Thai VI

อยากทราบว่าเรียนMBAแล้วมีส่วนช่วยในการวิเคราะห์หุ้นหรือมีไอเดียเพิ่มขึ้นไหมครับ  ขอบคุณครับ

วิชาที่เรียนในMBA มีเกือบทุกวิชาเลยครับที่ช่วยวิเคราะห์การลงทุนแนวVIได้

ถ้าผมไม่ได้เรียน MBA  ผมคงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างทุกวันนี้

ผมมีคำถามที่ข้องใจ  มานานแล้วครับว่า
เรียน MBA  นี้  เรียน ในเมืองไทย  กับ  ไปเรียนต่างประเทศ นี้
จะแตกต่างกันมากรึป่าวครับ   ถ้าไม่



ขอคำแนะนำหน่อยครับว่า ในประเทศไทย  ถ้าเลือกได้ควรเรียนที่ไหนครับ
เราควรจะหาข้อมูลของ อาจารย์ที่สอนใน วิชาที่เราจะเรียนด้วยรึป่าวครับ
และอะไรที่เราควรจะรู้ก่อน ไปเรียนบ้างครับ

รบกวนพี่ Chatchai ช่วยขยายความหน่อยครับ
ดีหรือ ไม่ดี
หรือไม่อย่างไรครับ

teelek เขียน:รบกวนพี่ Chatchai ช่วยขยายความหน่อยครับ
ดีหรือ ไม่ดี
หรือไม่อย่างไรครับ

ผมไม่ได้จบปริญญาตรีในสายธุรกิจ  ทำให้ไม่มีความรู้ในเรื่องบัญชี  การเงิน  การลงทุน  การตลาด  และการจัดการ    

ถึงแม้จะพยายามซื้อหนังสือมาอ่านเอง  ก็รู้เพียงบางส่วน  รู้ไม่ทั่ว  รู้ไม่ลึก

ผมถึงตัดสินใจเรียน MBA  เพื่อที่จะได้เรียนรู้อย่างเข้าใจ  ครบถ้วน  และลึกเพียงพอ  ที่จะศึกษาเพิ่มเติมต่อได้ด้วยตัวเอง

ซึ่งถ้าผมไม่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้  ถึงแม้ผมจะอยากลงทุนแนวเน้นคุณค่า  แต่ด้วยความรู้ที่จำกัด  ผมก็คงไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน

เรียนหนังสือ  ผมว่าคล้ายกับการเรียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์นะครับ

คือ  ถ้าเราเรียนแล้วไม่ได้ใช้งาน  ไม่ได้หมั่นฝึกซ้อม  เรียนไปซักพักก็ลืม

อยากวิเคราะห์งบการเงินเก่งๆ  ก็ต้องศึกษาและมั่นวิเคราะห์บ่อยๆครับ

เรียนต่างประเทศก็จะได้มุมมองคนต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาครับ

วิธีคิดต่าง ๆ ถึงจะหาอ่านได้ทั่วไป
แต่ mba เหมือนแพ็กเกจที่ครบทุกมุม โดยเฉพาะการทำ case

ลงทุนกับการศึกษา ไม่มีคำว่าไม่คุ้มอยู่แล้วล่ะครับ
return มันได้ตลอดชีวิต และ mba นี่ตรงกับการลงทุนอยู่แล้ว

พี่ฉัตรชัยเรียน MBA ที่ไหนครับ เมืองไทย หรือ ต่างประเทศครับ

[quote="chatchai"]เรียนหนังสือ

Hughes เขียน:พี่ฉัตรชัยเรียน MBA ที่ไหนครับ เมืองไทย หรือ ต่างประเทศครับ

ธรรมศาสตร์ครับ

ผมค่อนข้างผิดหวังกับคอร์ส MBA ที่เคยลงทะเบียนมาเกือบ 1 ปี
เนื่องจาก อาจารย์คนไทยส่วนใหญ่ตอบคำถามไม่ตรงประเด็น+อ่าน power point ให้เราฟัง

  ตอนนี้ลาออกแล้วครับ เบื่อการสอนแบบทื่อๆๆทู่ๆๆ    

  พูดถึงตัววิชาที่ผมคิดว่านำมาใช้กับ vi  ก้อมี

1. Fundamental Economics
2. Marketting Management  
3. Accounting Management
4. Financial & Investment  

   การลงทุนรอบที่ผ่านมา ถือว่าผมคืนทุนค่าหน่วยกิตที่จ่ายไปพอดี  :lol:
ส่วนตัวผมใช้ 1 กับ 4 เป็นส่วนใหญ่

อยากได้ทุนให้เปล่า  เรียนสาขา MBA เอก Finance  อเมริกา ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย   จะได้ไม่ต้องพะว้าพะวงกับการเก็บเงินสร้างฐานะ  :twisted:

ปล.  ยังคงรู้สึกเหมือนเดิมว่า  ยังไม่มีกิจกรรมอะไรที่สนุกไปกว่า การเก็บเงิน ไปลงทุนและได้รับเช็คเงินปันผล (กลิ่นหมึกพิมพ์เช็คยังแตะจมูกผมอยู่เลย)
 :lol:

พี่ฉัตรชัยเปลี่ยน logo แล้วหรอครับ

อ่านผ่านๆ แล้วงงเลย คิดยังใช้กระทิงน้อยเหมือนเดิม  :lol:

ว่าจะทักเหมือนกันว่า พี่ฉัตรชัยโดน hack โลโกไปแล้วรึเปล่า  :lol:

ขอสอบถามเพิ่มเติมด้วยคนนะครับ ว่าเราควรเรียนที่ไหนและกับอาจารย์ท่านใดที่เราจะเข้าใจได้มากที่สุด

ถ้าเรียนเมืองไทย  คิดว่า คอร์ส อินเตอร์ กับ เวอร์ชั่นไทย  มีความแตกต่างกันไหมคับ

[quote="Boyadvance"]ผมมีคำถามที่ข้องใจ

สำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านการเงิน ผมว่ามีประโยชนมากๆครับ

ทำให้เรามีเห็นอะไรได้ชัดขึ้น ในเวลาที่รวดเร็ว

แต่สำหรับคนที่มีเวลา ศึกษาเองก็ได้ครับ แต่ต้องใช้ความพยายามมากหน่อย

baby-investor เขียน:ขอสอบถามเพิ่มเติมด้วยคนนะครับ ว่าเราควรเรียนที่ไหนและกับอาจารย์ท่านใดที่เราจะเข้าใจได้มากที่สุด

อาจารย์ที่สอนให้เห็นภาพรวมที่ดีที่สุดท่านนึง ที่ผมเคยเรียนมา

อาจารย์ วสันต์  จันทร์สัจจา    
- Vice President จากธนาคาร ไทยธนาคาร
- อาจารย์พิเศษด้านการเงินและการลงทุน

[quote="กาละมัง"][quote="Boyadvance"]ผมมีคำถามที่ข้องใจ

คงตอบได้ดีไปกว่าที่พี่กูรูตอบไม่ได้อีกแล้ว

krisy เป็นอีกคนที่มีปัญหาเรื่องเงินจนไปเรียน MBA ที่ต่างประเทศไม่ได้ แต่ก็ส่งเสียตัวเองเรียนที่เมืองไทย แน่นอนว่าเป็น inter program จนจบ และแน่นอนว่าแพ้ง แพงจ้า

แต่ว่าชอบและถูกใจกับสิ่งที่ตัดสินใจลงไปมากค่ะ เพราะถ้าอยากได้แค่ปริญญาคงเรียน MBA ภาคไทยไปแล้ว อันนี้ตัดสินจากเพื่อนที่เรียน มี krisy เรียนอินเตอร์ เพื่อนเรียนรั้วชมพู อีกคนเรียนรั้วส้มแดง ปรากฎว่าการบ้านต่างกันค่ะ ภาคไทยเน้นไปอ่านเอง หรือ ปิ้ง slide ให้ดู แต่ที่ krisy เรียนงานเยอะมาก เทอมแรก อาจารย์บางท่านตรวจภาษาให้ด้วย ซึ่งก็แน่นอน ว่าผิดบาน ทั้งที่ krisy เขียนงานเป็นภาษาอังกฤษทุกวัน (ไม่ใช่เมลนะคะ เขียนงานเป็นเรื่องๆเลย ก็ยังห่วยอยู่เลย เฮ้อ)

อาจจะ over-react ไปนิด แต่พอดีชอบ MBA ที่เรียนมากค่ะ ไม่ต้องถามว่าที่ไหนนะคะ  MBA inter มีที่เปิดในไทยไม่มาก ไปทำการบ้านดูค่ะ นอกจากนี้ คนเรียนก็ไม่เหมือนกัน อาจจะถูกจริตไม่เท่ากันค่ะ เพื่อนก็ต่างกัน เด็กอินเตอร์เน้นสังสรรค์ ถ้าหลงไปแสงสี คุมตัวเองไม่ได้ อยู่ไหนก็เหมือนกัน

ส่วนหนึ่งที่จบออกมาแล้วยังรู้สึกว่าที่เรียนไปมีประโยชน์ เพราะ krisy จบบัญชี โลกแคบมาก เรียน MBA โลกกว้างขึ้น นอกจากนี้พอเข้ามาลงทุน เลยได้ปัดฝุ่นสมองเรื่อยๆ ต่างจากเพื่อนที่เรียนจบแล้วก็กลับไปทำบัญชีต่อ

ดังนั้น คนที่เรียนควรพิจารณาถึง condition ที่ตัวเองมีทั้งหมดนะคะ อ่านตัวเองไม่ออก ก็เดินตกท่อได้เองแล้ว ไม่ต้องให้คนอื่นมาขุดหลุมดักค่ะ

ปล. วิธีที่ krisy ใช้ไม่ให้หลงไปกับแสงสี เพราะเพื่อนที่เรียนเน้นเที่ยวบ่อย ก็คือ พกเพื่อนไปเองค่ะ เนื่องจากงานที่ทำปัจจุบันก็หนักมากอยู่แล้ว ถ้าเอาแต่ไป hang out ก็จะเรียนและทำงานแย่ทั้งสองทาง แต่ถ้าไม่ไปกับใครเค้าเลย ก็จะถูกมองเป็นตัวประหลาด พอดีเอาเพื่อนที่ทำงานไปเรียนด้วยกัน ก็เลยโอเค เพราะคนอื่นเค้าก็เข้าใจว่างานเราหนักไปเที่ยวบ่อยๆไม่ได้ แต่เคล็ดลับนะคะ ถ้าคุณไม่กินแรงเพื่อน ทำรายงานคุณภาพดี ถึงไม่ไปสังสรรค์กับใครเลย ยังไงก็มีคนอยากเข้ากลุ่มทำรายงานกับเราตลอดค่ะ สิ่งที่ต้องทำก็แค่กันคนกินแรงออกไปจากกลุ่มก็พอ

หวังว่าคงได้ไอเดียนะคะ

krisy เขียน:
คนที่เรียนควรพิจารณาถึง condition ที่ตัวเองมีทั้งหมดนะคะ อ่านตัวเองไม่ออก ก็เดินตกท่อได้เองแล้ว ไม่ต้องให้คนอื่นมาขุดหลุมดักค่ะ

หวังว่าคงได้ไอเดียนะคะ

  คนที่เดินตกท่อ ในนิยามของพี่ krisy  มีให้เห็นดาษดื่นมากมาย
แต่ว่าจะรู้ตัวสักกี่คนน้า   เพราะแค่ สะพายกระเป๋าหนังสือไว้ที่หลังแล้วเดิน
นี่มันก็หนักหนาอยู่     พอเดินตกท่อไปนี่    อื้มมม.....สบายจังง  

  ตอนนี้ผมกำลังปีนออกจากท่อ......(เมื่อพบว่าไม่ชอบสิ่งที่จบมา)
  ที่ผมเคยเดินตกจากความถือดีของตัวเองสมัยเรียนวิศวะ ซึ่งตอนนั้นเรียน Calculus 4 ตัว  ได้ B มาแล้ว 2 ตัว  เกิดทิฏฐิมานะบอกกับตัวเองว่า ถ้าสอบCal ตัวที่ 3-4 ออกมาเห็น B แม้แต่ตัวเดียว   จะลาออกจากวิศวะทันที  ทั้งๆที่อยู่ปี 2 เทอมปลายแล้ว  แล้วจะไปสอบเข้าเศรษฐศาสตร์  (ชอบเงินๆทองๆมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว)    
   แต่ผลปรากฎว่า ผมได้ A รวดทั้ง 2 ตัว  ก็ทำให้คิดเข้าข้างตัวเองว่า ตัวเอง
เหมาะกับวิศวะ  เลยไม่ได้เปลี่ยนคณะ จนมาถึงปี 4 ต้องทำโปรเจคส่งอาจารย์  ทำด้วยความทรมานใจมาก เกือบจะจบไม่ทันหลักสูตร    

แล้ว MBA ที่ไหนสาวสวยเยอะสุดครับ ?  :lol:

ผมเรียน MBA ภาษาไทยที่รั้วชมพูดครับ...
มีประโยชน์มากๆ ..

ส่วนตัวที่ผมไม่เรียนภาษาอังกฤษ เพราะคิดว่าผมอยากได้เนื้อหาของ MBA แบบเต็มๆ .. ปกติเวลาเราเรียนอ.ถ่ายทอดมา 100 เราอาจจะรับได้ซัก 80 แต่ถ้าผมต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษ อ. ให้มา 100 ผมอาจจะรับได้ 50 เท่านั้น เลยคิดว่าถ้าจะเรียนเอาความรู้ MBA ก็ต้องเรียนภาษาไทย ส่วนถ้าอยากได้ภาษา ก็ไปเรียนภาษาต่างหากเองดีกว่า

ก็เลยกลายเป็นว่า ผมไปเรียนภาษาที่เมืองนอกอยู่พักนึง แล้วก็กลับมาเรียน MBA ภาษาไทยต่อ... เก็บความรู้ได้เต็มๆทั้งคู่

แล้ว MBA ที่ไหนสาวสวยเยอะสุดครับ ?

ไม่รู้เป็นอย่างไร
ปริญญาโทแทบทุกที่ อย่าง เอ็มบีเอ เนี่ย
มีแต่สาวๆทั้งน้านเลย
หรือว่าโลกนี้มีแต่ผู้หญิง :lol:

[quote="Hughes"]แล้ว MBA ที่ไหนสาวสวยเยอะสุดครับ ?

อุ๊ย ลืมบอกไปอย่างนึง

พอดีเราไม่ได้จบ MBA ทั้งไทยทั้งอินเตอร์ เรียนใบเดียวพอแล้ว
เลยให้มุมมองจากสิ่งที่ตัวเองเจอ และจากการบ้านของเพื่อนที่อื่นที่โทรคุยกันค่ะ ไม่ได้มอง MBA ภาคไทยจากประสบการณ์ตรงนะคะ

จริงๆจะว่าไป krisy ก็ไม่ชอบบัญชีเลย แต่โดนเบรกจากสิ่งแวดล้อมตอนจะเปลี่ยน แต่ว่า บางครั้งสิ่งที่เราชอบ เราก็ไม่ได้ทำได้ดีเสมอไป มันเป็นแค่แนวโน้มว่าเราน่าจะทำได้ดี

ทุกวันนี้ถึงเดินตกท่อไปเองเมื่อหลายปีก่อนหน้านั้น แต่เราก็ปีนขึ้นมาได้อย่างเต็มภาคภูมิหลายปีแล้วค่ะ

krisy เขียน:อุ๊ย ลืมบอกไปอย่างนึง

พอดีเราไม่ได้จบ MBA ทั้งไทยทั้งอินเตอร์ เรียนใบเดียวพอแล้ว
เลยให้มุมมองจากสิ่งที่ตัวเองเจอ และจากการบ้านของเพื่อนที่อื่นที่โทรคุยกันค่ะ ไม่ได้มอง MBA ภาคไทยจากประสบการณ์ตรงนะคะ

จริงๆจะว่าไป krisy ก็ไม่ชอบบัญชีเลย แต่โดนเบรกจากสิ่งแวดล้อมตอนจะเปลี่ยน แต่ว่า บางครั้งสิ่งที่เราชอบ เราก็ไม่ได้ทำได้ดีเสมอไป มันเป็นแค่แนวโน้มว่าเราน่าจะทำได้ดี
ทุกวันนี้ถึงเดินตกท่อไปเองเมื่อหลายปีก่อนหน้านั้น แต่เราก็ปีนขึ้นมาได้อย่างเต็มภาคภูมิหลายปีแล้วค่ะ

       :o  ขอบคุณที่ให้ข้อคิดเตือนสติน้องใหม่ คนนี้นะครับ เข้าใจว่าพีทำงานมาหลายปีแล้ว วันนึงผมต้องปีนขึ้นมาได้  อิทธิบาท 4 ยังเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานให้ดี  ขาดไปอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ครับ

ขอบคุณ พี่ กูรู กะคุณ krisy  มากๆครับ

ตอบเจ้าของกระทู้ครับ ผมว่าโปรแกรมMBAสามารถนำมาใช้กับการลงทุนได้เกือบทุกวิชา เห็นด้วยกับทุกท่านว่ามันเป็นการสอนที่เน้นด้านกว้างของโลกธุรกิจ

ชอบที่คุณฉัตรชัยบอกนะครับเพราะผมคิดเหมือนกัน ถ้าไม่ได้เรียน ชีวิตผมคงไม่ได้เป็นเช่นทุกวันนี้

อ่าว น้องYOYO เป็นศิษย์สำนักเดียวกัน แต่พี่คงเป็นรุ่นพี่หลายปีมากครับ