Thai VI

ผมมีข้อสงสัยนิดนึงนะครับ
รบกวนผุ้รู้ทุกท่านช่วยชี้แนะด้วย

( ขออนุญาติใช้ศัทพ์ภาษาอังกฤษนะครับ
้เนื่องจากคำถามเป็นภาษาอังกฤษครับ )

บริษัท A มี EBIT = 24600
จ่าย Interest = 9600
จะเหลือเป็น EBT = 24600-9600 = 15000
หักภาษี 40 % จะได้ Net income = 15000(1-0.4) = 9000

บริษัท A มี Prefered stock 1500 หุ้น ซึ่งจะต้องจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 5 บาท
รวมแล้วต้องจ่าย 1500*5 = 7500
และมี Common stock outstanding = 4000 หุ้น

ไม่ทราบว่าในกรณีนี้ บริษัท A จะมี EPS เป็นเท่าไหร่ครับ

ส่วนตัวผมคิดว่า EPS จะเท่ากับ
Net income ลบกับปันผลที่จ่ายให้ Preferred stock
แล้วหารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมด( Prefered และ Common stock )
จะำได้ดังนี้  (9000-7500)/(1500+4000) = 0.27

ไม่ทราบผมเข้าใจและคำนวณถูกต้องไหมครับ

ขอบคุณมากครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Earnings_per_share

ต้องลบ Preferred stocks dividend ออกจาก net income ก่อนหารด้วยจำนวนหุ้น Common ครับ

ขอบคุณ คุณ Hughes มากคับ

ขอถามต่ออีกนิดนะคับ
ทำไมถึงไม่ใช้จำนวนหุ้นทั้งหมด(preferred และ common)
แต่ใช้แค่ common อย่างเดียวอะคับ

ถ้าเช่นนั้นก็แสดงว่า
EPS คือ Earning Per Share เฉพาะส่วนของ Common Stock หรอครับ

 :?:  :?:

น่าจะเป็นเหตุผลเพราะว่า หุ้นบุริมสิทธิ์จะได้รับปันผลตามจำนวนที่ระบุไว้เท่านั้นครับ ไม่สามารถรับปันผลเพิ่มในกรณีที่กำไรเพิ่มขึ้น เช่น

บริษัท A หุ้นสามัญ 1 ล้านหุ้น มีหุ้นบุริมสิทธิ์ 1 ล้านหุ้น อัตรา 10% มีกำไรสุทธิ 1 ล้านบาท จ่ายปันผลให้หุ้นบุริมสิทธิ์ 1 แสน ก็จะเหลือ 9 แสน เพื่อนำไปคิดเป็น eps และปันผลให้หุ้นสามัญตามนโยบายที่ประกาศไว้ ในกรณีนี้ก็จะได้ eps 0.90 สมมติปันผล 50% ก็ปันผลให้ผู้ถือหุ้นสามัญ 0.45 บาท

ปีต่อมา บริษัท A มีกำไร 2 ล้านบาท หักปันผลหุ้นบุริมสิทธิ์ (จำนวนเท่าเดิมก็คือ 1 แสน) เหลือ 1.9 แสน eps 1.90 บาท ปันผลเท่ากับ 0.95 บาท

ปีที่ 3 บริษัท A มีกำไร 2 แสนบาท หักปันผลหุ้นบุริมสิทธิ์ (จำนวน 1 แสน เท่าเดิม) เหลือกำไร 1 แสนบาท eps 0.10 ปีนี้บริษัทงดจ่ายปันผลหุ้นสามัญเพราะกันไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

จะเห็นได้ว่าสิทธิในการได้รับปันผลก่อนหุ้นสามัญ ของหุ้นบุริมสิทธิ์ ก็แฟร์ๆ แลกกับการไม่รับปันผลในส่วนที่เพิ่มขึ้น (ในปีที่2) อีกอย่างตอนเลิกกิจการก็ได้รับคืนทุนก่อนหุ้นสามัญด้วยครับ จำได้เท่านี้รอคนมาเพิ่มเติมละกันครับ  :mrgreen:

ขอบคุณมากครับ คุณ Little Boy

ผมพอจะเข้าใจละครับ  :D
ผมลืมไปว่าผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิไม่ใช่เจ้าของบริษัท
( ในแง่ที่ว่าผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิไม่มีสิทธิออกเสียง
โครงการต่างๆ หรือนโยบายของบริษัท รวมไปถึง
ไม่มีสิทธิโหวตผู้ที่จะมาทำหน้าที่สำคัญๆต่างของบริษัท)

ในทางการเงิน Preferred Stock เป็นเสมือนเจ้าหนี้ มากกว่าผู้ถือหุ้นครับ

โดยจะว่าไปในความสำคัญนั้นด้อยกว่าเจ้าหนี้เสียอีก เพราะจะได้ปันผลต่อเมื่อมีกำไร แต่ก็ได้ในอัตราคงที่ (เหมือนดอกเบี้ย) แถมถ้าไม่มีกำไรก็ไม่ได้อีก นอกจากนี้ยังมีสิทธิ์ในทรัพย์สินถัดจากเจ้าหนี้อีกต่างหารในกรณีบริษัทยื่นล้มละลาย