หน้า 1 จากทั้งหมด 3
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 3:02 pm
โดย Coca-Cola
ผมรู้สึกว่า VI ส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยมองหุ้นอสังหาบ้างเลย ทั้ง LPN LH AP และ QH ...
เป็นต้น ทำให้มีข้อสงสัยว่าหุ้นกลุ่มนี้ ไม่ใช่หุ้นในแนว VI หรือเปล่าครับ
Re: หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 3:29 pm
โดย et al.
[quote="Coca-Cola"]ผมรู้สึกว่า VI ส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยมองหุ้นอสังหาบ้างเลย ทั้ง LPN LH AP และ QH
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 4:57 pm
โดย Robotix
ตอนนี้มีหลายตัวที่ต่ำกว่า book value หรือราคาพาร์ด้วยซ้ำครับ
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 10:35 pm
โดย Luty97
แต่ผมว่าคนในเวปนี้ มี LPN PS กันหลายคนนะ อิอิอิ...
เพียงแต่ไม่โพส บอกกันเท่านั้น ช่วงนี้เค้าเลิกเชียร์หุ้นกันละ
เข็ดจากปีที่แล้ว คนเชียร์ก็เจ็บ คนตามก็เจ็บ แต่คนเชียร์โดนด่าแถมอีก :lol:
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 10:45 pm
โดย dome@perth
[quote="Luty97"]แต่ผมว่าคนในเวปนี้ มี LPN PS กันหลายคนนะ อิอิอิ...
เพียงแต่ไม่โพส บอกกันเท่านั้น ช่วงนี้เค้าเลิกเชียร์หุ้นกันละ
เข็ดจากปีที่แล้ว คนเชียร์ก็เจ็บ คนตามก็เจ็บ แต่คนเชียร์โดนด่าแถมอีก
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 12:04 am
โดย sai
แต่ความจริง
ผมว่าอสังหาราคาน่าสนใจหลายตัวนะครับ อาทิ น้อง Q น้อง P น้อง L และ น้อง A ก็ไม่เห็นว่าไม่น่าสนใจอย่างไรนะครับ (สนใจอยู่ครับ แต่ยังไม่ได้ซื้อ)
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 12:07 am
โดย Juninho
ซัดไปแล้ว มีทั้งตัวใหญ่ และตัวเล็ก ๆ :D
สำหรับกลุ่มอสังหา บางตัวหนี้สูง ก็หลีกเลี่ยงกันหน่อยก็ดีนะครับ
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 9:32 am
โดย jung_oh
ผมก็ถืออยู่นะครับ หุ้น อสังหา
วันก่อน ก้เพิ่งซื้อเพิ่มไปเอง :D
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 11:15 am
โดย DevilCupid
อมตะกับนวนคร ถือเป็นหุ้นอสังหามั้ยครับ
ดูแล้วสองตัวนี้เป็นยังไงครับ
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 11:25 am
โดย yoyo
ถ้านับกองทุนอสังหา กับ นิคมเป็น หุ้นอสังหาด้วย
ผมถืออสังอยู่ประมาณ 65% ของ port แน่ะ ... :8)
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 12:02 pm
โดย naris
ส่วนตัวผมเอง อยู่ต่างจังหวัดโอกาสตามผลงานที่ผ่านมาและทำเลที่จะสร้างใหม่แทบไม่มี ดูแต่งบอย่างเดียวค่อนข้างอันตรายสำหรับกลุ่มนี้ เลยพยายามหลีกเลี่ยงครับ ถ้าจะมีก็เอาพอสนุกๆด้วยหลายๆสาเหตุ แต่ไม่ใช่ซื้อเกิน5%ของพอร์ตแล้วถ้าถือคงจะถือแบบชั่วคราวครับ
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 12:56 pm
โดย nw108
โดยส่วนตัวที่มีประสบการณ์กับงานก่อสร้าง ส่วนใหญ่งบดูลไม่ค่อยสะอาดครับ เเต่ง บ/ช กันเป็นส่วนใหญ่ ลงทุนในกลุ่มนี้บ้างเเต่ไม่มากเท่าไรครับ
หุ้นอสังหา เงินเฟ้อ สถานการณ์ปัจจุบัน ถึง แนวโน้มข้างหน้า
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 15, 2009 11:25 pm
โดย ktpkhk8
ผมคิดว่าอสังหา น่าลงทุน เหตุเพราะเป็นกลุ่มที่ลงหนัก และเป็นลำดับต้นๆ ของการตกลงของตลาดหุ้นไทย ก็น่าจะกลับมาได้ก่อน
เงินเฟ้อ -การบริโภค มีผลต่ออสังหา ปัจจุบันแนวโน้มเป็นเงินฝืด เลยทำให้อสังหาตกลง แต่..หากทุกอย่างไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น ราคาหุ้นที่ตกลงแรงขณะนี้ (ต่ำ bv ปันผลสูง..มาก..) จะมีแรงดีดกลับที่รุนแรงได้เช่นกัน
อีกทั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันก็มองขาดในเรื่องอสังหา ซึ่งจะนำไปสู่การบริโภคอื่นๆที่จะตามมา มีบ้านเป็นจุดเริ่มต้นการดำรงชีวิต ก็จะต้องหาทุกอย่างเข้าบ้าน อีกอย่างที่ดินและบ้านจะชนะเงินเฟ้อได้ในระยะยาว
เมื่อมาดูฐานะการเงินของบริษัทบ้านต่างๆ หลังวิกฤต ปี2540 มีความมั่นคงในแง่ฐานทุน และโครงสร้างหนี้สิน (มีบทเรียนการกู้ยืมเงินนอกแล้วเจ๊ง เป็นอย่างไร) และกลุ่มผู้ที่ให้ยืมปัจจุบันคือธนาคารไทยเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มธนาคาร จะเห็นได้ว่าแข็งแกร่งมากจากงบการเงินที่ออกมาปี2551 นี้ ย่อมไม่มีปัญหาเรื่องความพร้อมในการปล่อย แต่จะปล่อยลดลง ก็ตามสภาพเศรษฐกิจอยู่แล้ว แต่..มันเป็นรายได้ของธนาคาร ธนาคารจะไม่ปล่อยสินเชื่อก็ต้องกินแกลบแน่นอน คงยากจะไม่ปล่อย
ก็แนะนำว่าซื้อหุ้นของบริษัทที่ธนาคารปล่อยได้อย่างสบายใจ คื่อมีชื่อเสียง ฐานะการเงินดี ผลิตภัณฑ์ดี ผู้บริหารเก่งและดี มี่ที่ดินเผื่อไว้พัฒนาแล้ว ส่วนตัวหุ้นก็พิจารณาเองนะครับ เพราะทั้งหมดเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมเอง
"สุดท้ายทุกคนย่อมอยากมีบ้านเป็นของตัวเองซักหลัง ใช่ไหมครับ"
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 16, 2009 10:55 am
โดย sai
[quote="nw108"]
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 19, 2009 5:23 pm
โดย Amadeus
[quote="yoyo"]ถ้านับกองทุนอสังหา กับ นิคมเป็น หุ้นอสังหาด้วย
ผมถืออสังอยู่ประมาณ 65% ของ port แน่ะ ...
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 19, 2009 5:35 pm
โดย Amadeus
ต่ออีกนิดนะครับ
มองปัจจุบัน ศก.แย่ลง แต่โครงการที่เริ่มไปแล้วก็หยุดไม่ได้
ในขณะที่กำลังซื้อหดลงแน่ๆ แต่ไม่เป็นไรเก็บไว้ก่อนไว้ขายตอน ศก.ดี
มองไปข้างหน้า ศก.กลับมาดี คนเริ่มมั่นใจว่าส่งไหวแน่นอน
แต่ไม่ได้หมายความว่าเอาของในสต็อกมาขายอย่างเดียวแล้วรับตังไป
ตอ้งแข่งกันขยายโครงการใหม่ๆอีก ไม่แคล้วตอ้งกู้ ใครเป็นหนี้เยอะ
กู้ไม่ได้ก็เสียเปรียบคู่แข่งไป
ข้อดี น่าจะเป็นราคาหุ้นที่ตกลงมามากจริงๆ ทั้งตัวใหญ่ ตัวเล็ก
อาจได้ปันผลงามๆระหว่างรอ
ใครเห็นต่างอย่างไรโปรดชี้แนะ ถือว่าช่วยกันเปิดหูเปิดตาครับ
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 19, 2009 7:29 pm
โดย satantuey
ผมทำงานอยู่บริษัทอสังหาแห่งนึง...(ไม่เอ่ยนาม..อิอิ) :lol: ผมว่าช่วงนี้ค่อนข้างแย่อ่ะครับ....ฝืดเคือง...ลูกค้ากู้ไม่ผ่านเยอะ...โอนยากขึ้น...กระทบมาถึงสภาพคล่องบริษัท.....สรุป...ช่วงนี้ไปหาตัวอื่นกลุ่มอื่นน่าจะดีก่า
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 20, 2009 11:10 am
โดย yoyo
[quote="Amadeus"]
กำลังจะเริ่มศึกษากลุ่มนี้ เห็นกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้มากแถมเป็นหนี้ระยะยาวไม่น้อยทีเดียว
(เอาเฉพาะพวกที่ขายบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้า คอนโด นะครับ)
แล้วของเก่าก็ยังขายไม่หมด ก็ต้องขึ้นโครงการใหม่ตลอด
คอนโดทำเลทองมักจะขายหมด
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 20, 2009 11:27 am
โดย ศิษย์เซียน007
"คุณสมบัติที่สนใจในกลุ่มนี้คือ
- หนี้น้อยๆ
- มี Backlog ช่วยค้ำไว้ระดับนึง
- มีความแข็งแกร่งในตลาดนั้นๆ
- มีปันผลสูงๆ yield ดีๆ เอาไว้รอวิกฤตผ่านไป" คุณYOYO
หนี้น้อยๆ ว้าวผมเจอบริษัทเดียวเองครับ :)
แต่ถ้าหนี้น้อยๆ เงินเยอะๆผมเจอหลายเลยครับเช่น คุณYOYOเป็นต้นครับ :lol:
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 20, 2009 11:31 am
โดย beammy
yoyo เขียน:ผมซื้อหุ้นอสังหาไม่ได้หวังว่าจะกำไรในปีนี้ปีหน้าครับเพราะอุตสาหกรรมคงแย่ลงจริงๆ อย่างที่หลายๆคนก็คงรู้กัน แต่ผมหวังกำไรหลายๆเด้งในอีกหลายๆปีข้างหน้า.. ในขณะที่ระหว่างรอก็กินปันผลรอไปเรื่อยๆก่อน
คุณสมบัติที่สนใจในกลุ่มนี้คือ
- หนี้น้อยๆ
- มี Backlog ช่วยค้ำไว้ระดับนึง
- มีความแข็งแกร่งในตลาดนั้นๆ
- มีปันผลสูงๆ yield ดีๆ เอาไว้รอวิกฤตผ่านไป
ประเด็นอยู่ที่ตัวแดงครับ มีอยู่ตัวเดียวจริงๆ :8)
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 20, 2009 1:15 pm
โดย Amadeus
beammy เขียน:
ประเด็นอยู่ที่ตัวแดงครับ มีอยู่ตัวเดียวจริงๆ
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 20, 2009 6:16 pm
โดย chaitorn
เห็นเขาคุยกันในเวปนี้ มีความรู้เรื่องอสังหาริมทรัพย์และความเห็นหุ้นในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจทีเดียว
เลยขออนุญาตนำมาฝากให้เพื่อน ๆ ลองอ่านความเห็นกันครับ น่าสนใจจริง ๆ ครับ :lol:
http://www.templeboxing.com/index.php?topic=1487.0
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 20, 2009 7:34 pm
โดย GeneraX
beammy เขียน:
ประเด็นอยู่ที่ตัวแดงครับ มีอยู่ตัวเดียวจริงๆ
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ก.พ. 20, 2009 9:39 pm
โดย atsu
ในสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นอสังหาต่างจากหุ้นยานยนต์ยังไงครับ :?:
ผมเห็นหลายๆคนพยายาม"รอก่อน"ในหุ้นยานยนต์
แต่"เข้าซื้อเลย"ในหุ้นอสังหา
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 1:25 am
โดย GeneraX
[quote="atsu"]ในสภาพเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นอสังหาต่างจากหุ้นยานยนต์ยังไงครับ
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 3:08 pm
โดย tatandchin
ขอความรู้ครับ
backlog ที่สูงอาจไม่ได้หมายถึง รายได้ที่จะรับรู้สูงไปด้วยเสมอไป ใช่ไหมครับ ถ้าอัตราการ reject สูง
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 4:15 pm
โดย GeneraX
tatandchin เขียน:ขอความรู้ครับ
backlog ที่สูงอาจไม่ได้หมายถึง รายได้ที่จะรับรู้สูงไปด้วยเสมอไป ใช่ไหมครับ ถ้าอัตราการ reject สูง
ก็จริงอย่างที่พี่ว่าครับ ถ้า backlog มาก แต่ถ้า supply > demand หรือ ต่อให้มี demand มากแต่ rejection rate ที่สูงแน่นอนว่า รายได้ทั้งในส่วนที่รับรู้ใน income statement และส่วนของ cashflow ก็ต้องลดลงไปด้วย
ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าจะเทียบกับกลุ่มยานยนตร์แล้ว ถ้าดีของอสังหาก็จะเน้นไปที่ Fixed Cost มากกว่าครับ เพราะดูแล้วต่ำกว่ากันมาก
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 4:22 pm
โดย chaitorn
tatandchin
ขอความรู้ครับ
backlog ที่สูงอาจไม่ได้หมายถึง รายได้ที่จะรับรู้สูงไปด้วยเสมอไป ใช่ไหมครับ ถ้าอัตราการ reject สูง
backlog คือ มูลค่าที่ลูกค้าทำสัญญาแล้วกับโครงการ ซึ่งเป็นจุดเริ่มแรกของเงื่อนไขที่จะสามารถรับรู้รายได้ของโครงการได้ โดยมีเงื่อนไขการรับรู้ตามส่วนงาน หรือ ตามงวด 9 เงื่อนไขดังนี้
* มีการขายเกิดขึ้นแล้ว โดยการขายได้ร้อยละ 40 ของจำนวนที่เปิดขาย
* ผู้ซื้อไม่มีสิทธิเรียกเงินคืน
* ผู้ซื้อและผู้ขายต้องมีอิสระต่อกัน
* รวมต้นทุนที่งานพัฒนาและงานก่อสร้างของผู้ขายได้ผ่านขั้นตอนร้อยละ 10 ของงานก่อสร้างตามโครงการที่เสนอขาย (ไม่รวมค่าที่ดิน)
* เงินวางเริ่มแรกและเงินค่างวดของผู้ซื้อที่ชำระแล้วต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20
* ผู้ขายมีความสามารถเก็บเงินได้ตามสัญญา
* ผู้ขายมีความสามารถทางการเงินดี
* การก่อสร้างได้ก้าวหน้าไปด้วยดี
* ผู้ขายสามารถประมาณเงินรับจากการขายรวมและต้นทุนทั้งหมดที่ต้องใช้ในการก่อสร้างได้อย่างมีหลักเกณฑ์
โดยสรุปเงื่อนไขเชิงปริมาณที่จะรับรู้รายได้ที่สำคัญก็คือ
1. มูลค่าของผู้ซื้อในโครงการทังหมดจะต้องไม่น้อยกว่า ร้อยละ 40 ของมูลค่าโครงการที่เปิดขาย เช่น มูลค่าโครงการทั้งหมด 1000 ล้านบาท จะต้องมียอดผู้ซื้อในโครงการไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท (ยอดตามสัญญาซื้อ หรือ backlog ของโครงการ) ดังนั้น จะเห็นได้ว่า หลาย ๆ โครงการจึงนิยมเปิดเป็น เฟส เพื่อให้เข้าได้ตามหลักเกณฑ์ข้อนี้
2. เมื่อมีการทำสัญญาการซื้อขายของผู้ซื้อเกิดขึ้นแล้ว ผู้ซื้อแต่ละรายจะต้องชำระเงินวางเริ่มแรกและเงินค่างวดในจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของราคาตามสัญญา
3. และข้อนี้หละครับที่เป็นข้อที่สำคัญมาก ๆ เพราะจะดูว่าความสามารถของผู้ประกอบการมีฐานะการเงินเพียงพอ และมีสภาพคล่องที่จะชำระค่างวดงานให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างเพื่อให้มีความคืบหน้าของงานก่อสร้างเกิดขึ้นได้หรือไม่ นั้นคือ การรับรู้รายได้จะเกิดขึ้นได้ จะต้องมีความสำเร็จของงานการก่อสร้างตามความคืบหน้าของการพัฒนางานในโครงการซึ่งรวมต้นทุนที่งานพัฒนาและงานก่อสร้างของผู้ขาย โดยต้องมีความคืบหน้าผ่านขั้นตอนตั้งแต่ร้อยละ 10 ของงานก่อสร้างตามโครงการที่เสนอขายขึ้นไป (ไม่รวมค่าที่ดินที่ปลูกสร้าง)
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 4:24 pm
โดย chaitorn
วิธีการรับรู้รายได้ตามส่วนงานที่ทำเสร็จเมื่อครบตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้วก็คือ จะรับรู้รายได้
* ตามอัตราส่วนต้นทุนของงานที่เกิดขึ้นกับต้นทุนทั้งหมดที่ประมาณไว้โดยไม่รวมต้นทุนที่ดิน
* ความคืบหน้าตามอัตราส่วนต้นทุนของงานที่แล้วเสร็จนั้น ผู้ขายจะต้องจัดให้มีการสำรวจหรือประเมินผลงานที่ทำเสร็จโดยวิศวกรหรือสถาปนิกที่เชื่อถือได้
หากจะมองข้ามหุ้นอสังหา...เพราะเหตุใดครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 21, 2009 4:40 pm
โดย chaitorn
โดยเงื่อนไขการหยุดรับรู้รายได้จะเกิดขึ้นต่อเมื่อ ในระหว่างการผ่อนชำระค่างวด หากผู้ซื้อไม่ได้ชำระค่างวดตามสัญญาตามเงื่อนไขคือ เมื่อผู้ซื้อผิดนัดชำระเกินกว่า 3 งวดติดต่อกัน กิจการต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ
สำหรับเรื่องการอัตราการ reject สูง เข้าใจว่า เมื่อผู้ซื้อจ่ายชำระเงินดาวน์ครบตามสัญญาแล้ว แต่ไม่สามารถกู้เงินกับธนาคารได้ เช่น ผ่อนดาวน์ไปแล้วร้อยละ 30 เหลืออีก ร้อยละ 70 ต้องกู้เงินกับธนาคาร
ถ้าหากกู้เงินไม่ผ่าน ตรงนี้ก็จะทำให้มีปัญหาการรับรู้รายได้ที่รับรู้ไปแล้ว อาจต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญได้ หากไม่สามารถหาคนมาแทนผู้ซื้อรายเก่าได้ครับ
ตรงนี้คือความเสี่ยงที่สำคัญในขณะนี้ ที่เราต้องไปดูว่าเงินดาวน์บ้านและผ่อนค่างวดอยู่ในอัตราที่สูงมากน้อยเพียงใด เพราะหากเงินดาวน์ต่ำเกินไป เช่น ใกล้ ๆ ร้อยละ 20 หรือต่ำกว่า อาจเป็นโอกาสให้ผู้ซื้อบ้านยอมทิ้งเงินดาวน์ได้ง่าย ก็จะทำให้โครงการของผู้ขายประสบปัญหาได้โดยง่ายครับ แต่ถ้าดาวน์สูง ผู้ซื้ออาจเสียดาย และต้องพยายามที่จะรักษาสัญญาไว้ต่อไปครับ