Thai VI

ช่วยกันหาหุ้นที่ยังตามตลาดอยู่มากกว่า 10-20 %

แต่ต้องเป็นหุ้นในหลักการของแนว VI นะครับ

SV2 เขียน:ช่วยกันหาหุ้นที่ยังตามตลาดอยู่มากกว่า 10-20 %

แต่ต้องเป็นหุ้นในหลักการของแนว VI นะครับ

ช่วงระยะเวลาหล่ะครับ ถ้าปีนี้ หุ้นVIที่ตัวไม่ไหญ่ ส่วนมากจะแพ้ตลาดครับ
แต่ถ้านับย้อนหลังไป1ปี ส่วนมากจะชนะตลาดครับ

หุ้มกลุ่มสหพัฒน์ทั้งกลุ่มครับที่ยังไม่ค่อยขึ้น นอกจากนี้น่าจะเป็นหุ้นเล็กๆเช่น inet csr bat3k ahc fancy mfec msc ฯลฯ ผมว่ามีเยอะมาก บางตัวสภาพคล่องน้อย บางตัวสภาพคล่องสูงคละกันไปครับ

ระยะเวลาขอเริ่มจากวันที่ set ตกลงเหลือตำ่กว่า 380 จุด ตอนปลายตุลา 51 นะครับ

กลุ่มแฟชั่นมีตัวนึงที่ตกสวนตลาดครับ ทั้งๆที่กำไรยังโตอยู่ตามปกติ

กลุ่มปิโตรเคมีก็มีตัวนึงที่ไม่ได้เป็นผู้ผลิตซึ่งราคายังไม่ขึนมาน้อยมากจากจุดต่ำสุด

กลุ่มMediaก็มีตัวนึงที่ตกสวนตลาดเช่นกัน ตั้งแต่ลงมาจากจุดสูงสุดก็ร่วม 35%แล้วและก็ยังลงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ทั้งๆที่พฐ.ระยะยาวของบริษัทไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร

กลุ่มITมีตัวนึงที่ค่อนข้องชัดเจนว่าเป็นเบอร์ต้นๆของธุรกิจแต่กลับกลายเป็นตัวที่PEต่ำที่สุด ในขณะที่ราคาก็ยังขึ้นมาไม่มากเมื่อเทียบกับตลาด

นึกได้แค่นี้ 2ตัวใน SET 2 ตัวใน MAI ครับ ลองหาดู

กลุ่มปิโตรเคมีก็มีตัวนึงที่ไม่ได้เป็นผู้ผลิตซึ่งราคายังไม่ขึนมาน้อยมากจากจุดต่ำสุด

กลุ่มปิโตรเคมีก็มีตัวนึงที่ไม่ได้เป็นผู้ผลิต ซึ่งราคายังขึ้นมาน้อยมากจากจุดต่ำสุด

ขอแก้คำผิดครับ

WG

BIGC
MAKRO

Centel ครับ

CMO ก็ไม่่ค่อยวิ่งครับ

กลุ่มที่ยังคงมีปัญหาอยู่

1. กลุ่มโรงแรม (อันนี้สามเด้ง คือ ปิดสนามบิน ปลายปี ตามด้วย ปัญหาเดือนเมษายน มาต่อด้วย H1N1 ระบาด)

2. กลุ่มส่งออก (อันนี้ตามเศรษฐกิจโลก) ได้แก่ อัญมณี (ไม่นับส่งออกทองคำ) แฟชั่น เป็นต้น

3. กลุ่มประกันภัย (สองเด้ง คือ กฏใหม่ของ คปภ และ ตามตลากหลักทรัพย์)

เห็นๆๆมีอยู่สามกลุ่มนี้ยังไม่ได้ไปไหนกับเขา

ส่วนใหญ่รอบนี้หุ้นตัวใหญ่ ราคาสูงขึ้น
เพราะ
1. สภาพคล่องสูง
2. หุ้นที่ต่างชาติลงทุนเดิม อยู่ใน list (นอก list ไม่ขึ้น)
3. ค่าเงินบาท กับค่าเงินดอลล่าร์

แค่นี้ล่ะ

หุ้นในพอร์ตผม ทุกตัวครับ

work
uec ครับ

ผมว่าตอบค่อนข้างยากครับ
เพราะหุ้น VI นี่ อาจจะเปลี่ยนเป็นไม่ VI ได้ ถ้าพื้นฐานเปลี่ยนไป

SV2 เขียน:ช่วยกันหาหุ้นที่ยังตามตลาดอยู่มากกว่า 10-20 %
แต่ต้องเป็นหุ้นในหลักการของแนว VI นะครับ

ไม่แน่ใจครับว่าจะมี VI ซื้อหุ้นเพียงเพราะราคาหุ้นยังตามตลาดอยู่ 10-20 % หรือเปล่า ?
เพราะตลาดไม่ได้ชี้อนาคตครับว่า ราคาหุ้นที่ VI ซื้อ จะขึ้นไปเทียบเท่าหรือสูงกกว่าตลาดหรือไม่..?

ประเด็น !!! VI ควรจ่ายเงินซื้อกิจการที่ราคาน้อยกว่ามูลค่ากิจการ ไม่ใช่น้อยกว่าตลาด
เพราะในระยะยาว ราคาหุ้นจะถูกสะท้อนด้วยผลงานของกิจการ ไม่ใช่เพราะผลงานแรงซื้อแรงขายในตลาดครับ

คราวนี้หุ้นที่ขึ้นไปแล้วมีโอกาสลงมาให้รับแล้วล่ะครับ

ไม่แน่ใจว่า CENTEL จะยังพอจัดอยู่ในประเภทนี้มั๊ย เพราะกลุ่มท่องเที่ยวกะรถยนต์น่าจะคล้ายกันในแง่ที่ว่าช่วงปีนี้จะย่ำแย่ (อย่างSTANLY ที่ไปก่อนแล้วทั้งๆที่กำไรที่ตกฮวบฮาบยังไม่ปรากฏ)  แต่หากเศรษฐกิจฟื้นน่าจะเป็นกลุ่มที่น่าจัดตาเช่นกันเพราะเศรษฐกิจไทยผูกกับการท่องเที่ยวอยู่
ราคา low สุดรอบหลายๆปีนี้อยู่ที่ประมาณ 2.9 และราคาตอนนี้อยู่ที่ 3 บาทต้นๆ โดยที่ BV อยู่ที่ 4.6 ครับ เห็นราคา MINT วิ่งนำไปแล้วไม่รู้ว่า CENTEL จะตามไปไหม  :8)

[quote="Laziale"]ไม่แน่ใจว่า CENTEL จะยังพอจัดอยู่ในประเภทนี้มั๊ย เพราะกลุ่มท่องเที่ยวกะรถยนต์น่าจะคล้ายกันในแง่ที่ว่าช่วงปีนี้จะย่ำแย่ (อย่างSTANLY ที่ไปก่อนแล้วทั้งๆที่กำไรที่ตกฮวบฮาบยังไม่ปรากฏ)

[quote="sathaporne"][quote="Laziale"]ไม่แน่ใจว่า CENTEL จะยังพอจัดอยู่ในประเภทนี้มั๊ย เพราะกลุ่มท่องเที่ยวกะรถยนต์น่าจะคล้ายกันในแง่ที่ว่าช่วงปีนี้จะย่ำแย่ (อย่างSTANLY ที่ไปก่อนแล้วทั้งๆที่กำไรที่ตกฮวบฮาบยังไม่ปรากฏ)

กลุ่มนิคมไง สงสัยอีกนาน