Thai VI

ผมจะหามูลค่าที่แท้จริง หรือ ราคาหุ้นที่ควรจะเป็นแบบง่ายๆยังไงได้บ้างครับ  :?:

จาก หนังสือ เทคนิคพิชิตหุ้น ของ ดร นิเวศน์ มี สูตร สั้นๆครับ


มูลค่าหุ้น = EPS(8.5 + 2 x G)

EPS = กำไรต่อหุ้น
G = อัตราการเติบโตของหุ้น เฉลี่ยไป 7-10 ปีในอนาคต


สูตรนี้ไม่ได้สะท้อนถึงข้อมูลทางธุรกิจอีกหลายๆอย่างแต่ก็ใช้เป็นตัว screen ได้ดีครับ

Hughes เขียน:จาก หนังสือ เทคนิคพิชิตหุ้น ของ ดร นิเวศน์ มี สูตร สั้นๆครับ


มูลค่าหุ้น = EPS(8.5 + 2 x G)

EPS = กำไรต่อหุ้น
G = อัตราการเติบโตของหุ้น เฉลี่ยไป 7-10 ปีในอนาคต


สูตรนี้ไม่ได้สะท้อนถึงข้อมูลทางธุรกิจอีกหลายๆอย่างแต่ก็ใช้เป็นตัว screen ได้ดีครับ

G ถ้าเท่ากับ 10% ในสูตรนี้ต้องใส่ 0.1 หรือ 10 ครับ

ลองอ่านหนังสือ "วัดมูลค่าหุ้นด้วยตัวคุณเอง สำหรับตลาดหุ้นไทย" โดย "สุมาอี้ ก็ได้นะครับ ผมว่าทำให้เห็นภาพหามูลค่าของหุ้นได้ดีทีเดียว(เหมาะกับมือใหม่ที่ไม่ได้เรียนทางการเงินแบบผมเลยครับ)

Hughes เขียน:จาก หนังสือ เทคนิคพิชิตหุ้น ของ ดร นิเวศน์ มี สูตร สั้นๆครับ


มูลค่าหุ้น = EPS(8.5 + 2 x G)

EPS = กำไรต่อหุ้น
G = อัตราการเติบโตของหุ้น เฉลี่ยไป 7-10 ปีในอนาคต


สูตรนี้ไม่ได้สะท้อนถึงข้อมูลทางธุรกิจอีกหลายๆอย่างแต่ก็ใช้เป็นตัว screen ได้ดีครับ

มีใครอธิบายสูตรนี้อย่างละเอียดทีครับ ไม่เข้าใจว่าสูตรนี้มาได้อย่างไร ??  :?:    :?:  :?:  :?:

ดร แกคงให้ราคาหุ้นปกติที่ไม่เติบโตอยู่ที่ 8.5 เท่าของ net income
แล้วถ้าเป็นหุ้นที่กำไรเติบโตก็บวก คะแนนเข้าไปให้ P/E สูงขึ้นเพื่อรองรับการเติบโต

ส่วนการเติมตัว G นี่ผมลองเติม 10 เข้าไปแล้วราคามันสูงเว่อร์เลยอ่ะครับ (growth 10% กลายเป็น P/E 38.5 เท่า -_-')
ใส่ 0.1 ก็แทบไม่เปลี่ยนราคา (P/E 8.7 เท่า)

ส่วนตัวตอนนี้ผมให้คะแนนไปน่ะครับ -1 ถึง 5.
ตัวไหนกำไรโตสม่ำเสมอมากความมั่นคงดีแบรนด์แข็งให้4-5 (เช่น BH 4, BGH 4, CPN 4, CPALL 5)
ตัวไหนไม่โตให้ 0
ตัวไหนมีขาดทุนหลุดมามั่งแต่ภาพรวมยังโอเคให้ -1

ถ้าขาดทุนย่อยยับนี่คัดออกไปเลยครับ

แต่รู้สึกเคยอ่าน หนังสือ ดร ว่า
P/E ต่ำกว่า 10 ถูก
P/E สิบกว่าๆ ถือ
P/E เกิน 20 = แพงแล้วให้ขาย

ไม่รู้ใครมีวิธีที่ดีกว่านี้ก็รบกวนแนะนำได้นะครับ

:lol:

มูลค่าในจินตนาการ
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 13 พฤศจิกายน 2550


เขียนมายืดยาว   บทสรุปของผมก็คือ  ค่า Intrinsic Value  นั้น  มันเป็นค่าใน จินตนาการ  ของคนที่คำนวณมันขึ้นมา  ประโยชน์ของแนวคิดของค่า Intrinsic Value  นั้น  จริง  ๆ แล้วอยู่ที่ว่า   มันบอกว่า  หุ้นจะมีค่ามากถ้ากิจการมีการเติบโตสูงและอย่างมั่นคงต่อไปเป็นเวลานาน   เช่นเดียวกัน  มันบอกว่าในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำมูลค่าของหุ้นจะสูงขึ้น  และสุดท้ายก็คือ  อย่าดูแคลนเงินปันผลในการพิจารณาหรือหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น

มูลค่าที่แท้จริง = กำไรต่อหุ้นx(8.5+(2xROE))

            เช่น   กำไรต่อหุ้น เท่ากับ 0.44 บาทต่อหุ้น
                     ROE เท่ากับ 15% (ขั้นต่ำของผลตอบแทน)

มูลค่าที่แท้จริง = 0.44 x (8.5+(2x15))
                     = 0.44 x 38.5
                     = 16.94 บาทต่อหุ้น