เวลาแห่งความสุข / วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ค. 22, 2009 7:43 am
Value Way ฉบับวันที่ 25 พฤษภาคม 2552
ช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยรวมทั้งทั่วโลกต่างคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะนักลงทุนมองเห็นข่าวดีของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอเมริกาและประเทศอื่นๆทั่วโลก จึงขนเงินสดที่เก็บไว้ในที่ปลอดภัยอย่างพันธบัตรรัฐบาลเข้ามาในตลาดหุ้นกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาหุ้นทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นจากสภาพคล่องที่มีเหลืออยู่ในระบบ ในช่วงนี้ทุกคนต่างได้กำไรกันอย่างถ้วนหน้า เรามาดูว่าในรอบนี้มีใครได้ประโยชน์จากตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้นบ้าง
นักเก็งกำไร
หลังจากที่ต้องทนกับสภาพยอดซื้อขายเพียงไม่กี่พันล้านบาทต่อวันในตลาดหุ้นไทยมาตั้งแต่ต้นปี นักเก็งกำไรช่วงนี้เหมือนกระดี่ได้น้ำเพราะยอดการซื้อขายที่เกินสองหมื่ล้านบาทต่อวันขึ้นไป ถือว่ามากพอที่จะผลักดันให้ราคาหุ้นสูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง การเก็งกำไรทำได้ง่ายขึ้นมาก ซื้อตัวไหนก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด สัญญานทางเทคนิคบอกว่าซื้อมากเกินไป แต่ดัชนียังเดินหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ นักเทคนิคคงต้องเอาตำรากราฟมากางดูใหม่อีกที นอกเหนือจากนั้นเซียนบางคนบอกว่ารอบนี้ไปได้ไม่ไกล แต่นักเทคนิคบางคนกลับบอกว่ารอบนี้กระทิงของจริง
นักลงทุน
รวมถึงนักลงทุนระยะยาวจำเป็นที่ซื้อหุ้นเพื่อหวังเก็งกำไรแต่ราคาหุ้นกลับลดลงทุกวันจนตัดใจขายไม่ได้ รอบนี้ถึงเวลาที่ราคาหุ้นจะกลับมายืนในราคาเดิมหรือใกล้เคียงเดิม นักลงทุนระยะยาวที่ทนเห็นราคาหุ้นลดลงไปในช่วงปลายปีที่แล้วโดยไม่ขายออกไป ส่วนใหญ่จะได้เงินกลับมา บางท่านอาจจะแถมกำไรกลับมาด้วยถ้ากล้าช้อนซื้อตอนหุ้นตกหนักๆ นี่เป็นการพิสูจน์ว่าการลงทุนระยะยาวนั้นมี”ความเสี่ยง”ต่ำกว่าการลงทุนระยะสั้น
กองทุนและผู้ถือหน่วยลงทุน
หลังจากที่ใจลงไปถึงตาตุ่มหลังเห็นผลการดำเนินงานเมื่อปีที่แล้วของกองทุนที่อุตสาห์ซื้อไว้ไม่ว่าจะเป็น LTF หรือ RMF แม้แต่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งหลายต่างขาดทุนกันถ้วนหน้า บางท่านถึงกับต้องคืนกำไรที่ได้ในช่วงที่ผ่านมาไปจนหมด เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะไถ่ถอนได้ตามกำหนด สมาชิกกองทุนบำเน็จบำนาจราชการ (กบข) ที่เงินหายไป 5% นำเรื่องไปร้องเรียนจนต้องตั้งกรรมการไต่สวนกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต อยากบอกเหมือนกันว่ากองทุนอื่นๆขาดทุนมากกว่านี้หลายเท่านัก ถ้าอดทนหน่อย ผ่านไปไม่ถึงครึ่งปี กำไรที่หายไปก็ได้กลับมาแล้วในช่วงนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนถ้าเปิดเห็นสลิปรายงายผลประกอบการของกองทุนช่วงนี้คงใจชื้นขึ้นบ้าง
บริษัทโบรกเกอร์
ถ้ายอดการซื้อขายยังคงเบาบางเหมือนตอนต้นปีเป็นเวลาต่อไปนานๆ บริษัทหลักทรัพย์คงต้องมีปิดกิจการกันบ้าง โชคยังดีที่ตลาดุห้นกลับฟื้นตัวมาได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิด เพียงระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนับจากจุดต่ำสุดเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยกลับมีสภาพเหมือนกระทิงเข้าสิงมานานกว่าเดือน มาร์เกตติ้งจากที่ต้องนั่งตบยุงตามห้องค้า ช่วงนี้กลับรับโทรศัพท์แทบไม่ทัน ต่างจากตลาดหุ้นไทยในช่วงวิกฤตปี 2540 ที่หลังจากลอยตัวค่าเงินบาท ตลาดหุ้นไทยมีสภาพซบเซาไปอีกหลายปีเลยทีเดียว
จะเห็นว่าในช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต่างมี”ความสุข”กันอย่างถ้วนหน้าจากดัชนีตลาดหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น ในตลาดหุ้นเมื่อไหร่ที่ทุกคนต่างได้กำไรนั่นเป็นช่วงเวลาที่น่าเป็นห่วง เพราะทุกคนจะมองโลกในแง่ดี และไม่ได้คิดว่าสักวันงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา สภาพเช่นนี้จะดำรงอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน ตลาดหุ้นจะขึ้นต่อเนื่องหรือจะลงตามคำทำนาย เวลาเท่านั้นที่จะเครื่องพิสูจน์
ช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยรวมทั้งทั่วโลกต่างคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะนักลงทุนมองเห็นข่าวดีของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของอเมริกาและประเทศอื่นๆทั่วโลก จึงขนเงินสดที่เก็บไว้ในที่ปลอดภัยอย่างพันธบัตรรัฐบาลเข้ามาในตลาดหุ้นกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาหุ้นทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นจากสภาพคล่องที่มีเหลืออยู่ในระบบ ในช่วงนี้ทุกคนต่างได้กำไรกันอย่างถ้วนหน้า เรามาดูว่าในรอบนี้มีใครได้ประโยชน์จากตลาดหุ้นที่เพิ่มขึ้นบ้าง
นักเก็งกำไร
หลังจากที่ต้องทนกับสภาพยอดซื้อขายเพียงไม่กี่พันล้านบาทต่อวันในตลาดหุ้นไทยมาตั้งแต่ต้นปี นักเก็งกำไรช่วงนี้เหมือนกระดี่ได้น้ำเพราะยอดการซื้อขายที่เกินสองหมื่ล้านบาทต่อวันขึ้นไป ถือว่ามากพอที่จะผลักดันให้ราคาหุ้นสูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง การเก็งกำไรทำได้ง่ายขึ้นมาก ซื้อตัวไหนก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด สัญญานทางเทคนิคบอกว่าซื้อมากเกินไป แต่ดัชนียังเดินหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ นักเทคนิคคงต้องเอาตำรากราฟมากางดูใหม่อีกที นอกเหนือจากนั้นเซียนบางคนบอกว่ารอบนี้ไปได้ไม่ไกล แต่นักเทคนิคบางคนกลับบอกว่ารอบนี้กระทิงของจริง
นักลงทุน
รวมถึงนักลงทุนระยะยาวจำเป็นที่ซื้อหุ้นเพื่อหวังเก็งกำไรแต่ราคาหุ้นกลับลดลงทุกวันจนตัดใจขายไม่ได้ รอบนี้ถึงเวลาที่ราคาหุ้นจะกลับมายืนในราคาเดิมหรือใกล้เคียงเดิม นักลงทุนระยะยาวที่ทนเห็นราคาหุ้นลดลงไปในช่วงปลายปีที่แล้วโดยไม่ขายออกไป ส่วนใหญ่จะได้เงินกลับมา บางท่านอาจจะแถมกำไรกลับมาด้วยถ้ากล้าช้อนซื้อตอนหุ้นตกหนักๆ นี่เป็นการพิสูจน์ว่าการลงทุนระยะยาวนั้นมี”ความเสี่ยง”ต่ำกว่าการลงทุนระยะสั้น
กองทุนและผู้ถือหน่วยลงทุน
หลังจากที่ใจลงไปถึงตาตุ่มหลังเห็นผลการดำเนินงานเมื่อปีที่แล้วของกองทุนที่อุตสาห์ซื้อไว้ไม่ว่าจะเป็น LTF หรือ RMF แม้แต่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งหลายต่างขาดทุนกันถ้วนหน้า บางท่านถึงกับต้องคืนกำไรที่ได้ในช่วงที่ผ่านมาไปจนหมด เพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะไถ่ถอนได้ตามกำหนด สมาชิกกองทุนบำเน็จบำนาจราชการ (กบข) ที่เงินหายไป 5% นำเรื่องไปร้องเรียนจนต้องตั้งกรรมการไต่สวนกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต อยากบอกเหมือนกันว่ากองทุนอื่นๆขาดทุนมากกว่านี้หลายเท่านัก ถ้าอดทนหน่อย ผ่านไปไม่ถึงครึ่งปี กำไรที่หายไปก็ได้กลับมาแล้วในช่วงนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนถ้าเปิดเห็นสลิปรายงายผลประกอบการของกองทุนช่วงนี้คงใจชื้นขึ้นบ้าง
บริษัทโบรกเกอร์
ถ้ายอดการซื้อขายยังคงเบาบางเหมือนตอนต้นปีเป็นเวลาต่อไปนานๆ บริษัทหลักทรัพย์คงต้องมีปิดกิจการกันบ้าง โชคยังดีที่ตลาดุห้นกลับฟื้นตัวมาได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิด เพียงระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนับจากจุดต่ำสุดเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยกลับมีสภาพเหมือนกระทิงเข้าสิงมานานกว่าเดือน มาร์เกตติ้งจากที่ต้องนั่งตบยุงตามห้องค้า ช่วงนี้กลับรับโทรศัพท์แทบไม่ทัน ต่างจากตลาดหุ้นไทยในช่วงวิกฤตปี 2540 ที่หลังจากลอยตัวค่าเงินบาท ตลาดหุ้นไทยมีสภาพซบเซาไปอีกหลายปีเลยทีเดียว
จะเห็นว่าในช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต่างมี”ความสุข”กันอย่างถ้วนหน้าจากดัชนีตลาดหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น ในตลาดหุ้นเมื่อไหร่ที่ทุกคนต่างได้กำไรนั่นเป็นช่วงเวลาที่น่าเป็นห่วง เพราะทุกคนจะมองโลกในแง่ดี และไม่ได้คิดว่าสักวันงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา สภาพเช่นนี้จะดำรงอยู่ต่อไปได้นานแค่ไหน ตลาดหุ้นจะขึ้นต่อเนื่องหรือจะลงตามคำทำนาย เวลาเท่านั้นที่จะเครื่องพิสูจน์
