หน้า 1 จากทั้งหมด 2

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 08, 2009 10:46 pm
โดย oatty
โลกในมุมมองของ Value Investor            7 กุมภาพันธ์ 2552


รัฐวิสาหกิจ   และบริษัทที่รัฐมีอำนาจในการควบคุมแต่ถือหุ้นไม่ถึง 50% ในตลาดหุ้นไทยนั้นมีไม่น้อย   แต่ละบริษัทมักจะเป็นกิจการขนาดใหญ่และใหญ่ที่สุด   หุ้นของบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นหุ้น  Blue Chip  ที่เป็นหุ้นยอดนิยมของนักลงทุนทั่วไป  แต่บริษัทและหุ้นเหล่านี้มีความแตกต่างกับหุ้นของบริษัททั่ว  ๆ  ไปอยู่พอสมควร   มาดูกันว่าข้อดีและข้อเสียของการเป็นบริษัทของรัฐนั้นมีอะไรบ้าง

ก่อนอื่นคงต้องพูดถึงภาพใหญ่ที่สุดของหุ้นรัฐวิสาหกิจก่อนว่าเป็นกิจการที่  “ไม่มีเจ้าของ”  นั่นคือ  เจ้าของก็คือรัฐ   ซึ่งก็คือประชาชนทั้งประเทศ  ซึ่งแน่นอนไม่สามารถและ  “ไม่มีสิทธิ”  มาควบคุมหรือสั่งการอะไรกับผู้บริหารและพนักงานของบริษัท   คนที่มีอำนาจจริง  ๆ  คือ “ ตัวแทนของประชาชน”   ซึ่งก็คือนักการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งและเข้ามามีอำนาจในการกำกับบริษัทรัฐวิสาหกิจเหล่านั้น   ดังนั้น  ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจจึงต้องบริหารและดำเนินกิจการในสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ของคนที่สามารถให้คุณให้โทษแก่ตนเอง   ซึ่งก็คือนักการเมืองที่เป็นผู้ควบคุมบริษัทโดยถือว่านี่คือภารกิจอันดับหนึ่ง    ส่วนผลประโยชน์ของ   “ผู้ถือหุ้น”  ถือเป็นภารกิจรองลงมาอยู่ในอันดับท้าย ๆ  หลังผลประโยชน์ของกลุ่มผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ   เช่นผลประโยชน์ของกรรมการ   พนักงาน  หรือ  “ประชาชน”   และนี่ก็คือพื้นฐานสำคัญที่ทำให้หุ้นรัฐวิสาหกิจแตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ

สิ่งที่ตามมาจากโครงสร้างของรัฐวิสาหกิจดังกล่าวก็คือ   ข้อแรก  รัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่มักจะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ต่ำกว่าบริษัทเอกชน   ที่เห็นชัดเจนก็คือ  มักจะมีจำนวนพนักงานมากกว่าบริษัทเอกชนที่ทำงานคล้าย ๆ  กันมาก    พนักงานเองก็มักจะมีสวัสดิการค่อนข้างดี   มีสิทธิในการลา  การรักษาพยาบาล  การใช้บริการของบริษัท  และสิทธิอื่น ๆ   มากมายเมื่อเทียบกับบริษัทเอกชน   นี่ก็คงเกิดจากแนวความคิดหลักที่ว่าผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นนั้นไม่สำคัญเท่าผลประโยชน์ของพนักงาน   เพราะผู้ถือหุ้นนั้น  “ไม่ค่อยมีตัวตน”  มีแต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่อาจจะมา  “บ่น” กันปีละครั้งในที่ประชุมผู้ถือหุ้น

ข้อสอง   รัฐวิสาหกิจนั้น  จำนวนมากมักจะซื้อทรัพย์สินหรือวัตถุดิบที่จะใช้ในการดำเนินการในราคาที่สูงกว่าบริษัทเอกชนและสูงกว่าราคาตลาด     ราคาที่สูงเกินปกตินั้นมักจะกระจายกันไปในหมู่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ   ซึ่งแน่นอน  รวมถึงนักการเมืองที่ควบคุมกิจการด้วย    และส่วนหลังนี้   ในบางครั้งเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุด   การซื้อของแพงนี้   ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนน้อยลง   หรือบางครั้งก็ทำให้บริษัทได้ทรัพย์สินที่มีคุณภาพด้อยกว่าปกติ  ก่อให้เกิดปัญหาในการผลิตหรือให้บริการได้

ข้อสาม  ผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจนั้น   จำนวนมาก   มีคุณสมบัติหรือความสามารถที่ต่ำกว่าผู้บริหารบริษัทเอกชนที่บริหารกิจการที่มีขนาดระดับเดียวกัน    สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเงินเดือนของรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะในระดับผู้บริหารระดับสูงมักจะต่ำกว่าบริษัทเอกชน    อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ   ผู้บริหารเองมักไม่มีแรงจูงใจในการที่จะบริหารกิจการให้เป็นเลิศ    เพราะความก้าวหน้าของตนเองนั้น    อาจจะอยู่ที่การ  “ดูแล” ผู้ที่ควบคุมตนเองมากกว่า   และผู้ควบคุมเองนั้น    ส่วนใหญ่ก็มักจะเข้ามาและออกไปภายในเวลาอันสั้น   จึงมักจะไม่คิดถึงการพัฒนากิจการซึ่งเป็นเรื่องระยะยาว   พวกเขามักคิดแต่ว่า   รัฐวิสาหกิจนั้นจะทำหรือให้อะไรเขาได้ในช่วงเวลาที่เขามีอำนาจอยู่

ข้อสี่ซึ่งคงไม่ใช่ข้อสุดท้ายก็คือ  รัฐวิสาหกิจหลายแห่งนั้น   เป็นเครื่องมือของรัฐในการดำเนินนโยบายทางการเมือง   ดังนั้น  ในหลาย ๆ  ครั้ง  รัฐวิสาหกิจต้องทำธุรกิจแบบ  “ขาดทุน”  ซึ่งไม่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจที่ต้องเน้นการทำกำไร  ไม่ว่าจะเป็นกำไรสูงสุดหรือกำไรที่เหมาะสม

ผมพูดถึงข้อเสียหรือข้อด้อยของหุ้นรัฐวิสาหกิจมาค่อนข้างมาก   ลองมาดูข้อดีบ้าง   และข้อดีหรือจุดเด่นข้อแรกและมักจะเป็นจุดที่ดีที่สุดที่ลบล้างข้อด้อยทั้งหลายได้ก็คือ   รัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่มีอำนาจการผูกขาดทางธุรกิจสูง   แน่นอน  ไม่ใช่ผูกขาดร้อยเปอร์เซ็นต์   แต่เป็นความได้เปรียบที่มีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกิจการเอกชน    การผูกขาดหมายถึงการมีอำนาจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการสูงกว่าราคาที่ควรเป็น   และนี่ทำให้รัฐวิสาหกิจมีกำไรค่อนข้างดีแม้ว่าต้นทุนจะสูงกว่าระดับปกติ   ประสิทธิภาพในการดำเนินการจะต่ำกว่า  และการบริหารงานก็ไม่ต้องมีความคิดสร้างสรรค์มากนัก  

ข้อสองก็คือ  ระบบบัญชีและการรายงานทางบัญชีของรัฐวิสาหกิจนั้น   น่าจะได้มาตรฐาน  และการตบแต่งบัญชีในลักษณะที่อาจเป็นการฉ้อฉลไม่น่าจะมี    สาเหตุสำคัญก็คือ  ผู้บริหารไม่มีแรงจูงใจที่จะทำ    เพราะนั่นอาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดที่ร้ายแรงตามกฎหมายรัฐวิสาหกิจ   ขณะที่ผลตอบแทนจากการทำแบบนั้นมีน้อยมาก  

ข้อสามก็คือ   เนื่องจากรัฐวิสาหกิจเป็นหุ้นของกิจการที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์สาธารณะเช่นเดียวกับหรือมากกว่าเพื่อการทำกำไร    ดังนั้น  รัฐบาลจึงมักจะไม่ขายหุ้นออกมาไม่ว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร   ในบางกรณีที่ต้องการขายหุ้น   รัฐบาลก็มักจะขายเป็นล็อตใหญ่ให้กับผู้ถือหุ้นสถาบัน  โอกาสที่หุ้นจะถูกทยอยขายในตลาดแทบไม่มี    เช่นเดียวกัน  รัฐบาลก็ไม่เคยซื้อหุ้นในตลาด    สิ่งนี้ประกอบกับการที่หุ้นมักมีขนาดใหญ่   ทำให้การบิดเบือนของราคาหุ้นโดยการซื้อขายของเจ้าของหรือรายใหญ่มีน้อยมาก  ดังนั้น  การที่เราจะ  “ถูกหลอก”  จากราคาหุ้นแทบไม่มี

สุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือ  หุ้นรัฐวิสาหกิจมักจะมีอัตราการจ่ายปันผลจากผลกำไรค่อนข้างยุติธรรมและดี   นี่เป็นเพราะกระทรวงการคลังต้องการเม็ดเงินจากรัฐวิสาหกิจมาใช้จ่าย   เนื่องจากรายรับจากปันผลนั้นเป็นรายได้ที่สำคัญ   ดังนั้น  ผู้ถือหุ้นรายย่อยก็มักจะได้รับอานิสงค์ในส่วนนี้ด้วย

ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงบางส่วนของ  ข้อดี- ข้อเสีย  ของหุ้นรัฐวิสาหกิจที่  Value Investor จะต้องเข้าใจถ้าสนใจจะลงทุน   อย่าคิดแต่เพียงว่ารัฐวิสาหกิจรายนี้   “มีการบริหารงานที่ไม่ดีและไม่โปร่งใส”   ดังนั้นเราควรหลีกเลี่ยง   ในขณะที่อีกแห่งหนึ่ง  “บริหารได้ดี  มีกำไรสูง”   เราควรลงทุน    นี่อาจจะเป็นความเข้าใจผิด   ข้อเท็จจริงอาจเป็นว่า   บริหารไม่ดีทั้งคู่เนื่องจากเรื่องของโครงสร้างอย่างที่กล่าวแล้ว   แต่แห่งแรกนั้นมีการผูกขาดทางธุรกิจน้อยกว่า    บางคนบอกว่าถ้ารัฐวิสาหกิจนี้  “บริหารงานดีขึ้นแล้ว” อาจจะซื้อหุ้น   ความเป็นจริงก็คือ  อย่าหวังว่าจะบริหารดีขึ้น   นี่เป็นเรื่องของโครงสร้าง   แก้ยากมาก   ต้องคิดว่า  บริหารแบบนี้แหละ   กำไรก็คงเท่านี้หรืออนาคตก็คงเท่านั้น    หุ้นถูกน่าสนใจเพียงพอไหม?

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 8:07 am
โดย SEHJU
ขอบคุณมากครับ....

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 10:10 am
โดย noooon010
ขอบคุณมากๆนะครับผม :D
พอดีอยากทราบว่า รัฐวิสาหกิจ มีองค์กรไหนบ้าง
เลยไป search มาเสริมคุณ oatty ครับ



http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%
B2%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%
E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%
B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%
AB%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B9%84%
E0%B8%97%E0%B8%A2_%E0%B9%81%E0%B8%A2%
E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%
B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 11:35 am
โดย ศิษย์เซียน007
ขอเรียนถามผู้รู้ว่ารัฐวิสาหกิจ หากแปรรูปกลายเป็นหุ้นให้นักลงทุนได้ถือลงทุนแล้ว

อาจจะลืมปรัชญาของตนเองได้ไหมครับ
เพราะต้องคำนึงถือผลประโยชน์ของผู้ที่ทำการแปรรูปได้สำเร็จ
และผู้ถือหุ้นจนไม่อาจย่อมธุรกิจบางอย่างไ
ม่แสวงหาผลกำไรหรืออาจถึงขั้นย่อมขาดทุน
เพื่อผลประโยชน์ของปชชส่วนใหญ
่ซึ่งนี่ก็คือปรัชญาของรัฐวิสาหกิจที่ผมทราบมาครับ

ตัวอย่างเช่นประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้มากอย่างกลุ่มโอเปค
ให้ปชชของเขาได้เติมน้ำมันในราคาที่ถูกมาก
โดยมิได้ให้ราคาน้ำมันที่ปขขได้ใช้ลอยตัวไปตามราคาตลาดโลก

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 4:44 pm
โดย nasesus
บางคนบอกว่าถ้ารัฐวิสาหกิจนี้  “บริหารงานดีขึ้นแล้ว”
อาจจะซื้อหุ้น   ความเป็นจริงก็คือ  
อย่าหวังว่าจะบริหารดีขึ้น   นี่เป็นเรื่องของโครงสร้าง  
แก้ยากมาก   ต้องคิดว่า  
บริหารแบบนี้แหละ  
กำไรก็คงเท่านี้หรืออนาคตก็คงเท่านั้น    
หุ้นถูกน่าสนใจเพียงพอไหม?


THAI รับไปเต็มๆ

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 6:49 pm
โดย sorawut
ศิษย์เซียน007 เขียน:ขอเรียนถามผู้รู้ว่ารัฐวิสาหกิจ
หากแปรรูปกลายเป็นหุ้นให้นักลงทุนได้ถือลงทุนแล้ว

อาจจะลืมปรัชญาของตนเองได้ไหมครับ
เพราะต้องคำนึงถือผลประโยชน์ของผู้ที่ทำการแปรรูปได้สำเร็จ
และผู้ถือหุ้นจนไม่อาจย่อมธุรกิจบางอย่างไม่แสวงหาผลกำไร
หรืออาจถึงขั้นย่อมขาดทุนเพื่อผลประโยชน์ของปชชส่วนใหญ
่ซึ่งนี่ก็คือปรัชญาของรัฐวิสาหกิจที่ผมทราบมาครับ
พูดยากครับ ถ้าเป็นบริษัททั่วไป
การที่ผู้ถือหุ้นใหญ่สั่งการ CEO ทำอะไรอย่างหนึ่งอย่างใด
ที่ทำให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นๆเสียประโยชน์
(อาจจะเป็นชาวต่างชาติ)
เท่ากับว่าโกงซิครับ

ถ้าเราคิดว่ารัฐวิสาหกิจมีเพื่อเป็นเครื่องมือของรัฐ
ในการถ่วงดุลกับบริษัทเอกชนรายอื่นและ
ทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือประชาชนในยามลำบาก
เราก็ไม่ควรแปรรูปมันตั้งแต่ต้นแล้วล่ะครับ

แต่ถ้าเราไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ
เวลาจะลงทุนอะไรเพิ่มก็อาจต้องให้รัฐค้ำประกันให
้ ซึ่งทำให้การเติบโตจำกัด และแข่งขันกับบริษัทเอกชนไม่ได้อยู่ดี

ผมว่ารัฐแค่กำกับให้รัฐวิสาหกิจมหาชนดำเนินงานอย่างสุจริต
เป็นธรรม ไม่ขูดรีดกำไรเกินเหตุก็พอแล้วครับ

ถ้ารัฐต้องการมีมาตราการอะไรมาช่วยประชาชน
ก็ต้องจ่ายเงินอุดหนุนเอา ซึ่งปันผล
และภาษีที่รัฐวิสาหกิจจ่าย ก็กลับมาเป็นเงินได้ของรัฐอยู่ดี

เราต้องคิดด้วยครับว่าที่รัฐวิสาหกิจมหาชนเติบโตได้ขนาดนี้
ก็เพราะเงินเพิ่มทุนที่ได้จากผู้ถือหุ้นรายอื่นเหมือนกัน
ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของรัฐทั้งหมด

ไม่งั้นทีหลัง รัฐก็หาเงินมาเพิ่มทุนเองแล้วกัน
ไม่ต้องงอคนอื่น

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 8:10 pm
โดย สามัญชน
sorawut เขียน: ผมว่ารัฐแค่กำกับให้รัฐวิสาหกิจมหาชนดำเนินงานอย่างสุจริต เป็นธรรม ไม่ขูดรีดกำไรเกินเหตุก็พอแล้วครับ
เห็นด้วยครับ และน่าจะเป็นทางออกที่มัจฉิมากว่าแนวทางอื่นๆ

ปรัชญาของรัฐวิสาหกิจน่าจะเป็นไปเพื่อถ่วงดุลอำนาจทุนนิยมกับสังคมนิยม
ถ้าปล่อยให้เป็ยทุนนิยมมากเกินไปก็มีข้อเสียเพราะทุนนิยมย่อมต้องการกำไรสูงสุด
ความเดือดร้อนย่อมจะตกอยู่กับประชาชนที่ไม่มีกำลังซื้อ
ตัวอย่างก็มีให้ดูมากมายที่อเมริกา

ถ้าปล่อยให้เป็นสังคมนิยมเกินไป

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 8:39 pm
โดย sai
มารอพี่หมอครับ เพราะฟังอยู่ในห้องก็เดาเอาเหมือนกันว่าจะเป็นตัวนี้หรือเปล่า เพราะแกไม่ได้บอกตรงตรง ผมเดาว่าขึ้นต้นด้วยตัว A ลงท้ายด้วยตัว T

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 9:39 pm
โดย sathaporne
รบกวนพี่หมอช่วยเล่าให้ฟังได้ไหมครับว่าดร.แกพูดว่าอย่างไรหรือครับ
เพราะผมไม่มีโอกาสได้ฟังครับเลยอยากรู้ว่าที่พี่บอกว่า "ดร.มีมุมมองที่เฉียบคมจริงๆ " มันเป็นอย่างไรหรือครับ
ถ้าพี่ไม่เล่าผมคงไม่มีโอกาสทราบได้แน่ว่า "มุมมองที่เฉียบคมจริงๆ " มันเป็นอย่างไรครับ

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 9:51 pm
โดย Surfing
หุ้นสายการบินหรือเปล่าครับ ผมได้ยินแกพูดหลายทีว่า มันเจ๊งไม่ได้ แล้วยังมีข้อได้เปรียบหลาย ๆ อย่างที่สายการบินอื่นไม่มี ทั้งๆที่คิดค่าตั๋วแพงกว่าชาวบ้าน แต่คนก็ยังขึ้นอยู่

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: จันทร์ ก.พ. 09, 2009 10:29 pm
โดย miracle
เกี่ยวกับน้ำมันและปิโตรเคมี 1 เกี่ยวกับการบิน 2 เกี่ยวกับสื่อ 1 รถไฟฟ้า 1 (อันนี้ทางอ้อม)
ธนาคาร อันนี้มีทั้งทางตรงและทางอ้อม ในตลาดมีอยู่ สามแห่ง ถ้าจำไม่ผิด
นอกนั้น ไม่มีแล้ว เท่าที่ในหัวมี


ต้องรอพี่หมอมาเฉลย
:)

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 7:38 am
โดย terati20
จุดอ่อนสำคัญ ของรัฐวิสาหกิจ คือ สหภาพเเรงงาน ครับ
เเข็งมาก ปกป้องผลประโยชน์พนักงานตลอด


เเละการที่จะป้องกัน นักการเมืองส่งคนเข้ามาหาผลประโยชน์มันยาก จริงๆ  การไม่มีเจ้าของที่เเท้จริงกลับทำให้ไม่มีใครปกป้องดูเเลบริษัทให้ดี

Everyone's property is no one's property.
:cry:

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 3:46 pm
โดย charnengi
รอฟังข้อดีข้อเสียเหมือนกัน

เรื่องพนักงานมีสวัสดิการดี ผมไม่ติดใจเท่าไหร่ เพราะเมื่อเปลี่ยนผู้บริหาร นโยบายย่อมเปลี่ยนได้

ที่ผมกลัวคือ ภาระที่ทิ้งไว้ของผู้บริหาร เช่น การจัดทำ mega project ต่างๆ ที่ได้ไม่คุ้มเสีย เป็นภาระผูกพันหรือเกิดข้อพิพาททางกฎหมาย

บางทีถูกปรับเป็นหมื่นล้าน กู้มาเสียดอกเบี้ยบาน อันนี้บั่นทอนมูลค่าบริษัทอย่างรวดเร็ว

กลัวว่านักลงทุนรายย่อยจะรู้ข่าวเป็นคนสุดท้ายและตั้งตัวไม่ทัน

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 4:33 pm
โดย สามัญชน
ดร.ไม่ได้เอ่ยชื่อหุ้น
แต่บอกว่าจุดแข็งคือ เป็นบริษัทที่ประเทศไทยขาดไม่ได้
ขนาดโรงกลั่น ดร.บอกว่าขาดได้
ไม่มีโรงกลั่นก็นำเข้าน้ำมันสุกซะเลย
ไม่มีโรงไฟฟ้า ก็นำเข้าไฟฟ้า (อันนี้ผมแจมเอง ฮ่า)

ถามว่ามีอะไรที่เรานำเข้าไม่ได้มั่ง
ไม่มีเลยครับ ที่ผ่านมาอะไรที่เราทำไม่ได้ เราก็นำเข้ามาตลอด

ดังนั้นมันจะต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเราเอง
และเป็นกล่องดวงใจของประเทศเลย
และก็มีโอกาสน้อยมากที่จะมีคู่แข่งมาทาบรัศมีง่ายๆ
ซึ่งก็คือ สนามบิน
ถูกไหมครับ

ถ้าประเทศไม่มีสนามบินเนี่ย
ไม่รู้ว่าจะเป็นประเทศได้ยังไง
(หมายถึงปัจจุบันนี้นะครับ แฮ่ ถ้าย้อนไปสมัยก่อนมันก็เป็นได้ครับเพราะสมัยนั้นไม่มีเครื่องบิน  :lol: )


ถ้าไม่มีสนามบิน นักท่องเทียวก็ต้องมาทางเรือ
จากยุโรปเมกาใช้เวลาเดือนหนึ่งจะมาถึงไหมเนี่ย
หรือบินมาลงมาเลย์แล้วนั่งรถข้ามชายแดนเข้ามา
เมืองไทยจะขายหน้าประชาคมโลกขนาดไหน
เห็นไหมครับสินค้าทดแทนซึ่งเป็นพลังที่ 3.ห่างชั้นกับสินค้าจริงมาก

ย้อนไปดูพลังที่ 1. การแข่งขันระหว่างผู้เล่นรายเดิม
มีสนามบินเกาะสมุยมั้งครับที่เป็นผู้เล่นเก่า
แต่ก็อยู่กันคนละที่และห่างไกลกันเหลือเกิน(ทั้งในแง่ศักยภาพเงินทุนและทำเล)
ไม่มีทางที่เจ้าของสนามบินเกาะสมุยจะมาแข่งในกรุงเทพโดยการเปิดสนามบินใหม่
ผมก็ว่าจริงแฮะ

พลังที่ 2. การเข้ามาของรายใหม่
ต้องใช้เงินเป็นแสนล้านนะครับถึงจะสร้างสนามบินขนาดสุวรรณภูมิได้

พลังที่ 4.และ 5. ก็มีมากไม่ใช่เล่น

สรุปรวมแล้ว
หุ้นสนามบินเป็นหุ้นที่ผูกขาดและมีอำนาจต่อรองสูง

แต่ก็อย่าลืมที่ดร.บอกว่า
บางคนบอกว่าถ้ารัฐวิสาหกิจนี้  
“บริหารงานดีขึ้นแล้ว” อาจจะซื้อหุ้น  
ความเป็นจริงก็คือ  
อย่าหวังว่าจะบริหารดีขึ้น  
นี่เป็นเรื่องของโครงสร้าง   แก้ยากมาก  
ต้องคิดว่า  
บริหารแบบนี้แหละ  
กำไรก็คงเท่านี้หรืออนาคตก็คงเท่านั้น
   หุ้นถูกน่าสนใจเพียงพอไหม?
หุ้นถูกน่าสนใจเพียงพอไหม ?
ราคาตอนนี้ p/e 3.53 p/b 0.34

แต่พีอีนั้นรวมกำไรจากรายการพิเศษไปเยอะมาก
ส่วนค่าพีบีน่าจะใกล้เคียงของจริง
ดังนั้นสำหรับหุ้นแบบนี้ ราคานี้
จึงนับว่า undervalue  เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอในอนาคต
ซึ่งเราหวังเพียงให้กำไรของบริษัทกลับมาเป็นปกติเท่านั้นเอง
เราไม่หวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์จากการดำเนินงานที่สุดยอด  
เพราะเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น
แต่หวังเพียงแค่นี้ก็คุ้มมากแล้วครับ

ส่วนจะได้เวลาซื้อหรือยัง
สมาชิกต้องพิจารณากันเอาเอง
เร็วๆนี้ ครม.ก็มีมติจะพัฒนาเฟส 2. เพิ่มขึ้นอีก
จะใช้เงินลงทุนเพิ่มอีกเท่าไหร่ยังไม่ชัดเจนครับ

แต่หุ้นแบบนี้นอกจากจะเป็นหุ้น great แล้ว
ก็มีข้อเสียและข้อควรระวังอีกหลายอย่าง

คือ  สมมติว่าสถานการณ์กลับไปสู่ภาวะปกติ
เศรษฐกิจฟื้นตัว กำไรเยอะเหมือนที่เคยทำได้

เราต้องถามตัวเองว่า
หุ้นตัวนี้จะเป็นหุ้น great ที่ไม่ growth หรือเปล่า
ซึ่งคำตอบก็คือ ใช่
เพราะอัตราการเติบโตของผู้โดยสารนั้น เติบโตน้อยมาก
อยู่ที่ 4-5% ต่อปีเท่านั้นเอง
ซึ่งจัดเป็นหุ้นโตช้าตามวิธีของปีเตอร์ ลินช์

นอกจากนี้ หุ้นสนามบินยังเป็นหุ้นวัฏจักรอีกด้วย
คือเป็นประเภท economical cycle
ถ้าวัฏจักรยังไม่ใช่ขาขึ้น ผลการดำเนินงานที่ดีก็ยังไม่เกิด
ซึ่งหุ้นวัฏจักรมีข้อดีและข้อเสียอื่นๆอย่างไรบ้าง
สมาชิกน่าจะรู้กันดีแล้ว  :lol:

อ้อ.....มีหุ้นอีกตัวที่เป็นหุ้นวัฏจักรเหมือนกัน
แต่ตัวนี้ผมเสนอเอง
และคิดว่าน่าสนใจ
เดี๋ยวค่อยมาเล่าครับ ไปรับลูกก่อน.....

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 4:33 pm
โดย charnengi
ในตลาดมีตัวหลักๆ ที่รัฐถืออยู่ก็มีประมานนี้ บางตัวก็ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ

AOT 27/2/08 กระทรวงการคลัง 1,000,000,000       70.00%
ESSO 15/9/08 กระทรวงการคลัง 253,750,000 7.33%
MCOT 28/5/08 กระทรวงการคลัง 452,134,022          65.80%
MFC 25/4/08 กระทรวงการคลัง 20,000,000            16.67%
NEP 17/3/08 กระทรวงการคลัง 295,847,860          21.79%
PDI 6/5/08 กระทรวงการคลัง 31,200,000            13.81%
PTT 5/9/08 กระทรวงการคลัง 1,459,885,575       51.69%
THAI 23/4/08 กระทรวงการคลัง 866,997,841          51.03%
THL 11/4/08 กระทรวงการคลัง 15,000,000 1.98%
TMB 4/4/08 กระทรวงการคลัง 9,372,279,805       22.56%
VAYU1 15/8/08 กระทรวงการคลัง 3,000,000,000       30.00%

ข้อมูลจากไฟล์พี่ครรชิต ปีที่แล้ว

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 4:55 pm
โดย Surfing
สามัญชน เขียน:สรุปรวมแล้ว
หุ้นสนามบินเป็นหุ้นที่ผูกขาดและมีอำนาจต่อรองสูง

หุ้นถูกน่าสนใจเพียงพอไหม ?
ราคาตอนนี้ p/e 3.53 p/b 0.34

แต่พีอีนั้นรวมกำไรจากรายการพิเศษไปเยอะมาก
ส่วนค่าพีบีน่าจะใกล้เคียงของจริง
ดังนั้นสำหรับหุ้นแบบนี้ ราคานี้
จึงนับว่า undervalue  เมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอในอนาคต
ซึ่งเราหวังเพียงให้กำไรของบริษัทกลับมาเป็นปกติเท่านั้นเอง
เราไม่หวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์จากการดำเนินงานที่สุดยอด  
เพราะเป็นเรื่องยากที่จะเกิดขึ้น
แต่หวังเพียงแค่นี้ก็คุ้มมากแล้วครับ
ผมเห็นว่า AOT

เป็นหุ้นที่ดีอย่างที่พี่หมดสามัญชนและดอกเตอร์ว่าไว้จริง ๆ ครับ

จากที่ผมเคยดู AOT มาบ้าง
จริงแล้วรายได้ของ AOT เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปีนะครับ ไม่ได้ลดลงมากอย่างที่หลายคนคิดครับ
ลองดูที่ EBITDA ก็ได้ครับ
แต่สิ่งเกิดขึ้นกับกำไรสุทธิปีหลัง ๆ
(2007-2008 ตัดกำไรพิเศษ)
ซึ่งลดลงอย่างน่าใจหาย
เป็นเพราะค่าเสื่อมจำนวนมาก
ตกปีละเกือบ 8000 ล้านบาทครับ
และ AOT ก็ยังลงทุนต่อเนื่องทุกปี
ปีละประมาณ 10,000 ล้านบาทครับ
ทำให้เงินสดลดลงทุกปี

ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ถ้าเศรษฐกิจกลับมาดีแล้ว
จะทำให้กำไรปกติของ AOT กลับไปที่ 4-5 บาทได้อีกหรือไม่

เนื่องจากค่าเสื่อมดังกล่าวครับ

แต่ผมก็มอง ๆ ไว้เหมือนกันครับ

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 5:12 pm
โดย naris
ขอเพิ่มดีอีกข้อครับสำหรับหุ้นรัฐคือ NEVER DIE
ซึ่งผมถือว่าเป็นจุดแข็งที่ดีมากๆ เพียงแต่หาหุ้นที่ต่ำbookมากๆ
คิดว่าไม่ขาดทุนในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
อนาคตอย่างน้อยก็น่าจะเทรดกันที่BOOK
เพียงแต่ใครอึดและมองหาจุดtimingให้ออกเท่านั้นเอง

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 5:19 pm
โดย charnengi
naris เขียน:ขอเพิ่มดีอีกข้อครับสำหรับหุ้นรัฐคือ NEVER DIE

ซึ่งผมถือว่าเป็นจุดแข็งที่ดีมากๆ เพียงแต่หาหุ้นที่ต่ำbookมากๆ

คิดว่าไม่ขาดทุนในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ

อนาคตอย่างน้อยก็น่าจะเทรดกันที่BOOK

เพียงแต่ใครอึดและมองหาจุดtimingให้ออกเท่านั้นเอง
book มันลดได้นะพี่ เห็นมาหลายตัวแล้ว

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 5:46 pm
โดย sorawut
naris เขียน:ขอเพิ่มดีอีกข้อครับสำหรับหุ้นรัฐคือ NEVER DIE

ซึ่งผมถือว่าเป็นจุดแข็งที่ดีมากๆ เพียงแต่หาหุ้นที่ต่ำbookมากๆ

คิดว่าไม่ขาดทุนในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ

อนาคตอย่างน้อยก็น่าจะเทรดกันที่BOOK

เพียงแต่ใครอึดและมองหาจุดtimingให้ออกเท่านั้นเอง
บริษัทรัฐ NEVER DIE แต่ผู้ถือหุ้น DIE ได้ครับ :cry:

ถึงเวลานั้น รัฐก็แค่ลดทุนล้างขาดทุนสะสม

แล้วออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่จ่ายหนี้ บริษัทก็ไม่เจ๊ง


แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อยเดิมก็กลายเป็นรายย่อยยับไปแล้ว


ผมว่าซื้อหุ้นรัฐวิสาหกิจนี่ก็เสียวๆนะครับ
ทั้งเรื่องการเมือง คอรัปชั่น สหภาพ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ประชานิยม

ในกรณี AOT ยังมีเรื่องค่าชดเชยให้กับคนที่พักแถวนั้นอีก


ถ้าราคาไม่ถูกโคตรๆเมื่อเทียบกับผลประกอบการในอนาคตล่ะก็ ผมไม่เสี่ยงครับ :roll:

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 6:39 pm
โดย naris
ก็หาที่ไม่ขาดทุนแบบมีนัยสำคัญ bookก็จะลดไม่มากดิ :wink:

 และต้องมองและเดาเอาเองว่าจะหาบริษัทจะฟื้นตอนไหน

ต้องเพิ่มทุนหรือเปล่า

ไม่ได้บอกว่าควรซื้อตอนนี้ หรือตอนไหน เพียงแต่สะกิดให้เห็น

โอกาสในวิกฤตมันมีอยู่เสมอ เพียงแต่ใครจะเห็น

และถ้าฟื้นผมว่ามันจะหลายเด้งด้วยนะครับ


ปล.ยังไม่มี เล็งไว้เสยๆ :P

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 7:18 pm
โดย Alastor
AOT ผมเคยอ่านนิดหน่อย รีบวางเลยเพราะรู้สึกว่าเรื่องฟ้องร้องเยอะเหลือเกิน อีกอย่าง มันก็ไม่ได้ผูกขาดแบบไร้คู่แข่ง สนามบินในไทย ก็ต้องแข่งกับสนามบินเพื่อนบ้านครับ location ไทยคงได้เปรียบ แต่ถ้ายังเป็นได้แค่แหล่งหากินนักการเมือง ผมว่าคงเป็นเหมือน สายการบิน ที่เมื่อก่อนคนก็มองว่าผูกขาด ตอนนี้ก็เละ

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 7:28 pm
โดย por_jai
Surfing เขียน:
ผมเห็นว่า AOT

เป็นหุ้นที่ดีอย่างที่พี่หมดสามัญชนและดอกเตอร์ว่าไว้จริง ๆ ครับ
:rofl:  :rofl:
น้องเขาแกล้งพิมพ์ผิดหรือเปล่าไม่รู้

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 9:41 pm
โดย satantuey
ไม่รู้ใช่งานเดียวกันป่าว (หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นจัด)

มีคนเขียนคำถามเกี่ยวกับ AOT ไป  ดร.ก็ตอบชัดๆ เน้นๆ  อย่างที่พี่หมอว่า  ผมได้ยินกับหูคับ  เหอๆ   ประเด็นแก  บอกว่า  ตอนนี้ราคาถูกมาก  แต่รายย่อยอย่างเราๆ(ในห้องประชุม) จะกล้าถือไป 5 ปีรึป่าว  ถ้าถือยาวได้ แกว่าชัวร์........ :D


ปล. ดร.แกมองว่า  การเดินทางมันอยุ่ในยีนส์ของมนุษย์.... :twisted:

แต่ VI จริงๆ  ต้องซุ่มนะ.....ถ้าไม่ซุ่ม  มันก็จะกลายเป็นเหมือน cpall หุ้นยอดนิยมของชาว VI ไปแล้ว

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: อังคาร ก.พ. 10, 2009 10:35 pm
โดย tae_2323
ผมมองยังไงก็ธุรกิจผูกขาดชัวร์ๆ  ฝรั่งมาไทยยังไงต้องสุวรรณภูมิ คงไม่นั่งเรือ รถ หรือลงเครื่องที่มาเลย์แล้วเข้ามาไทยหรอกครับ

อยากรู้เรื่องค่าเสื่อมครับว่าจะต้องตัดอีกกี่ปี เพราะถ้าไม่รวมค่าเสื่อมกำไรในช่วงเศรษฐกิจปกติคงเหยียบสิบบาทต่อหุ้น

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 12:21 am
โดย peerawit
สุวรรณภูมิน้ำทะเล จะท่วมมั้ยครับ อีกสิบปี ?

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 9:29 am
โดย atsu
Alastor เขียน:AOT ผมเคยอ่านนิดหน่อย รีบวางเลยเพราะรู้สึกว่าเรื่องฟ้องร้องเยอะเหลือเกิน อีกอย่าง มันก็ไม่ได้ผูกขาดแบบไร้คู่แข่ง สนามบินในไทย ก็ต้องแข่งกับสนามบินเพื่อนบ้านครับ location ไทยคงได้เปรียบ แต่ถ้ายังเป็นได้แค่แหล่งหากินนักการเมือง ผมว่าคงเป็นเหมือน สายการบิน ที่เมื่อก่อนคนก็มองว่าผูกขาด ตอนนี้ก็เละ
เหมือนผมเลย พออ่านถึงหน้าคดีฟ้องร้องซักพักต้องข้ามไปเลย อ่านต่อไม่ไหว มึนมาก :lol:

แต่เรื่องคู่แข่งผมมองว่าเพื่อนบ้านยังห่างชั้นเรามากในเรื่องการท่องเที่ยว
ดังนั้นช่วงเศรษฐกิจกลับมาดี ยังไงสนามบินก็เต็มแน่ๆ

แต่กำไรจะกลับไปมากเท่าเดิมคงยาก เพราะค่าเสื่อมหลังเปิดสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 6000 ล้านต่อปี
และก็คงต้องมีเพิ่มต่อไปจากการก่อสร้างเฟส 2 เฟส 3
เป็นธุรกิจที่ต้องลงทุนเยอะมากกว่าจะเพิ่มกำไรแต่ละบาทได้



ข้อดีที่ผมนึกออกอีกอย่างคือเป็นหุ้นรัฐวิสาหกิจที่แปลกกว่าตัวอื่นหน่อย
คือตัวอื่นผูกขาดก็จริงแต่ก็ใช่จะได้เปรียบเพราะขึ้นราคายากถึงยากมากที่สุดจะโดนชาวบ้านด่ากระจาย
แต่ AOT น่าจะขึ้นราคาแล้ว"โดนด่าน้อยที่สุด"เพราะผู้ใช้บริการไม่ใช่กลุ่มรากหญ้า
และตัวธุรกิจของ AOT เองก็ไม่ได้เป็นบริการ"พื้นฐาน"เพื่อบริการมวลชนอยู่แล้วต่างไปจาก โรงไฟฟ้า, น้ำมัน, รถเมล์, รถไฟ, ประปา ฯลฯ

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 2:04 pm
โดย SSL
เข้าใจว่าราคาประเมินที่ดินแถวบริเวณรอบๆสุวรรณภูมิปรับตัวลงมา 40-50% จำได้ว่าอ่านเจอในข่าวประมาณปลายปีที่แล้ว ลอง verify ข้อมูลกันดูอีกทีนะครับ

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 9:05 pm
โดย ศิษย์เซียน007
ผมคิดว่าบริษัทรัฐ....ที่ท่านอ.แนะนำอาจจะว่าจุดแข็งมากพอกับจุดด้อยน่าจะผ่านบัญญัติฝ่ายบริหารของปู่บัฟเฟตต์ได้ยากครับ  :8)

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 10:24 pm
โดย Alastor
วันนี้ว่างๆเลยเปิดดูงบ AOT หัวโขกจอเลย เข้าใจแล้วว่าทำไมคนสนใจ +_+
ปีปกติน่าจะทำ OCF ได้ราวๆเกือบ 50% ของ MktCap หักลงทุนก็เหลือ FCF ราว 20% ของ MktCap
งานนี้ผมว่าคงไม่ต้องดูงบละเอียดอ่ะครับ อ่านไปก็สะดุ้งเปล่าๆ :P รอตลาดพาไปละกันครับ :lol:

หุ้นรัฐวิสาหกิจ / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 11, 2009 11:12 pm
โดย Surfing
Alastor เขียน: งานนี้ผมว่าคงไม่ต้องดูงบละเอียดอ่ะครับ อ่านไปก็สะดุ้งเปล่าๆ :P รอตลาดพาไปละกันครับ :lol:
คุณ Alastor ช่วยขยายความหน่อยได้ไหมครับ

เท่าที่ผมดูเห็นเงินสดลดลงเป็นจำนวนมากทุกปีเลย