Thai VI

ช่วงนี้ผมหาหนังสือการลงทุนที่ไม่พูดถึง Buffet มาอ่านมั่ง ได้เล่มนี้มา ซึ่งก็นับว่า OK แต่น่าอ่านแค่ 1/3 เล่มแรก ที่เหลือเมื่อคนแก่ๆมาเล่าความหลังมากกว่าเสียเวลาอ่าน เนื้อหาจะเน้นสอดแทรกหลักการลงทุนมากกว่าบรรยายแบบ Do & Don't ครับ อ่านแล้วต้องคิดตามนิดนึง

แนะนำว่า ยืมมาอ่านจะดีกว่าซื้อครับ :lol:

ผมก็ได้อ่านจบไปแล้วหนึ่งรอบแบบผ่าน ๆ ส่วนตัวหนังสือเล่มนี้ก็ดีนะครับเป็นการนำเสนอแนวคิดของผู้จัดการกองทุนวินเซอร์ที่มีเม็ดเงินเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่สามารถทำผลงานที่ดีเยี่ยมกว่า DJAI ทั้งๆที่ขนาดของกองทุนทำให้มีข้อจำกัดในการลงทุนค่อนข้างเยอะเหมือนจับไมเคิล จอร์แดนมาผูกขาไว้ ฮาฮาฮา แสดงว่าท่านจอห์น เนฟฟ์ต้องมีปรัชญาการลงทุนที่น่าสนใจ การที่เราจะลงทุนในหุ้น pe ต่ำให้ได้กำไรโดยที่ไม่ติดกับดักแบบที่บรรดาเซียน VI เคยกล่าวไว้นั้นค่อนข้างทำได้ยาก การที่จะมั่นคงในหลักการนั้นก็ใช่ว่าจะง่าย และที่แน่ ๆ การที่จะทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยนั้นยากกว่า

เนื้อหาของหนังสือก็จะมีการบรรยายชีวประวัติของท่านกว่าจะได้มาบริหารกองทุน,หลักการในการลงทุน สุดท้ายเป็นประสบการณ์การลงทุนซึ่งเป็นส่วนที่คุณ Alastor คิดว่าเสียเวลาอ่าน ผมกับเห็นว่าเป็นส่วนที่สำคัญของหนังสือเพราะเป้นการนำเสนอแนวการลงทุนที่นำหลักการมาประยุกต์ใช้กับตลาดจริง ๆ  :)

ซื้อมาอ่านไปได้ 2ใน 3 ส่วนยังกองไว้รอวันอารมณ์ดีมาอ่านต่อ ยอมรับว่าเข้าใจยากกว่าหลายเล่ม แต่จะต้องอ่านให้จบให้ได้

อ่านแล้วครับ
พอจะสรุปหลักการการกว้างกว้างของ Jonh neff
ว่าเขาเน้นลงทุนในหุ้น PE ต่ำ โดยมีความอดทนต่อความผันผวนของราคาหุ้นในบางช่วงเวลา

อ่านแล้วครับ  ชอบตอนครึ่งแรก  เพราะเหมือนอ่านละคร  เล่าถึงประวัติเค้า

แต่ครึ่งหลังๆ  นี่อ่านแล้วยากนิดนึง  เพราะเล่าเรื่องกองทุนที่เค้าบริหาร  ซื้อหุ้นบริษัทโน้น  ขายบริษัทนี้  พอดีเราไม่ได้เกิด อเมกา  เลยไม่คุ้นกับชื่อบริษัทที่เค้าเอ่ยมา อ่านแล้วนึกภาพตามไม่ออก:lol:  :lol:

กำลังอ่านอยู่ครับ ใกล้จบแล้ว ยอมรับว่าตอนต้นเล่มอ่านสนุกกว่าช่วงกลางๆ และท้ายๆ เล่มแต่ก็ได้ความรู้ไปอีกแบบ  :)

สนุกครับ
ช่วงนี้หุ้น PE ต่ำ เยอะมาก
มีกำลังใจดีขึ้นเยอะ เมื่อมองดูหุ้นบ้างเรา

พึ่งอ่านจบเหมือนกันครับ อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจในการลงทุนในภาวะอย่างนี้จริง ๆ ครับ  :D    :D

อ่านแล้วรู้สึกดีครับ ได้รับรู้ราคาน้ำมันตอนนั้นด้วยที่ระหว่างอิรักบุกคูเวต น้ำมันพอรบกันจริงๆกลับลงแฮะแต่ตอนที่ยัไม่รบนะขึ้นเอาๆ ได้เข้าใจสถานะการณ์ในตอนนั้นเลย และหลักการคิด วิธีการคำนวนการลงทุนด้วยครับ ดีๆ

ได้อ่านจนจบแล้วเหมือนกัน

เข้าใจ ว่า หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่า อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ในช่วงที่เค้าเล่าถึง

การเลือกลงทุนในหุ้น หลายๆประเภท ผู้เขียนพยายามอธิบายว่า หุ้นแต่

ประเภท มีลักษณะการลงทุนที่แตกต่างกันอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น หุ้นวัฏจักร

หุ้นเติบโตเร็ว หุ้นแข็งแกร่ง เหล่านี้ เท่าที่อ่านทั้งหมด สรุปใจความ ได้ว่า

กลายแบ่งแยกประเภทหุ้น ก็จะคล้ายๆ กับ ปีเตอร์ลินซ์ อาจจะเป็นเพราะ

ความที่เป็นผู้จัดการกองทุนเหมือนกัน ลักษณะการทำงานจึงคล้ายๆกัน

แต่อ่านแล้ว ก็ได้ความรู้หลายๆแง่หลายๆมุม ดี ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่ได้นึกถึง

สรุป สำหรับผม ยังไงก็เป็นหนังสือที่น่าซื้อเก็บไว้ เพราะจอร์น เนฟ ไม่ได้

เขียนหนังสือมากนัก เท่าที่เข้าใจ น่าจะเล่มนี้เล่มเดียว เพราะฉะนั้น ความรู้

ทั้งหมดที่เค้าถ่ายทอด และจากฝีมือที่ได้มีการพิสูจน์และมีผู้คนยอมรับจริงๆ

จากวอลสตีท ก็ถือได้ว่า คงไม่เสียหายอะไรนัก ถ้าเราจะนำแนวความรู้

ความคิด ของเค้ามาประยุกต์ใช้กับ ตัวเรา และการลงทุนของเรา

[quote="kenne"]

[u]สรุป สำหรับผม [/u]ยังไงก็เป็นหนังสือที่น่าซื้อเก็บไว้ เพราะจอร์น เนฟ ไม่ได้

เขียนหนังสือมากนัก เท่าที่เข้าใจ น่าจะเล่มนี้เล่มเดียว เพราะฉะนั้น ความรู้

ทั้งหมดที่เค้าถ่ายทอด และจากฝีมือที่ได้มีการพิสูจน์และมีผู้คนยอมรับจริงๆ

จากวอลสตีท ก็ถือได้ว่า คงไม่เสียหายอะไรนัก ถ้าเราจะนำแนวความรู้

ความคิด ของเค้ามาประยุกต์ใช้กับ ตัวเรา และการลงทุนของเรา[/quote]

เห็นด้วยกับบทสรุปนี้ ครับ
และผมก็ชอบ หลักการที่เป็นอมตะ

อ่านไม่ค่อยสนุกแต่ มีข้อคิดดีๆเกี่ยวกับ style การลงทุนของ john neff ครับ

ผมอ่านแล้วชอบครับเล่มนี้ รู้สึกว่าคนเขียนเค้าเขียนแบบตรงๆ ดี ไม่กำกวม

และคำพูดที่ผมชอบที่สุดในหนังสือคือ "หุ้นทุกตัวที่ผมซื้อ มีไว้เพื่อขาย"

ตอนซื้อมา กว่าจะได้อ่านก็ปีกว่า
อ่านไม่จบด้วย ทิ้งคาไว้

แต่พอนึกถึงคำอ.ชาร์ลีที่บอกให้
'read history read history read history'

กลับมาอ่านใหม่จนจบครับ

เป็นอีกเล่มที่ดีมากครับ

ดีมากครับ เจอลด 50% เลยจัดไปสภาพ100% เล่มสุดท้าย เสร็จโก๋