3 เจ้าสัวไทย"ติดโผเศรษฐีโลก
โพสต์แล้ว: ศุกร์ มี.ค. 13, 2009 8:24 am
3 เจ้าสัวไทย"ติดโผเศรษฐีโลก
:"เฉลียว-เจริญ-ธนินท์" มีสินทรัพย์รวม7พันล้านเหรียญ
3เจ้าสัวไทยรวยระดับโลก "เฉลียว"เจ้าพ่อเครื่องดื่มกระทิงแดงอันดับ151 ส่วน"เจริญ"รั้งอันดับ 318 ขณะที่"ธนินท์"ติดอันดับ 559 ส่วน"บิลเกตส์"มหาเศรษฐีสหรัฐ คืนสู่บัลลังก์บุคคลรวยทสุดในโลก จากการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลกประจำปีนี้
รายงานข่าวเปิดเผยว่า"นิตยสารฟอร์บส์"ทำการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐโลกประจำปี 2009 โดยปีนี้จำนวนของอภิมหาเศรษฐีทั่วโลกมีเพียง 793 คน ลดลงจากปีที่แล้ว มีจำนวน 1,125 คนโดยมีมูลค่าทรัพย์สินความร่ำรวยรวมกันทั้งสิ้นเป็นจำนวน 1,74 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีที่แล้วเป็นจำนวน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์
โดยภูมิภาคเอเชีย บุคคลที่ติดอันดับร่ำรวยที่สุดคือ นายลี กาชิง อภิมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง ติดอันดับ 16 ขณะที่นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อนักธุรกิจ"กระทิงแดง" ติดอันดับ 151 มีทรัพย์สินมูลค่า 3,700 ล้านดอลลาร์,นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจแอลกอฮอลล์และอสังหาริมทรัพย์มีทรัพย์สินมูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์และนายธนินท์ เจียรวนนท์เจ้าพ่อนักธุรกิจ"ซีพี"ติดอันดับ 559 มีทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์
สำหรับแชมป์ประจำปีนี้ปรากฎว่าเป็นนายบิล เกตส์ ผู้บริหารกิจการไมโครซอฟท์ มีทรัพย์สินเป็นจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์ รายได้ลดลง 1,800 ล้านดอลลาร์ (เกือบหนึ่งในสาม)กลับขึ้นมาครองอันดันแชมป์อภิมหาเศรษฐีโลกอีกครั้ง
ส่วนอันดับสองได้แก่ วอร์เรน บัฟเฟต์ มหาเศรษฐีเจ้าของ"กองทุนเบิร์กไชร์"ซึ่งมีทรัพย์สิน 37,000 ล้านดอลลาร์ ลดลง 25,000 ล้านดอลลาร์ ร่วงจากอันดับแชมป์ที่แล้วเนื่องจากมูลค่าการลงทุน ส่นใหญ่จากภาคประกันและกันภาคการเงินลดลงจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่วนคาร์ลอส ซาลิม เฮลู มหาเศรษฐีธุรกิจเทเลคอม ชาวเม็กซิกัน ติดอันดับสาม มีทรัพย์สิน 35,000 ล้านดอลลาร์ ลดลง 25,000 ล้านดอลลาร์
รายงานระบุอีกว่า จำนวนอภิมหาเศรษฐี ส่วนใหญ่ที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย,อินเดีย และตุรกี โดยปีนี้ตุรกีมีอภิมหาเศรษฐีลดลงเหลือ 13 จากปีที่แล้ว 35 รายสาเหตุบางส่วนจากภาวะค่าเงินท้องถิ่นตก ขณะที่นายอานิล อัมบานี อภิมหาเศรษฐีที่มีรายได้เพิ่มขึ้นมากที่สุดปีที่แล้ว ปีนี้กลับกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีที่เจ็บตัวมากสุด โดยมีรายได้ตกลงกว่า31,900 ล้านดอลลาร์ ร่วงลงมาที่อันดับ 34
ขณะที่นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์กถือเป็นอภิมหาเศรษฐีคนเดียวใน 20 อันดับที่ไม่มีทรัพย์สินขาดทุน โดยมีทรัพย์สิน 16,000 ล้านดอลลาร์ จากปีที่แบ้ว 11,500 ล้านดอลลาร์และถือเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในนิวยอร์ก ผงาดขึ้นจากอันดับ 65 สู่อันดับ 17 ด้วย
ขณะเดียวกัน"ฟอรบส์"ระบุด้วยว่า ปีนี้นิวยอร์กผงาดกลายเป็นเมืองที่อภิมหาเศรษฐีเหนือกว่ามอสโก ซึ่งอภิมหาเศรษฐีส่วนใหญ่หุ้นตก และมีอภิมหาเศรษฐีลดลงเหลือ 32 คนจากปีที่แล้ว 87 คน
สำหรับอภิมหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ปรากฎว่ามีบุคคลติดอันดับเพียง 25 คน เทียบกับปีที่แล้ว 35 คนและทั้งหมดมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันลดลง 37,400 ล้านดอลลาร์ โดยบุคคลที่ร่ำรวยสุดของอังกฤษคือ ดุ๊ค แห่งเวสต์มินเตอร์ มีทรัพย์สินมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์ลดลงจากปีที่แล้ว 3,000 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยเดวิด และไซมอน ริเบ็น มหาเศรษฐีธุรกิจเหล็ก มีทรัพย์สินรวมกัน 5,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดีที่น่าจับตาคือ นายโจควิน กุซแมน โลร่า เจ้าพ่อค้ายาเสพติดชาวเม็กซิโก กลับผงาดมีชื่อติดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลก มีทรัพย์สินมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่เขาเป็นที่ต้องการตัวของรัฐบาลสหรัฐ
ด้านนายแม็ทธิว มิลเล่อร์ ประธาน"ฟอร์บส์"บอกว่าอภิมหาเศรษฐีที่สูญเสียทรัพย์สินเพียง 20 % ถือว่าน่าพอใจแล้ว เช่น ตระกูล"วอลตัน"ผู้ก่อตั้งห้างค้าปลีกวอลล์มาร์ท ซึ่งสูญเสียทรัพย์สิน 5,000 ล้านดอลลาร์
-------------------------
วันที่ 13 มี.ค. 2552 แสดงข่าวมาแล้ว -1วัน 12ช.ม. 10นาที
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/cor ... ?cid=24963
:"เฉลียว-เจริญ-ธนินท์" มีสินทรัพย์รวม7พันล้านเหรียญ
3เจ้าสัวไทยรวยระดับโลก "เฉลียว"เจ้าพ่อเครื่องดื่มกระทิงแดงอันดับ151 ส่วน"เจริญ"รั้งอันดับ 318 ขณะที่"ธนินท์"ติดอันดับ 559 ส่วน"บิลเกตส์"มหาเศรษฐีสหรัฐ คืนสู่บัลลังก์บุคคลรวยทสุดในโลก จากการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลกประจำปีนี้
รายงานข่าวเปิดเผยว่า"นิตยสารฟอร์บส์"ทำการจัดอันดับอภิมหาเศรษฐโลกประจำปี 2009 โดยปีนี้จำนวนของอภิมหาเศรษฐีทั่วโลกมีเพียง 793 คน ลดลงจากปีที่แล้ว มีจำนวน 1,125 คนโดยมีมูลค่าทรัพย์สินความร่ำรวยรวมกันทั้งสิ้นเป็นจำนวน 1,74 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีที่แล้วเป็นจำนวน 4.4 ล้านล้านดอลลาร์
โดยภูมิภาคเอเชีย บุคคลที่ติดอันดับร่ำรวยที่สุดคือ นายลี กาชิง อภิมหาเศรษฐีชาวฮ่องกง ติดอันดับ 16 ขณะที่นายเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อนักธุรกิจ"กระทิงแดง" ติดอันดับ 151 มีทรัพย์สินมูลค่า 3,700 ล้านดอลลาร์,นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจแอลกอฮอลล์และอสังหาริมทรัพย์มีทรัพย์สินมูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์และนายธนินท์ เจียรวนนท์เจ้าพ่อนักธุรกิจ"ซีพี"ติดอันดับ 559 มีทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์
สำหรับแชมป์ประจำปีนี้ปรากฎว่าเป็นนายบิล เกตส์ ผู้บริหารกิจการไมโครซอฟท์ มีทรัพย์สินเป็นจำนวน 40,000 ล้านดอลลาร์ รายได้ลดลง 1,800 ล้านดอลลาร์ (เกือบหนึ่งในสาม)กลับขึ้นมาครองอันดันแชมป์อภิมหาเศรษฐีโลกอีกครั้ง
ส่วนอันดับสองได้แก่ วอร์เรน บัฟเฟต์ มหาเศรษฐีเจ้าของ"กองทุนเบิร์กไชร์"ซึ่งมีทรัพย์สิน 37,000 ล้านดอลลาร์ ลดลง 25,000 ล้านดอลลาร์ ร่วงจากอันดับแชมป์ที่แล้วเนื่องจากมูลค่าการลงทุน ส่นใหญ่จากภาคประกันและกันภาคการเงินลดลงจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่วนคาร์ลอส ซาลิม เฮลู มหาเศรษฐีธุรกิจเทเลคอม ชาวเม็กซิกัน ติดอันดับสาม มีทรัพย์สิน 35,000 ล้านดอลลาร์ ลดลง 25,000 ล้านดอลลาร์
รายงานระบุอีกว่า จำนวนอภิมหาเศรษฐี ส่วนใหญ่ที่ลดลงส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย,อินเดีย และตุรกี โดยปีนี้ตุรกีมีอภิมหาเศรษฐีลดลงเหลือ 13 จากปีที่แล้ว 35 รายสาเหตุบางส่วนจากภาวะค่าเงินท้องถิ่นตก ขณะที่นายอานิล อัมบานี อภิมหาเศรษฐีที่มีรายได้เพิ่มขึ้นมากที่สุดปีที่แล้ว ปีนี้กลับกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีที่เจ็บตัวมากสุด โดยมีรายได้ตกลงกว่า31,900 ล้านดอลลาร์ ร่วงลงมาที่อันดับ 34
ขณะที่นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์กถือเป็นอภิมหาเศรษฐีคนเดียวใน 20 อันดับที่ไม่มีทรัพย์สินขาดทุน โดยมีทรัพย์สิน 16,000 ล้านดอลลาร์ จากปีที่แบ้ว 11,500 ล้านดอลลาร์และถือเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดในนิวยอร์ก ผงาดขึ้นจากอันดับ 65 สู่อันดับ 17 ด้วย
ขณะเดียวกัน"ฟอรบส์"ระบุด้วยว่า ปีนี้นิวยอร์กผงาดกลายเป็นเมืองที่อภิมหาเศรษฐีเหนือกว่ามอสโก ซึ่งอภิมหาเศรษฐีส่วนใหญ่หุ้นตก และมีอภิมหาเศรษฐีลดลงเหลือ 32 คนจากปีที่แล้ว 87 คน
สำหรับอภิมหาเศรษฐีชาวอังกฤษ ปรากฎว่ามีบุคคลติดอันดับเพียง 25 คน เทียบกับปีที่แล้ว 35 คนและทั้งหมดมีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันลดลง 37,400 ล้านดอลลาร์ โดยบุคคลที่ร่ำรวยสุดของอังกฤษคือ ดุ๊ค แห่งเวสต์มินเตอร์ มีทรัพย์สินมูลค่า 11,000 ล้านดอลลาร์ลดลงจากปีที่แล้ว 3,000 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยเดวิด และไซมอน ริเบ็น มหาเศรษฐีธุรกิจเหล็ก มีทรัพย์สินรวมกัน 5,000 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดีที่น่าจับตาคือ นายโจควิน กุซแมน โลร่า เจ้าพ่อค้ายาเสพติดชาวเม็กซิโก กลับผงาดมีชื่อติดอันดับอภิมหาเศรษฐีโลก มีทรัพย์สินมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่เขาเป็นที่ต้องการตัวของรัฐบาลสหรัฐ
ด้านนายแม็ทธิว มิลเล่อร์ ประธาน"ฟอร์บส์"บอกว่าอภิมหาเศรษฐีที่สูญเสียทรัพย์สินเพียง 20 % ถือว่าน่าพอใจแล้ว เช่น ตระกูล"วอลตัน"ผู้ก่อตั้งห้างค้าปลีกวอลล์มาร์ท ซึ่งสูญเสียทรัพย์สิน 5,000 ล้านดอลลาร์
-------------------------
วันที่ 13 มี.ค. 2552 แสดงข่าวมาแล้ว -1วัน 12ช.ม. 10นาที
http://www.kaohoon.com/pg.newspaper/cor ... ?cid=24963