หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 9:55 am
โดย TIARA
เราชอบอ่านหนังสือ เลยสนใจสองตัวนี้เพราะจะมีความสุขเวลาได้อ่าน
รายงานประจำปี เพราะเป็นเรื่องที่เราชอบ
aprint มีcontent อื่นๆเยอะ ซึ่งเราก็ชอบเช่นจัดงานบ้านเเละสวนเเฟร์
(ไปติดต่อกันมาสามปีเเล้วชอบมากๆ)
se-ed ทำอะไรน้อยกว่าคือ มีสำนักพิมพ์เเละขาย
เนื่องจากเราเป็นนักลงทุนหน้าใหม่(ความจริงยังพอร์ตว่าง100% )
ตอนนี้อ่านหนังสือทุกวัน เรื่องหุ้น อ่านมาได้เป็นสิบๆเล่มเเล้ว
เเต่ยังมองอะไรไม่ขาดเลยค่ะ ว่าเมื่อมองไปในอนาคตเเล้ว
ตัวไหนดีกว่ากัน เพราะคงเลือกในsectorนี้ตัวเดียวค่ะ
โดยส่วนตัว ชอบaprint มากกว่านิดหน่อย
เเล้วเพื่อนๆล่ะคะ ชอบตัวไหนมากกว่ากันเพราะอะไร
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 12:01 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ผมคิดว่าน่าสนใจทั้ง 2 บริษัทครับ ช่วงนี้se-edเองมีคู่แข่งทีเก่งกาจหลายรายครับ ส่วนaprintเป็นผู้ผลิตหนังสือเหมือนดั่งธุรกิจต้นน้ำของอุตสาหกรรมนี้ เมื่อกาลเวลาผันผ่านมูลค่าของแบรนด์ก็มีโอกาสเพิ่มพูนไปได้อีกมากและอื่น.... :)
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 9:32 pm
โดย ส.สลึง
ส่วนตัวผมมองว่า Aprint กับ Se-ed อยู่คนละธุรกิจกันครับ
ตัวนึงทำ Media ส่วนอีกตัวทำ Retail
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:26 pm
โดย i_sarut
ผมชอบ se-ed กับ B2S
SE-ED หนังสือลงทุนเยอะดีครับ
B2S จัดร้านสวย คนยืนอ่านฟรีเยอะ แต่ผมนั่งอ่าน :lol:
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 10:39 pm
โดย ส.สลึง
หนังสือในเครือ APRINT ผมมีเยอะมาก
แต่ของ Se-ed ผมก็มีไม่น้อย แต่ที่ชอบมากที่สุด
FHM กับ ZOO :lol: ...
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 22, 2009 11:17 pm
โดย drypoint
ผมว่า2ตัวนี้ส่งเสริมซึ่งกันและกันไม่ได้เป็นคู่แข่งที่เด่นชัด
Re: ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากัน
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 11:26 am
โดย picatos
[quote="TIARA"]se-ed
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 11:53 am
โดย ส.สลึง
เรื่องทำเยอะไม่เยอะนี่ ผมว่าอย่าเพิ่มไปใส่ใจนักครับ
เพราะหลายกรณีก็เป็นแค่การเสริม Core Business ให้แข็งโป๊ก
ประเด็นคือ เราต้องมองให้ออกว่า กิจการเขา ทำอะไรจริงๆ..?
ปล.
อย่างกรณี Se-ed ผมว่าในอนาคตในใกล้ (แต่คงอีกหลายปี)
Se-ed อาจจะไม่ใช่ Retail ก็ได้ (อ่านความเห็นของคุณ picatos ประกอบ)
และผมก็... อาจจะคิดผิดก็ได้ :lol: (ถืออยู่ตัวนึง และเคยมีอีกตัวนึง)
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 2:50 pm
โดย Reminiscence of 3 Dogs
ดูเทรนด์เทียบกับหุ้นขายหนังสือในต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว
ธุรกิจนี้จะอยู่ในอาการหาเทรนด์ไม่เจอไปอีกนานนะครับ
จากบทบาทการเข้ามาของ internet
แต่จะถึงอาการเป๋จนต้องเลิกกิจการก็ไม่ใช่
เพราะการเปลี่ยนแปลงนิสัยของคนวัย30-35ปีขึ้นไป
ที่ติดกับการอ่านหนังสือจริงๆก็ยังคงอยู่
ผมคงไม่เลือกหุ้นทั้ง2ตัวนี้ครับ
แต่ถ้าบังคับต้องเลือก Se-ed น่าจะทำกำไรให้ผู้ถือได้มากกว่าในระยะสั้น
เพราะความสามารถของกิจการเอง
แต่ไม่ใช่มาจากการที่มันอยู่ในธุรกิจที่เติบโต
ธุรกิจนี้มี limit มากๆอยู่จากการเข้ามาของ internet
ทำให้ทั้งผู้ผลิต content และ distributor ไม่อาจจะโตมากๆได้
และสิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจคือการมาของ online portable content provider
เช่น iphone และสารพัด จะทำให้การเติบโตของตลาดหนังสือ
ค่อนข้างมืดมน ครับ
ปล. ดูหุ้น3ตัวนี้นะครับ อยู่ใน NYSE
BKS หรือ Barnes&noble รูปแบบร้านจะค่อนข้างคล้าย B2S
BGP border group รูปแบบร้านจะคล้าย Se-ed
แต่การจัดการไม่ดีเท่า se-ed
MHP สำนักพิมพ์ McGraw Hill แต่ต้องดูในอดีตเพราะ business model
ปัจจุบันรายได้และกำไรไม่ได้อยู่ที่การได้ license พิมพ์หนังสืออีกแล้ว
ให้ดูช่วง ปี 80-85 ช่วงนั้น business model จะยังมีความคล้ายกับ
aprint ณ ตอนนี้ครับ ซึ่งตอนนั้น USก็อยู่ในช่วงที่ขยายตัวค่อนข้างมาก
และยังไม่มี internet เข้ามาแต่หุ้นก็ยังไม่ได้เติบโตมากนัก
สรุปคือธุรกิจรูปแบบนี้ที่จะยังอยู่ได้และ "มา" ในอนาคต
น่าจะเป็นผู้ถือ license ของ content ต่างๆที่จะเผยแพร่ทาง internet
ซึ่งทั้ง se-ed และ aprint ไม่ได้จัดรูปทัพ business model
ในลักษณะที่ว่ามาครับ
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 3:01 pm
โดย charnengi
ขอถามผู้รู้นิดนึงครับ
1) ในอเมริกาตอนนี้ นักศึกษายังใช้ textbook กันอยู่รึเปล่าครับ หากมีการใช้ e-book นี่คิดเป็นประมาณกี่ % ของหนังสือเรียน
2) การซื้อหนังสือ e-book กับ หนังสือธรรมดา ในเรื่องเดียวกันราคาต่างกันเท่าไหร่
3) การซื้อหนังสือ e-book มาอ่านนั้นจะได้มาเป็นไฟล์สกุลใด และสามารถส่งต่อได้หรือไม่
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 3:14 pm
โดย Reminiscence of 3 Dogs
ตอบแต่ข้อ1 นะครับ เพราะยังไม่เป็นผู้รู้ :lol:
1. ก็ยังใช้ text book กันอยู่เยอะครับ
ebook มีการใช้บ้างในวงแคบ ลักษณะเนื้อหาเฉพาะของ class นั้นๆ
จริงๆไม่ควรเรียก ebook แต่เป็นเพียง file เนื้อหาที่เรียนมากกว่าครับ
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 7:28 pm
โดย poppo
พูดถึงร้านหนังสือที่อเมริกา
ชอบทั้ง Barnes Noble กับ Border มาก
ไปเยี่ยมภรรยาที่อเมริกา 3 ครั้ง ตอนกลางวันที่เขาไปเรียน ที่ๆผมไปอยู่มากกที่สุดก็คือร้านหนังสือ
วิ่งไปทุกวัน อ่านๆ แล้วก็กลับ ไม่ค่อยได้ซื้อ
แต่เห็นร้านหนังสือที่เมืองนอกแล้ว อิจฉามาก อยากให้เมืองไทยมีบ้าง
เรื่องธุรกิจ เผอิญถือ se-ed อยู่
ผมว่า se-ed ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าร้านในเมืองนอกนะ เพราะไม่ได้เปิด stand alone ถ้าสาขาไหนไม่สำเร็จ ก็ปิดได้ ไม่เจ็บตัวมาก
การเติบโต คงมีไปได้เรื่อยๆ ถ้าmodern trade ยังขยายอยู่
market growth ก็คงมีได้เรื่อยๆ เพราะคนไทยคงอ่านหนังสือน้อยกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะเท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ สังคมก็แย่พอแล้ว ที่เราชอบฟังและเชื่อความคิดเห็นของคนอื่นมากกว่าแสวงหาข้อเท็จจริงด้วยตนเอง
ที่น่าเป็นห่วงก็เรื่อง mkt share เพราะ คู่แข่งแต่ละรายค่อนข้างน่ากลัว ทั้ง book smile และ B2S
ไม่แน่ cpall รวยมากๆ มีเงินสดเหลือเยอะๆ อาจมา take over se-ed ก็ได้นะ
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 7:33 pm
โดย poppo
ส่วนว่าลงทุนตอนนี้ดีไหม ที่ราคาตอนนี้ PE ประมาณ 11 div 8%+creditภาษี ก็ได้ 10+ ต่อปี
ผมว่า ลงทุนได้ กินปันผลไปเรื่อยๆ แต่คงไม่หวือหวา อย่าหวัง capital gain
และก็ตามเรื่องยอดขาย และการแข่งขันในธุรกิจดีๆ ดูแนวโน้ม
ธุรกิจนี้ ไม่เปลี่ยนแปลงเร็วหรอก มันไม่ได้เปลี่ยนจาก กำไรเป็นขาดทุนภายในไตรมาสเดียวหรอก ผมว่านะ
ถ้า คู่แข่งแกร่งจนทำให้ se-ed แย่จริงๆ ผมว่าเราก็พอหนีได้ทัน
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 8:38 pm
โดย Pu
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 23, 2009 9:14 pm
โดย drypoint
ผมว่าคนเรายังต้องใช้หนังสือไปอีกนานครับ อย่างน้อยก็จนกว่าจะหาสื่อที่แสดงผลโดยไม่กระทบต่อดวงตาได้ e-bookเหมาะกับการอ่านนิดๆหน่อยๆครับ ผมคงไม่อ่านเพชรพระอุมาผ่านe-bookแน่นอน
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 10:47 am
โดย ศิษย์เซียน007
หนังสือนั้นคงมีอะไรมาทดแทนได้ยากครับ e-bookก็คงเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมกันเท่านั้นครับ เพราะอรรครสที่ได้จากการอ่านหนังสือนั้นคงไม่มีสิ่งใดเลียนแบบได้ครับ เหมือนดั่งการรับประทานอาหารที่ชอบกับการทานอาหารเสริมที่อยู่ในรูปแคปซูลหรือเม็ดครับคนเราคงจะไม่เลือกการทานอาหารที่เหมือนเม็ดยาแทนการรับประทานอาหารเพราะขาดสิ่งสำคัญไปนั่นก็คือรสชาติแม้ว่าจะให้คุณค่าทางอาหารที่ดีมากเพียงใดก็ตามครับ ที่สำคัญคือหนังสือนั้นพกไปที่ใดก็สามารถอ่านได้ไม่มีแบตหมด ตกก็ไม่พัง เปียกน้ำก็ตากให้แห้งได้ด้วยครับ :)
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 10:58 am
โดย beammy
Scenario นี้ ผมชอบ se-ed มากกว่า :8)
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 11:24 am
โดย tingku
ผมว่าสองตัวนี้มันคนละเรื่องเลยนะครับ ลองดูในร้อยคนร้อยหุ้น และหา 56-1 ของทั้งสองตัวมาศึกษาดูนะครับ ชอบตัวไหนเลือกตัวนั้นครับ
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 24, 2009 10:11 pm
โดย pegaxus
Aprint นั้นเริ่มเน้นมาทางด้าน content หรือเนื้อหาสาระ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเพราะว่า การมีเนื้อหาสาระนั้น สามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น อบรม สัมนา รายการทีวี อย่างที่ทำอยู่ในปัจจุบัน และจากคำสัมภาษณ์คุณเมตตา ก็ย้ำว่าจะทำในสิ่งที่ถนัดเท่านั้น ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถนัด ส่วนร้านหนังสือนายอินทร์ aprint ถือหุ้น 19% เท่านั้น เพื่อให้มีช่องทางจำหน่ายของตัวเองบ้าง สรุปคือ Aprint นั้นเน้นทางด้านต้นทาง
Se-ed นั้นมีทั้ง สำนักพิมพ์ สายส่ง และร้านหนังสือ แต่ดูเหมือนจะเน้นไปทางร้านหนังสือ แต่ทั้ง 3 ส่วนก็สนับสนุน ซึ่งกันและกัน แต่การที่มีสาขาร้านที่มาก และขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ se-ed ดูเหมือนจะเป็นผู้ครอบครองช่องทางการจัดจำหน่ายในขณะนี้ สรุปคือ Se-ed เน้นที่ปลายทาง
ตราบใดที่เทคโนโลยียังไม่สามารถทดแทนหนังสือได้อย่างสมบูรณ์ หนังสือก็คงยังขายได้ครับ แต่เห็นเทคโนโลยีจอม้วน อันนี้น่าสนใจครับ ถ้าหากอนาคตเจ้าจอม้วนนี้ พกสะดวก และโหลดเก็บเนื้อหา ข้อมูล ไว้อยากอ่านเมื่อไหร่ก็เปิด อันนี้คงน่าจะแทนที่หนังสือได้ แต่คงอีกหลายไปครับ
แต่ตอนนี้ผมคิดว่า 2 ตัวนี้ตามชอบครับ แต่ดูราคาด้วยละกัน
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 25, 2009 10:13 am
โดย 007-s
เพราะคนไทยคงอ่านหนังสือน้อยกว่านี้ไม่ได้แล้ว
เป็นมุมมองที่ คมมากมายค่ะ พี่ poppo
ระหว่างse-ed กะ aprint เพื่อนๆว่าตัวไหนมีอนาคตดีกว่ากันคะ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 25, 2009 12:36 pm
โดย atsu
poppo เขียน:market growth ก็คงมีได้เรื่อยๆ เพราะคนไทยคงอ่านหนังสือน้อยกว่านี้ไม่ได้แล้ว เพราะเท่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ สังคมก็แย่พอแล้ว ที่เราชอบฟังและเชื่อความคิดเห็นของคนอื่นมากกว่าแสวงหาข้อเท็จจริงด้วยตนเอง
ผมชอบประโยคนี้จังได้มุมมองทั้งด้านธุรกิจและชีวิต คลาสสิคมากครับหมอ