเติบโต 100% เทรดประมาณ 5 เท่า

TOP ราคาเป้าหมาย 48 บาท เพราะเป็นโรงกลั่นที่มีต้นทุนต่ำสุด มีโอเวอร์ซัพพลายอยู่มาก  แต่แนะนำว่าอย่าเทรดหุ้นตัวนี้เพลิน อาจพลาดได้ นอกนั้นที่เหลือ เช่น MCOT ให้ราคาเป้าหมายที่ 23 บาท และ SCB ให้ราคาเป้าหมายที่ 90 บาท

ทางด้านนายเจริญ ให้มุมมองหุ้นเด่น ได้แก่ PTTEP และ PTT แม้ว่าสัดส่วนของ PTT

ดูว่ามีรายได้มาก แต่มีมาร์จิ้น(กำไร) นิดเดียว เพราะ 30-40% มาจาก PTTEP ที่แฝงอยู่ใน PTT อย่าคิดว่าหุ้นใหญ่ Yield จะดีเสมอไป ซึ่งอาจไม่เร้าใจก็ได้

BCP ปันผลประมาณ 8% ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก สะท้อนว่าหุ้นตัวนี้ถือก็ได้ เทรดก็ได้,

ESSO มีการผลิตแก๊สโซรีน(เบนซิน) และอิงราคาจากสิงคโปร์, SGP ราคายังขยับมาก เพราะรอการปรับขึ้นของก๊าซ LPG
วันที่ 15 มิ.ย. 2552 แสดงข่าวมาแล้ว 9ช.ม. 38นาที
 





TVO Price %Change High Low P/E BV
14.70 0.68 % 15.30 14.60 18.76 2.90
SPI Price %Change High Low P/E BV
16.80 0.00 % 16.80 16.80 9.60 0.73
TPAC Price %Change High Low P/E BV
5.10 0.99 % 5.10 5.10 6.17 1.37
TRT Price %Change High Low P/E BV
5.55 -2.63 % 5.70 5.55 4.37 1.53
TRC Price %Change High Low P/E BV
2.74 -1.44 % 2.82 2.72 7.63 1.27
ADVANC Price %Change High Low P/E BV
88.00 0.57 % 90.25 86.50 16.35 3.34
PTTEP Price %Change High Low P/E BV
140.50 -3.77 % 146.00 139.50 12.54 3.68
BCP Price %Change High Low P/E BV
14.80 -2.63 % 15.20 14.60 N.A. 0.80
KTB Price %Change High Low P/E BV
8.15 -2.98 % 8.40 8.00 8.83 0.89
BAY Price %Change High Low P/E BV
14.00 -4.76 % 14.70 13.60 18.25 1.04
PE Price %Change High Low P/E BV
0.42 -6.67 % 0.46 0.42 N.A. N.A.
TNDT Price %Change High Low P/E BV
4.14 -0.48 % 4.28 4.14 8.89 1.69
TNH Price %Change High Low P/E BV
7.70 3.36 % 7.75 7.50 7.73 2.84
UMS Price %Change High Low P/E BV
14.30 -4.03 % 15.00 14.20 6.08 2.40
SYNTEC Price %Change High Low P/E BV
0.57 -6.56 % 0.62 0.57 3.31 0.52
LANNA Price %Change High Low P/E BV
11.30 -1.74 % 11.60 11.10 12.21 1.89
MAJOR Price %Change High Low P/E BV
6.70 -5.63 % 7.10 6.60 17.87 1.13
TICON Price %Change High Low P/E BV
6.40 -3.76 % 6.75 6.35 5.84 0.89
GLOW Price %Change High Low P/E BV
31.00 4.20 % 31.00 29.50 16.88 1.44
SPALI Price %Change High Low P/E BV
3.24 -2.99 % 3.36 3.20 3.71 0.96
BECL Price %Change High Low P/E BV
15.90 -1.85 % 16.30 15.90 8.37 0.74
KBANK Price %Change High Low P/E BV
68.00 -4.56 % 71.00 67.00 11.60 1.45
CPF Price %Change High Low P/E BV
4.72 -0.84 % 4.82 4.70 9.73 0.74
AP Price %Change High Low P/E BV
4.76 -4.03 % 5.05 4.74 5.89 1.59
SGP Price %Change High Low P/E BV
6.10 -1.61 % 6.25 5.95 4.95 1.35
BGH Price %Change High Low P/E BV
22.70 -1.30 % 23.50 22.70 19.68 2.17
IRPC Price %Change High Low P/E BV
3.70 -4.15 % 3.84 3.68 N.A. 1.07
PTT Price %Change High Low P/E BV
247.00 -4.26 % 257.00 243.00 22.07 1.86
SCCC Price %Change High Low P/E BV
172.00 -0.58 % 174.00 170.50 13.43 2.39
TUF Price %Change High Low P/E BV
24.00 0.84 % 24.10 23.70 9.24 1.40
BBL Price %Change High Low P/E BV
107.00 -2.73 % 112.50 105.00 10.78 1.18
CPALL Price %Change High Low P/E BV
17.20 3.61 % 17.20 16.60 21.53 4.13
TOP Price %Change High Low P/E BV
40.50 -4.71 % 42.50 40.25 N.A. 1.42
MCOT Price %Change High Low P/E BV
17.90 -3.24 % 18.70 17.80 9.87 1.70
SCB Price %Change High Low P/E BV
74.50 -3.87 % 77.50 73.50 13.06 2.00
ESSO Price %Change High Low P/E BV
6.35 -3.79 % 6.60 6.30 N.A. 1.03


http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/fir ... ?cid=27950

ดัชนีวิ่งใกล้แตะจุดพีค

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 15, 2009 7:47 pm
โดย baby-investor
รอบนี้จะหักปากกาเซียนอีกหรือเซียนจะพูดถูก แต่ที่แน่ๆผมว่า PE สูงไปจริงๆครับ

ดัชนีวิ่งใกล้แตะจุดพีค

โพสต์แล้ว: จันทร์ มิ.ย. 15, 2009 9:05 pm
โดย luckyman
เรื่มลงแล้วครับ
กำลังศึกษาหาข้อมูล รอซื้อของถูก

ดัชนีวิ่งใกล้แตะจุดพีค

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 16, 2009 12:27 am
โดย Hughes
เดี้ยงไปแล้วครับ

โดนกระทิงขวิดไปชนหมี (แพนด้า)

:cry:
:lol:

ดัชนีวิ่งใกล้แตะจุดพีค

โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 16, 2009 12:55 pm
โดย ศิษย์เซียน007
การไต่เพดานบินของเครื่องบินขนาดเล็กนามSET ที่ระดับกว่า20000ฟุต(PEกว่า20เท่า) ด้วยความชันที่สูงเกินไปกว่า80องศา(RSIทะลุ80) ได้เข้าสู่ภาวะอันตรายๆ(ไซเรนดังไม่หยุด) ขอย้ำว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการทิ้งดิ่งอย่างรวดเร็วและแรงโดยไม่ทันตั้งตัว  :lol: