หน้า 1 จากทั้งหมด 1
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 16, 2009 3:05 pm
โดย IAmNewbie
อยากซื้อหุ้นของอเมริกาอะครับ ขอบคุณครับ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 16, 2009 3:31 pm
โดย PERFECT LUCKY
จะเปิดพอร์ต ที่ อเมริกา ต้องรวยจากตลาดหุ้นไทย ให้ได้ซักสิบปีติดๆ กันก่อนครับ
:D :D
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 16, 2009 4:31 pm
โดย kotaro
ตอนเริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆ ไฟแรง ยิ่งอ่านหนังสือ บัฟเฟต ด้วย
ยิ่งมีความรู้สึกอยากซื้อหุ้น ตปท เท่ห์ดี เผื่อฟลุ๊ค รวยแบบ บัฟเฟต บ้าง
จากตอนนั้น ถึง ตอนนี้ ยังไม่ได้ซื้อเลยครับ
คิดแต่ว่า ขอเอาตัวรอด ในเมืองไทยก่อนดีกว่า
หุ้นแค่ 3-4 ตัว ตอนนี้ ยังติดตามแทบไม่ทันเลย
แต่ยังไงถ้าอยากซื้อหุ้นนอก ก็ต้องเปิดพอร์ตผ่านพวก e-trade หรือ ameritrade ครับ
ลองดูกระทู้พวกนี้นะ โชคดี
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... ighlight=
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... ght=etrade
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 16, 2009 4:33 pm
โดย kotaro
ตอนเริ่มเล่นหุ้นใหม่ๆ ไฟแรง ยิ่งอ่านหนังสือ บัฟเฟต ด้วย
ยิ่งมีความรู้สึกอยากซื้อหุ้น ตปท เท่ห์ดี เผื่อฟลุ๊ค รวยแบบ บัฟเฟต บ้าง
จากตอนนั้น ถึง ตอนนี้ ยังไม่ได้ซื้อเลยครับ
คิดแต่ว่า ขอเอาตัวรอด ในเมืองไทยก่อนดีกว่า
หุ้นแค่ 3-4 ตัว ตอนนี้ ยังติดตามแทบไม่ทันเลย
แต่ยังไงถ้าอยากซื้อหุ้นนอก ก็ต้องเปิดพอร์ตผ่านพวก e-trade หรือ ameritrade ครับ
ลองดูกระทู้พวกนี้นะ โชคดี
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... ght=etrade
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 16, 2009 4:47 pm
โดย A man from the Islay
ฟิลิปทำได้น่ะครับ ลองโทรไปปรึกษาดู
ถ้าจะเปิดเยอะหน่อยใช้ ML, GS ก็ได้ครับ กะว่าจะลงทุนเยอะมั๊ยครับ? PM มาคุยก็ได้น่ะครับ
remarks: ผมไม่ได้ทำเป็นอาชีพน่ะครับ ผมไม่ใช่ FA, ผมเพียงแต่ตอบคำถาม..........
Admin เห็นว่าไม่เหมาะสม ลบที่ผมตอบออกได้น่ะครับ ไม่ซีเรียส..........
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 16, 2009 4:49 pm
โดย A man from the Islay
มองตัวไหนอยู่รึเปล่าครับ? ผมถือ Dow Chem กะ Wells Fargo อยู่.............คุยเล่นๆครับ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 16, 2009 11:16 pm
โดย haruti
จับตา xom,x อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันครับ :lol: ยังไม่กล้าเสี่ยงจริงๆ
เปิดที่ ฟิลิป ขั้นต่ำ 5 แสนบาทครับ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 16, 2009 11:48 pm
โดย murmur
หลักแสนคงเป็นแค่น้ำจิ้ม
ถ้าไป trade ที่นั่นครับ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 17, 2009 12:38 pm
โดย A man from the Islay
murmur เขียน:หลักแสนคงเป็นแค่น้ำจิ้ม
ถ้าไป trade ที่นั่นครับ
ไม่ต้องที่นั่นหรอกครับ หลัก 100 ล้านที่นี่ก็ใช่ว่าเยอะ (ถ้าจะมองว่าเยอะมั๊ย แล้วเยอะแล้ว แล้วไง?) เยอะน้อยผมว่าไม่ใช่ประเด็นน่ะครับ...........
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ เม.ย. 17, 2009 11:28 pm
โดย murmur
ผมว่ามันเป็นประเด็นสำคัญเลยครับ
ไม่ได้ดูถูกจำนวนเงินนะครับว่ามากหรือน้อย
ปริมาณเงินสำคัญครับว่าเราจะ trade อะไรที่ไหน
หลักแสนอาจลงทุนอะไรไม่ได้เลยที่นั่น ซื้อหุ้นที่เราต้องการไม่ได้
ถ้าผิดครั้งเดียวอาจจบได้
แต่หลักแสนที่นี่ลงทุนกันได้เรื่อยๆ ซื้อหุ้นที่เราต้องการได้ทุกตัว
ถ้าจะเอาไป 5 แสนขั้นต่ำผมว่า trade เมืองไทยดีกว่าเยอะ
อย่าเอาเงินไปทิ้งเลย
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 18, 2009 12:09 am
โดย haruti
คือ หุ้นในอเมริกา มันก็มีถูกแพงปนกันไป อย่าง xom 66-67 ดอล/หรืออย่าง x บริษัทเหล็ก หล่นจาก 197 จนเหลือ 16 ตอนนี้มา 26
เราไม่ได้ไป take over เขานะครับ ถ้าซื้อ x ที่ 16 ขาย 26 มีแค่ ไม่ถึง พันหุ้นผลตอบแทนก็เยอะนะครับ...หุ้นไทยเห็น ซื้อกันหลักหมื่น...ก็ยังมีเลยครับ...
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 18, 2009 5:24 am
โดย A man from the Islay
murmur เขียน:
ปริมาณเงินสำคัญครับว่าเราจะ trade อะไรที่ไหน
หลักแสนอาจลงทุนอะไรไม่ได้เลยที่นั่น ซื้อหุ้นที่เราต้องการไม่ได้
ถ้าผิดครั้งเดียวอาจจบได้
ช่วยขยายความด้วยครับว่าคำว่าหลักแสนอาจลงทุนอะไรไม่ได้เลยที่นั่น แปลว่าอะไรครับ? ผมไม่เข้าใจ
คุณ murmur เข้าใจตลาดที่โน่นดีพอ โดยถึงเข้าใจว่า minimum ในการซื้อผ่าน broker ต้องเป็นเท่าไหร่เหรอครับ? ช่วยแชร์ด้วย?
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 18, 2009 7:58 am
โดย murmur
ผมพูดถึงข้อจำกัดและเสียเปรียบในการลงทุนต่างประเทศของไทยในการเปิด ิbroker ไทยเป็นหลักครับ
นอกจากการที่เลือกหุ้นได้บางตัวในแง่ของราคาแล้ว เท่าที่ทราบทาง broke ไม่ได้ให้เรา trade ได้ทุกตัวนะครับ
ยังมีข้อจำกัดและเสียเปรียบทางด้านภาษีและการปันผล
ลองศึกษาได้จากบริษัท phillip ได้โดยตรง
ผมจึงไม่สนใจเปิดลงทุน
http://www.poems.in.th/home/th/promotion/index-th.htm
ส่วนผ่าน broke ต่างชาติลงทุนในหุ้นอย่างเดียวยังไม่มีประสบการณ์ครับ
น่าจะหาข้อมูลได้ไม่ยากตามwebsite ของ broke เหล่านั้น
ถ้าใครเปิด poem phillip แล้ว ลองมา share ครับ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 18, 2009 9:13 am
โดย sai
เคยได้ยินมาว่าที่อเมริกา เวลาหุ้นขึ้นลงไม่มีจำกัด ด้วยนี่ครับ เหมือนช่วงตุลาปีที่แล้ว หุ้นการเงินหลายตัวที่นั่นลงแบบจำทางกลับบ้านไม่ได้เลยครับ :lol:
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 18, 2009 1:29 pm
โดย tycoon
Three things for new trading account application.
1. You must have SSN (social security number) or TIN ( tax identification number)
2. US state ID, US driver license, or US VISA.
3. An active bank account in US (either checking or saving account)
Many broker accept on-line account opening, such as Scottrade, TDAmeritrade, Zecco, Tradeking... Check these website for more detail.
Opening a trading accountn in US is much simpler than Thailand.
Hope this reply answer your question krab.
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 18, 2009 3:52 pm
โดย Hughes
หุ้น มะกันคิดภาษี Capital Gain ด้วยนะครับ
บ้านเราไม่คิดนาาาา
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 19, 2009 9:45 am
โดย A man from the Islay
ผมขอแชร์นิดนึงน่ะครับ
คือที่ฟิลิป ผมไม่ทราบแน่ชัดว่าขั้นต่ำต้องเท่าไหร่ แต่เท่าที่ผททราบมาจากการอ่าน ไม่มีขั้นต่ำครับ หมายความว่า ถ้าสมมติอยากซื้อ GE, หรือ Wells Fargo ขั้นต่ำที่สุดก็คือเท่าจำนวนหุ้น คือประมาณ 400-500 บาทไทย ณ ระดับราคาปัจจุบันครับ
แต่ถ้าเปิดกับพวก big IB firms เช่น Goldman, Merrill, Morgan Stanley พวกนี้ขั้นต่ำต่อการซื้อคือ 30,000 USD ต่อ 1 transaction ครับ
ส่วนเรื่องภาษี อย่างเราๆ เป็น non-us citizen ไม่เสียภาษีใดๆทั้งสิ้นครับ capital gain ก็ไม่เสียภาษีครับ เพราะเราเปิด บัญชี off-shore ไม่ได้ไปใช้ facility ในประเทศเค้า ไม่ได้อาศัยอยู่ ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีครับ (อันนี้ผมยืนยันแน่นอนครับ)
ส่วนคน US ที่อยากเปิด Off-shore เพื่อจะเลี่ยงก็ทำได้ลำบากครับ รวมถึงพวก political related พวกนี้เปิด off-shore ไม่ได้ครับ ผมยืนยัน ถ้าไม่สามารถยืนยันแหล่งที่มาของเงินได้ชัดเจน สส พรรคการเมืองนึงในไทย คิดอยากจะเปิด ยังโดนปฎิเสธมาแล้วครับ ต้องใช้ชื่อญาติ พี่น้องเป็น proxy แทน
ผมไม่มีส่วนได้อะไรกับ IB firms พวกนั้นน่ะครับ ผมแค่อยากหาคนมาคุยเรื่องหุ้นต่างประเทศด้วยเท่านั้นเอง อย่างไร ผมพอแนะนำ FA ที่อยู่ตาม firms ที่ผมพูดมาตอนต้นให้ได้ครับ ถ้าใครสนใจจะเปิด บช off-shore กะเค้า โดยมากเป็น Singaporean ครับ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 19, 2009 8:52 pm
โดย econometrica
แจ๋วไปเลยครับ กำลังอยากหาคนคุยด้วยเหมือนกัน ตอนนี้ผมลง C กับ AIG ไปครับ ตอนแรกก็สนWFC เหมือนกัน แต่ว่ามองว่า C น่าจะเสี่ยงมากกว่า เลยลงที่ C
ว่างๆเชิญที่ห้องเทคนิคนะครับ จะได้แลกเปลี่ยนไอเดียกัน
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 19, 2009 9:05 pm
โดย ซากคน
เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีซื้อขายหุ้นอเมกา เพราะเราเป็นต่างชาติ
ในขณะเดียวกันเราเองก็ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลของเขาด้วยหรือเปล่าครับ ????
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 19, 2009 9:11 pm
โดย ศิษย์เซียน007
หุ้นในสหรัฐที่น่าสนใจสำหรับผมเวลานี้ คือ บริษัทที่ผลิตเมล็ดพืชผลทางการเกษตรเพื่อให้คนเอาไปปลูกเป็นพืชผักสวนครัวครับ :)
หุ้นกลุ่มสถาบันทางการเงิน และ กลุ่มประกันภัย อาจเป็นหุ้นตายแล้วฟื้นเหมือนตอนที่ปีเตอร์ลินซ์ลงทุนในหุ้นไคร์สเลอร์ครับ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 20, 2009 10:32 am
โดย A man from the Islay
[quote="Voldtrest"]เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีซื้อขายหุ้นอเมกา เพราะเราเป็นต่างชาติ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 20, 2009 11:11 pm
โดย ayethebing
คุยกันเยอะเรือง us เรยอยากแจมบ้าง
ผมว่าที่ us ก้อมีข้อดีหลายอย่างนะครับ ข้อดีอย่างแรกคือข้อมูลที่ดีที่มีคนเก็บไว้ให้ คนที่จะลงทุนที่นู้น อยากให้ไม่พลาด web นี้ครับ
www.morningstar.com
สามารถหลอกเป็นสมาชิกฟรีได้ 14 วัันแล้วก็ quit ไม่งั้นจะเสียเงินครับ ชอบที่มี quick ranking ตามรูปแบบที่เรากำำหนดได้ครับ
ข้อดีอีกข้อคือความหลากหลายของหุ้น หุ้นที่มีป้อมปราการแข็งแกร่งอย่างที่เมืองไทยไม่ีมีอย่าง pfiser (แหมรวยจากไวอากร้าซะงั้น) หรือ หุ้นนิชเป็นต้น (ผมเคยซื้ออยู่บริษัทนึงโดนพี่หย่ายมาเฟียเทคโอเวอร์ไปซะแล้น กำไรพอได้อยู่ครับ)
ฺอ้อเรื่องราคา BRK.A ราคาเกือบแสนเหรียญ BRK.B หลายพันเหรียญ ครับ ซื้อ 1 หุ้นเค้าก็ขายนะคับ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 21, 2009 11:09 am
โดย puthorn
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 23, 2009 3:13 pm
โดย sjaitron
Don't forget that we have to pay Thailand income tax for the capital gain from the investment outside Thailand stock market.
This capital gain will be on top of our income so we will pay very high tax. If your current income is high, you will pay up to 37% income tax for this capital gain.
We will also pay 15% for dividend (which is normally very low) and cannot have tax credit like in Thailand.
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 25, 2009 1:22 pm
โดย haruti
sjaitron เขียน:Don't forget that we have to pay Thailand income tax for the capital gain from the investment outside Thailand stock market.
This capital gain will be on top of our income so we will pay very high tax. If your current income is high, you will pay up to 37% income tax for this capital gain.
We will also pay 15% for dividend (which is normally very low) and cannot have tax credit like in Thailand.
ถ้าเก็บไว้ต่างประเทศ 2 ปี นำเข้ามาก็ไม่ต้องเสียภาษีครับ
จะเปิดพอร์ตที่อเมริกาจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 25, 2009 2:59 pm
โดย A man from the Islay
sjaitron เขียน:Don't forget that we have to pay Thailand income tax for the capital gain from the investment outside Thailand stock market.
This capital gain will be on top of our income so we will pay very high tax. If your current income is high, you will pay up to 37% income tax for this capital gain.
We will also pay 15% for dividend (which is normally very low) and cannot have tax credit like in Thailand.
ไม่จริงน่ะครับ ถ้า off-shore ไม่ต้องเลยแม้แต่บาทเดียว