รบกวนสอบถามคุณ hongvalue ครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ เม.ย. 11, 2009 3:17 pm
คุณ ฮง ครับ
ผมได้คอยตามอ่านกระทู้ของคุณฮงมาหลายกระทู้อยู่เหมือนกัน แต่ละอันก็ให้ข้อคิดดีๆ กับคำถามเยี่ยมๆให้ผมได้พัฒนามุมมองไปได้เยอะเลยครับ
ทีนี้หลังจากติดตามอยู่นาน เริ่มรู้สึกว่าช่วงนี้คุณฮงให้ความสำคัญกับ macro economics ค่อนข้างเยอะใช่มั๊ยครับ ทีนี้ผมเลยขออนุญาตถามคำถามที่ติดค้างในใจกับคุณฮงบ้างน่ะครับ กรุณาอย่าติว่าคำถามผมบ้องตื้นไปเลยนะครับ ถือว่าให้วิชาคนไม่ค่อยรู้ละกันนะครับ อิอิ
1. ทำไมคุณฮงถึงหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องmacro economics เยอะขึ้นครับ โดยเฉพาะเรื่อง fundflow น่ะครับ เท่าที่ผมตามอ่าน ก็คือเหมือนกับว่าสิ่งพวกนี้จะบ่งบอกถึง จังหวะ ในการซื้อขาย หรือครับ และนอกจากเรื่องนี้แล้ว macro economics ในความหมายของคุณฮง ยังให้อะไรกับเราได้อีกครับ
2. แล้วอย่างนี้ สำหรับคุณฮงตอนนี้ คิดว่าสิ่งไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันครับ ระหว่าง ภาพรวมของเศรษฐกิจ กับพื้นฐานของกิจการครับ คือ หากว่าคุณฮงให้น้ำหนักกับภาพรวมของเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ในขณะที่ VI ท่านอื่นอาจสนใจเรื่อง พื้นฐานกิจการมากกว่า ก็แสดงว่าคุณฮงต้องมั่นใจในระดับหนึ่งว่า สำหรับคุณฮงแล้ว การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจ นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแม่นยำใช่มั๊ยครับ
3. อันนี้ต่อมาจากข้อสองครับ ก็คืออย่างนั้นจะขออนุญาตถามกันโต้งๆเลยอ่ะครับว่า ตัวแปรอะไรบ้างที่คุณฮงคิดว่ามีประสิทธิภาพในการคาดเดา macro economics และสามารถส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นได้น่ะครับ ในตอนนี้ตัวหนึ่งที่คิดว่าแน่ๆคือ fundflow ใช่มั๊ยครับ นอกจากคุณฮงแล้วก็เห็นมีอีกหลายท่านที่พูดถึงตัวนี้ไว้น่ะครับ แล้วนอกจากfundflow แล้วปัจจัยตัวอื่นมีความสำคัญมากน้อยเพียงใดครับ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค หรือราคาน้ำมัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์น่ะครับ
4. ย้อนกลับมาที่เรื่องfundflow อีกรอบนะครับ คำถามสั้นๆ คือ มันคืออะไรกันแน่ครับ คือเม็ดเงินของต่างชาติที่ไหลเข้าออกจากประเทศเรารึเปล่าครับ แล้ววิธีดูfundflowที่มีประสิทธิภาพนี่คือต้องเข้าไปดูข้อมูลตัวไหน ยังไง และดูจากที่ไหนเหรอครับ
เห็นหลายท่านพูดไว้ว่าวิธีดูfundflow ก็คือดูยอดซื้อขายของต่างชาติรึเปล่าครับ นั่นก็คือมองแค่ในมุมของตลาดหุ้นพอ รึเปล่าครับ (ซึ่งหากใช่แล้ว คนมือใหม่แบบผมต้องเข้าไปหาข้อมูลที่ไหนครับ) แล้วอีกนิดครับ การที่ยอดซื้อต่างชาติเป็นบวก มันจะแสดงว่าfundflowกำลังไหลเข้าได้เหรอครับ ในเมื่อ ณ เวลาที่เราได้รับข้อมูล มันก็เป็นอดีตไปแล้ว ไม่ได้การันตีว่าต่างชาติซื้อสุทธิมาตลอดแปลว่า จะต้องซื้อต่อในวันรุ่งขึ้นนี่ครับ หรือว่าเราต้องไปดูยอดซื้อขายของfuture indexด้วยครับ
แต่ว่าการมองแค่ในมุมของตลาดหุ้นอย่างเดียวเพียงพอจริงๆรึเปล่าครับ เพราะในความเป็นจริงๆ เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าออกในประเทศไทย เค้าคงไม่ได้ทำเพื่อเก็งกำไรในตลาดหุ้นอย่างเดียวเป็นแน่ พอจะจำได้บ้างว่าอาจารย์เคยสอนว่า จะดูว่าเงินไหลเข้าหรือออก ให้ดู interest rate กับ exchange rateน่ะครับ ดังนั้นหากว่าสรุปยอดการซื้อขายของต่างชาติเป็นบวก แต่interest rateกลับลดลง มันจะแสดงว่า fundflow จะไหลเข้าหรือออกครับ
เอ่อ ถามซะค่อนข้างมาก แถมไม่แน่ใจว่าตัวเองพิมพ์วกวนรึเปล่าอีก หากว่าผมทำให้สับสน ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ และหากจะกรุณาบอกข้อสงสัยในคำถามขอบผม จะกราบขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ ยังไรบกวนคุณฮง หรือผู้มีความรู้ท่านอื่นช่วยตอบข้อสงสัยด้วยครับ
ขอบคุณมากๆครับ
ผมได้คอยตามอ่านกระทู้ของคุณฮงมาหลายกระทู้อยู่เหมือนกัน แต่ละอันก็ให้ข้อคิดดีๆ กับคำถามเยี่ยมๆให้ผมได้พัฒนามุมมองไปได้เยอะเลยครับ
ทีนี้หลังจากติดตามอยู่นาน เริ่มรู้สึกว่าช่วงนี้คุณฮงให้ความสำคัญกับ macro economics ค่อนข้างเยอะใช่มั๊ยครับ ทีนี้ผมเลยขออนุญาตถามคำถามที่ติดค้างในใจกับคุณฮงบ้างน่ะครับ กรุณาอย่าติว่าคำถามผมบ้องตื้นไปเลยนะครับ ถือว่าให้วิชาคนไม่ค่อยรู้ละกันนะครับ อิอิ
1. ทำไมคุณฮงถึงหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องmacro economics เยอะขึ้นครับ โดยเฉพาะเรื่อง fundflow น่ะครับ เท่าที่ผมตามอ่าน ก็คือเหมือนกับว่าสิ่งพวกนี้จะบ่งบอกถึง จังหวะ ในการซื้อขาย หรือครับ และนอกจากเรื่องนี้แล้ว macro economics ในความหมายของคุณฮง ยังให้อะไรกับเราได้อีกครับ
2. แล้วอย่างนี้ สำหรับคุณฮงตอนนี้ คิดว่าสิ่งไหนมีน้ำหนักมากกว่ากันครับ ระหว่าง ภาพรวมของเศรษฐกิจ กับพื้นฐานของกิจการครับ คือ หากว่าคุณฮงให้น้ำหนักกับภาพรวมของเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ในขณะที่ VI ท่านอื่นอาจสนใจเรื่อง พื้นฐานกิจการมากกว่า ก็แสดงว่าคุณฮงต้องมั่นใจในระดับหนึ่งว่า สำหรับคุณฮงแล้ว การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจ นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแม่นยำใช่มั๊ยครับ
3. อันนี้ต่อมาจากข้อสองครับ ก็คืออย่างนั้นจะขออนุญาตถามกันโต้งๆเลยอ่ะครับว่า ตัวแปรอะไรบ้างที่คุณฮงคิดว่ามีประสิทธิภาพในการคาดเดา macro economics และสามารถส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นได้น่ะครับ ในตอนนี้ตัวหนึ่งที่คิดว่าแน่ๆคือ fundflow ใช่มั๊ยครับ นอกจากคุณฮงแล้วก็เห็นมีอีกหลายท่านที่พูดถึงตัวนี้ไว้น่ะครับ แล้วนอกจากfundflow แล้วปัจจัยตัวอื่นมีความสำคัญมากน้อยเพียงใดครับ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค หรือราคาน้ำมัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์น่ะครับ
4. ย้อนกลับมาที่เรื่องfundflow อีกรอบนะครับ คำถามสั้นๆ คือ มันคืออะไรกันแน่ครับ คือเม็ดเงินของต่างชาติที่ไหลเข้าออกจากประเทศเรารึเปล่าครับ แล้ววิธีดูfundflowที่มีประสิทธิภาพนี่คือต้องเข้าไปดูข้อมูลตัวไหน ยังไง และดูจากที่ไหนเหรอครับ
เห็นหลายท่านพูดไว้ว่าวิธีดูfundflow ก็คือดูยอดซื้อขายของต่างชาติรึเปล่าครับ นั่นก็คือมองแค่ในมุมของตลาดหุ้นพอ รึเปล่าครับ (ซึ่งหากใช่แล้ว คนมือใหม่แบบผมต้องเข้าไปหาข้อมูลที่ไหนครับ) แล้วอีกนิดครับ การที่ยอดซื้อต่างชาติเป็นบวก มันจะแสดงว่าfundflowกำลังไหลเข้าได้เหรอครับ ในเมื่อ ณ เวลาที่เราได้รับข้อมูล มันก็เป็นอดีตไปแล้ว ไม่ได้การันตีว่าต่างชาติซื้อสุทธิมาตลอดแปลว่า จะต้องซื้อต่อในวันรุ่งขึ้นนี่ครับ หรือว่าเราต้องไปดูยอดซื้อขายของfuture indexด้วยครับ
แต่ว่าการมองแค่ในมุมของตลาดหุ้นอย่างเดียวเพียงพอจริงๆรึเปล่าครับ เพราะในความเป็นจริงๆ เงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าออกในประเทศไทย เค้าคงไม่ได้ทำเพื่อเก็งกำไรในตลาดหุ้นอย่างเดียวเป็นแน่ พอจะจำได้บ้างว่าอาจารย์เคยสอนว่า จะดูว่าเงินไหลเข้าหรือออก ให้ดู interest rate กับ exchange rateน่ะครับ ดังนั้นหากว่าสรุปยอดการซื้อขายของต่างชาติเป็นบวก แต่interest rateกลับลดลง มันจะแสดงว่า fundflow จะไหลเข้าหรือออกครับ
เอ่อ ถามซะค่อนข้างมาก แถมไม่แน่ใจว่าตัวเองพิมพ์วกวนรึเปล่าอีก หากว่าผมทำให้สับสน ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ และหากจะกรุณาบอกข้อสงสัยในคำถามขอบผม จะกราบขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ ยังไรบกวนคุณฮง หรือผู้มีความรู้ท่านอื่นช่วยตอบข้อสงสัยด้วยครับ
ขอบคุณมากๆครับ