Thai VI

รบกวนท่านทีพอมีความรู้เกี่ยวกับกองทุนนี้หน่อยนะครับ
คือ ผมพักเงินส่วนหนึ่งไว้ใน กองทุนหารไทยธนบดี
แต่เห็นว่าช่วงนี้ดอกเบี้ยลงมาต่ำมาก เลยคิดจะโยกเงินบางส่วน
ไปพักไว้ในกองทุนทหารไทยธนวัฒน์ซึ่งลงทุนในหุ้นกู้และตราสารหนี้ที่มีระยะเวลา
ครบกำหนดยาวกว่ากองธนบดี ซึ่งดูแล้วในระยะไม่เกิน 1 - 2 ปี ข้างหน้า
ดอกเบี้ยไม่น่าจะปรับตัวขึ้นมาก การลงทุนในกองทุนธนวัฒน์จึงน่าจะได้ประโยชน์
มากกว่ากองธนบดี

ข้อมูลส่วนตัวในเรื่องผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
ระยะเวลาการลงทุน : คิดว่าจะพักเงินไว้ 6 เดือน ถึง 1 ปี ในกองธนวัฒน์ครับ
ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ : ต่ำถึงปานกลาง ผมอยากให้ NAV ของเงินก้อนนี้
เพิ่มแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ อาจจะได้ปีละ 3-4 % ผมก็พอใจ
สภาพคล่อง : สูง เพราะวางแผนไว้ว่าจะเป็นแค่ที่พักเงินชั่วคราว

ผมเหมาะสมจะลงทุนในกองทุนนี้ไหมครับ ???

หรือท่านใดมีกองทุนอื่นแนะนำที่เห็นเหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้, ผลตอบแทนที่คาดหวัง, วัตถุประสงค์ในการลงทุน, ระยะเวลาในการลงทุน และ สภาพคล่องของผม ???

ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ
 

รอคำแนะนำจากทุกท่านอยู่นะครับ

 

2 กองนี้มันต่างกันแค่ว่าเป็น หุ้นกู้ของบริษัทไหนใช่มั๊ยครับ เท่าที่ดู Portfolio

ธนวัฒน์ถือพันธบัตรน้อยกว่า หุ้นกู้ก็เสี่ยงกว่าธนบดี ผลตอบแทนของ ธนวัฒน์ เลยสูงกว่า

จริงๆส่วนตัวผมว่ามันไม่ต่างกันมากนะเฮีย kornjackrit  

แต่ย้ายไปก็น่าจะดีนะครับเพราะได้ผลตอบแทนสูงกว่าเดิม

ว่าแต่ไม่สนหุ้นหรอครับ ช่วงนี้  :lol:

i_sarut เขียน:จริงๆส่วนตัวผมว่ามันไม่ต่างกันมากนะเฮีย kornjackrit  

แต่ย้ายไปก็น่าจะดีนะครับเพราะได้ผลตอบแทนสูงกว่าเดิม

ว่าแต่ไม่สนหุ้นหรอครับ ช่วงนี้

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากครับ

เรื่องหุ้นสนอยู่แล้วครับ อิอิ
เพียงแต่ ช่วงที่ยังไม่ได้ซื้อ ผมก็อยากจะมาพักเงินไว้น่ะครับ
(ฝากแบงค์แล้วดอกเบี้ยดูไม่ได้เลยครับ น้อยมากๆๆๆๆ
เล่นทองก็เสี่ยงอีกครับ เพราะผมไม่ค่อยมีความรู้ และช่วงนี้ทองก็เก็งกำไรกันมากแล้ว)
เพราะผมมองว่าหุ้นน่าจะยังซึมไปอีกสักพัก และช่วงนี้ผมก็ไม่ได้ติดตามหุ้นตัวไหนเป็นพิเศษด้วยครับ
เลยยังไม่รู้ว่าจะลงทุนในตัวไหนดีถึงแม้จะมีหลายตัวที่ผมว่า
ราคาี่ถูกมากทั้งๆที่กิจการยังมีผลการดำเนินงานที่ดีอยู่

รอปิดเทอมอย่างเดียวเลยครับ
ช่วงนี้สอบกลางภาคไม่ค่อยมีเวลาตามครับ

แล้วคุณ i_sarut เห็นว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
เป็นอย่างไรบ้างครับ ?

ผมว่าถ้ากลางปียังไม่ดีขึ้น ดอกเบี้ยก็ยิ่งใกล้ 0% นะ  

ส่วนตัวคิดว่าดอกเบี้ยคงไม่รีบขึ้นไปหรอกครับช่วง 1 - 2 ปีนี้  :lol:

ธนวัฒน์ มีขึ้นบ้างลงบ้างนะครับ แต่ธนบดีบวกเล็กๆทุกๆวัน

ระยะยาวธนวัฒน์ก็น่าจะคุ้มกว่า แต่ถึงเมื่อไหร่นี่สิครับ

ขอบคุณสำหรับความเห็นของ คุณ apothecary มากครับ

apothecary เขียน:ธนวัฒน์ มีขึ้นบ้างลงบ้างนะครับ แต่ธนบดีบวกเล็กๆทุกๆวัน

ระยะยาวธนวัฒน์ก็น่าจะคุ้มกว่า แต่ถึงเมื่อไหร่นี่สิครับ

ไม่เข้าใจว่าทำไมธนวัฒน์ถึงมี ขึ้น ๆ ลง ๆ ครับ  ถ้ามันลงทุนแค่ตราสารหนี้กับหุ้นกู้ มันก็น่าจะมีแต่ขึ้นกับขึ้น ไม่ใช่หรือครับ  :?:  :?:  :?:

[quote="PrasertsakK]ไม่เข้าใจว่าทำไมธนวัฒน์ถึงมี ขึ้น ๆ ลง ๆ ครับ  ถ้ามันลงทุนแค่ตราสารหนี้กับหุ้นกู้ มันก็น่าจะมีแต่ขึ้นกับขึ้น ไม่ใช่หรือครับ[/quote]

สาเหตุที่ NAV ขึ้นๆลงๆ เพราะว่ากองทุนต้องทำการ Mark to market ตราสารหนี้ที่ถือครับ( การปรับราคาตราสารหนี้ที่ถือ ให้สะท้อนกับอัตราดอกเบี้ยในตลาด ในแต่ละวัน ทุกๆวัน )

ยกตัวอย่างเช่น

พันธบัตร ก ( อันดับความน่าเชื่อถือ AAA )
ราคา Par 1000 บาท
้อัตราดอกเบี้ย 10 % ต่อปี
ครบกำหนดไถ่ถอน 10 ปี

สมมุติว่าดอกเบี้ยในตลาดสำหรับพันธบัีตรซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือ
อยู่ในระดับเดียวกับพันธบัตร ก ให้อัตราผลตอบแทน 10 %


ดังนั้ืน พันธบัตร ก จะมีราคาขายเท่ากับราคา Par คือ 1000 บาท

อีก 3 เดือนต่อมา
สมมุติว่าอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือ
อยู่ในระดับเดียวกับพันธบัตร ก ให้อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจาก 10 %
เป็น 20 % ราคาตลาดของพันธบัตรจะมีการเปลี่ยนแปลง
จากตอนแรกที่ขายในราคา 1000 บาท
เปลี่ยนเป็นขายในราคาที่น้อยกว่า 1000 บาท เพื่อให้ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในพันธบัตรเพิ่มสูงขึ้น
( ซื้อราคาต่ำกว่า 1000 บาท แต่ได้ผลตอบแทน 10 % ของ 1000 บาท
หรือ 100 บาท แสดงว่า ผลตอบแทนจะได้มากกว่า 10 % ในกรณีนี้ผลตอบแทนตามทฤษฎีจะต้องเท่ากับ 20 % ตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดครับ ซึ่งก็หมายความว่าราคาของพันธบัตร
จะต้องอยู่ที่ระดับประมาณ 580.7528 บาท )

จากตัวอย่างจะเห็นว่าเราซื้อพันธบัตร ก มาในราคา 1000 บาท
แต่ 3 เดือนต่อมาราคาของพันธบัตร ก ในตลาดกลับลดลงเหลือ 580 บาท
ดังนั้น ถ้าใช้วิธีการ Mark-to-market ก็จะทำให้เราขาดทุน
เท่ากับ 420 บาท แต่เป็นการขาดทุนทางบัญชี
เพราะสุดท้าย ถ้าเราถือพันธบัตร ก ต่อจนครบอายุ 10 ปี
และรัฐบาลยังมีความสามารถชำระคืนหนี้ได้ เราก็จะได้เงินต้น
กลับมาครบ 1000 บาท แต่สิ่งที่เราเสียจิงๆ คือค่าเสียโอกาส
ในการลงทุนให้ได้ผลตอบแทน 20 % ครับ

กองทุนตราสารหนี้ใช้วิธีนี้ในการบันทึกราคาของพันธบัตรแบบ Mark-to-market ดังนั้น NAV ของกองทุนจึงมีความผันผวนในระดับนึงครับ

kornjackrit เขียน:
กองทุนตราสารหนี้ใช้วิธีนี้ในการบันทึกราคาของพันธบัตรแบบ Mark-to-market ดังนั้น NAV ของกองทุนจึงมีความผันผวนในระดับนึงครับ

อย่างนี้หมายความว่า ธนบดี(ปกติ NAV จะเพิ่มขึ้นเสมอ) ไม่ได้คำนวนราคาแบบ Mark to market หรือครับ เพราะจากที่ฟังดู การคำนวนแบบนี้ก็ดูจะยุติธรรมดีนะครับ

PrasertsakK เขียน:อย่างนี้หมายความว่า ธนบดี(ปกติ NAV จะเพิ่มขึ้นเสมอ) ไม่ได้คำนวนราคาแบบ Mark to market หรือครับ เพราะจากที่ฟังดู การคำนวนแบบนี้ก็ดูจะยุติธรรมดีนะครับ

ความคิดส่วนตัวนะครับ

ผมคิดว่าธนบดีก็ใช้วิธีนี้ครับ เพียงแต่ตราสารหนี้ที่ธนบดีลงทุน
มีระยะเวลาในการครบกำหนดที่สั้น ซึ่งในช่วงเวลาที่สั้นนั้น ดอกเบี้ยมักจะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง และ ส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาล
ที่ราคามักไม่ค่อยผันผวน จึงทำให้ NAV โดยรวมขึ้นทุกวันครับ
( ผมคิดว่าตราสารหนี้บางตัวที่ ธนบดี ถือก็อาจจะมีราคาลดลงได้
แต่ส่วนใหญ่จะไม่เป็นเช่นนั้น จึงทำให้ NAV โดยรวมยังขึ้นอยู่ครับ )

ผมไม่แน่ใจว่า ธนบดี มีการ ป้องกันความเสี่ยงไว้ด้วยหรือไม่ ??
จึงทำให้ผลตอบแทนเป็นบวกตลอดอะคับ

ผิดถูกประัการใด รบกวนผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ

เรื่อง NAV ของธนบดี ผมว่าที่บวกเพราะเหตุผลที่คุณ kornjackrit ได้ให้ไว้ก่อนหน้าน่าจะใช่นะครับ
 แต่ด้วยความที่เป็นตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนระยะสั้นคงไม่ผันผวนจริงๆในแง่ผลตอบแทน

 แต่ที่น่ากังวลเพราะตอนนี้อัตราดอกเบี้ยทั้งระบบมันลดลงอย่างมาก ผลตอบแทนของธนบดีระยะหลังจะลดลงเร็วกว่า ธนรัฐแน่ครับ เพราะความที่เป็นระยะสั้นกว่า  ยิ่งพอร์ทมีพวกเงินฝากค่อนข้างสูงทีเดียว ก็ต้องรับดอกเบี้ยที่น้อยนิดมากๆจริงๆ

 ส่วนธนรัฐอาจจะได้ผลดีกว่าในแง่ตราสารที่ระยะยาวและยังไม่หมดอายุ เพราะยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า จึงทำให้ค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนในช่วงนี้ยังสูงได้

 แต่อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ช่วงหลังมีการออกหุ้นกู้ของบริษัทเอกชนหลายแหล่ง ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงพอสมควร เพราะต้องการสภาพคล่องไปเสริมให้การทำธุรกิจ ข้อนี้อาจทำให้ธนรัฐได้เปรียบก็ได้ครับในช่วงดอกเบี้ยขาลง

 ส่วนการป้องกันความเสี่ยงตอนนี้ธนบดีคงไม่ได้ทำ เพราะจากพอร์ทส่วนใหญ่เป็นพันธบัตร ตั๋วเงิน และเงินฝาก คงไม่เสี่ยงมากแล้วครับ ผิดจากปีก่อนที่มีการฝากในธนาคารต่างประเทศด้วย อาจมีการทำสวอร์ป หรือซื้อตราสารอนุพันธ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน ซึ่งในหนังสือชี้ชวนก็ระบุไว้ว่ากองทุนสามารถทำได้ถ้าจำเป็น

 ตอนนี้ผมว่าลงในธนรัฐหรือธนบดีก็พอไหวทั้งคู่ สำหรับที่พักเงินนะครับ แต่กำลังวางแผนสับเข้าออกกองหุ้นเพื่อสร้างผมตอบแทนระยะสั้นอยู่ครับ เพราะตลาด sideway แต่มีแกว่งๆเหมือนกัน ต่างจากช่วงก่อนที่ down trend อย่างเดียว
  ผมเคยลองช่วงตลาดดีๆแถวๆ 700-800 จุด ก็ทำกำไรได้ราวๆ 7 % ก็พอไหวนะครับ แต่ตอนนี้มันหายไปหมดแล้วครับ อิอิ :lol:

ขอบคุณคุณ apothecary มากครับ

ขอบคุณ คุณapothecary ด้วยอีกคน

วันนี้เดียวจะเอาเงินไปพักที่ ธนรัฐครับ

แต่โดยส่วนตัวผมชอบ ธนบดีมากกว่านะครับ

เพราะมีบัตร extracash (ตอนนี้รู้สึกจะทำไม่ได้) สามารถกดเงินสดมาใช้ได้เลย วันไหนหุ้นตกกดเงินมาซื้อเลย อิอิ

 Cash is the king ครับเวลานี้ สภาพคล่องก็สำคัญมากทีเดียว

[quote="apothecary"]แต่โดยส่วนตัวผมชอบ ธนบดีมากกว่านะครับ

เพราะมีบัตร extracash (ตอนนี้รู้สึกจะทำไม่ได้) สามารถกดเงินสดมาใช้ได้เลย วันไหนหุ้นตกกดเงินมาซื้อเลย อิอิ

สมัครฟรี ไม่มีค่าทำเนียมใดๆ

แต่มีข้อจำกัดตรงกดได้ไม่เกิดกี่บาทจำไม่ได้ครับ แต่ไม่สูงมากน่าจะหลักหมื่น
และกดเงินได้ไม่เกินกี่ % ของเงินที่ซื้อหน่วยไปก็จำไม่ได้อีกเช่นกัน

 ขอโทษทีนะครับ จำไม่ได้จิงๆๆ อยากสมัครลอง print ใบสมัครจาก web แล้วไปสมัครที่ bank หรือ บลจ. เลยครับ

ไม่มีท่านใดสนใจ "ธนวัฒน์" ตามหัวข้อกระทู้เลยหรอครับ ??

เงินสดของผมเกือบทั้งหมดอยู่ใน SCBSFF  กับ k-tressury  ครับ

เคยซื้อธนวัฒน์เหมือนกัน ก่อน subprime  
มีช่วงนึง nav ร่วงติดต่อกันหลายวัน  เลยถอนออกมาหมด
ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ของตราสารหนี้เอกชนที่ไปลงทุนหรือเปล่า      

ในสถานการณ์แบบนั้น  กองทุนที่มีนโยบายลงทุนใน coporate bond ก็ไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่   แม้ว่า credit rating จะเคยได้ AA- AA+ แต่ทางสถาบันก็สามารถปรับลดได้นี่ครับ  

อันไหนผิด ก็ทักท้วงเลยนะครับ  รอฟังอยู่เหมือนกัน

ขอบคุณมากคับพี่ Voldtrest

ด้วยส่วนตัวผมว่าตอนนี้อัตราผลตอบแทนของ ธนวัฒน์
ก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่แถมผันผวนมาก

ผมดู T-Money กับ T-Cash ของธนชาตอยู่ครับ
แต่รู้สึกว่ามันต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำสูงกว่าของทหารไทยนิดนึง

แต่ผมคงจะคงสถานะการลงทุนในกอง MMF ของทหารไทยส่วนนึง
เพื่อให้มีสิทธิในการใช้ห้องสมุดที่ Central World ซึ่งผมว่ามันคุ้มมากๆ

ไม่ทราบพี่ Voldtrest คิดอย่างไรครับ

ปล.ผมมีคำถามนิดนึงครับ ผมเห็นพี่ๆหลายคนเ้ลือกพักเงิน ใน SCBSFF
กับ K-Treasury
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดหรอครับ ?
ผมขอเดาว่าเป็นเพราะการบริการหรือเปล่าครับ ?

ขอบคุณครับ

kornjackrit เขียน:ขอบคุณมากคับพี่ Voldtrest

ด้วยส่วนตัวผมว่าตอนนี้อัตราผลตอบแทนของ ธนวัฒน์
ก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่แถมผันผวนมาก

ผมดู T-Money กับ T-Cash ของธนชาตอยู่ครับ
แต่รู้สึกว่ามันต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำสูงกว่าของทหารไทยนิดนึง

แต่ผมคงจะคงสถานะการลงทุนในกอง MMF ของทหารไทยส่วนนึง
เพื่อให้มีสิทธิในการใช้ห้องสมุดที่ Central World ซึ่งผมว่ามันคุ้มมากๆ

ไม่ทราบพี่ Voldtrest คิดอย่างไรครับ

ปล.ผมมีคำถามนิดนึงครับ ผมเห็นพี่ๆหลายคนเ้ลือกพักเงิน ใน SCBSFF
กับ K-Treasury
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดหรอครับ ?
ผมขอเดาว่าเป็นเพราะการบริการหรือเปล่าครับ ?

ขอบคุณครับ

ไทยพาณิชย์ พี่คิดว่าเรื่องการให้บริการ มีความคล่องตัวมากที่สุด
และเรื่องของภาพลักษณ์ที่ดูสดใสของพนักงานผู้ให้บริการ ที่มีอายุ รุ่นราวคราวเดียวกับพวกเรา  20 ขึ้นไปครับ  

ไม่เชื่อ ลองไปดูสาขา J-AVENUE ทองหล่อ สิครับ  :lol:

พูดถึงกองทุน SFF ที่คิดว่าคนไช้บริการเยอะ เพราะได้ชื่อว่าเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุด  (คนเลยคิดว่าน่ามั่นคงกว่าที่อื่น)

กสิกร ภาพลักษณ์ของเขาคือ conservative  ดูยังไงก็ยังเหมือนเดิม
ถึงจะมีการปรับโฉมให้ ทุกกองทุนของเขา ขึ้นต้นด้วย K-XXX เพื่อให้ดูใหม่ขึ้น  

แต่ถ้าถามพี่ว่า  ทำไมยังใช้บริการกับเขา  เพราะข้อเด่นในเรื่อง  การเปิดโอกาสให้เราพูดคุยกับ fund manager ได้โดยตรง  และการขอข้อมูลการลงทุนในกองทุนที่สนใจเพิ่มเติมได้ทาง e-mail    

อันนี้แถมให้

ก่อนหน้านี้พี่เคยเชื่อมั่นใน active management style ของ fund manager มากเกินไป  

สำหรับกองทุนหุ้น FIF  ลงทุนไป 24% ของพอร์ตเสียหายไปไม่น้อย  ตอนนี้ยังไม่ฟื้นไข้...... (ไม่รู้ราคาคุยหรือเปล่า...พี่กะให้เขาเวลาแก้ตัวเพิ่มอีก 2 ปี)

สำหรับกองทุนอสังหาช่วงหลังๆๆ  พี่รู้สึกได้เลยว่า  เขาโหมโฆษณาขาย IPO โรงแรม centara  อย่างมาก (CTARAF) กรอกหูทางวิทยุ ทุกวันเลย....
ช่วงนั้น โทรไปหาผู้จัดการกองทุนอสังหาตัวนี้  ก็ไม่รับสาย  ส่ง e-mail ถามคำถามไป ก็ไม่ตอบคำถาม (พี่มี GOLDPF ไว้กินปันผล)

ปล.  ถ้าเก็บหนังสือชี้ชวนชุดเก่าๆไว้ จะเห็นเลยว่า ชุดเก่าๆไม่ได้พูดเรื่องความสามารถในการแข่งขันของโครงการที่กองทุนไปลงทุนเลย  เขียนแต่ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ (supply ที่เพิ่มขึ้น > demand ที่เพิ่มขึ้น) ทำให้ต้องปรับระดับค่าเช่าลง  หลังจากที่พี่ส่ง e-mail ไปหา  

ต่อมาจึงได้เห็นหนังสือชี้ชวนชุดต่อมา  มีรายละเอียดของตัวโครงการมากขึ้น

อัตราการเข้าพักเป็นกี่ %  เมื่อเทียบกับคู่แข่งในบริเวณเดียวกัน
อัตราค่าเช่า/พท. อยู่ใน rank ไหนของกลุ่ม   ฯลฯ

มาเล่าต่อ   ของทหารไทยนี่  พี่ก็ชอบนะ  fundlink online

เขาเชื่อใน Passive Management Style  ถ่อมตนดี  ค่าธรรมเนียมต่ำ

ปีนี้ return ไม่ขี้เหร่เลยเมื่อเทียบกับพวก Active  ถ้าลงทุนถูกจังหวะ
    ติดโผ 5 อันดับแรกอีกต่างหาก  สำหรับ FIF นะ  

น่าคิดเหมือนกันสำหรับ Passive
- ลงทุนผิด ก็ไม่ต้องไปโทษ Fund Manager
- ลงทุนถูก ก็เอาผลตอบแทนไปเกือบเต็ม  
  (ถ้าปีนั้นลงทุนเอง แพ้ตลาดซะนี่.. :lol: )

kornjackrit เขียน:
ผมดู T-Money กับ T-Cash ของธนชาตอยู่ครับ
แต่รู้สึกว่ามันต้องใช้เงินลงทุนขั้นต่ำสูงกว่าของทหารไทยนิดนึง

แต่ผมคงจะคงสถานะการลงทุนในกอง MMF ของทหารไทยส่วนนึง
เพื่อให้มีสิทธิในการใช้ห้องสมุดที่ Central World ซึ่งผมว่ามันคุ้มมากๆ

ไม่ทราบพี่ Voldtrest คิดอย่างไรครับ

ขอบคุณครับ

เอ๊ยย...โทษทีครับ  ลืมคำถามสอดไส้... มัวแต่โม้เรื่องอื่น

พี่เองเพิ่งทราบว่า มีเรื่องสิทธิการใช้ห้องสมุดมารวยได้ด้วย  ขอบใจมาก  
ผมว่า MMF แต่ละที่แทบจะไม่แตกต่างกัน เรื่องผลตอบแทนของ MMF เลย
ไม่ใช่สาระสำคัญ  

แต่เรื่องของเงินขั้นต่ำของแต่ละกองนี่  เคยถามจนได้คำตอบว่า  อาจเป็นเพราะ บลจ. นั้นๆเล็ก  สาขาไม่มาก เมื่อเทียบกับ บลจ.ใหญ่ๆ  จึงต้องการเม็ดเงินเยอะๆๆเพื่อให้คุ้มค่าต่อการทำ transaction ที่มีต้นทุนสูงกว่า บลจ.ใหญ่

พี่ Voldtrest เขียน:แต่ถ้าถามพี่ว่า  ทำไมยังใช้บริการกับเขา  เพราะข้อเด่นในเรื่อง  การเปิดโอกาสให้เราพูดคุยกับ fund manager ได้โดยตรง  และการขอข้อมูลการลงทุนในกองทุนที่สนใจเพิ่มเติมได้ทาง
e-mail

อันนี้เจ๋งคับ  :D

ี้

พี่ Voldtrest เขียน: พี่เองเพิ่งทราบว่า มีเรื่องสิทธิการใช้ห้องสมุดมารวยได้ด้วย  ขอบใจมาก  
ผมว่า MMF แต่ละที่แทบจะไม่แตกต่างกัน เรื่องผลตอบแทนของ MMF เลย
ไม่ใช่สาระสำคัญ  

พี่หมายถึงมีสิทธิในการใช้ห้องสมุดมารวย
ของตลาดหลักทรัพย์ฟรีด้วยหรอครับ ?
อันนี้ผมไม่ทราบเลย

kornjackrit เขียน:แต่ผมคงจะคงสถานะการลงทุนในกอง MMF ของทหารไทยส่วนนึงเพื่อให้มีสิทธิในการใช้ห้องสมุดที่ Central World ซึ่งผมว่ามันคุ้มมากๆ

^
^
^
ผมทราบแต่อันนี้อะคับ

ปล.ผมเชื่อว่าที่สาขา J-avenue พนักงานรุ่นเดียวกับพวกเราคับ อิอิ

[quote="kornjackrit
พี่หมายถึงมีสิทธิในการใช้ห้องสมุดมารวย
ของตลาดหลักทรัพย์ฟรีด้วยหรอครับ ?
อันนี้ผมไม่ทราบเลย

kornjackrit เขียน:แต่ผมคงจะคงสถานะการลงทุนในกอง MMF ของทหารไทยส่วนนึงเพื่อให้มีสิทธิในการใช้ห้องสมุดที่ Central World ซึ่งผมว่ามันคุ้มมากๆ

^
^
^
ผมทราบแต่อันนี้อะคับ

ปล.ผมเชื่อว่าที่สาขา J-avenue พนักงานรุ่นเดียวกับพวกเราคับ อิอิ[/quote]

โทษทีครับ  พี่พูดคำ  "ห้องสมุดมารวย" ติดปาก  จนพาพิมพ์ไปเลอะเทอะหมด   ข้อมูลก็เป็นอย่างที่น้อง kornjackrit บอกล่ะครับ