Thai VI

ขอเรียนถามผู้รู้เกี่ยวกับการเครดิตภาษีปันผลดังต่อไปนี้ค่ะ
1 ในใบรายละเอียดที่ส่งมาให้เกี่ยวกับปันผล ที่ด้านล่างเป็นเช็คน่ะค่ะ ระบุว่าเป็นปันผลสำหรับงวด 1 มค2546-30 กันยายน2546 แก่ผู้ที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 8 มค 47
แบบนี้ถือเป็นปันผลของปี 46 หรือเปล่าคะ
2 ถ้าเป็นปันผลของปี 46 จริง เราต้องยื่นภายใน 31 มีค 47 นี้เลยใช่ไหมคะ แล้วถ้ายื่นไม่ทันละคะ เขามีการยืดเวลาให้ไหมเช่นไป ยื่นเมษา 47 ก็ได้ อย่างนี้เป็นต้นถ้ายืดได้ต้องเสียค่าปรับอะไรไหมคะ
3 ตรงรายละเอียดใบที่ส่งมามีแบ่งเป็น 1.1 ) อัตราร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิ
1.2) ร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิ 1.3) ร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิ 1.4) อัตราอื่นๆ
ของดิฉันเงินปันผลตรงกับช่องที่ 2 ค่ะ คือ อัตราร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิค่ะ
4 ดิฉันและสามีไม่ได้มีรายได้ทางอื่นนอกจากการลงทุนในหุ้นอย่างเดียวค่ะ แต่เปิด port เล่นหุ้นเป็นชื่อสามีคนเดียวค่ะ ดิฉันไม่ได้เปิดพอร์ตด้วยค่ะ แต่ไม่เคยยื่นเครดิตภาษีปันผลเลยค่ะ ปีที่แล้วได้ปันผลมา 50000 บาท ยังไม่ได้หัก 10 % ค่ะหักแล้วเป็นเงินที่ได้รับจริงๆคือ 45000 บาทค่ะ แบบนี้จะคำนวณยังไงคะ รบกวนท่านผุ้รู้ช่วยคำนวณให้หน่อยค่ะว่าดิฉันจะได้คืนเท่าไหร่คะ
5 แบบนี้ดิฉันจะต้องคำนวณฐานภาษีรายได้อย่างไรคะ เพราะเวลาขายหุ้นทำกำไรดิฉันก็ได้เสียภาษีถูกต้องไปแล้ว คือ เสีย 0.21 % ค่าcom ของbroker และ เสียอีก 7% เป็นภาษีค่ะ รายได้ทุกวันนี้มาจากหุ้นอย่างเดียวเลยค่ะ เพราะมีบ้านเป็นของตนเองไม่ต้องเช่าและมีลูกเพียงคนเดียว พึ่งจะเรียนอนุบาลค่ะ โดยส่วนตัวแล้วทั้งดิฉันและสามีเป็นคนไม่เที่ยว ไม่ค่อยสังคม ใช้จ่ายประหยัด จึงมีค่าใช้จ่ายไม่มากค่ะ
รบกวนผู้รู้ช่วยตอบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ เพราะที่ผ่านๆมาไม่เคยไปทำเรื่องขอคืนเลยค่ะ เพราะไม่ทราบว่าต้องทำยังไงบ้าง ขอบคุณค่ะ

1. ให้ดู วัน เดือน ปี ที่จ่ายและออกหนังสือรับรอง ฉบับนั้น.......ไม่ต้องไปสนใจว่าจะจ่ายสำหรับผลประกอบการปีไหน.........ถือเอาวันที่ในเช็ค หรือ วันออกหนังสือรับรองเป็นหลัก ว่า เป็นเงินได้ใน วันไหน ปีไหน...........ฉะนั้น ในรายการดังกล่าว จึงเป็นของ รายได้ ปี 47 ครับ

2. เมื่อ รายการ ฉบับแรกที่กล่าว เป็นของ เงิน ปี 47 ก็เป็นเอาไว้ สำหรับใช้ยื่นในปี หน้า

3. งวดนี้เขาเคลมภาษี เป็น อัตราดังนี้
ถ้าบริษัทฯ เสียภาษี ร้อยละ 30 จะ เคลมภาษี ได้ 3 ใน 7 ส่วน
ถ้า " " 25 " ได้ 1 ใน 3 ส่วน
ถ้า " " 20 " ได้ 1 ใน 4 ส่วน
ถ้า " " 10 " ได้ 1 ใน 9 ส่วน

4. ใครคำนวณ เก่ง ช่วยคำนวณให้ด้วยซิครับ

5. รายได้จากส่วนกำไรในการซื้อขายหุ้น ไม่ต้องเอามาคำนวณ ใด ๆ การซื้อขายหุ้นในตลาด มีทั้งกำไร และ ขาดทุน ไม่มีใคร มา เก็บภาษีในด้านนี้....ทุกรายการที่ซื้อหรือขาย เราก็เสีย vat ไปแล้ว 7% (ภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ที่ผ่านมาไม่เคยเสียภาษี ผมว่า เหลือวันทำการอีก 3 วันเอง วันที่ 29-31 มีนาคม........ต้องรีบหน่อย เพราะ ต้องไป ขอ บัตรเสียประจำตัวผู้เสียภาษีก่อน (อันนี้ของ่าย มาก คงใช้ ทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนก็ ขอได้แล้ว ที่เขต ที่เราอยู่) เมื่อได้หมายเลขเสียภาษี ก็ ไป แผนก ทำเรื่อง ภงด 90 ให้เขาช่วยก็ได้ เอา เอกสาร หนังสือรับรองภาษี ไปให้เขา ช่วยคำนวณให้ก็ได้ เอาสูติบัตรลูกไปขอ ลด หย่อน และ เบี้ยประกัน (20ปี) ไปขอ ลดหย่อนได้ด้วย

ขอเสริมลุงขวดข้อ 4 ครับ...

กรณีนี้คุณและสามีมีเงินได้ทางเดียวคือได้รับปันผล 50,000 บาท
จะได้รับเครดิตภาษี (50,000*(25/75))=16,666.67 บาท

ดังนั้นเงินได้คือ 50,000+16,666.67 = 66,666.67 บาท
กรณีนี้จะไม่สามารถหักค่าใช้จ่ายไ้ด้เพราะเป็นเงินได้จากปันผลมาตรา 40 (4)

ค่าลดหย่อน...
สามี-ภรรยา = 60,000 บาท
บุตรที่กำลังศึกษา = 17,000 บาท
รวมค่าลดหย่อน =77,000 บาท

ดังนั้นเงินได้พึงประเมิน =เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อน
= 66,666.67-77,000
= 0

ดังนั้นคุณไม่ต้องจ่ายภาษีครับ
แต่คุณได้จ่ายภาษีไปแล้ว = ภาษีปันผลหัก ณ ที่จ่าย+เครดิตเงินปันผล
= 5,000+16,666.67
= 21,666.67

ดังนั้นสามารถขอคืนภาษีได้เท่ากับ 21,666.67 บาทครับ
แต่ต้องรีบหน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับ

ถ้าคุณ stockone ไม่มีเวลาไปยื่น
ผมแนะนำให้ยื่นทาง internet ครับ
ต้องยกนิ้วในกรรมสรรพากรในความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
หากขอคือภาษีไม่เยอะได้เงินเร็วมากครับ ขอชมเชย

ตอนนี้ผมได้ส่วนที่ขอคืนจากเงินปันผมแล้วครับ
เพิ่งวันศุกร์ที่ผ่านมาเองครับหลังจากตั้งตารอมา
ผมขอคืนตั้งแต่กลางเดือนมกราคม เพิ่งได้คืน
สิ่งที่แปลกก็คือเช็คนั้นลงวันที่ 27 มกราคมครับ
ไม่ทราบว่าไปช้าที่ตรงไหนเหมือนกัน
แต่ก็ยังดีครับ ได้มากแล้ว มีเงินลงทุนเพื่ออีกแล้วครับ

_ลูกอีสาน เขียน:ดังนั้นเงินได้พึงประเมิน =เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อน
= 66,666.67-77,000
= 0

ดังนั้นคุณไม่ต้องจ่ายภาษีครับ
แต่คุณได้จ่ายภาษีไปแล้ว = ภาษีปันผลหัก ณ ที่จ่าย+เครดิตเงินปันผล
= 5,000+16,666.67
= 21,666.67

ดังนั้นสามารถขอคืนภาษีได้เท่ากับ 21,666.67 บาทครับ
แต่ต้องรีบหน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับ

ผมคำนวณต่างจากคุณลูกอีสานนิดนึงนะครับ
เนื่องจากเงินปันผลไม่ได้เป็นเงินได้ตามมาตรา 40(1) และมีจำนวนมากกว่า 60,000บาท จึงต้องนำมาคำนวณตามวิธีที่2(นำเงินได้คูณด้วย0.5%) แล้วเปรียบเทียบกับวิธีที่1(อัตราก้าวหน้า) ดังนี้

วิธีที่1=0บาท
วิธีที่2=66,666.67*0.5%=333.33บาท

ภาษีเงินได้ที่ต้องชำระ=จำนวนที่มากกว่าระหว่างวิธีที่1 กับวิธีที่2=333.33
หัก ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายและเครดิตภาษี=21,666.67
ภาษีที่ได้คืน=333.33-21,666.67=21,333.34


หมายเหตุ อ้างอิงจากแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ภ.ง.ด.90 หน้าที่4
ข้อ10เรื่องการคำนวณภาษี ข้อ7.ย่อย

21666 บาท เราได้เป็นเงินคืนจริงๆหรือครับ แล้วผมไม่ได้ทำงานเป็นลูกจ้าง
บริษัท คือผมเปิดร้านเกมที่บ้านยังไ่ม่เคยเสียภาษีอะไรเลยจ่ายแต่ส่วยเดือนละ 1000 บาท ปันผลก็ประมาณ 50000 บาทขึ้นไป เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
ยังไม่มีเลยครับ แล้วยังนี้ผมสามาขอคืนภาษีได้หรือเปล่าครับ ตอนแรกนึกว่าขอคืนได้ไม่เท่าไหร่เลยไม่ได้สนใจ ช่วยตอบหน่อยนะครับ

อย่างที่ลุงขวดบอกไว้ครับ ดูวันที่เช็คสั่งจ่าย ถ้าจ่ายปี 47 ก็เป็นเงินได้
ของเราปี 47 ก็ไปใช้ในการยื่นขอคืนภาษีภายใน 31 มี.ค. 48

โดยใช้ทาง internet ก็ได้ แต่ผมยังใช้วิธีไปยื่นที่สรรพากรเขตอยู่
ปีนี้ผมไปยื่น 12 ม.ค. 47 ได้เช็คเมื่อ 2 มี.ค. 47
เช็คลงวันที่ 27 ก.พ. 47

ส่วนการคำนวณดูของคุณ Kao ครับ

ส่วนคุณ bigshow ก็ขอคืนได้เช่นกันครับ มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ
เงินปันผลที่ได้ และ หุ้นที่คุณได้เงินปันผลมามีการจ่ายภาษีรายได้กิจการ
ไปเท่าใด ดูจากงบการเงินก็ได้ตัวเลขคร่าวๆ ครับ ที่ www.sec.or.th
แต่ที่แน่นอนก็ดูในเอกสารที่ติดมากับเช็คปันผลนั้นแหละครับแล้ว
ก็คำนวณแบบ คุณ Kao

bigshow เขียน:21666 บาท เราได้เป็นเงินคืนจริงๆหรือครับ แล้วผมไม่ได้ทำงานเป็นลูกจ้าง
บริษัท คือผมเปิดร้านเกมที่บ้านยังไ่ม่เคยเสียภาษีอะไรเลยจ่ายแต่ส่วยเดือนละ 1000 บาท ปันผลก็ประมาณ 50000 บาทขึ้นไป เลขประจำตัวผู้เสียภาษี
ยังไม่มีเลยครับ แล้วยังนี้ผมสามาขอคืนภาษีได้หรือเปล่าครับ ตอนแรกนึกว่าขอคืนได้ไม่เท่าไหร่เลยไม่ได้สนใจ ช่วยตอบหน่อยนะครับ

ได้คืนจริงๆครับ
แต่ต้องเก็บหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้เป็นหลักฐานกรณียื่นผ่านInternet

ถ้ายังไม่มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี สามารถใช้เลขที่บัตรประชาชนก็ได้

ต้องรีบหน่อยนะครับ เพราะวันพุธนี้เป็นวันสุดท้ายแล้ว

ขอฝากไว้ให้คิดครับ คนที่จะตัดสินใจ ทำเครดิตภาษี
ควรจะต้องตรวจตัวเองก่อนเสมอว่า ภูมิหลังการจ่ายภาษีของเราสะอาดหรือไม่

คนที่ควรทำเครดิตภาษีแล้วไม่มีปัญหาภายหลัง คือกลุ่มคนที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง เช่น รับเงินเดือนบริษัท แล้วบริษัทดูแลหักจ่ายให้ทุกเดือน หรือยื่นเสียด้วยตัวเองอย่างถูกต้องทุกปี เมื่อมีโอกาสที่จะเครดิตภาษี คุณก็ควรจะทำเพราะเป็นสิทธิที่คุณควรจะได้ (หลังจากทำหน้าที่พลเมืองดีทางภาษี)
เมื่อคุณขอเครติดภาษี ในจำนวนเงินที่มากเป็นหมื่น ปกติแล้วรัฐก็จะขอเพียงหลักฐานเอกสารการจ่ายเงินปันผล ก็เพียงพอ

แต่ถ้าคุณไม่เคยเสียภาษีเลยตั้งแต่เริ่มทำงานมีรายได้ มาหลายปี (ซึ่งจริง ๆ แล้วมีรายได้เพียงพอที่จะต้องเสียภาษี)
วันดี คืนดี คุณจะขอเครดิตภาษีคืนจากรัฐ 8)
ถ้าตัวเลขของคุณน่าสนใจพอ รัฐก็จะเริ่มตั้งคำถามไว้ในใจ ว่าคุณมีรายได้มาจากไหน เอาเงินมาจากไหนมาเป็นเจ้าของหุ้น มีรายได้ที่ควรจะต้องแจกแจง แต่ไม่ได้ทำในอดีต(และปัจจุบัน) หรือไม่

ถ้าคุณเกี่ยวข้องกับการหลบเลี่ยงภาษี แล้วยังมาขอเครดิตภาษีอีก คุณอาจจะกลายเป็น
1. พลเมืองที่เอาเปรียบผู้อื่น และขี้โกงรัฐ
2. บุคคลที่ต้องสงสัยว่าแจกแจงรายได้ไม่ครบ
คงต้องระวังนะครับ

ขอบคุณคุณ Kao ที่ท้วงติงครับ
ผมลืมคิดตามแบบที่สองครับ คงเป็นเพราะไม่เคยได้ใช้วิธีนี้

การคิดภาษีเงินได้แบบ 90 มี 2 วิธีนะครับ
เราจะต้องจ่ายตามวิธีที่เสียมากกว่า

วิธีแรก เสียคิดภาษีตามปกติ อัตราก้าวหน้า คือ 5 % 10% 20%.....

วิธีที่สอง หากเงินได้เกิน 60,000 บาท ให้นำเงินได้ก่อนหักค่าใช้่จ่าย คูณด้วย 0.5% จะได้ภาษีที่ต้องเสียตามวิธีที่สองครับ

กรณีนี้วิธีแรก เราไม่ต้องเสียภาษี แต่วิธีที่สอง ต้องเสียตามอัตราที่คุณ Kao ว่ามาครับ

เรื่องภาษีนะครับ
เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด50000บาท!!
ขอแนะนำพี่ๆที่ยังไม่มีประกันชีวิตเพื่อนำมาลดหย่อนภาษี
ติดต่อผมได้นะครับ
ยินดีลดให้พี่ๆ20%ของราคาเบี้ยประกันปกติครับ
ขอบคุณมากครับ

ผมก็คิดเหมือนพี่เสือเพราะไม่เคยเสียเลย กลัวว่าขอเครดิตแล้วสรรพากรมาตรวจที่บ้านจัง แต่พ่อไม่ได้ทำงานแล้ว(มีบ้านให้เช่า) ชื่อพ่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่ให้เช่า อย่างนี้ผมโอนพอร์ตไปให้พ่อผม ให้พ่อไปขอเครดิตภาษีแทน
ทำอย่างนี้จะมีปัญหาหรือเปล่าครับ

ผมอยากแนะนำว่าในกรณีของคุณ อย่าเคลมดีกว่าครับ เพื่อความปลอดภัย