หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 9:58 pm
โดย oatty
โลกในมุมมองของ Value Investor            4 เมษายน 2552

เข็มทิศช่วยให้นักเดินเรือในสมัยโบราณไม่หลงทางท่ามกลางทะเลที่เวิ้งว้าง   การมีเข็มทิศจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและหมายถึงความเป็นความตาย   เดินทางผิด   ผู้เดินทางอาจหลงทางหรือในบางครั้งอาจต้องตายกลางทะเล   เดินทางถูก  เป้าหมายก็อยู่แค่เอื้อม   ในการลงทุนในตลาดหุ้นเองนั้น   เราจำเป็นต้องมี   “เข็มทิศ”  ที่จะช่วยชี้นำให้เรา  “เดินทาง”  สู่เป้าหมาย   นั่นก็คือ  สู่ความมั่งคั่ง   มีอิสรภาพทางการเงิน   “เข็มทิศลงทุน”  ที่เราควรจะต้องใช้ในการนำเราไปสู่เป้าหมายมีหลายข้อดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ซื้อหุ้นให้ทำเหมือนกับว่าเรากำลังลงทุนทำธุรกิจหรือเข้าหุ้นทำธุรกิจกับเพื่อน   นี่เป็น  “เข็มทิศ”  ที่สำคัญที่สุด   หุ้นไม่ใช่กระดาษแผ่นเล็ก ๆ  ที่ราคาขึ้น ๆ  ลง  ๆ     เบื้องหลังของหุ้นนั้นมีโรงงาน   มีสำนักงาน   มีร้านค้า   มีพนักงาน   มียี่ห้อ  มีระบบการบริหาร   มีลูกค้า  และมีสิ่งต่าง  ๆ  ที่จำเป็นในการสร้างมูลค่าเพิ่ม  สร้างกำไร  และจ่ายปันผลให้เราซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น   ถ้าเรายึดแนวทางนี้อย่างมั่นคง   การลงทุนของเราก็จะ   “ไม่หลง”  โอกาสผิดพลาดมีน้อย

ข้อ 2   ถ้าบริษัททำผลงานได้ดี   หุ้นก็จะดีตามเสมอ   แม้ว่าราคาหุ้นอาจจะไม่ตามผลการดำเนินงานในทันทีทันใด   แต่ในที่สุดแล้วมันก็จะต้องปรับตัวตามผลงานของบริษัท    ดังนั้น  เมื่อซื้อหุ้นแล้ว    สิ่งที่จะบอกว่าเราซื้อถูกต้องก็คือ  ผลงานของบริษัทดีขึ้นเรื่อย ๆ  และเราได้รับปันผลมากขึ้นเรื่อย  ๆ   และแน่นอน  ราคาหุ้นก็จะปรับตัวขึ้นตามกันไป

ข้อ 3   หาหุ้นของกิจการที่เข้าใจได้ง่ายและเราสามารถคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีก  5-10 ปี  ข้างหน้า   อย่าซื้อหุ้นที่เราไม่รู้จักว่าบริษัทผลิตและขายสินค้าอะไรและความสำเร็จหรือล้มเหลวขึ้นอยู่กับอะไร   ด้วยเข็มทิศอันนี้   เราจึงไม่ควรซื้อหุ้นของกิจการจำนวนมากในตลาดหลักทรัพย์    เนื่องจากเรามักจะไม่รู้จักธุรกิจจำนวนมากที่อาจจะสลับซับซ้อนเกินไปและเกินความสามารถของเราที่จะเข้าใจได้

ข้อ 4   การลงทุนที่จะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดีและมีความเสี่ยงต่ำซึ่งในระยะยาวจะทำให้เรารวยได้ก็คือ   การซื้อหุ้นของบริษัทที่ดีในราคาที่ต่ำหรือราคายุติธรรม     การซื้อหุ้นของกิจการที่เลวในราคาถูกไม่ทำให้เรารวย   เช่นเดียวกัน   การซื้อหุ้นของกิจการที่ดีในราคาแพงก็ไม่ทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดี

ข้อ 5   กระจายความเสี่ยงโดยการถือหุ้นจำนวนพอสมควร   ประมาณ  5 - 10 ตัว   แต่อย่ากระจายมากเกินไปเพราะมันจะทำให้ผลตอบแทนลดลงจนไม่สามารถจะทำผลงานที่ดีได้    เกณฑ์คร่าว ๆ  ก็คือ  อย่าซื้อหุ้นถ้าเราไม่พร้อมที่จะถือมันถึง  5%  ของพอร์ต  ในอีกด้านหนึ่ง   อย่าซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินกว่า  50%  ของพอร์ต

ข้อ 6   ถือพอร์ตของหุ้นตลอดเวลาแม้ในยามวิกฤติ   เหตุก็เพราะว่าในยามนั้นราคาหุ้นมักจะตกต่ำลงมากมาก่อนแล้ว    จงจำไว้ว่าดัชนีหุ้นนั้นเป็นดัชนี  “ชี้นำ”     ไม่ใช่ดัชนี  “ตาม”   ของภาวะเศรษฐกิจ   นั่นหมายความว่า   เราจะเอาภาวการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบันมาเป็นเครื่องชี้ว่าเราควรจะถือหุ้นหรือไม่ไม่ได้    แน่นอน   ถ้าเรารู้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรในอีกหนึ่งปีข้างหน้า   เราก็สามารถนำมาใช้ในการลงทุนได้    แต่ข้อเท็จจริงก็คือ   ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำพอ    ดังนั้น   อย่าสนใจเรื่องภาวะเศรษฐกิจ   ถือพอร์ตของหุ้นที่จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร

ข้อ 7  อย่าซื้อ ๆ  ขาย  ๆ  หุ้นโดยอิงจากภาวะตลาดหรือราคาของหุ้นรายวันหรือรายเดือน   พิจารณาปรับพอร์ตจากข้อมูลพื้นฐานของบริษัท  เช่น  ผลการดำเนินงาน   ความแข็งแกร่งของกิจการ   ปัจจัยภายนอกที่กระทบกับการดำเนินงานของบริษัท  โดยเฉลี่ยแล้ว  ระยะเวลาการถือหุ้นแต่ละตัวไม่ควรจะต่ำกว่า  2- 3  ปี

ข้อ 8  ผลการดำเนินงานของบริษัทไม่จำเป็นต้องดีขึ้นทุกปี  ในบางปีผลการดำเนินงานอาจจะถดถอยลงได้เนื่องจากปัจจัยภายนอกบางอย่างอย่างเช่นภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ   แต่สิ่งสำคัญก็คือ   ความแข็งแกร่งของบริษัทควรจะต้องรักษาไว้ได้    แต่ถ้าความแข็งแกร่งของบริษัทกลับเพิ่มขึ้นในยามที่ผลการดำเนินงานลดลง   สถานการณ์แบบนี้เราควรจะยินดีและถือว่าเป็นความ  “ก้าวหน้า”  ไม่ใช่ความถดถอยของบริษัท   เหตุผลก็เพราะว่า   หลังจากความถดถอยของกำไรแล้ว  กิจการจะเติบโตและทำกำไรดีขึ้นเป็นทวีคูณในอนาคต  เนื่องจากคู่แข่งอาจจะล้มหายหรืออ่อนเปลี้ยลง   ในขณะที่กิจการของบริษัทจะเติบโตและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ข้อ 9  ติดตามผลการดำเนินงานของบริษัททั้งจาก   “ในสนาม”   คือเรื่องของผลิตภัณฑ์ในท้องตลาด   และจากสื่อสารมวลชนต่าง ๆ   โดยเฉพาะในหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจ    อย่าตื่นเต้นกับประเด็นต่าง ๆ  ที่ไม่ได้มีความสำคัญ   “ในเชิงยุทธศาสตร์”   นั่นก็คือ  มันไม่ได้เป็นข้อมูลที่จะเปลี่ยนสาระสำคัญของความสามารถของกิจการ     “ข่าวดี”  และ  “ข่าวร้าย” ที่ปรากฏในสื่อนั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องที่ “เกิด” แล้วก็  “ดับ” ไป  โดยที่ไม่ได้มีผลในระยะยาวกับบริษัทเลย   แต่บางครั้งมันทำให้ราคาหุ้นขึ้นลง  “ชั่วคราว”   และมันอาจเป็นโอกาสที่เราจะฉกฉวยประโยชน์ได้

ข้อ 10  เป้าหมายสูงสุดจริง ๆ  ของการลงทุนก็คือ    ปันผลของพอร์ตหุ้นของเรา   ความสำเร็จของการลงทุนอย่างจริงจังก็คือ   การที่เราเห็นปันผลของเรามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย  ๆ   ปีแล้วปีเล่า   เพราะถ้ามันเป็นอย่างนั้น   ในที่สุดเราก็จะพบว่า   ปันผลที่เราได้รับแต่ละปีนั้น   เพียงพอที่จะเลี้ยงชีวิตเราได้โดยไม่ต้องหารายได้จากแหล่งอื่น   และนั่นก็คือ  ความเป็นอิสระทางการเงินที่จะทำให้เราสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตได้ตามที่เราต้องการ   ดังนั้น  นักลงทุนที่มุ่งมั่นทุกคนควรจะต้องจดบันทึกเงินปันผลที่ได้รับในแต่ละปี   ทุกปีที่เรารวบรวมรายรับจากปันผลเสร็จ   ลองตรวจดูว่ามันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าหรือไม่   ถ้ามันยังเพิ่มขึ้นก็อย่าได้กังวลแม้ว่ามูลค่าพอร์ตลงทุนจะลดลง    เพราะ  ปันผลนั้นเป็น  “ของแท้”   แต่ราคาหุ้นเป็นของ   “ชั่วคราว”   ถ้าปันผลยังดีอยู่  ในที่สุดราคาหุ้นก็จะตามมา

ทั้งหมดนั้นก็คือ  “เข็มทิศลงทุน”  ซึ่งถ้าเราเดินตามอย่างมั่นคง  มันจะพาเราไปที่  “ทิศเหนือ”   สู่ความมั่งคั่งและความสำเร็จ

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 10:50 pm
โดย Dekfaifah
ยอดเยี่ยมไปเลยครับ

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 11:09 pm
โดย i_sarut
ช่วงนี้ ดร. เขียนบทความสรุปเนื้อหาให้เป็นข้อๆเยอะดีครับ ชอบๆ  :bow:

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 11:19 pm
โดย Tlk
เป็นหลักชัยที่เห็นได้ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางเลยครับอาจารย์
ผมรอตามอ่านทุกสัปดาห์เลยครับ
สุดยอดอีกเช่นเคย

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 11:36 pm
โดย sutian
ขอบคุณมากๆเลยครับอาจารย์

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 11:44 pm
โดย Diablo
ประทับใจ ข้อ 10 มากครับ  :D

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ เม.ย. 05, 2009 11:48 pm
โดย vi_tal signs
ขอคารวะ

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 06, 2009 11:32 am
โดย NoNameLFC
ขอบคุณ ทั้งอาจารย์ และ คนนำบทความมาลงครับ  :lol:

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 06, 2009 11:37 am
โดย ProjectSoul
ขอบคุณมากครับ  :D

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 06, 2009 1:35 pm
โดย MO101
ข้อ 10  เป้าหมายสูงสุดจริง ๆ  ของการลงทุนก็คือ    ปันผลของพอร์ตหุ้นของเรา   ความสำเร็จของการลงทุนอย่างจริงจังก็คือ   การที่เราเห็นปันผลของเรามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย  ๆ   ปีแล้วปีเล่า   เพราะถ้ามันเป็นอย่างนั้น   ในที่สุดเราก็จะพบว่า   ปันผลที่เราได้รับแต่ละปีนั้น   เพียงพอที่จะเลี้ยงชีวิตเราได้โดยไม่ต้องหารายได้จากแหล่งอื่น   และนั่นก็คือ  ความเป็นอิสระทางการเงินที่จะทำให้เราสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตได้ตามที่เราต้องการ   ดังนั้น  นักลงทุนที่มุ่งมั่นทุกคนควรจะต้องจดบันทึกเงินปันผลที่ได้รับในแต่ละปี   ทุกปีที่เรารวบรวมรายรับจากปันผลเสร็จ   ลองตรวจดูว่ามันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าหรือไม่   ถ้ามันยังเพิ่มขึ้นก็อย่าได้กังวลแม้ว่ามูลค่าพอร์ตลงทุนจะลดลง    เพราะ  ปันผลนั้นเป็น  “ของแท้”   แต่ราคาหุ้นเป็นของ   “ชั่วคราว”   ถ้าปันผลยังดีอยู่  ในที่สุดราคาหุ้นก็จะตามมา
เห็นมีหลายท่านยังเข้าใจคลาดเคลื่อน กล่าวคือ มี port เล็กแต่ใจกล้าเกินพิกัด
เล่นหุ้น แนว VI โดยใช้ Margin เพื่อให้ถึงข้อที่ 10 ได้เร็วกว่าคนอื่นๆ โดยยังไม่ได้ทำ 1-9 ให้เสร็จก่อน อาจมีอันตรายได้ เปรียบได้กับออกเรื่อแล้วแต่ลืมเข็มทิศ ระวังกันด้วย

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 06, 2009 2:34 pm
โดย Paul VI
ข้อ 1 เป็น ข้อที่ต้องเตือนใจตัวเองทุกครั้ง เพราะมักจะลืม จนกลายเป็น เทรดหุ้น ชั่ววูบ... :8)

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 06, 2009 9:28 pm
โดย Amadeus
ข่าวดี  และ  ข่าวร้าย ที่ปรากฏในสื่อนั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องที่ เกิด แล้วก็  ดับ ไป  โดยที่ไม่ได้มีผลในระยะยาวกับบริษัทเลย   แต่บางครั้งมันทำให้ราคาหุ้นขึ้นลง  ชั่วคราว   และมันอาจเป็นโอกาสที่เราจะฉกฉวยประโยชน์ได้
ขอบคุณ อ.นิเวศน์ มากๆครับที่ช่วยเตือนสติเสมอ

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 06, 2009 10:34 pm
โดย Renne
อ่านจบทำให้เข้าใจในหลายๆเรื่องขึ้นมาก

ผมคนหนึ่้่งละที่เข้าใจผิดในบางเรื่อง เพราะถึงแม้เวลาเลือกซื้อหุ้น จะเลือกลงทุนในกิจการที่โตได้และพื้นฐานดีก็จริง แต่ในตอนแรกก็มีความเข้าใจว่าให้ขายออกไปหากราคาขึ้นมาสูงมาก(จนสูงกว่าราคาจริงของมันเพราะเป็นผลมาจากการที่มีคนมาปั่นหุ้นที่เราถือ)และรอซื้อเมื่อราคาต่ำอีกรอบ

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ :) ส่วนตัวผมยังพยายามยึดและปรับเปลี่ยนแนวทางการลงทุนให้เข้าร่องเข้ารอยมากขึ้น บทความหลายๆอย่างรวมทั้งหนังสือของ อาจารย์นิเวศน์ ช่วยผมได้มากทีเดียว

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ เม.ย. 06, 2009 10:54 pm
โดย Calcio 8
เอ หุ้นที่ดีราคาแพง แล้วอย่าง CPALL ของท่านอาจารย์ ณ ปัจจุบันถือว่าราคาแพงหรือป่าวครับ

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 08, 2009 1:24 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ขอบคุณท่านอ. ครับ  :bow:

เอาไปจารึกบนแผ่นศิลาดีไหมครับเหมือนในหนังจีนกำลังภายในแต่ไม่ต้องซ่อนให้ลึกลับมากไปเดี๋ยวหายากครับ  :ep:  

ปล. ช่วงนี้ช่างน่ายินดียิ่งนักที่มีของวิเศษ2สิ่งมารวมตัวกัน นั่นก็คือ"เข็มทิศชีวิต" กับ "เข็มทิศลงทุน" :mrgreen:

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ เม.ย. 08, 2009 1:59 pm
โดย i_sarut
Calcio 8 เขียน:เอ หุ้นที่ดีราคาแพง แล้วอย่าง CPALL ของท่านอาจารย์ ณ ปัจจุบันถือว่าราคาแพงหรือป่าวครับ
ผมว่าแล้วแต่คนนะครับ ราคานี้

แต่ ดร. ซื้อที่ทุนต่ำกว่านี้เยอะครับถ้าจำไม่ผิด

เข็มทิศลงทุน /ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 05, 2009 10:01 am
โดย holidaytours
หาหุ้นของกิจการที่เข้าใจได้ง่ายและเราสามารถคาดการณ์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอีก  5-10 ปี  ข้างหน้า - เห็นด้วยอย่างยิ่งคับ ลองนึกถึงที่หุ้นลงลึกรอบนี้ถึง สามร้อยกว่า ถ้าเราไม่เข้าใจบริษัทเราที่เราถือหุ้น คงกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยทีเดียว มันจะเจ๊งไหมน้า  :lol: