GDP ไตรมาสแรก -7.1%
โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ค. 26, 2009 8:30 am
เป็นไปตามคาดหรือเปล่าครับ หรือว่าน้อยกว่าคาด
ความจริงวันนี้ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 1/2552 เมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ตัวเลขที่ออกมาเป็นไปตามที่หลายๆ ฝ่ายคาดการณ์
แม้ว่าจะติดลบ 7.1% แต่ก็ไม่เซอร์ไพรส์เท่าใด ราวกับว่าทุกคนรับข่าวไปแล้ว
สภาพัฒน์บอกว่า เศรษฐกิจโลกหดตัวรุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ กระทบต่อส่งออก และการท่องเที่ยวไทยหดตัวอย่างแรง การหดตัวอย่างรุนแรงทางเศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้ ทำให้การบริโภคของครัวเรือนติดลบ 2.6% ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ขณะที่การลงทุนเอกชนหดตัว 17.7%
คำถาม? เศรษฐกิจถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยังต่างหากที่ทุกคนอยากรู้ และต้องการหาคนมาไขปริศนา
กรณีที่ถ้าต่ำสุดแล้ว คำถามที่คนอยากรู้ต่อไป คือ แล้วเศรษฐกิจจะฟื้นเมื่อใด และจะฟื้นในลักษณะไหน ซึ่งผลที่ออกมาก็จะมีความแตกต่างกันไป ถ้าฟื้นเป็นรูปตัว V ก็เร็วหน่อย แน่นอนว่า ทุกคนอยากให้เป็นแบบนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ขอให้ฟื้นในรูปตัว U ก็ได้ ถึงจะช้าหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวเป็นตัว L ลากยาวไปเรื่อยๆ จนหาจุดผงกหัวไม่เจอ
คำถามมากมายเหล่านี้ ไม่มีใครตอบได้จริง ทำได้เพียงการคาดคะเนกันต่างๆ กันไป อาทิเช่น ความเห็นของคลังบอกว่า ต่ำสุดแล้วในไตรมาส 1 และจะผงกหัวในไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส 3 และกลับมาเป็นบวกไตรมาส 4 ก่อนจะฟื้นเต็มที่ในไตรมาสแรกปี 2553 เพราะเชื่อว่ามาตรการต่างๆ ของภาครัฐ โดยเฉพาะการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในก๊อกที่ 2 มูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท ที่กำลังจะออกมา จะเป็นหัวเชื้อชั้นดี ที่จะไปช่วยกระตุ้นภาคเอกชนให้มีการลงทุน หากทุกอย่างเป็นไปตามคาด เชื่อว่าไตรมาสแรกปีหน้า ก็จะเห็นสัญญาณชัดขึ้น
ความเห็นของภาคเอกชน ส่วนใหญ่ก็มองจีดีพีของประเทศในไตรมาสแรกจะติดลบระหว่าง 5-8% ลดหลั่นกันไป ธนาคารไทยพาณิชย์ มองว่าไตรมาส 2 ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะปัจจัยด้านการส่งออกและท่องเที่ยว ที่เป็นพลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยังหวังพึ่งไม่ได้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะยั่งยืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยเศรษฐกิจสหรัฐ และเศรษฐกิจโลกด้วย ขณะที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เชื่อว่าจีดีพีจะค่อยๆ ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป
สภาพัฒน์ยังเชื่อด้วยว่า เศรษฐกิจไตรมาส 2 จะปรับตัวดีขึ้นมาจาก 3 ปัจจัยสำคัญ คือ การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจโลกต้องไม่ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทย และสุดท้าย ราคาน้ำมันในตลาดโลกต้องไม่เกิน 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดูเหมือนว่าสิ่งที่สภาพัฒน์บอกนั้นจะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ยังมีความสุ่มเสี่ยงสูงว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ พูดกันตรงๆ คือ พูดได้แต่ปฏิบัติยาก ไม่ต่างอะไรกับความฝัน ที่บอกให้ผู้รับสารมีความหวัง
เพราะการเมืองในขณะนี้ที่ดูเหมือนคลื่นลมจะสงบแล้ว แต่ในความจริงคลื่นใต้น้ำยังมีความเคลื่อนไหว เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ ที่ยังไม่รู้ว่าจะระเบิดเมื่อใดและจะรุนแรงแค่ไหน
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจของสหรัฐและเศรษฐกิจโลกนั้น ในวันนี้ยังมีความผันผวนอยู่ ยังเป็นคำถามถึงการฟื้นตัวหรือไม่อย่างไร และสุดท้าย ในเรื่องของราคาน้ำมันนั้นก็เป็นปัจจัยที่เราจะไปกำหนดกะเกณฑ์อะไรไม่ได้
ความจริงวันนี้ที่ทางการบอก คือ เศรษฐกิจต่ำสุดแล้ว และจะทยอยฟื้นตัว แต่จากการตีความจากสารที่ออกมานั้น ในความเห็นส่วนตัว ผมเชื่อว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ยังเป็นความฝันที่ยังจับต้องไม่ได้ และผมจะเลือกปฏิบัติตัวโดยอยู่กับความเป็นจริง จนกว่าจะแน่ใจ ส่วนท่านก็เลือกกันเอาเอง ควรจะทำตัวอย่างไร ระหว่างอยู่ในโลกของความเป็นจริง หรือจะหลงระเริงในมายาภาพแห่งความฝันต่อไป
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์