STPI ประวัติเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ??
โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 24, 2009 1:26 pm
มีหลายคนชอบพูดว่า STPI นั้นตัวแสบถ้าจะเล่นไปดูประวัติมันดีๆน่ะ แต่ผมว่าถ้าดูดีๆมันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นน่ะ ออกจะสวยหรูด้วยซ้ำ
STPI ถูกนำเข้าเป็นหนึ่งในร้อยคนร้อยหุ้นช่วงปลายปี 2006 โดย คุณ HOTNONAME
ช่วงนั้น STPI เป็นหุ้น Hot Hit มาก เพราะ ผลงานสามไตรมาสที่ผ่านมาสวยหรูเหลือเกิน และก็คาดกันว่าไตรมาสสี่ก็จะออกมาสวยหรูและปันผลงาม แต่ฝันของนักลงทุนก็ต้องพังทลายลงหลังจากที่ งบปี 2006 ออกมา มีการกันสำรองไปจำนวน 120 ล้านบาทได้ ทำให้กำไรหดหายไปตามกัน( แต่ก็ยังสูงถึง .98 บาท) และ ปันผลที่คาดว่าจะสวยหรู ก็เหลือแค่ 5 สตางค์ โดยเหตุผลที่ว่าต้องสำรองไว้รองรับกับงานที่คาดว่าจะได้ในอนาคต ซึ่งเหตุผลก็ฟังขึ้นอยู่ ถ้าเอาไว้ขยายงานจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ ราคา STPI ร่วงจาก 4 บาทกว่า เหลือแค่ 2 บาทปลายๆ ซึ่งนี่น่าจะเป็นครั้งเดียวที่ STPI ทำ นักลงทุนผิดหวังอย่างแรง เพราะเรื่อง กันสำรองนี้ บริษัทไม่เคยพูดถึงมาก่อนเลย บอกแต่เรื่องรายได้ว่าจะดีมาก แล้วผลออกมารายได้ก้อดีจริง เค้าก็ไม่ได้โกหกอะไร แต่แค่บอกไม่หมดเรื่องกันสำรอง เลยเล่นเอาเจ๊งไปตามๆกัน
พอมาปี 2007 ปีนี้รายได้บริษัทก็ไม่มีไรหวือหวาเลย เหมือนแทบจะไม่มี สงสัยอาจจะเตรียมตัวรับศึกใหญ่พลูโตอยู่ ^^ เตรียมตัวซะตั้งแต่ยังไม่รุ้ผลประมูลเลย ทำให้ผลออกมาทั้งปีบริษัทขาดทุนเล็กน้อยที่ประมาณ 6.5 ล้านบาท...แต่มีดีที่ปีนี้ คุณ อนุทิน ชาญวีรกุล มาทวงบัลลังค์ ซื้อหุ้นคืนจากคุณ ชำนิ ประมาณ 10 ล้านหุ้น แล้วก้อมีซื้อจากรายใหญ่อีกคน ประมาณ 7 ล้านหุ้นได้ แล้วก็เหมือนเป็นการจุดพุให้กับราคา หุ้น STPI เลย
พอมาปี 2008 ช่วงต้นปีก็ประกาศมาว่าได้งานแล้ว (กว่าจะประกาศได้ รอจนเหงือกแห้ง ) อันนี้ขอพาดพิงนักวิเคราะห์ที่นึงได้มั้ยครับ ทาง STPI เชิญให้ไปฟัง แต่ดันปฏิเสธ บอกว่า STPI หุ้นปั่น ตัวเล็ก ไม่น่าสนใจ ฟังแล้วมันไม่สบอารมณ์เสียจริงๆ ทั้งๆที่ตอนนั้น STPI ประกาศมาโต้งๆว่าได้งานพลูโตแล้ว
ปี 2008 นี้ STPI ก็โชว์ผลงานทั้งปีอย่างสวยงาม และ ให้ปันผลสูงถึง 2.40 บาท เรียกได้ว่าให้ย้อนหลังจากที่ไม่ได้ให้มานานเลยทีเดียว
ดูจากประวัติคร่าวแล้ว ผมว่าSTPI มีทำผิดหวังหนักๆแค่ครั้งเดียว แต่ที่เกินหวังนี่เยอะแยะมากมายเหลือเกินครับ ^^ แต่จะติดก็ตรงราคาหุ้นนี่ยังไม่สมหวังซักที แต่พอเอาไปเทียบกับ หุ้นตัวอื่นๆ ในตลาดหุ้น ก็โอเคเลยทีเดียว SET ลงมา 50% ได้ แต่ STPI มาแถวๆ high เดิมแล้ว
งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ คุณ มาศถวิน ชาญวีรกุล ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง เห็นว่า อายุยัง 30 กว่าๆอยู่เลย แต่สร้างความแข็งแกร่งและพา STPI มาถึงขนาดนี้ จากบริษัทเล็กๆ มูลค่า ไม่กี่ร้อยล้าน ตอนนี้ก็กลายเป็น 2000 กว่าล้านเข้าไปแล้ว อนาคตยังไม่รู้จะไปอีกแค่ไหน เพราะยังมีงานพลูโต เฟส 2 เฟส 3 เข้าแถวรออยู่ งานเฟสแรกนี้เหมือนจะสร้างความพอใจให้กับ Wood Side อย่างมาก เดี๋ยวพวกบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจพลังงานคงเริ่มหมายตาเราบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Shell, Exxon, etc (อันนี้ผมฝันเฟื่องไปเองน่ะครับ เผื่อฟลุ๊คๆ 55 :D ) งานพลูโตนี้ก็เหมือนสร้างชื่อให้กับ STPI เป็นสะพานก้าวไปสู่ระดับ World class เลยทีเดียว
PS. งานนี้ต้องขอขอบคุณ พี่หมอสามัญชนด้วยครับ ที่เป็นกำลังสำคัญในการหาข่าวสารข้อมูล สุดยอดจริงๆครับ ถ้าไม่ได้พี่หมอช่วยให้ข้อมูลคงถอดใจขายทิ้งไปหลายทีแล้ว
STPI ถูกนำเข้าเป็นหนึ่งในร้อยคนร้อยหุ้นช่วงปลายปี 2006 โดย คุณ HOTNONAME
ช่วงนั้น STPI เป็นหุ้น Hot Hit มาก เพราะ ผลงานสามไตรมาสที่ผ่านมาสวยหรูเหลือเกิน และก็คาดกันว่าไตรมาสสี่ก็จะออกมาสวยหรูและปันผลงาม แต่ฝันของนักลงทุนก็ต้องพังทลายลงหลังจากที่ งบปี 2006 ออกมา มีการกันสำรองไปจำนวน 120 ล้านบาทได้ ทำให้กำไรหดหายไปตามกัน( แต่ก็ยังสูงถึง .98 บาท) และ ปันผลที่คาดว่าจะสวยหรู ก็เหลือแค่ 5 สตางค์ โดยเหตุผลที่ว่าต้องสำรองไว้รองรับกับงานที่คาดว่าจะได้ในอนาคต ซึ่งเหตุผลก็ฟังขึ้นอยู่ ถ้าเอาไว้ขยายงานจริงๆ
ด้วยเหตุนี้ทำให้ ราคา STPI ร่วงจาก 4 บาทกว่า เหลือแค่ 2 บาทปลายๆ ซึ่งนี่น่าจะเป็นครั้งเดียวที่ STPI ทำ นักลงทุนผิดหวังอย่างแรง เพราะเรื่อง กันสำรองนี้ บริษัทไม่เคยพูดถึงมาก่อนเลย บอกแต่เรื่องรายได้ว่าจะดีมาก แล้วผลออกมารายได้ก้อดีจริง เค้าก็ไม่ได้โกหกอะไร แต่แค่บอกไม่หมดเรื่องกันสำรอง เลยเล่นเอาเจ๊งไปตามๆกัน
พอมาปี 2007 ปีนี้รายได้บริษัทก็ไม่มีไรหวือหวาเลย เหมือนแทบจะไม่มี สงสัยอาจจะเตรียมตัวรับศึกใหญ่พลูโตอยู่ ^^ เตรียมตัวซะตั้งแต่ยังไม่รุ้ผลประมูลเลย ทำให้ผลออกมาทั้งปีบริษัทขาดทุนเล็กน้อยที่ประมาณ 6.5 ล้านบาท...แต่มีดีที่ปีนี้ คุณ อนุทิน ชาญวีรกุล มาทวงบัลลังค์ ซื้อหุ้นคืนจากคุณ ชำนิ ประมาณ 10 ล้านหุ้น แล้วก้อมีซื้อจากรายใหญ่อีกคน ประมาณ 7 ล้านหุ้นได้ แล้วก็เหมือนเป็นการจุดพุให้กับราคา หุ้น STPI เลย
พอมาปี 2008 ช่วงต้นปีก็ประกาศมาว่าได้งานแล้ว (กว่าจะประกาศได้ รอจนเหงือกแห้ง ) อันนี้ขอพาดพิงนักวิเคราะห์ที่นึงได้มั้ยครับ ทาง STPI เชิญให้ไปฟัง แต่ดันปฏิเสธ บอกว่า STPI หุ้นปั่น ตัวเล็ก ไม่น่าสนใจ ฟังแล้วมันไม่สบอารมณ์เสียจริงๆ ทั้งๆที่ตอนนั้น STPI ประกาศมาโต้งๆว่าได้งานพลูโตแล้ว
ปี 2008 นี้ STPI ก็โชว์ผลงานทั้งปีอย่างสวยงาม และ ให้ปันผลสูงถึง 2.40 บาท เรียกได้ว่าให้ย้อนหลังจากที่ไม่ได้ให้มานานเลยทีเดียว
ดูจากประวัติคร่าวแล้ว ผมว่าSTPI มีทำผิดหวังหนักๆแค่ครั้งเดียว แต่ที่เกินหวังนี่เยอะแยะมากมายเหลือเกินครับ ^^ แต่จะติดก็ตรงราคาหุ้นนี่ยังไม่สมหวังซักที แต่พอเอาไปเทียบกับ หุ้นตัวอื่นๆ ในตลาดหุ้น ก็โอเคเลยทีเดียว SET ลงมา 50% ได้ แต่ STPI มาแถวๆ high เดิมแล้ว
งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ คุณ มาศถวิน ชาญวีรกุล ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง เห็นว่า อายุยัง 30 กว่าๆอยู่เลย แต่สร้างความแข็งแกร่งและพา STPI มาถึงขนาดนี้ จากบริษัทเล็กๆ มูลค่า ไม่กี่ร้อยล้าน ตอนนี้ก็กลายเป็น 2000 กว่าล้านเข้าไปแล้ว อนาคตยังไม่รู้จะไปอีกแค่ไหน เพราะยังมีงานพลูโต เฟส 2 เฟส 3 เข้าแถวรออยู่ งานเฟสแรกนี้เหมือนจะสร้างความพอใจให้กับ Wood Side อย่างมาก เดี๋ยวพวกบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจพลังงานคงเริ่มหมายตาเราบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Shell, Exxon, etc (อันนี้ผมฝันเฟื่องไปเองน่ะครับ เผื่อฟลุ๊คๆ 55 :D ) งานพลูโตนี้ก็เหมือนสร้างชื่อให้กับ STPI เป็นสะพานก้าวไปสู่ระดับ World class เลยทีเดียว
PS. งานนี้ต้องขอขอบคุณ พี่หมอสามัญชนด้วยครับ ที่เป็นกำลังสำคัญในการหาข่าวสารข้อมูล สุดยอดจริงๆครับ ถ้าไม่ได้พี่หมอช่วยให้ข้อมูลคงถอดใจขายทิ้งไปหลายทีแล้ว