Thai VI

ผมมือใหม่นะครับ อายุย่าง 19 แล้ว อ่านหนังสือการลงทุนมาครึ่งปีแล้วล่ะ
ร่วมๆ 60-70 เล่ม ซึ่งหลังๆผมอ่านเรื่อง vi อย่างเดียวเลย ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
เลิกเล่นเกมมาอ่านหนังสืออย่างเดียว 55+ แถมเปลี่ยนจากเรียนจะวิศวะ
มาเป็นการเงินอีกต่างหาก (กำลังจะเข้าปี 1 ครับ)
แต่ผมยังขาดประสบการณ์การลงทุนจริง เพราะว่าแม่ผมพึ่งจะให้เงินลงทุนมา
และประสบการณ์จากผู้ที่ประสบความสำเร็จจะสอนเราได้ดีอย่างนึง พบว่า
บอร์ดนี้สุดยอดมากเลยครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย ผมมีคำถามครับ

1.หุ้นที่จัดว่าเป็นก้นบุหรี่ เราดูจากอะไรบ้างครับ PBV PE และอะไรอีก

2.หุ้นที่ P/BV ต่ำกว่า 1 ตอนนี้ผมเห็นเยอะมาก PE ก็ต่ำ ผมเห็นตัวหนึ่ง
ผู้บริหารกำลังเก็บอยู่ จำนวนเยอะเลย เค้าเก็บมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าปีที่แล้วตัวเลขต่างๆเป็นยังไงบ้าง ผมเห็นตัวนี้ปันผลทุกๆปี นอกจากปีนี้ปีเดียว
แต่ผมไม่เห็นว่ากำไร หรือยอดขายจะลดเท่าไหร่เลย อัตราหนี้ก็ไม่เพิ่ม
แต่สภาพคล่องน้อยมากๆ ถึงมากที่สุด ซื้อขายประมาณ 1-2 % ของพอร์ตผมต่อวัน ผมจึงไม่รู้ว่าควรเก็บดีหรือเปล่าครับ เพราะถ้าไล่เก็บราคาคงวิ่งไกล
ถามว่าถ้าสภาพคล่องน้อยขนาดนี้ควรทำยังไงครับ

3.ต่อจากข้อ 2 การหยุดปันผลปีนี้เพียงปีเดียว ผมก็เห็นหลายบริษัท แต่สภาพอย่างอื่น ดีมาก ผมคิดว่าน่าสนใจมาก การหยุดปันผล 1 ปีมีสาเหตุจากอะไรได้บ้างครับ แล้วเป็นอะไรมากไหม

4.หุ้นก้นบุหรี่ หรือหุ้น vi แบบอื่นๆ โดยมากมีปันผลเป็นปกติหรือเปล่าครับ
แล้วจำเป็นต้องมีหรือเปล่า เวลาผมดูตัวไหนไม่ค่อยปันผลผมก็เลิกดูเลย

5.ผมยังไม่เคยคุยกับผู้บริหารคนไหนเลยครับ (นอกจากบางคนเคยเฉียดๆไป เพราะไปเล่นหมากล้อม อิอิ) แต่คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เรื่องหนึ่ง ผมควรทำยังไงดีครับ

6.ถ้าผมไม่ค่อยรู้จักผู้บริหาร ข้อมูลในอดีตของเขาช่้วยได้แค่ไหนครับ เช่นหนังสือที่เขาเขียน หรือรางวัล แล้วมีรางวัลอะไรที่เด่นๆบ้าง

7.หุ้นบลูชิพ vi เขาไม่ค่อยเล่นกันจริงๆหรือครับ ผมเห็นว่าบางตัวคุณภาพหุ้นดีมาก อยู่มากันเป็นสิบๆปี ตอนนี้ราคาตกมามากๆ คงเพราะเงินฝรั่ง+กองทุนไหลออกเยอะ ควรซื้อเข้าพอร์ตบ้างหรือเปล่า

8.พวกนายหน้ามันชอบพูดเรื่องสภาพคล่องบั่นทอนกำลังใจเราเป็นปกติหรือเปล่าครับ เราเลือกเจ้าหน้าที่การตลาดที่ติดต่อเราด้วยตนเองได้หรือเปล่า นักวิเคราะห์ประเภทหุ้นคุณค่ามีบ้างหรือเปล่า และอยู่โบรกไหนที่มีนักวิเคราะห์หุ้นคุณค่าบ้าง

9.การเลือกโบรกควรดูจากอะไรบ้างครับ

ขอบคุณมากๆสำหรับทุกๆคนที่ตอบคำุถามครับ ผมพยายามในทางเดินนี้
เต็มที่ และเป้าหมายผมอยู่ที่ 18% ต่อปี จะได้ไปเรียนโทต่อเมืองนอกให้สบายใจ

ขอบคุณครับ
zStyle

18%ต่อปีนี่ตั้งไว้สูงเหมือนกันนะครับนี่ (ปีแรกๆไม่ยาก แต่หลังๆชนะตลาดได้ 5% ก็สวยแล้วครับ (เฉลี่ยตลาด10%ต่อปี)

ผมตอบเฉพาะบางข้อแล้วกันครับ เพราะในบางข้อผมคิดว่านิยามของแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน

2.สำหรับผม ถ้าเห็นว่าดี ปันผลสม่ำเสมอและเยอะพอสมควร ถ้าผมประเมินว่าในอีก 5ปีข้างหน้ายังมีความสามารถในการทำกำไรได้แบบนี้อยู่ ถึงสภาพคล่องจะน้อยไปบ้างผมก็เก็บครับ สภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นเองเมื่อผลประกอบการดีจนดึงดูดคนเ้ข้ามาสนใจมากขึ้น แต่หากว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันสภาพคล่องก็ยังน้อยเช่นเดิม ก็ต้องลองมองๆแล้วคิดดูว่าเหตุผลมันมาจากอะไร บางครั้งหุ้นสภาพคล่องน้อยเพราะมันเป็นหุ้นที่ดี คนที่เก็บไว้ไม่อยากขายก็มีครับ (แต่ส่วนตัวผมไม่ชอบหุ้นที่ตัวผู้บริหารลงมาเล่นเองบ่อยๆนะ)

3.สภาพเศรษฐกิจ นโยบายบริษัท และอื่นๆ ในบางครั้งการงดปันผลอาจจะไม่ใช่ว่าบริษัทมีปัญหาทางด้านการเงิน แต่อาจต้องการเอากำไรไปขยายกิจการต่อ ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป

4.หุ้นvalueกับปันผลมันมักไปด้วยกันครับ เพราะเวลาคนซื้อหุ้นvalueจะให้ความสำคัญกับพื้นฐานอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อบริษัทพื้นฐานดีและเติบโตได้เรื่อยๆ ก็สามารถจ่ายปันผลให้เราได้เรื่อยๆ ยกเว้นบางปีบริษัทอาจงดปันผลเพื่อนำกำไรไปบริหารงานต่างๆหรือขยายงาน ทั้งนี้โดยปรกติบริษัทจะมีการแจ้งในการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติครับ

5.ง่ายๆครับ ไปประชุมผู้ถือหุ้นครับ สามารถซักถามข้อสงสัยได้

6.ข้อมูลผลประกอบการในอดีตสามารถบ่งบอกถึงความสามารถผู้บริหารได้ครับ แต่เรื่องธรรมภิบาลอาจจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมบ้าง ในกรณีที่ผลประกอบการสะท้อนว่าผู้บริหารบริหารได้ดีและเราตรวจสอบอย่างคร่าวๆแล้วว่าผู้บริหารคนนี้ไม่มีข้อด่างพร้อยผมถือว่าใช้ได้แล้วครับ (ข้อมูลผู้บริหารหาไม่ยากหรอกครับ เซิทgoogleก็ได้มาระดับหนึ่ง)

7.ไม่ครับ blue chip VIหลายๆท่านก็เล่นกัน สำหรับผมคอนเซ็ปคือซื้อในราคาถูกกว่าพื้นฐาน ถ้า bluechip ราคาถูกกว่าพื้นฐานมาก ในกรณีพื้นฐานของบริษัทไม่เปลี่ยนแปลง ผมซื้อครับ ผมมองว่าหุ้นblue chipมีความสามารถในการแข่งขันด้านการตลาดสูงอยู่แล้ว ฉะนั้นวางใจได้ระดับหนึ่งครับ (แต่blue chip ในประเทศไทยส่วนมากเป็น cycle stockครับ ถ้าหาซื้อจังหวะถูกก็จะได้ในราคาที่ถูกมาก ในทางกลับกันผมมองว่าถ้าซื้อผิดจังหวะโอกาสที่มูลค่าจะหายก็สูง ผิดกับพวกmodern tradeหรือหุ้นพาณิชย์บางตัวที่ทนทุกฤดูจริงๆ เจอมรสุมก็ไม่ค่อยสะดุ้งสะเทือนและยังโตขึ้นเรื่อยๆต่อไปอีก ผมจะให้น้ำหนักกับพวกนี้มากกว่าครับ)

8.โบรกที่ไหนก็เหมือนกันครับ ผมแนะนำให้คิดวิเคราะห์เองดีกว่า โบรกสำหรับผมมีหน้าที่แค่หา้ข้อมูลส่งมาให้ผมแค่นั้นจริงๆครับ เลยไม่มีที่แนะนำว่าโบรกเจ้าไหนดี (ปล.นายหน้าผมแทบไม่มาพูดคุยหรือเชียร์อะไรเลยนะ ทุกอย่างปรกติผมคิดเองหมด ให้เขาช่วยเฉพาะเรื่องบริการบ้างด้านแค่นั้นเอง)

9.เลือกโบรกผมดูแค่การบริการว่าดีหรือไม่ กับค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่แค่นั้นครับ เพราะผมเทรดทางอินเตอร์เน็ต หลายๆเจ้าค่าคอมไม่เท่ากันก็เลือกเอาที่ที่ถูกที่สุด และดอกเบี้ยเยอะที่สุด


ส่วนเรื่องหุ้นก้นบุหรี่ไม่ขอตอบละกันครับ เพราะนิยามก้นบุหรี่ของผมอาจจะไม่ตรงกับท่านอื่นก็ได้ (ส่วนตัวแล้ว ในstockผมมีตัวที่ผมคิดว่าเป็นก้นบุหรี่สำหรับผมอยู่1ตัวครับ แต่ก่อนร้อนแรงและจากเคยเป็นหุ้นที่คนนิยมอันดับต้นๆ ปัจจุบันก็ไม่ติดtop tenเท่าไหร่แล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังทำเงินให้ผมได้ดี)

ปรกติผมเองก็ไม่ใช่ VI พันธุ์แท้ครับ เพราะportผม 40% เป็น cycle stock อีก60%เป็นพื้นฐานจริงๆเน้นกินปันผลน่ะครับ และก็ยังมีความรู้น้อยกว่าพี่ๆหลายคนในนี้ครับ (แก่กว่า จขกท ไม่มากหรอกครับเหอๆ) มีอะไรไม่เข้าใจก็ลองๆถามพี่ๆในนี้ดูครับ มีหลายท่านที่มีแนวคิดดีๆมาถ่ายทอดให้สม่ำเสมอ